อาร์เซน่อล เก็บอีก 3 คะแนนในยูโรปา ลีก ได้แบบหืดจับด้วยการแซงชนะ วิตอเรีย กิมาไรส์ 3-2 ทำให้มีอยู่ 9 คะแนนจาก 3 นัด รักษาตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ เอาไว้ได้

ในนัดนี้ เอเมรี่ ปรับทีมแทบยกชุดอีกครั้ง มีเพียง โจ วิลล็อค กองกลางดาวรุ่งที่ได้ลงตัวจริงต่อเนื่องจากเกมพรีเมียร์ลีกที่พลิกพ่ายต่อ เชฟฯ ยูไนเต็ด 0-1

เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ได้ทำหน้าที่เฝ้าเสา ขณะที่กองหลังประกอบด้วย เอคตอร์ เบเยริน, ชโคดราน มุสตาฟี่, ร็อบ โฮลดิ้ง และ คีแรน เทียร์นี่ย์ 

แดนกลางวาง ลูคัส ตอร์เรร่า เล่นร่วมกับ โจ วิลล็อค โดยที่มี เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์,  เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ช่วยกันทำเกมรุกอยู่ข้างหลัง อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาและได้โอกาสลงเคาะสนิมเพิ่มเติมหลังลงเป็นสำรองในเกมลีกล่าสุด

ชุดเด็กผสมสำรองของอาร์เซน่อลทำผลงานในบอลถ้วยฤดูกาลนี้ดีมากทั้งเกมถล่ม ฟอเรสต์ 5-0 ในคาราบาว คัพ และ 2 นัดแรกในยูโรปา ลีก ที่บุกชนะ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 3-0 และเปิดบ้านถล่ม สตองดาร์ ลีแอช อีก 4-0 

ทว่านัดนี้ อาร์เซน่อล เล่นได้แย่อย่างน่าตกใจและหากไม่ได้ฟรีคิกของ เปเป้ ช่วยเอาไว้ก็คงแพ้คาบ้านไปแล้วและเป็นการแพ้ 2 นัดติดต่อกันหลังเพิ่งสะดุดมาในพรีเมียร์ลีก

ทีมเยือนจากโปรตุเกสเล่นได้ดีกว่าชัดเจนโดยเฉพาะครึ่งแรกที่อาศัยความขยันเข้าวิ่งไล่แย่งบอลจากผู้เล่นอาร์เซน่อลที่หลายคนอายุน้อย ประสบการณ์ไม่มากนัก พอเจอบี้หนักๆ ก็เสียบอล 

เทียร์นี่ ดีใจกับ มาร์ติเนลลี่ หลังเปิดให้โหม่งตีเสมอ 1-1

วิตอเรีย กิมาไรส์ เล่นได้ดุดัน แข็งแกร่ง และเข้าถึงทุกจังหวะ เกมรุกใช้การต่อบอลน้อยจังหวะแต่พอเข้าถึงพื่นที่อันตรายต้องจบให้ได้ 

เกมรุกของอาร์เซน่อลไม่สามารถเล่นตามที่ตัวเองถนัดได้เลย วิลล็อค กับ เมทแลนด์-ไนลส์ แทบไม่มีบทบาทในเกมและคนหลังก็เป็นทำพลาดเสียบอลกลางสนามก่อนโดน กิมาไรส์ โต้กลับเร็วและจบด้วยการยิงนำ 2-1

ผ่านครึ่งแรก กิมาไรส์ คู่ควรกับสกอร์ที่นำเพราะแม้ได้ครองบอยน้อยกว่าแต่หาจังหวะลุ้นทำประตูได้มากกว่าที่ 10 ครั้ง ขณะที่อาร์เซน่อลได้โอกาสเพียง 8 ครั้งและเข้ารอบเพียงครั้งเดียวที่เป็นประตูตีเสมอจากลูกโหม่งของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ 

ครึ่งหลัง เอเมรี่ ต้องรีบปรับเกมทันที เขาถอด วิลล็อค กับ เมทแลนด์-ไนลส์ ที่เล่นไม่ได้ออกไปพร้อมกับส่ง มัตเตโอ เก็นดูซี่ กับ ดานี่ เซบายอส ลงแทน

เกมของอาร์เซน่อลทำได้ดีขึ้นพอสมควรเพราะ เก็นดูซี่ วิ่งไล่ตัดเกมได้ ทำให้สามารถเบรกจังหวะโต้กลับของ กิมาไรส์ และสามารถคอนโทรลการเล่นให้กดเข้าอยู่ในแดนของคู่แข่งได้ ขณะที่ เซบายอส ก็เด่นในเรื่องการครองบอลและเอาตัวรอด ทำให้ไม่เสียบอลง่ายแบบ วิลล็อค และ เมทแลนด์-ไนลส์

แต่กระนั้น จังหวะสุดท้ายในการเข้าทำของอาร์เซน่อลก็ไม่ชัดเจนแจ่มแจ้งมากนัก เอเมรี่ จึงส่งไพ่เด็ดใบสุดท้ายอย่าง นิโกล่าส์ เปเป้ ลงมาในช่วง 15 นาทีสุดท้าย

นิโกล่าส์ เปเป้ ลงสำรองมาสังหาร 2 ฟรีคิกพาปืนใหญ่แซงชนะ 3-2

ในตอนนั้น อาร์เซน่อล สามารถคอนโทรลเกมเอาไว้ได้แต่ไม่สามารถเจาะเข้าไปในเขตโทษได้มากนักเพราะแนวรับ กิมาไรส์ ยืนตำแหน่งกันดี วิ่งซ้อนช่วยกันตลอด จังหวะเคลียร์ก็เด็ดขาด ไม่มีลังเล

นั่นเลยทำให้พวกเขาเสียฟาวล์หน้าเขตโทษตัวเองก่อนเป็นที่มาของ 2 ฟรีคิกสุดสวยจากปลายสตั๊ด เปเป้

เจ้าของค่าตัว 72 ล้านปอนด์ยิงได้หมดจดและเด็ดขาดเหลือเกิน สวยงามทั้งสองประตูและที่สำคัญสุดคือช่วยพลิกสถานการณ์จากที่กำลังปราชัยคาบ้านให้กลับมาเป็นผู้ชนะอย่างไม่น่าเชื่อ

ในช่วงที่ผ่านมา นิโกล่าส์ เปเป้ เผชิญกับความกดดันพอสมควรเพราะไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลีลล์ ในช่วงซัมเมอร์ เขาเพิ่งยิงได้เพียงประตูเดียวจากจุดโทษ และเพิ่งพลาดหมูหกในเกมกับเชฟฯ ยูไนเต็ด

2 ประตูนี้จึงเหมือนเป็นการปลดล็อคเรียกความมั่นใจได้ไม่มากก็น้อย แม้ไม่ใช่ลูกยิงแบบโอเพ่นเพลย์ แต่ความสำคัญต่อทีมก็ไม่ต่างกันเพราะอาร์เซน่อลเพิ่งพ่ายมาในเกมลีก หากพลาดท่าอีกนัดก็คงกลายเป็นความกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ยิ่งกว่าเดิม

อูไน เอเมรี่ ต้องขอบคุณ นิโกล่าส์ เปเป้ มากกว่าใครกับ 2 ฟรีคิกที่ช่วยลดกระแสโจมตีของตัวเองลงได้เล็กน้อย

แฟนบอลชูป้ายโจมตี เอเมรี่ ระหว่างเกม

ระหว่างเกมในสนามดำเนินไป แฟนบอลก็ต่างตะโกนด่าและขับไล่กุนซือชาวสเปนออกจากตำแหน่งเพราะไม่พอใจกับฟอร์มการเล่นและวิธีการที่ เอเมรี่ ปฏิบัติต่อ เมซุต โอซิล ที่หลุดโผออกจากทีมอีกครั้ง

โอซิล ไม่มีชื่อแม้กระทั่งสำรองในทีมของ เอเมรี่ มา 5 นัดติดต่อกันแล้ว และเมื่อนักข่าวถามอดีตกุนซือเซบีย่า และปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลังจบเกม ก็ไม่ได้รับคำตอบเช่นเคย

"วันนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่องนั้น (โอซิล) ผมอยากจะพูดถึงเกมการแข่งขัน พูดถึงนักเตะทุกคนลงเล่นในแมตช์นี้ เขาไม่ได้มีรายชื่อในนัดนี้ และนี่เป็นสิ่งที่ผมได้ตัดสินใจแล้ว ตอนนี้เราต้องมองไปถึงเกมในวันอาทิตย์" เอเมรี่ ตอบเลี่ยง

แม้โดนดองอีกนัด แต่ โอซิล ก็โพสต์ให้กำลังใจทีมก่อนแข่ง

อาร์เซน่อลชนะได้ก็จริง แต่เป็นชัยชนะที่มาจากความสามารถเฉพาะตัวของคนคนเดียว ไม่ใช่เกิดจากการเล่นเกมรุกที่ดีอย่างที่แฟนบอลอยากเห็น เมื่อรวมกับประเด็นการหลุดของทีม โอซิล ก็ยิ่งเป็นสิ่งหลายคนโฟกัสไปที่ อูไน เอเมรี่ อีกเช่นเคย

ลองสมมุติว่าไม่มีฟรีคิกปลิดวิญญาณของ เปเป้ ในนัดล่าสุด และอาร์เซน่อลต้องพ่ายคาบ้านเป็นนัดแรกของฤดูกาล กระแสโจมตี อูไน เอมรี่ คงหนักหน่วงยิ่งกว่านี้หลายเท่า