:::     :::

4 ปีก'เวิลด์ คลาส'ของทัพเสือใต้

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
6,728
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
แซร์ช นาบรี้ กับ ลีรอย ซาเน่ สองปีก บาเยิร์น มิวนิค มีโอกาสประสบความสำเร็จตามรอยสองปีกระดับตำนานของทัพเสือใต้อย่าง อาร์เยน ร็อบเบน กับ ฟร้องค์ ริเบรี่

บาเยิร์น มิวนิค เซ็นสัญญากับ ลีรอย ซาเน่ และ ดักลาส คอสต้า ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นั่นทำให้ทัพเสือใต้กลายเป็นทีมที่มีปีกระดับ 'เวิลด์ คลาส' ถึง 4 คน เมื่อรวมกับหน้าเก่าอย่าง แซร์ช นาบรี้ กับ คิงส์เล่ย์ โกมัน 

นั่นคือความต้องการของ ฮันซี่ ฟลิค ซึ่ง ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของทีมเสือใต้ทำงานตอบสนองความต้องการของเทรนเนอร์วัย 55 ปีทันที เริ่มจากการจ่ายเงินเบื้องต้น 45 ล้านยูโรดึง ซาเน่ มาจาก แมนฯซิตี้ ก่อนเซ็นสัญญา 5 ปี ต่อด้วยการดึง ดักลาส คอสต้า จาก ยูเวนตุส มาด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งปี หลังปีกชาวบราซิเลียนเคยมีประสบการณ์ค้าแข้งกับทีมเสือใต้ในช่วงปี 2015-2017

'การมีปีก 4 คนนั้นเหมาะอย่างยิ่งในแนวคิดของผม' ฟลิค เปิดเผย 'ในทีม ทุกตำแหน่งควรมีผู้เล่นสองคนเพื่อแย่งชิงกัน' หลังทีมเสือใต้ส่งคืน ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ กับ อีวาน เปริซิช กลับ บาร์เซโลน่า และ อินเตอร์ มิลาน หลังหมดสัญญายืมตัวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 


1.ลีรอย ซาเน่ 

บาเยิร์น มิวนิค พยายามเซ็นสัญญากับ ซาเน่ ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปีก่อน แต่ แมนฯซิตี้ แข็งขืนไม่ยินยอมปล่อยปีกทีมชาติเยอรมันออกจากถิ่น 'เอติฮัด สเตเดี้ยม' ก่อนนักเตะจะบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงเปิดซีซั่นจนต้องพักยาว แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความสนใจของทีมเสือใต้ลดน้อยไปจากเดิม

ขณะเดียวกัน แมนฯซิตี้ พยายามโน้มน้าว ซาเน่ ทำข้อตกลงใหม่แทนสัญญาฉบับเดิมที่กำลังจะหมดอายุการใช้งานในวันที่ 30 มิถุนายน 2021 แต่นักเตะไม่ตอบสนองความพยายามดังกล่าว ดังนั้นทีมเรือใบจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมปล่อยปีกวัย 24 ปีย้ายซบทีมเสือใต้ 

คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอของ บาเยิร์น มิวนิค ยกย่อง ซาเน่ ว่าเป็น'ปีกที่มีความพิเศษ' นั่นคือเหตุผลที่ทีมเสือใต้ยอมจ่ายเงิน 45 ล้านยูโรเพื่อดึงนักเตะเข้าสังกัด

ขณะที่ ซาลิฮามิดซิช กล่าวเสริมว่า 'ฝีเท้าของเขา, ความสามารถในการเลี้ยงบอลและการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายทำให้เขาเหมาะกับ บาเยิร์น เขาเป็นผู้เล่นที่เราต้องการมี' 


นั่นเป็นผลจากสถิติการเล่นระดับสูงของเขา แม้จะอายุเพียง 19 ปีจากการลงเล่นบนเวทีบุนเดสลีกาในซีซั่น 2015-2016 ซาเน่ ใช้ความพยายาม 264 ครั้งและประสบความสำเร็จ 120 ครั้ง ดีกว่าสถิติการเลี้ยงบอลของ นาบรี้, โกมัน และ คอสต้า มากกว่าสองเท่าตัว เขายังทำ 8 ประตูกับ 8 แอสซิสต์จากการลงเล่น 33 เกม มีค่าเฉลี่ยยิงหนึ่งประตูทุกๆ 145 นาที 

ซาเน่ ยังสานต่อผลงานที่ ซิตี้, เขาทำ 25 ประตูกับ 31 แอสซิสต์จากการลงเล่นพรีเมียร์ลีก 89 เกมตลอด 3 ซีซั่นที่ค้าแข้งกับทีมเรือใบ แม้ว่าจะพลาดลงสนามตลอดช่วงฤดูกาล 2019-2020 เนื่องจากเอ็นเข่าเอซีแอลฉีกขาดก็ตาม 

ทว่า ซาเน่ แสดงให้เห็นว่าการบาดเจ็บดังกล่าวไม่ได้ลดทอนความเฉียบคมของเขาหลังการยิงหนึ่งประตูและมีส่วนร่วมกับการทำอีกสองประตูในเกมเปิดซีซั่นลีกเมืองเบียร์ที่ทีมเสือใต้บอมบ์ ชาลเก้ พ่ายหมดสภาพ 8-0 


ทั้ง นาบรี้ กับ โกมัน ต่างเป็นปีกที่ใช้เท้าขวาเป็นหลัก ดังนั้นการมาถึงของนักเตะเท้าซ้ายธรรมชาติของ ซาเน่ จะเพิ่มมิติเกมรุกของทีมเสือใต้ที่ขาดหายไปนับตั้งแต่การอำลาสโมสรของ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกลายครามชาวดัตช์

ลีลาของ ซาเน่ ละม้ายคล้าย ร็อบเบน เช่นเดียวกัน เขาชอบเล่นฝั่งขวาและเลี้ยงบอลตัดเข้าในก่อนสับไกยิงด้วยเท้าที่แข็งแกร่งของเขา 

'ปกติผมเล่นฝั่งซ้ายที่ ซิตี้ แต่ตอนเป็นนักเตะเยาวชนที่ ชาลเก้ ผมเล่นฝั่งขวาเป็นหลัก'

'ตำแหน่งโปรดของผมคือปีกขวา ผมรู้สึกสบายใจสุดที่นั่น แต่ผมไม่มีปัญหากับการเล่นทางซ้าย เป๊ป (กวาร์ดิโอล่า) ช่วยให้ผมเรียนรู้วิธีการเล่นปีกทั้งสองข้าง นั่นช่วยให้ผมก้าวไปข้างหน้าอีกระดับ นักเตะจำนวนมากสามารถเล่นได้เพียงฝั่งเดียว'

2.ดักลาส คอสต้า

แม้ บาเยิร์น มิวนิค จะเซ็นสัญญากับ ซาเน่ ก่อนหน้านั้น แต่ยังเหลือช่องว่างที่ยังต้องเติมเต็ม แม้ ฮันซี่ ฟลิค จะเป็นแฟนตัวยงของ จามาล มูเซียล่า ผลผลิตจากทีมเยาวชนเสือใต้ก็ตาม และแข้งวัย 17 ปียังได้โอกาสจาก ฟลิค ส่งลงเล่นเกมเปิดซีซั่นฐานะสำรองและทำหนึ่งประตูในเกมขย่ม ชาลเก้ 8-0 

ทว่าจากโปรแกรมแข่งขันที่อัดแน่นทั้ง 3 รายการ รวมถึงการมีส่วนร่วมกับศึก ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ มันจึงมีความจำเป็นที่จะต้องหมุนเวียนนักเตะลงสนาม นั่นทำให้ทีมต้องเซ็นสัญญาเพิ่มเติมกับปีกอีกหนึ่งคน

ดักลาส คอสต้า เคยเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงปี 2015-2017 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัวซีซั่นแรกและเซ็นสัญญาถาวรกับทีมม้าลายด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโรในปีถัดมา


'ดักลาส จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นที่ตำแหน่งปีก ซึ่งมีความสำคัญมากสำหรับเกมของเรา' ซาลิฮามิดซิช กล่าว 

'กับ แซร์ช, ลีรอย, คิงส์เล่ย์, จามาล และ ดักลาส เรามีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในตอนนี้ นั่นทำให้โค้ชมีโอกาสจัดการเวลาการลงสนามของแต่ละคนได้อย่างสมเหตุสมผล ดักลาส รู้จักสโมสรแล้วและจะลงหลักปักฐานอีกครั้งที่นี่อย่างรวดเร็ว' 

'นอกจากนี้เขายังทำให้เราแข็งแกร่งกว่าฤดูกาลที่แล้วในส่วนของแนวโจมตีด้านข้าง เรามีสองผู้เล่นเท้าซ้ายและสองผู้เล่นเท้าขวา พวกเขาเป็นผู้เล่น 4 คนที่มีโปรไฟล์หลากหลาย ซึ่งแต่ละคนเลี้ยงบอลได้อย่างยอดเยี่ยม นั่นจะทำให้เราถูกคาดเดายากมากขึ้น'

คอสต้า เคยทำให้แฟนบอลบุนเดสลีการู้สึกตื่นตาในการย้ายมาเล่นลีกเมืองเบียร์ครั้งแรก เขายิง 8 ประตูและทำ 20 แอสซิสต์จากการลงเล่น 50 เกม ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ ยูเวนตุส โดยทำ 6 ประตูกับ 18 แอสซิสต์บนเวที เซเรีย อา ในช่วง 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าส่วนใหญ่จะบาดเจ็บและมีบทบาทเป็นเพียงตัวสำรองก็ตาม


เช่นเดียวกับ ซาเน่ และปีกคนอื่นของทัพเสือใต้ที่ทุกคนมีความสามารถเล่นได้ทั้งฝั่งของสนาม แม้ว่า คอสต้า จะเล่นกราบขวาเป็นส่วนใหญ่ในอาชีพของเขาก็ตาม

อย่างไรก็ตามจากสถิติการทำประตูค่อนข้างต่ำของปีกชาวบราซิเลียนบ่งบอกเป็นนัยว่าแข้งวัย 30 ปีจะเป็นผู้สร้างสรรโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมมากกว่าการจบสกอร์ด้วยตัวเอง ในการเล่นบุนเดสลีกาซีซั่นล่าสุด คอสต้า มีค่าเฉลี่ยคอร์สบอลเข้าเขตโทษทุก 21 นาที และแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูทุก 32 นาที 

เมื่อเทียบกับปีกรายอื่นของ บาเยิร์น มิวนิค ยืนยันว่า คอสต้า มีสถิติเหนือกว่า โกมัน (26/34), นาบรี้ (47/36) และ ซาเน่ (289/61)

3.แซร์ช นาบรี้ 

กรณี ซาเน่ เป็นนักเลี้ยงระดับแนวหน้า ขณะที่ คอสต้า เป็นนักจ่าย ส่วน นาบรี้ ผสมผสานระหว่างการจ่ายบอลกับการจบสกอร์อย่างลงตัว เขาทำ 12 ประตูและ 11 แอสซิสต์จากการลงเล่นบุนเดสลีกาซีซั่นที่ผ่านมา กลายเป็นซีซั่นที่ปีกวัย 25 ปีเล่นได้อย่างทรงประสิทธิภาพมากสุดในอาชีพค้าแข้ง 

5 ประตูของ นาบรี้ มาจากการสับไกยิงด้วยเท้าซ้าย (โอกาส 32 ครั้ง) และทำ 7 ประตูด้วยเท้าขวา (โอกาส 61 ครั้ง) 3 ประตูในนั้นมาจากการยิงระยะไกล เขาจึงเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นอย่างมีประสิทธิภาพทั้งสองเท้าและสามารถทำประตู, เลี้ยงบอล, ผ่านบอล, เล่นทั้งสองฝั่งสนามหรืออะไรมากกว่านั้น

ดังนั้นจึงอาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจถ้าหากเขาจะมีโอกาสลงเล่นมากกว่าผู้เล่นตำแหน่งเดียวกันรายอื่น


ช่วงฤดูกาล 2019-2020 นาบรี้ มีเวลาลงเล่นบุนเดสลีกา 2,203 นาที มากกว่า โกมัน (1,506 นาที), ฟิลิปเป้ กูตินโญ่ (1,413 นาที) และ อีวาน เปริซิช (1,204 นาที) 

นาบรี้ เคยสร้างปรากฎการณ์ด้วยการทำคนเดียว 4 ประตูในเกมเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก เขายังทำประตูในเกมดวล เชลซี และ ลียง รวมถึงการทำหนึ่งประตูกับ 2 แอสซิสต์ในเกมยิงสลุต บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นการยืนยันชัดเจนว่าปีกวัย 25 ปีเป็นผู้เล่นที่เติบโตในการลงเล่นเกมสำคัญ

ฮันซี่ ฟลิค ตระหนักดีถึงคุณค่าของ แซร์ช นาบรี้ ที่มีต่อทัพเสือใต้ 'พัฒนาการของเขาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาน่าทึ่งมากและคุณจะเห็นได้ว่าเขาใกล้จะเป็นผู้เล่นระดับโลกมากแล้ว' 

นาบรี้ ก้าวต่อไปในซีซั่น 2020-2021 หลังประเดิมฤดูกาลด้วยแฮตทริคในเกมแรกกับ ชาลเก้ ก่อนทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ในเกมกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน นัดที่สามของซีซั่น 


การเล่นด้วยความเข้าใจกับ ซาเน่ เพื่อนร่วมทีมชาติเยอรมันทำให้สาวกทีมเสือใต้เปรียบเปรยคู่หู 'นาบรี้-ซาเน่' ว่ามีโอกาสก้าวเดินตามรอยสองปีกระดับตำนานอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน กับ ฟร้องค์ ริเบรี่ ที่ร่วมกันสร้างความสำเร็จกับสโมสรนานกว่าทศวรรษ 

ทว่าเทรนเนอร์ทีมเสือใต้กระตุกแนวคิดดังกล่าวว่าควร 'ใจเย็นลงเล็กน้อย' ก่อนที่จะเปรียบเทียบคู่ 'นาบรี้-ซาเน่' กับ 'ร็อบเบน-ริเบรี่' แต่ ฟลิค ยอมรับว่าฟอร์มการเล่นของพวกเขาในเกมกับ ชาลเก้ ได้กำหนดมาตรฐานความจริงที่ว่า นาบรี้ ที่สวมเสื้อหมายเลข 7 ของ ริเบรี่ มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นประวัติศาสตร์ของสโมสร

4.คิงส์เล่ย์ โกมัน

โกมัน ยิง 19 ประตูจากการลงเล่นบุนเดสลีกา 109 เกมนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ช่วงเดือนสิงหาคมปี 2015 ถ้าหากไม่ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาวและพลาดการลงสนามมากกว่า 80 เกมในช่วงเวลานั้นและไม่เคยลงเล่นมากกว่า 24 เกมในซีซั่นเดียวกัน ปีกชาวฝรั่งเศสอาจจะทำผลงานดีกว่าตัวเลขดังกล่าว

ปีกวัย 24 ปี เป็นนักเตะที่มีความเร็วมากสุดในบรรดาผู้เล่นตำแหน่งเดียวกัน เขาทำความเร็วสูงสุด 22.18 ไมล์ต่อชั่วโมง (35.7 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ในฤดูกาลที่ผ่านมา โกมัน ยังมีค่าเฉลี่ยสปริ้นท์ต่อเกม 35.1 ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 6.77 ไมล์ หรือ 10.9 กิโลเมตร และชนะในการดวลคู่แข่ง 56 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังระดับสูงและการทำงานหนักที่ทำให้เขาเป็นที่รักของโค้ชและเพื่อนร่วมทีม

โกมัน ทำ 4 ประตูกับ 3 แอสซิสต์บนเวทีบุนเดสลีกาฤดูกาล 2019-2020 และชื่อของเขาจะอยู่ในตำนานของสโมสรจากการสวมบทฮีโร่โหม่งประตูชัยให้ทัพเสือใต้เชือด ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในนัดชิงชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ซีซั่นล่าสุดจนกลายเป็นที่รู้จักกันในชื่อ 'มิสเตอร์ลิสบอน' ในนครมิวนิค


'คิงส์เล่ย์ มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมและเขาแสดงให้เห็นในวันนี้ว่าเขาสามารถทำประตูได้' ฟลิค กล่าวถึงการทำประตูชัยเหนือ เปแอสเช ของปีกชาวฝรั่งเศส ก่อนยอมรับว่าจาก 'ความรู้สึก' ดังกล่าวกระตุ้นให้เขาเลือก โกมัน ลงสนามก่อน อีวาน เปริซิช ทั้งที่ปีกชาวโครแอตออกสตาร์ททั้งในรอบควอเตอร์ไฟนัลและรอบรองชนะเลิศ

โกมัน สามารถเล่นได้ทั้งสองฝั่งสนาม เขาเล่นด้วยเท้าขวาแต่มักจะออกสตาร์ทฝั่งซ้าย ด้วยความสามารถในการเลี้ยงบอลและความเร็วของปีกวัย 24 ปีสามารถสร้างปัญหาให้แนวรับคู่แข่งเหมือนการป่วนกับ ธีโล เคห์เรอร์ แบ็กขวาของ เปแอสเช ในรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบในการสร้างความเสียหายให้คู่แข่งของปีกชาวเมืองน้ำหอม 

แม้จะอายุเพียง 24 ปี แต่ โกมัน สามารถคว้าแชมป์ลีกกับสโมสรต้นสังกัดตลอด 8 ปีที่ผ่านมาทั้งกับ เปแอสเช และ ยูเวนตุส ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค เขาเกิดมาพร้อมกับการเป็นผู้ชนะและไม่ย่อท้อในการต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งกับสองหน้าใหม่ ลีรอย ซาเน่ กับ ดักลาส คอสต้า ซึ่งจะสร้างแรงกระตุ้นให้เขาพัฒนาตนเองขึ้นมาอีกระดับ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด