:::     :::

ภารกิจสำเร็จ

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 คอลัมน์ โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา
1,340
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาร์เซน่อลพาตัวเองเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายยูโรปา ลีก ไปได้สำเร็จหลังแก้ตัวเอาชนะบาเต้ในนัดสองที่บ้านตัวเอง

ปืนใหญ่เก็บชัยชนะได้สวยงาม 3-0 พลิกสถานการณ์จากสัปดาห์ก่อนที่พลาดท่าพ่ายไปก่อน 0-1 

การกลับมามาเล่นในบ้านเป็นโอกาสแก้ตัวของอาร์เซน่อล และพวกเขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ

อูไน เอเมรี่ ทำในสิ่งที่แฟนบอลเรียกร้องคือการให้ เมซุต โอซิล กลับมาอยู่ในทีมอีกครั้ง แถมสวมปลอกแขนกัปตันทีมลงเป็นตัวจริง

โอซิล เป็นหนึ่งใน 3 ผู้เล่นที่ เอเมรี่ ปรับทัพจากนัดแรก อีก 2 คนคือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง และ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ 

ด้วยเงื่อนไขที่ต้องเปิดเกมรุกมากขึ้นและชนะเท่านั้นเพื่อลุ้นเข้ารอบ เอเมรี่ จึงปรับมาเล่นหลังสี่อีกครั้ง เซอัด โคลาซินัช ถูกถอดเป็นสำรองและให้ นาโช่ มอนเรอัล ถ่างไปรับตำแหน่งประจำแบ็กซ้าย

โอซิล ถูกเติมเข้าไปแนวรุกเพื่อช่วย อเล็กซ์ อีโวบี้ และ เฮนริค มคิทาร์ยาน ทำเกม ส่วน โอบาเมย็อง รับหน้าที่หัวหอกตัวเป้าแทน อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่ติดโทษแบนจากพิษใบแดงนัดแรก

อาร์เซน่อลเริ่มต้นได้ดีมากกับการได้ประตูนำเร็วอย่างที่้ต้องการซึ่งแม้เป็นการสกัดเข้าประตูตัวเองของผู้เล่นบาเต้ บอริซอฟ แต่ก็ต้องให้เครดิต โอบาเมย็อง ที่ลากลุยทางฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษนำไปสู่ความผิดพลาดของคู่แข่ง

บาเต้ พยายามตอบโต้ในจังหวะสวนกลับและเกือบตีเสมอได้ในอีกไม่กี่นาทีถัดมา แต่ยังดีที่ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ ช่วยสกัดบนเส้นได้หวุดหวิด  


โอซิล ทำได้น่าประทับใจหลังกลับสู่ทีมอีกครั้ง

ผ่าน 10 นาทีแรกไปได้ อาร์เซน่อลจึงเริ่มควบคุมทุกอย่างไว้เกือบหมด ค่อยๆ นวด ค่อยๆ ขึงหาโอกาสอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ปิดเกมรุกของบาเต้ได้เกือบทุกจังหวะ

ประตูที่ 2 มาในช่วงเวลาที่เหมาะที่ควรอีกด้วยคือท้ายครึ่งแรก ชโคดราน มุสตาฟี่ เอาชนะแนวรับบาเต้ได้ชัดเจนในจังหวะขึ้นโขกลูกเตะมุมของ กรานิต ชาคา จมตาข่าย

อาร์เซน่อลเหนือกว่าทั้งรูปเกม โอกาสทำประตู และสกอร์นำ 2-0 ทำให้ครึ่งแรกลดความกดดันลงไปได้พอสมควร แต่ก็เล่นอย่างระมัดระวัง ไม่ได้ผลีผลามมากนักเพราะรู้ดีว่าหากพลาดโดนตีไข่แตกก็อาจถึงขั้นตกรอบได้เลย

ลูกเซตพีซทีเด็ดช่วยคลายความกังวลลงไปอีกขั้น ประตูที่ 3 แทบไม่ต่างจากประตูที่ 2 กรานิต ชาคา เปิดเตะมุมโด่งให้ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส ที่เพิ่งลงสำรองได้เพียง 2 นาทีเศษขวิดบอลจมตาข่ายจากระยะ 5-6 หลา

3-0 หลังครบหนึ่งชั่วโมงพอดิบพอดี สถานการณ์จึงเข้าทางอาร์เซน่อลทั้งหมด ขณะที่บาเต้ บอริซอฟ ก็เหมือนถอดใจ แทบไม่หือไม่อือใดๆ ในช่วงเวลาที่เหลือ 

อาร์เซน่อลทำภารกิจได้สำเร็จตามเป้าแบบที่ไม่ต้องเหนื่อยมากนัก พวกเขายกระดับการเล่นขึ้นมาจากนัดแรกได้ดีมาก สปีดบอลในพื้นที่สุดท้ายเร็วขึ้นกว่าเดิม โอกาสทำประตูก็เพิ่มขึ้นจาก 16 เป็น 22 ครั้ง

นัดแรกได้ยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้ง (เป็นลูกล้ำหน้า 2 ครั้ง) แต่นัดสองส่องเข้าเป้า 8 ครั้ง 


กอสซิแอลนี่ ได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง

โอบาเมย็อง ได้โอกาสถึง 6 ครั้งในนัดนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด 

ส่วนพระเอกของงานที่หลายคนรอคอยการลงสนามคือ เมซุต โอซิล ก็มีเกมที่น่าประทับใจไม่น้อย 

สตาร์วัย 30 ปีช่วยให้บอลลื่นไหลต่อเนื่อง เป็นตัวคุมจังหวะเกมรุกของทีมอย่างแท้จริง และที่สำคัญเลยคือแสดงให้ เอเมรี่ เห็นว่าสามารถช่วยทีมได้ มีไอเดียในการสร้างสรรค์เกมในแบบที่คนอื่นไม่มี 

ที่ผ่านมา โอซิล หลุดทีมบ่อยครั้งจนกลายเป็นประเด็นใหญ่โตที่ อูไน เอเมรี่ ถูกตั้งคำถามถึงการตัดสินใจ แต่ผลงานในนัดนี้เป็นสิ่งยืนยันว่าทำให้เกมรุกของทีมมีความพิเศษมากขึ้น เซนส์บอลยังเป็นสิ่งที่เหนือกว่าคนอื่นในทีม 

เอเมรี่ กล่าวถึงผลงานของเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 หลังจบเกมว่า "ผมบอกให้เขาเตรียมตัวให้พร้อม และทำงานต่อไป วันนี้เขาแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการเล่น หากว่าเขาพร้อมอย่างที่เป็นมาตลอด 2 สัปดาห์ ประสบการณ์ของเขาอย่างในวันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี รวมถึงคุณภาพและความสามารถ การประสานงานก็ทำได้ดี" 

เรื่องน่าห่วงเดียวหลังผ่านเข้ารอบไปได้คือ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ กองหลังกัปตันทีมมีอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกก่อนครบหนึ่งชั่วโมงแรก

เอเมรี่ กล่าวในเบื้องต้นว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เป็นการป้องกันไว้ก่อน และหวังว่าแนวรับจอมเก๋าจะสามารถลงเล่นในเกมลีกวันอาทิตย์ที่อาร์เซน่อลจะเปิดบ้านรับมือ เซาธ์แฮมป์ตัน 

แต่ข่าวดีก็คือการกลับมาลงเล่นอีกครั้งของ ปาปาสตาโธปูลอส ที่คัมแบ็กจากการเจ็บถูกที่ถูกเวลาทั้งทำประตูปิดท้ายและเสียบแทนตัวจริงได้ทันทีหาก กอสซิแอลนี่ พลาดช่วยทีมในนัดต่อไป 


16 ทีมสุดท้ายที่เข้ารอบ

อาร์เซน่อลเข้ารอบได้ แต่เส้นทางในยูโรปา ลีก ยังอีกยาวไกล เป้าหมายคว้าแชมป์เพื่อตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน 

งานจะยากขึ้นอีกเท่าตัวเพราะแต่ทีมที่เข้ารอบมาได้ล้วนเป็นทีมเต็งที่มีศักยภาพแชมป์ได้ทั้งหมด

ทีมวางที่ได้เล่นในบ้านนัดสอง สามารถเข้ารอบได้ถึง 13 จากทั้งหมด 16 ทีม มีเพียง สลาเวีย ปราก (เช็ก), คราสโนดาร์ (รัสเซีย) และ แรนส์ (ฝรั่งเศส) ที่พลิกเข้ารอบได้

ที่เหลือล้วนเสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่ส่วนใหญ่มาจากลีกชั้นนำไม่ว่าจะเป็น บาเลนเซีย, เซบีย่า และ บียาร์เรอัล (สเปน), อินเตอร์ มิลาน และ นาโปลี (อิตาลี), แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมัน) รวมถึงเต็งหนึ่งและคู่ปรับจากพรีเมียร์ลีกของอาร์เซน่อลอย่างเชลซี 

ขณะที่ตัวแทนจากชาติอื่นก็ล้วนเป็นทีมแกร่งของชาติตัวเองไม่ว่าจะเป็น เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย), เบนฟิก้า (โปรตุเกส), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย) และ ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย) 

ทีมที่ดีที่สุดเท่านั้นจึงจะได้ฉลองในวันสุดท้ายของการแข่งขัน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด