:::     :::

แนวทางเซาธ์เกตและ'ทรีไลออนส์'

วันเสาร์ที่ 08 มิถุนายน 2562 คอลัมน์ Football Therapy โดย บี้ เดอะสปา
1,172
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ไม่ว่าผลการแข่งขันนัดชิงอันดับ 3 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะจบลงเช่นไร ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้วในสายตาแฟนบอล อังกฤษ เพราะถือว่า 'ล้มเหลว'

เหตุผลที่นิยามเกมรอบรองชนะเลิศที่แพ้ ฮอลแลนด์ 1-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษว่าเป็นความล้มเหลว เพราะ อังกฤษ สามารถจัดการเกมได้เหนือกว่าทุกอย่าง แต่ด้วยรูปแบบการเล่นและทัศนคติบางอย่างที่ทำให้ ทรี ไลออนส์ พลิกสถานการณ์กลับมาแพ้หน้าตาเฉย

เห็นเกมที่ เอสตาดิโอ ดาฟอนโซ่ เอ็นรีเกส เมื่อวันพฤหัสบดี แล้วนึกถึงเกมรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2018 เพราะรูปเกมที่ออกมาคล้ายๆ กัน และจบลงเหมือนกัน คือพลาดเข้าชิงชนะเลิศ
สกอร์นำ 1-0 ในครึ่งแรก ทั้งเกมกับ โครเอเชีย ในเวิลด์คัพ 2018 และเกมกับ ฮอลแลนด์ ในเนชั่นส์ลีก 2019 ทำให้รูปแบบการเล่นของ สิงโตคำราม เปลี่ยนแปลงไปในครึ่งหลัง มีการดึงเกม ดึงเวลา แทบทุกจังหวะ และสุดท้ายก็รักษาประตูเดียวที่นำเอาไว้ไม่อยู่
ประเด็นสำคัญที่ต้องจัดการแก้ไขให้ได้ คือรูปแบบการเล่นต่อบอลจากผู้รักษาประตูที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ชื่นชอบและใช้การเคลื่อนบอลแบบนี้มาโดยตลอด หลายต่อหลายครั้ง รอดตัวมาได้จากความผิดพลาด แต่ไม่ใช่เกมที่เจอ ฮอลแลนด์
จริงๆ แล้ว ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นคนแรกที่ควรโดนเล่นงานก่อนในช่วงต้นครึ่งหลัง จังหวะที่ยืนไปตัวสุดท้ายแล้วพยายามเลี้ยงบอลหนี เมมฟิส เดอปาย แต่เสียท่า ยังดีที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด เซฟช่วยชีวิตเอาไว้ได้
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ก็เป็นอีกคนที่ควรโดนโจมตีเช่นกัน จากจังหวะคล้ายๆ กันที่พยายามเลี้ยงบอลลุยขึ้นหน้า แล้วจ่ายเสียถึงสามครั้ง แต่สุดท้ายก็รอดพ้นการเสียประตูเช่นกัน
และในช่วงต่อเวลาพิเศษ จอห์น สโตนส์ คือรายต่อไป และครั้งนี้ลงเอยด้วยการเสียประตู
เซนเตอร์แบ็ก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เล่นบอลเสี่ยงมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว และก็โดน เดอปาย ฉกเหมือนเดิม พิคฟอร์ด เซฟ แต่ วอล์คเกอร์ ก็กลายเป็นคนสุดท้ายที่สไลด์บอลเข้าประตูตัวเอง
และประตูปิดท้าย รอสส์ บาร์คลี่ย์ กลายเป็นแพะรับบาปที่ส่งบอลคืน พิคฟอร์ด พลาดไปเข้าทาง เดอปาย ก่อนจบสกอร์ที่ ควินซี่ โพรเมส ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว สโตนส์ คือคนที่จ่ายเสี่ยงยัดเข้ามาตรงกลางให้กองกลาง เชลซี ทั้งที่โดนไล่กดดันอยู่
การที่ สโตนส์, แม็กไกวร์, วอล์คเกอร์ สลับกันเล่นผิดพลาด เกิดขึ้นเพราะแนวทางการเล่นที่ เซาธ์เกต ชื่นชอบและวางเอาไว้มานานแล้ว แต่เพิ่งมาพังยับแบบแบบไม่น่าให้อภัยเพราะ โรนัลด์ คูมัน และ เดอปาย
"เขารู้ว่าผมยังคงสนับสนุนเขา ผมรู้ว่าเขากำลังโดนวิจารณ์หนัก แต่เขาต้องเผชิญช่วงเวลายากลำบากในช่วงท้ายฤดูกาลที่ไม่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอกับสโมสร" เซาธ์เกต อ้างสาเหตุของความผิดพลาด
"เรายังคงคิดว่าเขาเป็นเซนเตอร์แบ็กที่ดีที่สุดของเรา เขามีคุณภาพ มีศักยภาพสูงพอที่จะเป็นนักเตะชั้นยอด แต่เขาได้ลงเล่นไม่มากในช่วงท้ายซีซั่น ความกระฉับกระเฉง และความยากลำบากของเกม เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดขึ้นในเกมนี้"
"ผมคิดว่า สโตนส์ และ แม็กไกวร์ คือสอง (เซนเตอร์แบ็ก) ที่ดีที่สุดของเรา และผมจะสนับสนุนพวกเขาต่อไปในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้"
เห็นได้ชัดเจนว่า เซาธ์เกต ปกป้องสไตล์การเล่นต่อบอลสั้นจากผู้รักษาประตูและแผงหลัง เพราะมองว่าคู่แข่งหรืออีกหลายทีมก็เล่นและผิดพลาดเหมือนกัน (เพียงแต่ใครจะพลาดมากกว่านะเหรอ?)
อีกตำแหน่งที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงแบบถาวรนั่นคือแบ็กขวา
วอล์คเกอร์ เจอเกมที่ย่ำแย่ หลังจากก่อนหน้านี้เคยเสียตำแหน่งให้ คีแรน ทริปเปียร์ มาแล้ว แต่แบ็กขวา ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เกิดฟอร์มตก และหลุดจากทีมของ เซาธ์เกต ไปเอง
นั่นทำให้เส้นทางของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สดใสขึ้นมาทันที
แบ็กขวาวัย 20 ปีจาก ลิเวอร์พูล มีฤดูกาล 2018-19 ที่ยอดเยี่ยม 'ทีเอเอ' แอสซิสต์ 12 ประตูในพรีเมียร์ลีก ติดชาร์ตอยู่ในอันดับสาม และแอสซิสต์อีก 4 ประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นรองดาวแอสซิสต์ซีซั่นที่ผ่านมา และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของชปล.ด้วย
อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับการคาดหมายว่าจะได้ลงตัวจริงในเกมรอบชิงอันดับ 3 ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่เจอ สวิตเซอร์แลนด์ วันอาทิตย์นี้ และจะเป็นจุดเริ่มต้นของการยึดตัวหลักตำแหน่งแบ็กขวาในระยะยาว
ถึงตอนนี้ เซาธ์เกต ที่ได้รับเสียงชื่นชมจาก เวิลด์คัพ 2018 เริ่มตกที่นั่งลำบากแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะยึดมั่นสไตล์การเล่นแนวทางเดิมต่อไป หรือจะปรับเปลี่ยนหลังจากนี้

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด