:::     :::

ชาร์จแบตเถอะเอริคเซ่น

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
1,565
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตัวเลข 101 นาทีคือระยะเวลาที่ยาวนานมากสำหรับบางสิ่งที่ดูชำรุดทรุดโทรม

    ที่จะหมายถึงก็คือฟอร์มของ คริสเตียน เอริคเซ่น ในเกมพบกับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งต้องย้อนกลับข้ามไป 2 สัปดาห์ก่อน และนั่นคือเกมล่าสุดที่เพลย์เมกเกอร์เดนมาร์กลงเล่นให้ทีมในพรีเมียร์ลีก

    อาจจะไม่ต้องมีคำใดที่อธิบายถึง เอริคเซ่น ที่กูดิสัน พาร์ค ในวันนั้นมาก

    มันก็แค่เขาทำเสียบอล 16 ครั้ง มากกว่าทุกคนที่อยู่ในสนาม โดย 12 ครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรก

    นอกจากนี้ โอกาสสร้างสรรค์เกมของเขาคือ 0 โอกาสยิงคือ 0 การเข้าปะทะคือ 0 พยายามเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งคือ 0 และใบเหลืองคือ 1

    มันควรเป็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุดแล้วรึยังกับฟอร์มที่ดิ่งลงเหวแบบกู่ไม่กลับของ เอริคเซ่น ในเมอร์ซี่ย์ไซด์

    ย้อนกลับไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านพ้นมา หากสิ่งต่างๆ เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ มิดฟิลด์โคนมจะได้ไปวาดลวดลายที่อื่น และ โจวานนี่ โล เซลโซ่ จะกลายเป็นตัวแทนอันสมบูรณ์แบบ

    แต่เรื่องก็เป็นอย่างที่เห็น เอริคเซ่น ต้องอยู่ที่เดิมแบบซังกะตาย ขณะที่ โล เซลโซ่ ก็เพิ่งจะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บที่สะโพกได้ไม่นาน

    ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะยังยึดมั่นอยู่กับดาวเตะหมายเลข 23 แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ยอมรับความจริงที่ว่าใจของ เอริคเซ่น ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว และก็ไม่ใช่นักเตะที่เขารู้จักอีกต่อไปแล้ว

    "มันไม่คิดว่าฟอร์มของ คริสเตียน แตกต่างจากตอนที่เราเซ็นสัญญาเขามาเมื่อ 5 ปีที่แล้วเลย" พอช กล่าว

    "ความมุ่งมั่นของเขายังเหมือนเดิม บางครั้งอาจจะดูมากกว่านักเตะที่เหลือสัญญาปีเดียวด้วยซ้ำ"

    "แต่เมื่อคุณเห็น คริสเตียน และคุณเปรียบเทียบเขากับซีซั่นอื่นๆ เขาก็เป็นนักเตะคนเดิมคนเดียวกันนี้นี่แหละ"

    แฟนไก่ได้ยิน พอช ดอกนี้ก็คงช็อกไม่มากก็น้อย

    เปิดสถิติถึง 4 จาก 6 ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีกแล้ว เอริคเซ่น มีค่าเฉลี่ยแอสซิสต์ในทุกๆ 3 เกม และเขาก็ทำทะลุตัวเลข 2 หลักได้ตลอด 4 ปีหลังสุดด้วย

    หันมามองซีซั่นนี้ เขาเพิ่งจะมีแอสซิสต์ติดตัวเพียงแค่ครั้งเดียวจาก 12 เกมแรกในลีกสูงสุด

    ขณะเดียวกัน ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ นักเตะใหม่ที่ สเปอร์ส ปาดหน้ายักษ์ใหญ่หลายสำนักคว้าตัวมาร่วมทีมช่วงซัมเมอร์กลับต้องเป็นคนที่ถูกเปลี่ยนตัวออกก่อน หรือมีบทบาทในทีมไม่เด่นเท่ามิดฟิลด์เดนมาร์ก

    เอาจริงๆ ถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีนักเตะคนไหนที่แอสซิสต์ (61) และสร้างสรรค์โอกาส (561) ได้มากกว่าเขา ตั้งแต่ที่ เอริคเซ่น ประเดิมนัดแรกในพรีเมียร์ลีกตอนปี 2013

    โปรไฟล์เลิศหรูระดับขึ้นหิ้งเหมือนมาถึงจุดจบ และเขาก็ไม่ใช่คนเดิมกับที่เคยเล่นให้ไก่เดือยทองในฤดูกาลก่อนหน้านี้

    หลายคนฟันธงว่า เอริคเซ่น ในตอนนี้ก็เหมือนกับคนที่กำลังรอย้ายทีม และใช้ชีวิตที่ ท็อตแน่ม ไปวันๆ โดยไม่มีไฟอะไรในการเล่นอีกต่อไปแล้ว

    กระนั้น ข้อกังวลของ เอริคเซ่น ก็คือจุดหมายปลายทางของเขาคืออะไรกันแน่

    ???

    จากข้อมูลของ ดิ อินดิเพนเดนท์ ตั้งแต่ปี 2014 เปิดเผยว่าค่าเฉลี่ยอายุที่ทีมใหญ่ในยุโรปอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, บาเยิร์น และ เปแอสเช ซื้อเข้าทีมก็คือ 24, 21.5, 23.3 และ 24.8 ตามลำดับ

    สังเกตุว่าทุกทีมจะเป็นการซื้อเพื่อเน้นอนาคตทั้งนั้น และ เอริคเซ่น ก็จะอายุ 28 ปีในเดือนกุมภาพันธ์นี้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้มันชัดเจนมากกับตัวอย่างของ แกเร็ธ เบล และ อเล็กซิส ซานเชซ ซึ่งบรรดาสโมสรใหญ่ๆ ไม่พร้อมที่จะเดิมพันกับผู้เล่นประสบการณ์สูงอีกต่อไป

    ดังนั้นบางทีสิ่งที่ เอริคเซ่น กำลังทำ หรือรออยู่ในเวลานี้มันผิดทางไปรึเปล่า

    หากเทียบเขาเป็นสมาร์ทโฟน บางที เอริคเซ่น น่าจะลองอัพเกรดระบบตัวเองให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ และชาร์จแบตเตอร์รี่ที่เหลือไม่ถึง 10% ให้กลับมาเต็มร้อยอีกครั้งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าในเวลานี้

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด