:::     :::

บทพิสูจน์ตำรวจไทยกับคดีล็อกผลบอล

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2560 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
3,235
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
หลังการแถลงเปิดโปงขบวนการล็อกผลฟุตบอลในประเทศไทย ต่อจากนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของสมาคมและตำรวจไทยว่า จะสาวไปถึงผู้บงการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังได้หรือไม่

     ท่ามกลางกระแสข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับคดีล็อกผลฟุตบอล ที่ทำให้ผู้คนในวงการเริ่มหวาดระแวง ว่าคนรอบตัวนั้นยังบริสุทธิ์หรือไม่ เพราะดูเหมือนเชื้อโรคร้ายนี้จะเริ่มแพร่ระบาดลุกลามไปเรื่อย ทั้งกลุ่มผู้ตัดสิน, นักเตะ และผู้บริหารทีม แม้หน้าฉากจะยังยืนยันความมั่นใจซึ่งกันและกัน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าหลังจากนี้วลีที่ว่า “ล้มบอลหรือเปล่า” คงจะถูกแฟนบอลนำมาปรามาสทันที หากเกิดข้อผิดพลาดในเวทีที่เคยได้ชื่อว่าเป็นสังเวียนของผู้มีน้ำใจนักกีฬา ที่ต้องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

     ในตอนแรกผมตั้งใจว่าจะเขียนคอลัมน์ “ถาม-ตอบ” คนในวงการเพื่อตีแผ่เรื่องราวเชิงลึกให้ได้อ่านกันเหมือนกับประเด็นอื่นๆ ที่ผ่านมา โทรสัมภาษณ์แหล่งข่าวเรียบร้อย คุยกันไปชั่วโมงกว่า ได้ทั้งข้อมูลและความรู้ใหม่ๆ น่าตกใจเยอะแยะมากมาย แต่ท้ายบทสนทนาก็มีความเห็นพ้องต้องกันว่า “เราอย่าเอาเรื่องนี้ไปลงเลยดีกว่า เพราะข้อมูลที่เราคุยกันมันลึกเกินไป คนที่เรากล่าวถึงก็ไม่ใช่คนปกติธรรมดา เขาทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ถ้ารู้ว่าเรารู้อะไรบ้าง”

     เพื่อเป็นการเซฟแหล่งข่าว ก็คงต้องปฏิบัติตามร้องขอ คือหลีกเลี่ยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีความที่ยังไม่สิ้นสุด และไปกล่าวถึงบุคคลที่เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา และอาจกำลังจะถูกกล่าวหาเพิ่มเติม หรือโยงใยเกี่ยวข้องในขบวนการ แน่นอนล่ะว่าผมไม่ใช่แหล่งข้อมูลที่รู้ลึกกว่าใคร แต่คำถามที่ยิงไปนั้น คนตอบตอบได้แต่ลำบากใจที่จะถูกนำไปเผยแพร่ต่อ


     ขออธิบายถึง บริษัทสปอร์ตเรดาร์ ให้เข้าใจโดยทั่วกันก่อนว่า บริษัทนี้ถูกตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2000 เพื่อจับตาตรวจสอบข้อมูลความผิดปกติในการแข่งขันกีฬา และป้องกันขบวนการล็อกผลการแข่งขัน โดยมีสาขาอยู่ทั่วโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง เซนต์ กัลเลน ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทำหน้าที่ในการแจ้งเบาะแสไปยังชาติสมาชิก เพื่อร่วมมือกันสืบหาข้อเท็จจริง และใช้ตัวบทกฎหมายของแต่ละประเทศ ลงโทษผู้เกี่ยวข้องหากพบหลักฐานว่าทำผิด

     ไม่เพียงแต่ฟุตบอลเท่านั้น สปอร์ตเรดาร์ ยังเป็นพันธมิตรกับกับการแข่งขันกีฬาใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ITF, NBA, NFL, NHL, MLS, NASCAR, FIBA, IOC ฯลฯ รวมถึงองค์กรด้านกฎหมายอย่าง ยูโรโพล และสำนักงานตำรวจสากลทั่วโลก แม้แต่บริษัทรับพนันถูกกฎหมายต่างๆ  โดยในภาคของฟุตบอลก็ทำงานร่วมกับ FIFA และ AFC มีบทบาทสำคัญในการเปิดโปงขบวนการล็อกผลล้มบอลคดีดังๆ ทั้งที่ อิตาลี, มาเลเซีย, สิงคโปร์, จีน, เกาหลีใต้ อย่างที่เคยมีข่าวปรากฏในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

     หลายคนอาจไม่ทราบว่า "คุณโจ" พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาฯฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกของสมาคมฟุตบอล ก็เคยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของบริษัทสปอร์ตเรดาร์ ซึ่งตอนนี้ได้เข้าไปมีที่ทำการถาวร ที่สำนักงานใหญ่ของ AFC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียแล้วด้วย

     ในบ้านเรา สปอร์ตเรดาร์ ก็ส่งข้อมูลเบาะแสให้มาตลอดหลายปี แต่เขามีหน้าที่เพียงแจ้งเบาะแสและประสานงานกับหน่วยงานภายในประเทศไทย เช่นสมาคมฟุตบอล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีหน้าที่สืบสวนหรือลงโทษเอาผิด ที่ผ่านๆ มายังไม่เคยมีการเปิดเผยหรือตีแผ่ลงลึกขนาดนี้ เพราะหลายประเทศอาจเลือกที่จะใช้วิธีสืบและลงโทษในทางลับ เพื่อป้องกันภาพลักษณ์ หลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบที่อาจกลายเป็นดาบสองคมต่อวงการกีฬาบ้านเขา

     ผมไม่ขอฟันธงว่าวิธีการแบบไหนดีกว่า มองในแง่ดี การเปิดโปงถึงขั้นระบุชื่อแบบนี้ เหมือนเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู คนที่ยังไม่ได้หลุดเข้าสู่วงจรอุบาทก์ จะได้ไม่กล้าเพราะเห็นแล้วว่าตำรวจไทยเก่งแค่ไหน คนที่เคยกระทำผิดก็คงอยู่ไม่สุขเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีเจ้าหน้าที่มาเคาะประตูหน้าบ้าน 


     การที่เราได้อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาเป็นนายกสมาคม อีกทั้งเป็นรุ่นพี่คนสนิทของ ผบตร.คนปัจจุบัน อาจเป็นปัจจัยสำคัญให้การประสานงานด้านข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สืบสวนและสปอร์ตเรดาร์ ราบรื่นยิ่งขึ้น และนั่นคือสาเหตุที่เกิดการออกมาเปิดโปงขบวนการผู้เกี่ยวข้องในการล็อกผลสู่สาธารณะจนเป็นข่าวใหญ่โตในครั้งนี้ 

     เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลังจากรายชื่อล็อตแรกผ่านไป ซึ่งทั้ง 12 คนยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาจนกว่าคดีจะสิ้นสุด และล็อตอื่นๆ จากนี้ จะมีชื่อของตัวบงการระดับบิ๊กบอสที่ถูกท่านนายกสมาคมพาดพิงถึงหรือไม่ จะมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงหรือไม่ และหากมีหลักฐ่านแล้ว จะนำมาลงโทษดำเนินคดีทางกฎหมายได้จริงหรือไม่ หรือจะจับแค่ปลาซิวปลาสร้อย ตัวระดับล่างๆ ของห่วงโซ่อาหารนี้เท่านั้น

     ถ้าทำได้ ผมคงต้องขอซูฮก ว่านายกสมาคมฟุตบอล และ ตำรวจไทย โคตรเจ๋งและถือเป็นผู้มีคุโณปการต่อวงการกีฬาไทยอย่างแท้จริง แต่ก็นั่นแหละ จะจับตัวใหญ่ได้จริงหรือ เอาล่ะจะคอยดูก็แล้วกัน ขอเอาใจช่วยครับ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด