'ด้วยความเคารพ ผมไม่ชอบที่จะทำเรื่องเหล่านี้ แต่ผมคิดว่าทุกคนต้องรับผิดชอบงานของพวกเขาและรับผิดชอบการตัดสินใจของพวกเขาด้วย'

'เมื่อคุณพูดถึงนักเตะ คุณควรระบุชื่อไปเลยเพราะหากไม่ระบุชื่อ คุณจะทำให้นักเตะทั้งหมดต้องเสื่อมเสีย' 

'นักเตะ (มีความรับผิดชอบ) สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในสนามและเราเป็นกลุ่มแรกที่ยอมรับตอนที่พวกเขาทำได้ไม่ดี หัวหน้าแผนกกีฬาจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยเช่นกันและเหนือสิ่งอื่นใดต้องรับผิดชอบสำหรับทุกการตัดสินใจของพวกเขา'

นั่นคือการออกมาโต้ตอบ เอริก อบิดาล หลังเลขาธิการฝ่ายเทคนิคของสโมสรให้สัมภาษณ์สื่อพาดพิงนักเตะบาร์ซ่าว่าไม่พอใจและไม่ทุ่มเทมากพอจนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ถามว่าระหว่าง เมสซี่ กับ อบิดาล ใครมีความสำคัญกับ บาร์เซโลน่า มากกว่ากัน? ตอบไม่ยากเลยว่าต้องเป็นกองหน้ากัปตันทีมชาวอาร์เจนไตน์ที่นำความสำเร็จมาสู่สโมสรมากมายหลายรายการนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2004

โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าจึงเรียก อบิดาล เข้าห้องเย็นและพูดคุยกันนานร่วม 2 ชั่วโมงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสยังไม่ถูกปลดออกจากตำแหน่งตามที่สื่อสเปนคาดการณ์ก่อนหน้านี้ 

บาร์โตเมว ต้องเร่งจัดการกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากอาการปากรั่วของ อบิดาล ที่ให้สัมภาษณ์พาดพิงนักเตะบาร์ซ่าจน เมสซี่ ต้องออกมาโต้ตอบผ่านอินสตาแกรม ซึ่งเป็นสิ่งที่กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ไม่เคยทำลักษณะนี้บ่อยนัก 

ตามรายงานจากมาร์ก้าระบุว่าแม้ อบิดาล จะปากเสียจนก่อความตึงเครียดกับทีมก็ตาม แต่อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศสยังไม่สูญเสียงานของเขา โดยอ้างว่า บาร์โตเมว คุยกับ เมสซี่ ก่อนหน้าจะเรียก อบิดาล เข้าพบ ก่อนประธานบาร์ซ่าจะตัดสินใจให้โอกาสอดีตกองหลังบาร์เซโลน่าทำหน้าที่ต่อไป 

แต่ก็เหมือนเป็นการแจกใบเหลืองตักเตือน ถ้าหาก อบิดาล ยังให้สัมภาษณ์สื่อจนสร้างปัญหาให้ทีมอีกครั้งก็น่าจะหัวหลุดจากบ่า 

อย่างไรก็ตามมันยังไม่มีความชัดเจนว่า เมสซี่ รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการตัดสินใจครั้งนี้ของ บาร์โตเมว แต่ อบิดาล จะเดินทางไปบิลเบาพร้อมนักเตะที่เตรียมลงเล่นรอบ 8 ทีมของศึก โกปา เดล เรย์ บนสังเวียน'ซาน มาเมส บาร์เรีย' ตามแผนงานเดิม 

ขณะที่ เอ็นรีเก้ เซเตียน เทรนเนอร์คนใหม่ของ บาร์เซโลน่า ยืนยันว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเขา แต่อาจเป็นการมองโลกแง่ดีของเทรนเนอร์วัย 61 ปี เนื่องจากการโต้ตอบกันระหว่างผู้นำทีมอย่าง เมสซี่ กับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบทีมอย่าง อบิดาล ย่อมมีผลกระทบบ้างไม่มากก็น้อย

'สถานการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผม'

'สิ่งที่ผมทำได้คือให้เครื่องมือที่นักเตะต้องการเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์สูงสุดจากความสามารถของพวกเขา'

'ทุกสโมสรต่างมีปัญหา แต่มีหลายอย่างที่ผมไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นได้โปรดเถอะ คุยกับผมเกี่ยวกับฟุตบอลเรื่องเดียวละกัน'

อบิดาล ย้ายจาก ลียง มาค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงปี 2007-2013 ลงเล่นกับ เมสซี่ นาน 6 ซีซั่น ร่วมกันคว้าแชมป์ 15 รายการ ก่อนถูกดึงกลับมารับตำแหน่งเลขาธิการฝ่ายเทคนิคต่อจาก โรเบิร์ต เฟร์นานเดซ ในช่วงเดือนมิถุนายน 2018 

หลังการพูดคุยกับ บาร์โตเมว แม้ อบิดาล ยังสามารถรักษางานของตนเองต่อไปได้ก็ตาม แต่เขาสูญเสียศรัทธาจากประธานสโมสรบาร์ซ่า รวมถึงจากอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เมสซี่ ถึงจะได้อยู่ในตำแหน่งเดิม แต่มันจะยาวนานแค่ไหนเท่านั้น

ตามรายงานจาก'อาส'อ้างว่า อบิดาล แสดงความผิดหวังที่สโมสรไม่ได้มอบอำนาจสิทธิ์ขาดในการเซ็นสัญญากับกองหน้าคนใหม่เพื่อดึงมาเข้าทดแทน หลุยส์ ซัวเรซ ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา 

บาร์โตเมว ยังต้องการใช้งาน อบิดาล ในการเซ็นสัญญาฉุกเฉินกับกองหน้าคนใหม่นอกตลาดนักเตะตามกฎของฟุตบอลสเปนหลังการบาดเจ็บจนต้องพักยาวของ อุสมาน เดมเบเล่ แต่มีแนวโน้มว่าประธานบาร์ซ่าจะรอจนกว่าจะจบซีซั่นเพื่อปลด อบิดาล ออกจากตำแหน่งหลังจากนั้นโทษฐานก่อความวุ่นวายกับสโมสร โดยเฉพาะการพาดพิงถึง ชาบี เอร์นานเดซ ว่าไม่เคยยื่นสัญญาให้อดีตมิดฟิลด์กัปตันทีมบาร์ซ่า รวมถึงการโยนขี้ให้นักเตะในทีมที่มีส่วนทำให้ บัลเบร์เด้ ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง ทั้งที่เขาเป็นคนชงเรื่องปลดเทรนเนอร์ชาวบาสโก้สู่ประธานสโมสร

อบิดาล มีส่วนสำคัญต่อการเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เดอ ย็อง และ อองตวน กรีซมันน์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา รวมถึง นอร์แบร์โต้ มูราร่า เนโต้ นายทวารชาวบราซิเลียนจาก บาเลนเซีย และ เอคตอร์ จูเนียร์ ฟีร์โป แบ็กซ้ายดาวรุ่งจาก เรอัล เบติส

แต่การทำงานของ อบิดาล ถูกตำหนิสำหรับการติดตาม เนย์มาร์ ที่ล้มเหลวและที่สำคัญการตัดสินใจปล่อยทั้ง การ์เลส เปเรซ กับ อาเบล รูอีซ ออกจากทีมในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาทั้งที่ทีมอาซูลกราน่ากำลังมีปัญหาขาดแคลนผู้เล่นแนวรุกโดยไม่มีการดึงแข้งใหม่เข้ามาทดแทน 

'ภาพลักษณ์'เป็นอีกเรื่องที่ บาร์โตเมว คำนึงถึงเนื่องจากเลขาธิการฝ่ายเทคนิคทำให้สโมสรมัวหมองมานานก่อนจะถึงจุดพีคที่ เมสซี่ ออกมาโต้ตอบผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ประธานสโมสรบาร์เซโลน่าไม่เลือกหักดิบ ณ ตอนนี้ แต่ อบิดาล คงต้องสงบปากสงบคำมากกว่าที่ผ่านมาเพื่อหลีกเลี่ยงการปัญหาเพิ่มขึ้น 

อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อบิดาล ไม่ได้ไปต่อในฐานะเลขาธิการฝ่ายเทคนิคของสโมสรนั่นคือการเจรจาเรื่องสัญญาใหม่ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ เมสซี่ 

สัญญาของ เมสซี่ ยังมีอายุการใช้งานจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2021 แต่มันมีข้อตกลงว่ากองหน้าชาวอาร์เจนไตน์สามารถย้ายจากถิ่น'คัมป์ นู'ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์นี้ ดังนั้น บาร์โตเมว จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการทำให้กัปตันทีมบาร์ซ่าคนปัจจุบันรู้สึกพึงพอใจกับสถานการณ์ของสโมสรมากที่สุด นั่นหมายความว่าคนที่มีปัญหาหรือมีความขัดแย้งกับ เมสซี่ จะถูกเขี่ยพ้นเส้นทาง

เมสซี่ มีเจตนารมณ์จะอยู่ค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าต่อไป เนื่องจากครอบครัวเขามีความสุขและชื่นชอบการใช้ชีวิตในนครบาร์เซโลน่าทั้ง อันโตเนลล่า ร็อกกูซโซ่ และลูกๆอีกสามคน ติอาโก้, มาเตโอ และ ซีโร่ 

แน่นอนว่าฝ่ายบริหารบาร์เซโลน่าต้องพยายามสร้างบรรยากาศและสถานการณ์ที่เหมาะสมสำหรับการเจรจาเพื่อยืดสัญญาของ เมสซี่ ขณะเดียวกัน บาร์โตเมว ต้องเตรียมเซ็ตทีมงานบริหารใหม่ในช่วงซัมเมอร์นี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 

อบิดาล คงต้องนับถอยหลังรอวันก้าวลงจากตำแหน่งเลขาธิการฝ่ายเทคนิคของบาร์เซโลน่าหลังจบซีซั่นนี้