อาร์เตต้า อายุเพียง  38 ปี มีทำงานโค้ชในตำแหน่งผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ 3 ปีครึ่งก่อนก้าวออกมารับงานเต็มตัว แม้ประสบการณ์โค้ชจะยังไม่มากมาย แต่ประสบการณ์ชีวิตที่กว่าจะเดินมาถึงวันนี้ได้ถือว่าผ่านมาแล้วหลากหลายเส้นทาง 

กุนซือชาวสเปนเติบโตทั้งในแคว้นบาสก์และกาตาลุนย่า จากนั้นไปเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาฝรั่งเศสกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต่อด้วย เรนเจอร์ส ที่สกอต์แลนด์ แถมยังได้เรียนรู้ความเป็นโปรตุกีสจาก นูโน่ วาเลนเต้ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ เอเฟเวอร์ตัน และว่างๆ ก็ไปเรียนภาษาอิตาเลียนเพิ่มเติมอีก 

เขาเกิดที่ ซาน เซบาสเตียน เมืองชายฝั่งทะเลของแคว้นบาสก์ แต่ก็ต้องจากบ้านเกิดตั้งแต่อายุ 14 ปี เขาหลงไหลในปรัชญาของสโมสรบาร์เซโลน่าที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น

"ผมได้ซ้อมกับ แอธเลติก บิลเบา อยู่แล้วและพ่อกับแม่ก็พยายามทักท้วงการย้ายทีม แต่ตัวผมชัดเจนมากๆ ไม่มีเลยแบบว่า 'รอดูก่อน' หรือ 'บางทีควรอยู่ต่อนะ' ไม่เลย"

ในวัยเด็ก อาร์เตต้า ได้เล่นให้ทีม แอนติคัวโก่ ร่วมกับ ชาบี อลอนโซ่ และมีความฝันว่าจะเล่นให้ชุดใหญ่ของ เรอัล โซเซียดาด ด้วยกัน แต่ อาร์เตต้า เลือกย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ บาร์เซโลน่า ขณะที่ อลอนโซ่ ได้แจ้งเกิดกับ โซเซียดาด ในที่สุด

เริ่มต้นกับ บาร์เซโลน่า

"ผมได้มาอยู่ (บาร์เซโลน่า) ในกลุ่มอายุที่แข็งโป๊ก และ เปเป้ เรน่า ก็คือคนที่นอนเตียงสองชั้นอันเดียวกับผม เขาอยู่ข้างบน ผมอยู่ข้างล่าง"

"ผมจดจำถึงอารมณ์ร่วมที่พุ่งขึ้นได้อย่างดีตอนดู บาร์เซโลน่า ในวัยเด็ก ผมตื่นเต้นและยิ้มออกมา มันทำให้ผมต้องการเป็นแบบพวกเขา"

"ในทีมที่มีทั้ง ไมเคิ่ล เลาดรุ๊ป, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, โรมาริโอ, โรนัลด์ คูมัน, ฮริสโต้ สคอยคอฟ และจากนั้นก็ โรนัลดินโญ่ ผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมหัศจรรย์นี้ ผมมอง บาร์เซโลน่า ว่าเป็นการนำเสนอฟุตบอลที่สวยงามที่สุด"

"ผมรู้อยู่เสมอว่าคุณควรแฮปปี้กับสิ่งที่กำลังทำ และสไตล์การเล่นของ บาร์เซโลน่า ก็คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้คุณมีรอยยิ้มบนใบหน้าได้ง่ายที่สุด"

อาร์เตต้า มอง กวาร์ดิโอล่า เป็นต้นแบบของการเล่นฟุตบอล - สปีดการเล่น, ทักษะ, ความคล่องแคล่ว และกล้าคิดกล้าทำ อาร์เตต้า ยึดถือแนวคิดของ เป๊ป นำพาชีวิตแม้กระทั่งชีวิตำประจำวันใน "ห้องครัว"

"ฟุตบอลคือเรื่องของความเคยชินและมุมมอง มันง่ายขึ้นสำหรับคนที่มองภาพออกว่าเพื่อนร่วมทีมจะอยู่ที่ไหนก่อนได้รับบอล หากผมอยู่ในครัวและผมรู้ว่าในตู้ใบนี้จะมีแก้ววางอยู่ตลอด ผมก็จะหาแก้วเพื่อรินน้ำได้เร็วขึ้นมาก"

"หากภรรยาของผมเปลี่ยนที่วางแก้วไปตู้อื่นในทุกวัน คุณคงหัวหมุนและใช้เวลานานขึ้นในการหาแก้วใส่น้ำ"

เคียงข้าง ชาบี อลอนโซ่ มาตั้งแต่เด็ก

"มันเป็นแบบเดียวกับฟุตบอล หากคุณมีหลักคิดชัดเจนและมองรอบข้างอยู่เสมอ คุณก็พัฒนาฟอร์มการเล่นขึ้นได้ มันไม่ใช่การผ่านบอลสั้นตลอด หากคุณว่าผู้เล่นปีกจะแปะอยู่ริมเส้นตลอด ทันทีที่คุณจับบอลแรกแล้วก็วางยาวได้เลย ยกตัวอย่างเช่น พอล สโคลส์ ที่เก่งกาจมากในเรื่องนี้"

"ในหอพักของเราที่บาร์เซโลน่า เรามี เรน่า, บัลเดส, อีเนียสต้า และ การ์เลส ปูโยล แต่ผมยังจำอีกคนที่ชื่อ อารูน่า บาบันกีด้า ได้ดี...ว้าว ตอนอายุ 15 ปี เขาคือนักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ผมไม่สามารถบรรยายถึงพรสวรรค์ที่เขามีออกมาเป็นคำพูดได้เลย เขาน่าจะกลายเป็นดาวดังของวงการแต่สุดท้ายลงเอยด้วยการเล่นในกรีซ, ไซปรัส และรัสเซีย"

"เรามีกฎระเบียบที่เข้มงวด เมื่อคุณอายุ 15 ปี คุณก็มีความต้องการชัดเจนแล้ว คุณกำลังค้นพบตัวเอง ฮอร์โมนพุ่งพล่าน มันมีการทดสอบด้านวิชาการด้วยเพราะในตอนนั้นยังแยกกันระหว่างการเรียนกับการฝึกซ้อม มันน่าเจ็บปวดที่หลายคนไม่ได้ไปสุดทางเพราะเหตุผลด้านอื่น ไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ที่พวกเขามีอยู่แล้ว"

"สิ่งที่คุณทำได้คือแนะนำ ตักเตือน และให้คำปรึกษา แต่หากพวกเขาไม่ยอมรับฟังและไม่ยอมเปลี่ยน...นั่นก็เป็นปัญหาพวกเขาเอง เมื่อคุณอยู่ในสภาพแวดล้อมและมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ มีอุปกรณ์ครบครันที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จและได้รู้ความฝันตัวเอง แต่คุณกลับทิ้งไป มันชัดเจนว่าคุณไม่ต้องการอุทิศตัวเพื่อมัน"

ที่บาร์เซโลน่า อาร์เตต้า ทุ่มเทอย่างถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ดีพอที่จะก้าวขึ้นไปแทน เป๊ป กวาร์โอล่า ได้ ขณะเดียวกัน เขาก็รับรู้ดีถึงพรสวรรค์อันเปี่ยมล้นของ ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรียส อีเนียสต้า

เด็กหนุ่มจาก ซาน เซบาสเตียน จึงเลือกอีกเส้นทางเพื่อไปให้ถึงระดับสูงสุดให้ได้แม้มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยครั้งแรกเป็นการยืมตัวที่ เปแอสเช จากนั้นก็ไปกลาสโกว์ร่วมทีม เรนเจอร์ส

ร่วมงานกับ ดินโญ่ ที่เปแอสเช 

อาร์เตต้า เล่าถึงชีวิตที่เมืองหลวงฝรั่งเศสว่า "ห้องแต่งตัวที่ เปแอสเช บ้าสุดๆ เลย โรนัลดินโญ่, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เจย์ เจย์ โอโคชา, กาเบรียล ไอน์เซ่ มีอิสระอย่างเต็มที่ หากว่าคุณต้องการไปเที่ยวกลางคืนก็ออกไปได้ หากต้องการดื่มก็จัดเลย ความเข้มงวดและการควบคุมมีเพียงเล็กน้อย"

"ปัญหาตอนนั้นคือ บาร์ซ่า เซ็นสัญญานักเตะได้ไม่ดีนัก พวกเขาต้องการเงินและเรียกร้องเงินก้อนโตจาก เปแอสเช แลกกับการเซ็นสัญญาผม ทว่าเป็น เรนเจอร์ส ที่มาพร้อมเงินจำนวนดังกล่าว และบาร์เซโลน่าก็บอกว่า 'นายกำลังจะไปที่นั่น"

 (รอติดตามต่อในตอนที่ 2)