:::     :::

สุดยอดผู้จัดการทีม (ชั่วคราว)

วันศุกร์ที่ 08 มีนาคม 2562 คอลัมน์ เด็กเก็บบอล โดย ยักษ์เดนส์
4,842
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถึงตอนนี้คงปฎิเสธไม่ได้เลยว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คือกุนซือที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน ด้วยผลงานที่เสกให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บินสูงอยู่ในขณะนี้

โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่บุกโค่น ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อให้คุณไม่ได้มีความเกี่ยวของกับ "ปีศาจแดง" ก็คงจะไม่ตระหนี่กับการปรบมือเทรนเนอร์ชาวนอร์เวย์ผู้นี้เป็นแน่

พาทีมจากที่รั้งในอันดับ 6 มายาวนานจนเบียดขึ้นมาอยู่ในท็อปโฟร์, พาทีมทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ รวมถึงในฟุตบอลยุโรป มันคือความสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

กำลังใจของทีมพุ่งถึงขีดสุด นักเตะทุกคนเรียกได้ว่าอยู่ในฟอร์มการเล่นที่พีคที่สุดในฤดูกาลนี้ ทำให้ทีมกลับมาเป็นเครื่องจักรแห่งการยิงประตู นำบรรยากาศเก่าๆเหมือนเมื่อครั้งที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมให้กลับมาอีกครั้ง

แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการมอบสัญญายาวอย่างเป็นทางการ แต่ดูแล้วยังไงก็คงไม่น่าจะผิดไปจากนี้เพราะทั้งแฟนบอลและนักเตะต่างก็ยกมือสนับสนุนกันอย่างเต็มที่

ยิ่งถ้าจบฤดูกาลด้วยการมือแชมป์ติดไม้ติดมือล่ะก็คะแนนจะยิ่งท่วมท้นขึ้นกว่าเดิมอีก จากที่ตอนนี้ก็ถูกเทใจให้เต็มๆอยู่แล้ว

ที่ผ่านมาก็มีกุนซือไม่น้อยที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะกุนซือ "ชั่วคราว" ส่วนหลังจากได้สัญญายาวแล้วจะเป็นยังไงนั้น ก็ให้มันเป็นเรื่องหลังจากนั้นไปละกัน

ทิม เชอร์วู้ด

สโมสร : สเปอร์ส

               

ก่อนที่ทัพ "ไก่เดือยทอง" จะได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มานั่งคุมทีมยาวจนถึงปัจจุบัน เคยมีช่วงที่ใช้เทรนเนอร์ชั่วคราวมาก่อนหน้า ก็คือ ทิม เชอร์วู้ด นั่นเอง

อดีตเทรนเนอร์ สเปอร์ส พัฒนาจากผู้ช่วยโค้ชสมัย แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ นั่งเก้าอี้กุนซือก่อนขึ้นมารับงานคุมทีมเต็มตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2013 หลังจากที่ อันเดร วิลลาช-โบอาช โดนปลดออกจากตำแหน่งไป

เชอร์วู้ด คุมทีมแพ้เพียง 6 จาก 22 เกม ช่วยให้ทีมจบที่อันดับ 6 ของตาราง คว้าตั๋วไปลุยยูโรปา ลีกได้สำเร็จ โดยได้สัญญา 18 เดือนกับทีม 

แต่ว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้คุมทีมจนครบสัญญาที่เซ็นกันไว้แต่โดน ดาเนี่ยล เลวี่ ปลดจากตำแหน่ง พร้อมกับแต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ดึงมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน รับตำแหน่งแทนนั่นเอง

เชอร์วู้ด จากไปพร้อมสถิติคุมทีมรวมทุกรายการ 28 เกม ชนะ 14 เสมอ 4 แพ้ 10 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์พาทีมเก็บชัยชนะก็ 50 เปอร์เซ็นต์พอดิบพอดี

เคนนี่ ดัลกลิช

สโมสร : ลิเวอร์พูล

                  

ตำนานกุนซือของ ลิเวอร์พูล คนล่าสุดที่พา "หงส์แดง" ผงาดคว้าแชมป์ลีกย้อนไปเมื่อปี 1990 ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับสโมสรทั้งสมัยเป็นนักเตะและกุนซือ

หลังประสบความสำเร็จกับทีม ดัลกลิช ก็ได้ไปคุมทีม แบล็คเบิร์น นิวคาสเซิ่ล รวมถึงช่วงสั้นๆกับ เซลติก ก่อนที่ ราฟาเอล เบนีเตซ จะเชิญให้มารับงานคุมทีมอคาเดมี่ของสโมสร ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือมาเป็น รอย ฮ็อดจ์สัน

แต่ผลงานอันย่ำแย่ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล 2010/11 ทำให้ มีการปลด ฮ็อดจ์สัน ออกจากตำแหน่ง ก่อนที่แฟนบอลจะพากันสนับสนุนให้ ดัลกลิช ขึ้นมารับงานกระทั่งเดือนตุลาคมก็รับหน้าที่คุมทีมชั่วคราว

ดัลกลิช ออกสตาร์ทด้วยการพาทีมไม่แพ้ในลีกมา 8 เกมติด ช่วยให้ทีมจากรั้งอันดับ 12 กระโดดขึ้นมาอยู่ในครึ่งบนของตาราง พร้อมกับการพาทีมให้กลับมาเป็น "เครื่องจักรถล่มประตู" อีกครั้ง โดยมี หลุยส์ ซัวเรซ เป็นดาวยิงประตูจำทีม

หลังจบฤดูกาลดังกล่าว "คิง เคนนี่" ได้สัญญาสามปี แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในลีก แต่ก็ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ มาครอง ถือเป็นแชมป์แรกของสโมสรในรอบ 6 ปี โดยยิงพาทีมเข้าชิงเอฟเอ คัพด้วยแต่พ่ายให้กับ เชลซี 1-2

แต่จากผลงานที่ไม่ดีนักในลีกที่จบอันดับ 8 แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1994 ทำให้สุดท้ายต้องแยกทางกันไป

กุส ฮิดดิ้งค์

สโมสร : เชลซี

                 

กุนซือคนเดียวที่ในลิสต์ที่นั่งเก้าอี้ชั่วคราวถึงสองหนกับสโมสรเดียว คนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเทรนเนอร์ที่มีฝีมือมากที่สุดในวงการฟุตบอล

กุส ฮิดดิ้งค์ รับงานคุมทีมชั่วคราวกับ เชลซี 2 หนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และทั้งสองหนนั้นเจ้าตัวเดินจากสโมสรด้วยการพาทีมอยู่ในอันดับที่เหนือกว่าตอนเข้ารับงาน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 ในครั้งแรกที่เข้ารับงานขัดตาทัพให้ "สิงห์บลูส์" แทนที่ ลุยซ์ เฟลิป้ สโคลารี่ ระยะเวลาเพียง 3 เดือนเศษ ฮิดดิ้งค์ พาทีมแพ้แค่เกมเดียวจาก 22 เกมทุกรายการ พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพด้วย ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปโดนประตูของ อันเดรส อีเนียสต้า สตาร์ของในช่วงทดเจ็บของเลกที่สองรอบรองชนะเลิศ ทำให้ทีมตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนหนที่สองในปี 2015/16 เข้ารับงานแทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พาทีมทำผลงานอย่างย่ำแย่ โดยเจ้าตัวทำสถิติไม่แพ้ใคร 12 เกม ช่วยให้ทีมปีนจากที่ 16 พาจบที่อันดับ 10 ของตารางเมื่อจบฤดูกาล

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ

สโมสร : เชลซี

                

จากมือขวาของ อันเดร วิลลาช-โบอาช ในปี 2011 สู่ตำแหน่งผู้จัดการทีมชั่วคราวในเดือนมีนาคม 2012 หลังจากที่เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกสโดนปลดออกจากตำแหน่งไป

สัญญาระยะสั้นจนจบฤดูกาล แต่กุนซือชั่วคราวคนนี้กลับพาทีมได้แชมป์รายการสุดปรารถนาของ โรมัน อบราโมวิช อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาครองอย่างยิ่งใหญ่ แถมยังมีแชมป์เอฟเอ คัพติดมือมาอีกรายการด้วย

เวลาเพียง 3 เดือนในตำแหน่ง ดิ มัตเตโอ พาทีมได้แชมป์ถ้วยที่ "เสี่ยหมี" รอคอยมาเกือบ 10 ปี กลายเป็นทีมแรงแห่งกรุงลอนดอนที่ได้แชมป์ถ้วยใหญ่ของยุโรปไปครอง

และไม่ต้องแปลกใจเลยด้วยผลงานระดับนี้ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนจึงได้รับสัญญา 2 ปีหลังความยอดเยี่ยมนั้น แต่ผลงานกลับไม่เป็นเหมือนเดิมหลังฤดูกาลผ่านไปเพียง 3 เดือนก็โดนปลดจากตำแหน่งไป ซึ่งคนที่เข้ามาแทนก็คือ ราฟาเอล เบนีเตซ ที่พาทีมคว้าแชมป์ยูโรปา ลีกในปีนั้นมาครองได้สำเร็จ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด