:::     :::

ซัมเมอร์ที่ล้มเหลวของราชัน?

วันพุธที่ 17 มิถุนายน 2563 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
2,736
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ถึงเวลาโบกมือลาบุนเดสลีกา ที่ บาเยิร์น มิวนิค จัดการฟาดแชมป์ลีกสมัยที่ 30 ไปครองได้เรียบร้อยแล้ว

    เวลานี้ถึงคิวต้อนรับการกลับมาของพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นที่สนใจมากที่สุดสำหรับแฟนบอลบ้านเรา แต่หากพูดถึงลา ลีกา นั้นความน่าสนใจในการลุ้นแชมป์ถือว่ายังมีมากกว่า

    การชิงชัยในลีกสูงสุดเมืองกระทิงดุยังคงอยู่ที่ บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด

    ตอนนี้ บาร์ซ่า อาจมีแต้มนำหน้า ราชันชุดขาว อยู่ 5 คะแนน แต่หาก มาดริด ไม่พลาด 3 แต้มจาก บาเลนเซีย ในค่ำคืนวันพุธ ช่องว่างก็จะลดลงมาเหลือ 2 คะแนนเหมือนเดิม ขณะที่ลงแข่งขันเท่ากัน

    ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้น ซีเนดีน ซีดาน และเด็กๆ ของเขาต้องการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกให้ได้นับตั้งแต่ปี 2017 โดยความหวังมากมายนั้นฝากที่บนบ่าของ 2 ดาวดังที่เซ็นสัญญามาในช่วงซัมเมอร์อย่าง เอแด็น อาซาร์ และ ลูก้า โยวิช

    ขณะที่ ราชันชุดขาว เดินหน้าล่าแชมป์ยุโรป โดยฟาดถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกไปถึง 4 จาก 6 ปีหลังสุด แต่ในประเทศ พวกเขากลับปล่อยให้ บาร์ซ่า ครองความยิ่งใหญ่อยู่เพียงฝ่ายเดียว

    ยักษ์กาตาลันมีคะแนนนำหน้าทีมของ ซีดาน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 10 นัดที่เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสจะมีโอกาสพรากแชมป์ลีกมาจากอ้อมอก บาร์ซ่า ซึ่งซิวถ้วยลา ลีกา มาตลอด 2 ฤดูกาลหลังสุด

    เรอัล ใช้เงินอย่างจริงจังในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อพยายามที่จะเอาชนะคู่แค้นของพวกเขาให้ได้ แต่จนถึงเวลานี้ เงินก้อนนั้นก็ดูเหมือนจะกลายเป็นตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

    โยวิช นั้นถูกดึงตัวมาจาก แฟร้งค์เฟิร์ต ในราคา 60 ล้านยูโร ขณะที่ อาซาร์ นั้นมาจาก เชลซี ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร โดยทั้งสองต่างประสบความสำเร็จอย่างสูงในฤดูกาลที่แล้ว และก็ดูเหมือนว่าจะสามารถเข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทิ้งเอาไว้

    กระนั้น ซีซั่นของ อาซาร์ ดูเหมือนจะไม่ใกล้เคียงกับความหวังหมายเลข 7 เลย เมื่อเขาลงสนามไปเพียงแค่ 11 นัดในลีก และยิงได้แค่ลูกเดียว ก่อนที่จะเจ็บที่กระดูกเท้า และกลับมาได้ในนัดรีสตาร์ทของฤดูกาลนี้

    มันเป็นซีซั่นที่เงียบเหงาเอามากๆ ของซูเปอร์สตาร์ทีมชาติเบลเยียม แต่มันก็คงไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่า โยวิช อีกแล้ว

    ดาวยิงทีมชาติเซอร์เบียเดินทางมายังถิ่นเบร์นาเบว ด้วยชื่อเสียงอันเลื่องลือในเวทีบุนเดสลีกา โดยซัดได้ถึง 27 ประตู จากทุกรายการ รวมถึง 10 ลูกในยูโรปา ลีก ด้วย

    ทว่านับตั้งแต่มาสวมชุดขาวในกรุงมาดริด กองหน้ารายนี้ก็กลายเป็นสากกระเบือเคลื่อนที่ โดยหลายคนเฝ้าดูฟอร์มเก่าๆ ของเขาจาก YouTube และตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนักเตะที่มาจากเยอรมันรายนี้

    มันอาจเป็นเพราะแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมเข้าใส่ทั้งสองดาวดัง โดย เรอัล มาดริด ยิงได้แค่ 52 ประตู ในลีก ซึ่งน้อยกว่าจ่าฝูงอย่าง บาร์เซโลน่า ถึง 17 ลูก และมากกว่าทีมอย่าง เรอัล โซเซียดาด เพียงแค่ 6 ประตูเท่านั้น

    กับ 3 แนวรุกของ บาร์ซ่า อย่าง ลีโอเนล เมสซี่, อ็องตวน กรีซมันน์ และ หลุยส์ ซัวเรซ ที่หลายคนมองว่าดูดร็อปลงไป ยังยิงรวมกันได้ถึง 40 ประตูในลา ลีกา

    แต่มองมายัง มาดริด นักเตะแนวรุกอย่าง โยวิช, แกเร็ธ เบล, วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้ โกเอส และ ลูกัส บาซเกซ เอามัดรวมกันยังทำได้เพียงแค่ 10 ลูกในลีกเท่านั้น ขณะที่ อาซาร์ กับ อีสโก้ ก็มีคนละ 1 ประตูติดตัว

    ความหวังอันหนักอึ้งทั้งหมดกลับไปฝากเอาไว้ที่ คาริม เบนเซม่า ในวัย 32 ปี ที่ทำไปแล้ว 14 ลูกในลีกฤดูกาลนี้ โดยแทบไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรจากผู้มาใหม่ในช่วงซัมเมอร์เลย

    ไม่มันแปลกที่คุณจะรู้สึกว่าช่วงเวลา 10 นัดที่เหลืออยู่นี้ โยวิช ก็คงจะไม่ได้แสดงอาการที่ดีขึ้นอะไร และนั่นทำให้วันเวลาของเขากับทีมเมืองหลวงของสเปนกำลังถูกนับถอยหลัง

    อาซาร์ อยู่ในจุดสุดยอดมาเป็นเวลา 8 ปี และ มาดริด ก็คงสวดภาวนาให้เขาเรียกฟอร์มเดิมๆ กลับมาในช่วง 1-2 เดือนที่เหลืออยู่นี้

    ทีมของ ซีดาน ยังมีโปรแกรมที่ง่ายกว่า บาร์ซ่า ที่ยังจะต้องเล่นกับของแข็งอย่าง แอต. มาดริด และไปเยือนทีมอันดับ 3 อย่าง เซบีย่า

    ต้องชื่นชม เบนเซม่า เลยจริงๆ ที่พาพวกเขามาไกลได้ขนาดนี้ ทว่าหาก เรอัล อยากพลิกสถานการณ์กลับมาครองแชมป์ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ให้ได้จริงๆ เด็กใหม่ทั้ง 2 รายนั้นก็ควรจะต้องเริ่งงัดฟอร์มเก่าๆ คืนมาให้ได้

    แต่ดูแล้ว บอกได้เลยว่า ยากกกกกกกกก!!!!!!!!!

    พาสต้า


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด