ถ้าจะบอกว่านี่คือฤดูกาลที่พังที่สุดของ บาร์เซโลน่า ก็คงไม่ผิดนัก การเสียแชมป์ ลา ลีกา ให้ เรอัล มาดริด เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ถือเป็นความเจ็บปวด แต่ที่เจ็บยิ่งกว่าคือความพ่ายแพ้หนนี้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจาก ความผิดพลาดโง่ๆที่ก่อขึ้นเอง นำมาซึ่งปัญหาต่างๆซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ควรจะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ จนนำมาสู่การดำดิ่งในปีนี้ 

บาร์เซโลน่า เริ่มต้นวางแผนงานเตรียมทีมในช่วงปรีซีซั่น ด้วยการเลือกให้โอกาสกับ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ได้ทำงานต่อไป ทั้งๆที่ทำพลาดอย่างใหญ่หลวง 

แฟนๆยังไม่ลืมเหตุการณ์ที่กรุงโรมดี ก็มาพลาดซ้ำที่ แอนฟิลด์ อีก ซึ่งสร้างความผิดหวังอย่างมหาศาล ทั้งๆที่ทุกคนต่างรู้สึกว่า “บิ๊กเอียร์ นั้นอยู่ใกล้แค่ปลายมือคว้าแล้วแท้ๆ” 

เท่านั้นไม่พอถ้วยแชมป์ใบเดียวที่เหลืออยู่อย่าง โกปา เดล เรย์ ยังมาโดน บาเลนเซีย เชิดไปต่อหน้าต่อตา ทำให้แทนที่จะได้ความสำเร็จมาเยียวยาแผลจาก แชมเปี้ยนส์ลีก บ้าง กลายเป็นเหมือนโดนเหยียบซ้ำให้ยิ่งจมดิน

ห้วงเวลานั้น กระแส #valverdeout แรงมาก และทุกคนก็มองในทิศทางเดียวกันว่ายังไง บัลเบร์เด้ ก็ไม่มีทางรอด  แต่เหลือเชื่อที่บอร์ดบริหารซึ่งนำโดย โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ตัดสินใจให้โอกาสกุนซือจากเอ๊กเตรมาดูร่าได้ทำงานต่อ 

ในส่วนของนักเตะ สโมสรทุ่มเงิน 120 ล้านยูโรฉีกสัญญาของ อองตวน กริซมันน์ กับ แอต.มาดริด มาร่วมทีม จากนั้นตัดสินใจขาย การ์เลส เปเรซ ดาวรุ่งให้กับ โรม่า , เลือกปล่อย ฌอง แคลร์ โตดีโบ ให้กับ ชาลเก้ 04 ยืมไปใช้งาน 

ไม่ใช้อ๊อปชั่นซื้อ มาร์ค กูกูเรย่า เด็กปั้นของตัวเองกลับมาจาก เออิบาร์ แต่เลือกที่จะจ่ายเงิน 18 ล้านยูโรบวก add-on อีก 12 ล้านยูโร คว้าแบ็กซ้ายอย่าง จูเนียร์ ฟีร์โป้ เข้ามาแทน 

จากวันแรก 16 สิงหาคม กระทั่งถึง 19 กรกฏาคม วันที่เสียแชมป์ให้ เรอัล มาดริด นั้น พอจะมองได้ว่าการเตรียมทีมของสโมสรนั้นมีความผิดพลาด

  จูเนียร์ ฟีร์โป้ เล่นไม่ออกเลย เขาไม่าสามารถงัดฟอร์มสมัยเล่นกับ เรอัล เบติส ออกมาโชว์ได้ ทีมไม่อาจวางใจให้เขาลงสนามเป็นตัวจริง หรือ เบียดแย่งตำแหน่งกับ ยอร์ดี้ อัลบา อย่างสมน้ำสมเนื้อ ขณะที่ มาร์ค กูกูเรย่า โดดเด่นอย่างมากกับการย้ายไปเล่นให้ เคตาเฟ่ ซึ่งปีนี้แม้ว่าจะพลาดโควต้าฟุตบอลยุโรปไป แต่ก็คั่วพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างน่าชื่นชม 

ขณะที่ผลงานส่วนตัวของ กูกูเรย่า เขาลงสนามใน ลา ลีกา ไปทั้งสิ้น 37 เกม เป็นตัวจริงทั้งหมด ยิง 1 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ถูกเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมของ ลา ลีกา ในส่วนของนักเตะอายุไม่เกิน 21 ปี ส่วน ฟีร์โป้ ติด 11 นักเตะน่าผิดหวังแห่งปีของ ลา ลีกา พร้อมๆกับ กริซมันน์ 

นอกจากนี้ในส่วนของกองหลัง เมื่อตัดสินใจปล่อย โตดีโบ ออกไปแล้ว แต่ทีมกลับต้องมาเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บของ ซามูแอล อุมตีตี้ เซนเตอร์ฮาล์ฟอีกคน จนทำให้เหลือใช้งานได้จริงๆจังๆแค่ เกลมอง ลองเล่ต์ กับ เคราร์ด ปีเก้ เท่านั้น ซึ่งทั้งสองคนนี้ลงเล่นต่อเนื่องแทบไม่ได้พักเลย 

………………………….

นอกจากการเตรียมทีมที่ผิดพลาดแล้ว ในส่วนของงานบริหารก็ยังเต็มไปด้วยปัญหารุมเร้ามากมาย ตั้งแต่ต้นจนจบ สโมสรมีแต่ข่าวเสียๆหายๆของผู้บริหารที่ออกมาแฉกันเอง มีประเด็นเรื่องการฉ้อโกงเงิน และการออกมาให้ข่าวเท็จทำลายทีม 

เริ่มตั้งแต่คดีบาร์เซ่าเกต ซึ่งผู้บริหารของ บาร์เซโลน่า ทั้ง โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว และ ยอร์ดี้ มาสเฟร์เร ถูกกล่าวหาว่าแอบยักยอกเงินของสโมสรไปจ้างบริษัท I3 VENTURES  บริษัทไอทีสัญชาติอาร์เจนติน่าเพื่อให้ทำงานสกปรก ออกข่าวลวง ทำไอโอ เพื่อดิสเครดิตคู่แข่งฝั่งตรงข้าม,อดีตนักเตะสโมสรที่ชอบพูดโจมตี หรือแม้กระทั่งนักตะชุดปัจจุบันของสโมสร

จากเรื่องนี้ ทำให้เกิดการสาวไส้ของบรรดาบอร์ดบริหารด้วยกันเอง ถึงขนาดที่ บาร์โตเมว ต้องออกมาแถลงการณ์ขับไล่ เอมิลี่ รูดซาว รองประธานสโมสรและตัวเต็งผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานสโมสรบาร์เซโลน่าในสมัยหน้าให้ออกจากตำแหน่งไปพร้อมๆกับพรรคพวกทีมบริหารอีกหลายคน 

จากนั้นสโมสรก็จำต้องจ้าง PWC หรือ PricewaterhouseCoopers บริษัทตรวจสอบทางการเงินชื่อดังของโลกให้เข้ามาตรวจสอบหาเส้นทางการทุรจริตทางการเงินที่บอร์ดบริหารชุดปัจจุบันถูกกล่าวหาเพื่อแสดงความบริษสุทธิ์ใจ 

แม้สุดท้ายผลการตรวจสอบจะไม่พบการทุจริตแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าข่าวนี้ทำลายภาพลักษณ์ของสโมสรบาร์เซโลน่าให้ย่อยยับอย่างไม่มีชิ้นดีชนิดไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าการมีเรื่องถึงขนาดฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลของผู้นำสโมสร ย่อมส่งผลกระทบต่อนักเตะในทีม 

ปัญหาที่มาจากบอร์ดบริหารยังมีอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากคดีบาร์ซ่าเกตแล้ว ก็ยังมีประเด็นการปลด เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กลางคันอีกด้วย 

สาเหตุนั้น เอริค อบีดัล อดีตนักเตะของทีมซึ่งทำหน้าที่เลขาฝ่ายเทคนิคเป็นคนออกมาเปิดเผยว่าเขาเองที่สังเกตเห็นปฏิกิริยาของนักเตะที่แสดงว่าไม่เอา บัลเบร์เด้ แล้ว จึงนำเรื่องนี้ไปบอก บาร์โตเมว 

จากนั้นเมื่อ บัลเบร์เด้ พาทีมพลาดแชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ไฟนั่ลโฟร์ที่ ซาอุดิอาระเบีย เขาก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งครั้งนี้สร้างความมึนงงให้กับแฟนบอลจำนวนมาก เพราะมองว่า บัลเบร์เด้ น่าจะได้ทำงานต่อไป เพราะสโมสรเลือกที่จะให้โอกาสเขาแล้วในช่วงซัมเมอร์ ทั้งยังคิดว่าถ้าจะปลดก็ควรปลดตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ การมาทำสิ่งนี้ในช่วงกลางฤดูกาล อาจเกิดผลเสียมากกว่าดี 

การให้สัมภาษณ์ของ อบีดัล ว่าเห็นปฏิกิริยาของนักตะว่าไม่เอาโค้ชแล้ว สร้างความโมโหให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ อย่างมาก เจ้าตัวถึงขนาดเขียนข้อความผ่านไอจีว่าให้ อบีดัล ระบุออกมาเลยว่านักเตะนั้นคือใคร เพราะส่วนตัวเขาเเล้ว ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับ บัลเบร์เด้ เลย 

นอกจากมีกรณีพิพาทกับ เมสซี่ แล้ว อาบีดัล ยังมีกรณีพิพาทกับ ชาบี เอร์นานเดซ ตำนานของสโมสรอีกด้วย เพราะช่วงที่สั่งปลด บัลเบร์เด้ มีข่าวลือออกมาว่าเขาเป็นคนยื่นข้อเสนอให้อดีตมิดฟิลด์จอมทัพของทีมกลับมารับงานคุมทีมข้างสนาม 

ชาบี เอร์นานเดซ ให้ข่าวยืนยันว่าเขาได้รับข้อเสนอนี้จาก อบีดัล จริงๆ แต่ อบีดัล กลับออกมาปฏิเสธข่าวว่าเขาไม่เคยยื่นข้อเสนอใดๆทั้งสิ้น แถมยังท้าให้เอาสัญญามาโชว์ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าให้ถกเถียงกันอีกโดยไม่จำเป็น

อีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งปัญหาที่ทำลายภาพลักษณ์ของ บาร์เซโลน่า ให้เละเทะในสายตาชาวโลกอีกครั้งก็คือการลดเงินเดือนนักเตะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจช่วงโควิด 

บาร์เซโลน่า เป็นหนึ่งในสโมสรที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เพราะไม่มีแฟนบอลเข้าสนาม ยอดซื้อสินค้าที่ระลึกลดลง ไม่มีแฟนมาทัวร์สนาม ทัวร์มิวเซียม ซึ่งไม่ผิดแม้แต่น้อยที่บอร์ดบริหารจะขอใช้สิทธิตามกฏหมายของรัฐบาลลดการจ่ายเงินเดือนของนักเตะและพนักงาน เพราะถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

ห้วงเวลานั้นสโมสรมีทางเลือกไม่มากนักเพื่อพยุงสถานการณ์ให้อยู่รอด แต่กลายเป็นว่าดันมีข่าวลือออกมาก่อนว่ากลุ่มนักเตะไม่พอใจ และไม่ยินยอมลดค่าจ้างของตัวเอง 

พอข่าวลือออกมาก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง นักเตะถูกโจมตีว่าเห็นแก่ตัวต่างๆนานาๆ จนเดือนร้อนถึง เมสซี่ ต้องออกมาชี้แจงผ่านไอจีอีกครั้งว่านักเตะทุกคนพร้อมลดค่าเหนื่อย และตอบตกลงไปแล้ว 

ประเด็นนี้สิ่งที่น่าหงุดหงิดก็คือทำไมถึงมีข่าวลือออกมาว่านักเตะไม่ยอมลดค่าเหนื่อยทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องจริง นั่นหมายความว่าภายในบอร์ดบริหาร หรือโครงสร้างบริหารส่วนอื่นมีผู้ไม่ประสงค์ดีอยู่ 

แม้จะไม่ใช่คนที่ปล่อยข่าวลืออกมา แต่สำหรับ บาร์โตเมว ในฐานะผู้นำองค์กร การเลือกบุคคลไม่มีคุณภาพ ขาดซึ่งความซื่อสัตย์ต่อองค์กรเข้ามาทำงานถือเป็นความผิดของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากดราม่าเรื่องลดค่าเหนื่อยซึ่งทำให้ทีมปั่นป่วน ก็มาถึงประเด็นเรื่องของปล่อยตัว อาร์ตู เมโล่ ไปให้กับ ยูเวนตุส ทั้งๆที่ฤดูกาลยังไม่จบ 

(ติดตามอ่านตอนจบ เร็วๆนี้) 

เจมส์ ลา ลีกา