หลังจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมของแมนยูไนเต็ดในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1958 โลกฟุตบอลต่างก็ไว้อาลัยในความสูญเสียครั้งนี้ พร้อมทั้งยืนอยู่เคียงข้างสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในวันที่มืดมิดที่สุดในประวัติศาสตร์
หนึ่งในน้ำใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอันส่งมาให้เรานั้น มาจากสโมสร"อาร์เซนอล" ทีมอริของเรามาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ทีมนี้นั้น คือคู่แข่งทีมสุดท้ายบนผืนดินอังกฤษที่ได้เจอกับทีมพลังหนุ่มของแมตต์ บัสบี้ เพียง5วันก่อนที่เครื่องบินจะตกที่มิวนิค
ทางเดอะกันเนอร์สนั้นเพิ่มเติมหน้ากระดาษมาสองหน้าขึ้นมาในแผ่นรายละเอียดโปรแกรมเตะของพวกเขาที่จะได้ลงเล่นในบ้านเจอกับโบลตันวันเดอเรอร์ในวันที่18 กุมภาพันธ์ เพื่อแสดงสิ่งที่อยู่ในใจพวกเขาออกมาบอกสู่โลกกีฬา
หัวข้อถูกเขียนไว้ว่า "อุทิศแด่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด"
อ่านเนื้อหาได้ดังต่อไปนี้
"ความหายนะอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นระหว่างที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกำลังเดินทางกลับบ้านของพวกเขา จากยูโกสลาเวียในวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 1958 ที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้หัวใจของวงการฟุตบอลอังกฤษแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งไม่บ่อยเลยที่จะมีเหตุการณ์ที่ช็อควงการกีฬาของอังกฤษได้เท่ากับโศกนาฏกรรมในครั้งนี้"
"นักเตะที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักฝีไม้ลายมือกันเป็นอย่างดี ได้เสียชีวิตลงไปจากเหตุการณ์นี้ และรวมถึงเหล่าบรรดาผู้บาดเจ็บท่านอื่นๆอีกมาก กับทีมที่ได้รับการยกย่องและเป็นที่รู้จักกันในนาม Busby's Babes และ ปีศาจแดง ได้แตกสลายป่นปี้ลงไปในพริบตา นักกีฬาอาชีพ7คนได้เสียชีวิต และคนอื่นๆอีก10คนที่บาดเจ็บ บางคนเจ็บหนักมากจนเราไม่แน่ว่าอีกนานแค่ไหนที่เราจะได้เห็นเขาลงเล่นในสนามได้อีกครั้งหรือไม่"
เลขานุการของสโมสรและประธานขององค์การเลขานุการและผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นบุคคลที่ดีอย่าง Walter Crickmer ได้เสียชีวิตลงไป เช่นเดียวกับ Tom Curry ผู้เป็นเทรนเนอร์, Bert Whalleyผู้ฝึกสอน และนักข่าวกีฬาที่น่าเคารพนับถืออีก8ท่าน รวมถึงกลุ่มเพื่อนของทีมนี้ และลูกเรือเที่ยวบินต่างก็เสียชีวิตไปด้วยกันในเหตุการณ์ครั้งนี้
"วันเวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างเชื่องช้ามาก นับตั้งแต่วันแห่งโชคชะตาวันนั้น บุคลากรต่างๆในวงการฟุตบอล และแฟนบอลอีกหลายล้านคนต่างก็รอคอยอย่างใจจดใจจ่อกับข่าวของผู้จัดการทีมแมตต์ บัสบี้ และเหล่าผู้ที่บาดเจ็บ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านมาสักพักเราจึงได้รับข่าวดีเล็กๆปลอบใจบ้างว่า ในช่วงเวลาที่น่าเศร้านี้นั้นว่า เหล่าผู้ที่รอดชีวิตมานั้นค่อยๆมีอาการดีขึ้นอย่างช้าๆในการต่อสู้เพื่อที่จะหายจากอาการบาดเจ็บให้ได้"
"ทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไม่ได้เป็นแค่ทีมฟุตบอลอย่างเดียว แต่ว่าเป็นสถาบันที่เน้นเรื่องความยอดเยี่ยมในเกมแข่งขัน เป็นสถานที่ฟูมฟักที่ดีของเหล่านักกีฬาอายุน้อย และตัวอย่างของความมีน้ำใจนักกีฬาของประเทศอังกฤษ"
"เป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆชาวอังกฤษทุกคน"
"ภายใต้การนำของแมตต์ บัสบี้ ชายผู้ต่อสู้ชีวิตผู้เป็นแรงบันดาลใจในเรื่องนี้พอๆกับการคว้าชัยชนะที่ผ่านมาในเชิงฟุตบอลของเขา ซึ่งยูไนเต็ดได้เขามาเมื่อช่วงหลายปีก่อนซึ่งเขามาจุดประกายสร้างทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดขึ้นมาในยุคสมัยปัจจุบันนี้ซึ่งเป็นทีมที่เต็มไปด้วยดาวเด่นอายุน้อยมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ถึงจุดพีคสูงสุดของพวกเขาเลยด้วยซ้ำ แมตต์สมควรได้รับเครดิตอย่างมากในความสำเร็จของสโมสรนี้นับตั้งแต่สงครามยุติลง"
"เข้ามาที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในปี1945 สถานที่ที่มีเศษอิฐหินจากระเบิดเล็กน้อยและอุปกรณ์ใช้งานที่จำเป็นต่างๆอย่างจำกัดจำเขี่ย เขานำนโยบายที่สำคัญมาใช้นั่นก็คือการเชื่อมั่นในนักเตะเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรก .. อย่างสอง และเป็นทุกๆอย่างของสโมสรจริงๆ แต่เขาก็ไม่ได้ละเลยในการหานักเตะจากตลาดซื้อขายซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการที่จะรักษาให้ทีมของเขาสามารถทำศึกกับคู่แข่งได้ด้วย"
"นับตั้งแต่แมตต์ บัสบี้ ปักหลักอยู่ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดนั้น มีเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จอย่างหนึ่งซึ่งตามมาในภายหลัง หลังจากที่พายูไนเต็ดขึ้นมาเป็นรองแชมป์ในลีกภายใน3ปี จากนั้นพวกเขาก็ได้อันดับ4 แล้วกลับมาเป็นรองแชมป์อีกครั้ง จนสุดท้ายก็ได้แชมป์ในปี1958 ส่วนปี1953 พวกเขาได้ที่8 จากนั้นปีต่อมาก็อันดับ4อีกครั้ง ในปี1955อยู่อันดับ5 และสองฤดูกาลที่แล้วพวกเขาเป็นแชมป์รวด และนอกจากนี้นั้น ในช่วงเวลาหลังสงคราม พวกเขาได้เข้าชิงบอลถ้วยสองครั้ง"
"เมื่อถึงคราวจำเป็นของทีม ก็มักจะมีนักเตะสักคนนึงจากทีมสำรองที่มีความพร้อม และสามารถเข้ามาทดแทนนักเตะซีเนียร์ชุดใหญ่ได้เสมอ และเมื่อมองลงไปในระดับชุดล่างๆเราจะพบว่า ทีมชุดเด็กของพวกเขาได้แชมป์ F.A. Youth Cupถึง5ปีแล้ว"
"การที่ยูไนเต็ดยุคใหม่จะฟื้นขึ้นมาจากเศษซากปรักหักพังของทีมที่ครั้งหนึ่งเคยยอดเยี่ยมที่สุดให้ได้นั้น เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตเพราะนโยบายของบัสบี้ที่ได้พิสูจน์ตัวเองมาแล้วเต็ม100% และชายผู้ที่ช่วยให้แมตต์ประสบความสำเร็จในทุกด้านที่ว่ามานี้นั้น เขาคือJimmy Murphy ที่ไม่ได้ไปกับทีมด้วยเพราะเสียงเรียกร้องของบ้านเกิดที่เวลส์ เขาจะทำงานอย่างดีเยี่ยมต่อไปจนกว่าแมตต์จะสุขภาพดีขึ้น และหายเจ็บกลับมาคุมทีมไปในทิศทางดังกล่าวที่ว่านั้นอีกครั้ง"
"ทุกๆสโมสรในประเทศเรานั้นพร้อมที่จะส่งความเชื่อเหลือในการประสานงานที่จะช่วยยูไนเต็ดจากปัญหาต่างๆของพวกเขา แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่สโมสรจะสามารถทำการเสนอผู้เล่นมอบให้กับพวกเขาได้ (อาจจะมีเว้นได้บางกรณีอยู่) สิ่งที่ทำได้จริงแน่นอนที่สุดจึงเป็นความช่วยเหลือในภาคของการพัฒนาเหล่าเบ๊บส์ชุดใหม่ขึ้นมา ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นอาจจะได้รับโอกาสที่มาถึงเร็วกว่าปกติ เร็วกว่าที่พวกเขาเคยหวังไว้ แต่การเป็นสมาชิกของทีมที่ยิ่งใหญ่นั้น พวกเขาจะรู้ได้ด้วยตัวเองทันทีว่าสิ่งนี้มันสำคัญและขึ้นอยู่กับตัวเขาเองมากขนาดไหน พวกเราแน่ใจว่าเขาเหล่านั้นจะพึ่งพาได้อย่างแน่นอนที่จะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างในการสร้างทีมแชมเปี้ยนทีมใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง"
นัดสุดท้ายบนเกาะอังกฤษของบัสบี้ เบ๊บส์เกิดขึ้นที่สนามไฮบิวรี่ และยูไนเต็ดเอาชนะอาร์เซนอลไปได้ 4-5
"ดังนั้น พวกเราจะระลึกถึงด้วยความรักอย่างสุดหัวใจต่อมิตรสหายของเราอย่าง Tommy Taylor, Roger Byrne, Eddie Colman, Billy Whelan, David Pegg, Mark Jones และ Geoff Bent ซึ่งได้เสียชีวิตลงไป และผู้เล่นที่บาดเจ็บทุกๆคนที่พยายามฟื้นฟูร่างกายเพื่อที่จะกลับมาให้ได้อย่างลำบากนั้น ขอให้เราได้ร่วมส่งแรงใจและความหวังไปด้วยว่ามันจะไม่นานเกินไปนัก"
"เมื่อแมตต์ บัสบี้ กลับไปนั่งบนเก้าอี้ผู้จัดการทีมตัวเดิมอีกครั้ง
เมื่อเหล่าเด็กหนุ่มผู้บาดเจ็บได้กลับมาลงเล่นอีกครั้ง
ขอแสดงความเคารพให้ทราบโดยทั่วกันทั้งแดนดิน
ถึงความยอดเยี่ยมของพวกเขาระดับเอกอุในยามที่เผชิญหน้ากันในเกมที่ยอดเยี่ยมเสมอ
พวกเขาจะกลับมาเป็นที่รักของพวกเรา
และในขณะเดียวกันก็จะกลับมาเป็นทีมที่คู่แข่งจะต้องหวาดผวาในอีกไม่นานอย่างแน่นอน"
ข้อความแสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ที่อุทิศแด่เรานั้นมา ..คำสวยงามที่ถูกใช้อย่างระมัดระวังในเชิงแง่บวกให้กำลังใจเกี่ยวกับการรักษาตัวให้หายดีของเหล่าผู้บาดเจ็บที่ว่ามา ในอีกสามวันให้หลัง บทกวีแห่งการไว้อาลัยจากอาร์เซนอลนี้ มันก็ได้แตกสลายย่อยยับลงไปซ้ำอีกครั้งในทันที่ที่ข่าว Duncan Edwards พ่ายแพ้ในการที่จะยื้อสู้เพื่อให้รอดชีิวิตในวันที่21 กุมภาพันธ์ 1958
สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนเดินไปสู่อ้อมกอดของเพื่อนร่วมทีมทั้ง7คนที่ไปรอเอ็ดเวิร์ดส์ล่วงหน้าก่อนแล้ว
ท่ามกลางการไว้อาลัยอย่างเศร้าสลดของวงการฟุตบอลและทุกๆคนบนโลกที่ได้รู้เรื่องราวเหล่านี้
-ศาลาผี-
source : https://www.manutd.com
