:::     :::

โมเดล'อาแจ็กซ์'

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2562 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
2,164
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนามจากแนวทางการทำทีมแบบผสมผสานทั้งการสร้างเด็กขึ้นมาจากทีมเยาวชนและดึงแข้งดาวรุ่งแววดีจากสโมสรอื่นมาปั้นต่อ

เมื่อกวาดสายตาไปทั่วสารทิศคงมีไม่กี่สโมสรที่ประสบความสำเร็จรับทั้งเงินคว้าทั้งกล่องและหนึ่งในนั้นคือ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ทีมดังเมืองกังหันลม ที่เรากำลังจะกล่าวถึง

อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ประสบความสำเร็จอย่างสูงในซีซั่นนี้จากการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ดัตช์ สมัยที่ 34 ของสโมสรและเป็นการคว้าแชมป์ครั้งแรกหลังประสบความสำเร็จครั้งล่าสุดตั้งแต่ฤดูกาล 2013-14 และยังผงาดคว้าแชมป์ ดัตช์ คัพ สมัยที่ 19 ซึ่งเป็นการสอยดับเบิ้ลแชมป์ครั้งที่ 8 ของสโมสรด้วย 

ทีมของ เอริค เทน ฮาก ยังได้รับเสียงชื่นชมจากการทำผลงานบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการโค่นสองทีมเต็งอย่าง เรอัล มาดริด กับ ยูเวนตุส ร่วงรอบน็อกเอาท์ ก่อน อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม จะตกม้าตายในรอบรองชนะเลิศหลังการปราชัยต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทั้งที่เป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบมหาศาล


นั่นเป็นเรื่องราวในสนามของทีมดังแดนทิวลิปในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาซึ่งถูกกล่าวถึงในทางชื่นชมแนวทางการสร้างทีมของสโมสรที่ละม้ายคล้ายชุดที่เคยประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 1994-1995

หลุยส์ ฟาน กัล นำ อาแจ็กซ์ โค่นทีมแกร่งอย่าง มิลาน ในนัดชิงชนะเลิศที่'แอร์นท์ส ฮัปเปิล สตาดิโอน'ในกรุงเวียนนาด้วยสกอร์ 1-0 จากการทำประตูชัยในช่วงท้ายเกมของ พาทริค ไคลเวิร์ต 

ไคลเวิร์ต ซึ่งเป็นกองหน้าดาวรุ่งในขณะนั้นเป็นเด็กสร้างของสโมสรเช่นเดียวกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, มิเชล ไรซีเกอร์, สองพี่น้องตระกูล เดอ บัวร์ ทั้ง แฟร้งค์ กับ โรนัลด์, เอ็ดการ์ ดาวิดส์, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, นอร์ดิน วูเตอร์ หรือ กีกี้ มูซัมป้า ก่อนที่หลายคนจะแยกย้ายไปตามเส้นทางอาชีพหลังประสบความสำเร็จที่ออสเตรีย


ผ่านมาเกือบ 25 ปี อาแจ็กซ์ ยุค เอริค เทน ฮาก เกือบจะหลุดเข้าไปลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 แต่ถูก ลูคัส มูร่า ปล่อยทีเด็ดเล่นงานซะก่อน 

แม้ทีมจะไปไม่ถึงดวงดาวเหมือนฤดูกาล 1994-95 ก็ตาม แต่ทีมของ เทน ฮาก ยังถูกกล่าวถึงในด้านดีโดยเฉพาะสไตล์การเล่นเกมรุกดุดันเร้าใจ ไม่หวั่นเกรงคู่แข่งที่มีศักดิ์ศรีเหนือกว่า อีกทั้งแข้งอาแจ็กซ์หลายคนทั้งที่เป็นเด็กสร้างของทีมและสโมสรดึงจากสโมสรอื่นมาปั้นต่อและทำผลงานดีจนตกเป็นที่หมายปองของหลายต่อหลายทีม 

เฟรงกี้ เดอ ย็อง ไม่ใช่เด็กสร้างของ อาแจ็กซ์ แต่เป็นการดึงมาจาก วิลเล่ม ทเว ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านยูโรเพื่อปั้นต่อก่อนขายได้ราคาสูงถึง 75 ล้านยูโรหลังการเซ็นสัญญาล่วงหน้า 5 ปีกับ บาร์เซโลน่า ส่วนทีมเก่าจะได้รับผลพลอยได้จากส่วนแบ่งค่าตัว 10 เปอร์เซนต์ 


ฮาคีม ซีเย็ค ปีกทีมชาติโมร็อกโกถูกดึงมาจาก ทเวนเต้ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ด้วยค่าตัว 11 ล้านยูโรและตัวรุกวัย 26 ปีจะเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังจะย้ายออกจากถิ่น'โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า'ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีราคาประเมินไม่น้อยกว่า 35 ล้านยูโร 

มัทไธส์ เดอ ลิกท์ เซนเตอร์วัย 19 ปีเป็นเด็กสร้างของสโมสรที่เข้ามาอยู่กับทีมตั้งแต่อายุ 9 ขวบและก้าวขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2016 เขากำลังจะเป็นตัวทำเงินให้สโมสรไม่น้อยกว่า 70 ล้านยูโรเมื่อกำลังจะจรลีในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมี บาร์เซโลน่า ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมเต็งที่น่าจะเป็นสถานีต่อไปของปราการหลังดาวรุ่งชาวดัตช์ 

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค มิดฟิลด์วัย 22 ปีเป็นอีกหนึ่งเด็กสร้างเช่นเดียวกัน เขาโชว์ฟอร์มในซีซั่นนี้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสรในยุโรป แม้ อาแจ็กซ์ ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยนักเตะย้ายสังกัดในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่หากมีข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธก็อาจจะยอมเปิดทางให้นักเตะย้ายสังกัดเช่นเดียวกัน


ดาวิด เนเรส ปีกดาวรุ่งชาวบราซิเลียนย้ายจาก เซา เปาโล มาอยู่กับ อาแจ็กซ์ ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมปี 2016 โดยถูกส่งไปปรับตัวและพัฒนาฝีเท้ากับ ย็อง อาแจ็กซ์ ในช่วงแรกก่อนขยับขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปีต่อมา ซึ่งปีกวัย 22 ปีทำผลงานโดดเด่นและเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุกจนตกเป็นเป้าสนใจของหลายสโมสร โดยมีค่าตัวประเมินราว 30-40 ล้านยูโร

นิโกลัส ตาญาฟีโก้ แบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนตินาย้ายจาก อินเดเปนเดียนเต้ มาค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ ในช่วงเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัวเพียง 4 ล้านยูโร เขาทำผลงานเด่นจนหลายทีมสนใจเช่นเดียวกันก่อนที่แข้งวัย 26 กะรัตออกมายืนยันว่าจะค้าแข้งกับทีมต่อไปอีกหนึ่งซีซั่นเป็นอย่างน้อย

อองเดร โอนาน่า นายทวารชาวแคเมอรูนวัย 23 ปี เคยตกเป็นข่าวพัวพันกับ บาร์เซโลน่า และ แมนฯยูไนเต็ด อยู่บ้าง ก่อนที่ อาแจ็กซ์ จะจับนักเตะต่อสัญญาจนถึงปี 2023

อาแจ็กซ์ ชุดปัจจุบันยังมีเด็กสร้างที่พร้อมแจ้งเกิดอีกหลายคนอาทิ นุสซาอีร์ มาซราอุย, คาเรล ไอติง หรือ ดานี เดอ วิท 


นโยบายหรือแนวทางการทำทีมของ อาแจ็กซ์ มาจากสองส่วนผสมผสานกันระหว่างการพัฒนานักเตะเยาวชนจาก'เด ทูกอมส์ท'ซึ่งไม่ต่างจากศูนย์ฝึก'ลา มาเซีย'ป้อนทีมชุดใหญ่ รวมกับการส่งทีมงานแมวมองส่องเด็กมีแววเพื่อนำมาปั้นต่อ ซึ่งแนวทางดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีโดยเฉพาะ เดอ ย็อง หรือ เนเรส 

อาแจ็กซ์ ใช้เวลาไม่นานนักในการเสาะหาตัวแทน เฟรงกี้ เดอ ย็อง พวกเขาเจียดเงินค่าตัวส่วนหนึ่งของนักเตะมาซื้อ ราซวาน มาริน มิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติโรมาเนียวัย 22 ปีมาจาก สตองดาร์ ลีแอช ด้วยค่าตัวเพียง 12.5 ล้านยูโรโดยเซ็นสัญญาล่วงหน้า 5 ปี 


มาริน เติบโตมาจาก'จอร์จี้ ฮาจี้ อเคเดมี่' ก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ วิโตรูล คอนสตานต้า และย้ายมาค้าแข้งกับ สตองดาร์ ลีแอช ในปี 2017 หมอนี่เป็นนักเตะเทคนิคดีมีวิสัยทัศน์ในการทำเกมจนถูกยกย่องให้เป็น'ชาบีของโรมาเนีย'และน่าจะเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์แบบสำหรับ เดอ ย็อง

อาแจ็กซ์ ยังเตรียมพร้อมสำหรับการเสีย เดอ ลิกท์ ตั้งแต่เนิ่นๆด้วยการดึง ลีซานโดร มากายาน เซนเตอร์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 25 ปีมาจาก โบคา จูเนียร์ส ด้วยค่าตัว 9 ล้านยูโรตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา 


อย่างไรก็ตาม อาแจ็กซ์ ยังต้องการผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์เพิ่มเติมโดยเฉพาะหลังการย้ายสังกัดของ เดอ ลิกท์ ดังนั้นพวกเขาจึงดึง คิค เพียรี่ กองหลังดาวรุ่งวัย 18 ปีเกิดที่บอสตันมาจาก ฮีเรนวีน ด้วยค่าตัว 5 ล้านยูโร โดยเซ็นสัญญาล่วงหน้า 5 ปี 

พ่อของ เพียรี่ คือ ฌอง ปิแอร์ เพียรี่ ซึ่งเคยเป็นนักฮ็อคกี้ระดับอาชีพ เขาถนัดเท้าซ้ายเล่นได้ทั้งเซนเตอร์และแบ็กซ้ายเหมือน ดาเล่ย์ บลินด์ เขายังเคยตกเป็นเป้าสนใจของ แมนฯยูไนเต็ด และ แมนฯซิตี้ ก่อนหน้านี้ด้วย แต่ อาแจ็กซ์ ชิงลงมือเร็วคว้าตัวเข้าสังกัดสำเร็จ 


ล่าสุดทีมดังเมืองกังหันลมยังจ่ายเงินอีก 7 ล้านยูโรเพื่อคว้าตัว ลีซานโดร มาร์ตีเนซ เซนเตอร์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 21 ปีมาจาก เดเฟนซ่า อี ฮุสตีเซีย พร้อมเซ็นสัญญายาวจนถึงปี 2023 

นั่นเท่ากับว่า อาแจ็กซ์ เตรียมความพร้อมสำหรับซีซั่นหน้าด้วยการมีผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์ครบ 4 คนทั้ง ดาเล่ย์ บลินด์, ลีซานโดร มากายาน, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ และ คิค เพียรี่ ขณะที่ โจเอล เฟลท์มัน กับ ดาเล่ย์ ซิงค์กราเฟ่น ยังสามารถขยับมาเล่นตำแหน่งดังกล่าวได้เช่นกัน

การเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่ของ อาแจ็กซ์ จะเลือกผู้เล่นอายุน้อยที่มีแววว่าจะสามารถพัฒนาฝีเท้าดีขึ้นในอนาคตเพราะนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อทีมแล้วยังอาจได้รับผลพลอยได้เพิ่มเติมหากมีการขายนักเตะในวันข้างหน้า 


อาแจ็กซ์ ใช้แนวทางดังกล่าวมานานหลายปีแม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จกับนักเตะทุกคนก็ตาม แต่ถ้ามีอย่างน้อยครึ่งหนึ่งทำได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะคุ้มค่าสำหรับสโมสร ซึ่งต้องชื่นชมการทำงานของสองหัวเรือสำคัญอย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ กับ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ในฐานะผู้อำนวยการสโมสร กับ ผู้อำนวยการฝ่ายฟุตบอลที่ทำงานมาตั้งแต่ปี 2012

แนวทางหรือนโยบายการบริหารงานของ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม อาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกทีมเนื่องจากบริบทที่แตกต่างกัน แต่มันเป็น'โมเดล'ที่ช่วยให้ทีมดังเมืองกังหันลมประสบความสำเร็จทั้งในและนอกสนามตามเป้าหมายของสโมสร


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด