:::     :::

ติดปีก(อีกสองข้าง)เมื่อไหร่ โบยบินเมื่อนั้น

วันศุกร์ที่ 06 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
4,308
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จากความพ่ายแพ้หนักๆสองนัดล่าสุดที่ช่วยเปิดจุดอ่อนของบอลแมนยูไนเต็ดยุคโอเล่ให้ได้เห็นกันนั้น สรุปแล้วก็เป็นการวนกลับมาย้ำให้เห็นปัญหาเรื่องเดิมๆชัดอีกครั้งว่า "ปีกเก่งๆ" (อย่างน้อยสองตัว) จำเป็นกับแมนยูไนเต็ดในตอนนี้เพียงใด

ความพ่ายแพ้ต่ออาร์เซนอลในลีก และอิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ในฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก คืออีกสองเกมสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงจุดอ่อนที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจำเป็นต้องแก้ไขในหลายๆด้าน ซึ่งเป็นจุดอ่อนใหญ่ที่สำคัญทั้งนั้น และค่อนข้างเชื่อว่า ต่อให้เราไม่ต้องเป็นกูรูขั้นเทพ นักข่าวมือฉมัง หรือนักวิเคราะห์ที่เก่งกาจอะไร ทุกคนน่าจะเห็นกันชัดเจนอยู่แล้วว่า ทีมควรต้องแก้ไขที่จุดไหน ..เพราะว่าทุกคนรู้ แฟนคลับรู้

และผู้จัดการทีมเองก็ดูเหมือนว่าจะรู้เหมือนกัน

ว่ามันมีปัญหานี้ แต่ยังพยายามแก้ไขปัญหาได้ไม่ดีพอ ทั้งๆที่มันทำให้ดีกว่านี้ได้อีกเยอะ

เอาจริงๆทีมเรายังมีปัญหาอยู่โคตรเยอะ ทั้งเกมรุก เกมรับ รูปแบบการเล่น(ที่เป็นเรื่องของ"วิธีการเล่น"ที่ไม่ใช่เรื่องformationการยืน) แต่บทความนี้เราจะมาเจาะด้านเกมรุกเน้นๆ โดยเฉพาะปัญหาเกมริมเส้น และการขาดรูปแบบที่หลากหลายในการสร้างสรรค์เกมบุกของแมนยูไนเต็ด

ย้อนกลับไปที่เกมชนะนิวคาสเซิล เสมอเชลซีแบบน่าชนะ, ชนะเปเอสเชและไลป์ซิกได้อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งหมดนี้มันเป็นความหวังให้สาวกปีศาจแดงเหลือเกินว่าทีมเรากำลังกลับมาแล้ว และมักทำผลงานอลังการได้เสมอเวลาเจอทีมใหญ่ที่เปิดเกมรุกแลกใส่เรา ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่โดน"เกมสวนกลับ" ของแมนยูเล่นงานล้วนๆ โดยเฉพาะเกมกับปารีส และไลป์ซิกที่ชัดเจนว่าเราทำประตูได้จากจังหวะสไตล์ไหน

เราได้ประตูแค่จากจังหวะสวนกลับ และลูกจุดโทษเป็นหลักๆเท่านั้น

ในความเป็นจริงแล้วหลายๆทีมรู้จุดแข็งของเราในเรื่องนี้ดี  เพียงแค่คุณจัดการแพ็คตรงกลางแน่นๆเพื่อรับมือการเจาะช่องเล่นสั้นกันตรงกลางของเรา แบบที่เห็นกันอยู่บ่อยๆโดยมีcenterอยู่ที่Bruno Fernandesนั้น ปิดแค่นั้นก็ตายไปครึ่งตัวแล้ว

และเมื่อจัดการเน้นแทคติกที่ใช้"ตัดเกมสวนกลับแมนยู"ไม่ให้จู่โจมใส่พื้นที่ว่างได้ ไม่ให้วิ่งสวนกลับเล่นเร็วได้จากนักเตะกองหน้าความเร็วสูงอย่าง หมาก แรช กรีนวู้ด

เพียงแค่แพ็คกลาง + ตัดเกมสวนกลับ แค่นี้เกมรุกแมนยูไนเต็ดก็แทบจะง่อยกระรอกแล้ว

ที่เหลือก็แค่ลงไปรับต่ำเพื่อป้องกันไม่ให้มีพื้นที่วิ่ง กองหน้าสายสปีดเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป

ส่วนนอกจากนี้ ประเด็นของการโดนเพรสหรือไม่เพรสก็เกี่ยวข้องด้วย

เพราะหากจะเพรสซิ่งสูงใส่ยูไนเต็ด ก็สามารถสร้างปัญหาให้เราได้หนักหน่วงเช่นกันจากการที่แมนยูพยายามจะเซ็ตบอลbuild-upขึ้นมาด้วยการต่อบอลจากแนวหลัง เวลาเจอhigh pressingใส่ก็แทบจะมีปัญหาแล้ว และโดนฉกบอลไปประจำ

หรือถ้าไม่เพรสสูง ปล่อยให้แมนยูครองบอลดันเกมขึ้นมา ก็สร้างปัญหาเล่นงานเราได้อยู่ดี ถ้ารับแน่นๆลึกๆ ตั้งZonal ผสมกับ Half PressingในแดนตัวเองหรือLow Pressก็ได้ รอเวลาแค่แมนยูต่อบอลกันไปเรื่อยๆแต่ไม่ยอมเปิดบอลเข้าพื้นที่อันตราย จนสุดท้ายจ่ายพลาดกันเองเพราะนักเตะไม่เข้าใจกัน และคุณภาพการจ่ายบอลต่ำ แค่นั้นคู่แข่งก็ได้บอลคืนแล้ว 

เมื่อแมนยูที่ทะลึ่งดันสูงจนหลังลอยอยู่บ่อยๆ โดนตัดบอลเร็วสำเร็จนั้น สภาพศพและตัวอย่างก็เกิดขึ้นให้เห็นในเกมที่แพ้อิสตันบูล 2-1 ที่ผ่านมานั่นเองที่โดนฤทธิ์ของการรับลึกแล้วเล่นเกมโต้สวนกลับ จนกลายเป็นโดนย้อนเกล็ดทีมเราเช่นนี้

สรุปคือ ไม่ว่าจะเพรสสูงใส่ทีมเรา หรือลงไปรับต่ำใส่ทีมเรา ก็เล่นงานแมนยูได้อยู่ดี ขอแค่สองเงื่อนไขเท่านั้นเองคือ แพ็คกลางแน่นๆ+อย่าให้ทีมเราได้เล่นเกมcounter

แค่นั้นแมนยูไนเต็ดยุคโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็แทบจะบุกไม่เป็นแล้ว

แก่นแท้ของปัญหาตรงนี้ก็คือ อาวุธในการบุกของแมนยูไนเต็ดมีน้อยเหลือเกิน นั่นก็คือ

1. เกมสวนกลับ (counter-attack) ที่เป็นสูตรการใช้งานที่แมนยู "ชอบ" นักแลเวลาเจอทีมมาบุกใส่ อย่างเช่นปารีส หรือไลป์ซิกเป็นต้น ใช้ความเร็วในการวิ่งยิงแบบ Run N' Gun

2.บอลสั้นวิ่งช่องวันทูจากตรงกลาง ด้วยแกนเกมภาคพื้นดินจากบรูโน่ แรชฟอร์ดเป็นตัวหลักๆ

พอสองอาวุธที่มีทั้งหมดในมือถูกปิดผนึก เกมรุกเราก็ไม่เหลืออะไรเลย ซึ่งจริงๆแล้ววิธีในการเล่นเกมรุกใส่คู่ต่อสู้นั้นเอาจริงๆมีมากมายหลายอย่างที่เราไม่มีในทีมตอนนี้ หรือบางอย่างมีแต่ก็ไม่ยอมใช้

การบุกรูปแบบอื่นๆที่เราไม่มี หรือไม่ใช้นั้น มีเยอะมากๆ ลิสต์มาเองยังตกใจเลย ยกตัวอย่างได้แก่

-บอลไดเร็คต์วางมาให้แดนหน้าเลยทีเดียว [มีแต่ไม่ค่อยใช้ ก็เหมือนขาด]

-บอลครอสริมเส้น ไม่ว่าจะจากแบ็คหรือปีก [ขาดแน่นอน]

-บอลโยน บอมป์เข้ากรอบเขตโทษ เล่นลูกกลางอากาศ เล่นฉาบฉวย [มีแต่ไม่ค่อยใช้ ยึดติดแต่การต่อบอลสั้น ก็เหมือนขาด]

-การสร้างสรรค์เกมรุกจากผู้เล่นwide areaแนวด้านกว้างของสนาม ซึ่งเป็นคนละอย่างกับลูกครอสริมเส้น [โคตรขาด]

-ยิงไกลแถวสอง [โคตรรรรรรรรรขาด ทั้งๆที่มีนักเตะระดับบรูโน่กับป็อกบาอยู่ในทีม บ้าไปแล้ว]

-ลูกFreekick [ตัวยิงฟรีคิกมีหลายคน แต่หวังผลจริงๆแทบจะไม่ได้ นี่ก็ขาด]

ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของรูปแบบทั้ง6ที่เรากำลังขาดอยู่ จริงๆอาจจะมีมากกว่านี้ก็ได้แต่เท่าที่นึกออกมาดังนี้ ซึ่งมันไม่สำคัญ เพราะประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทีมเรามันมีอาวุธที่ใช้ได้อยู่แค่สองอย่างจริงๆแค่นั้นเอง ถ้าป้องกันได้ก็หมดท่าแล้ว เพราะแมนยูไม่บุกกันด้วยรูปแบบอื่นๆเลย

ซึ่งจุดนี้มันคือเรื่องของวิธีการเล่น(จ่ายสั้น จ่ายยาว โยนบอล เล่นเร็ว ช้า ครองบอล ฯลฯ) คนละประเด็นกันกับแผนการยืน(formation) ที่ตรงนี้ไม่น่าห่วงเรื่องแผนและแทคติกที่โอเล่ถือว่าทำได้ดีมากๆแล้ว อย่างที่เขียนรีวิวในบทความบ่อยๆว่าแทคติกแกเยอะอยู่

แต่กลับcoachingให้ระบบการเล่นของนักเตะในทีม มีกันอยู่แค่นี้รูปแบบเดิมๆที่เขาจับทางได้หมดแล้ว

จุดใหญ่สำคัญจุดนึงที่เป็นบ่อเกิดของเรื่องนี้นั้นจะเห็นได้ว่า ทีมเราขาดมิติของการเล่นรุกจากริมเส้นค่อนข้างเยอะ ทั้งการcrossingเปิดเข้ากลางจากริมเส้นเอง และการcreate chancesจากตัวริมเส้นก็ไม่มีเช่นกัน

พูดง่ายๆคือ เราไม่มี"ปีก(แท้)เก่งๆ ไว้บุกจากด้านข้างเลยแม้แต่คนเดียว"

ย้ำ ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว

เพราะปัจจุบันนี้แมนยูไนเต็ดอ้างอิงเกมริมเส้นด้วยการอาศัย"แบ็ค"เป็นหลักที่ริมผิดชอบเกมด้านข้าง เพราะว่าปัญหาการซื้อปีกเข้ามาไม่ได้ของทีมนี่แหละ ยูไนเต็ดตอนนี้จึงไม่พร้อมที่จะเล่นแผนที่อาศัยปีกริมเส้นเลย จนกระทั่งต้องปรับเป็นสูตรหน้าคู่ หรือแผนไดมอนด์ที่แพ็คกลางแน่นๆดังนี้ ส่วนหน้าที่ของแบ็คนั้นต้องเล่นทั้งรุกและรับซึ่งเป็นภาระหนักและจำเป็นต้องเก่งจริงๆมันถึงจะทำได้

ซึ่งแบ็คตอนนี้คุณภาพยังไม่ถึงระดับที่จะทำได้ขนาดนั้น แต่ไปฝืนใช้มันก็เหมือนการใช้หน่วยความจำเกินที่ทีมจะรับไหวนั่นเอง

และนี่แหละ สุดท้ายปัญหาก็วกมาที่ตำแหน่งที่ทีมขาดแล้วบอร์ดก็ไม่ยอมซื้อมาสักที วนกลับมาที่ปัญหาเรื่องปีกกันอีกแล้ว หลังจากนัดที่แพ้ๆมานี่ยิ่งทำให้เรื่องนี้ชัดเจนเข้าไปใหญ่ดังที่กล่าวมาแล้ว คาราคาซังมากๆ เพราะลองคิดดูจริงๆ ปีกแท้ที่พอจะใช้การได้จริงๆที่เรามีเป็นรุ่นสุดท้ายนั้น ต้องย้อนไปจนถึงยุค "แอชลีย์ ยัง กับ วาเลนเซีย" ซะด้วยซ้ำ ที่ใช้งานได้จริง และเป็นWingerธรรมชาติจริงๆที่เรามี เพราะหลังจากนั้นเราไม่มีปีกดีๆพอจะใช้งานได้เลย อย่างมิคกี้ เฮนริค มาร์คิทาร์ยาน หมอนี่ก็เป็นตัวรุกที่ไม่ใช่ปีกริมเส้นจ๋าๆจริงๆ เพราะเล่นตัวรุกตรงกลางด้วย ส่วนคนอื่นๆก็ซื้อมาแล้วไม่เกิด อย่างเดปาย ดิมาเรีย หรือแม้กระทั่งอเล็กซิส ซานเชสเองก็ตามที

คิดดูเอาเองว่าแมนยูไม่มีปีกจริงๆใช้งานมาชาตินึงแล้ว

นับไหม?

นอกจากมิติการเล่นที่ขาดไป จากการที่เราไม่มีปีกใช้แล้วนั้น อีกปัญหานึงก็คือ "ปีก(ไม่แท้)ในทีม" ก็ไม่สามารถ "สร้างสรรค์เกมรุก" จากริมเส้นได้เลยแม้แต่ตัวเดียว

-แดเนียล เจมส์ ตัดทิ้งกันเลยคนแรก รู้ๆกันอยู่ ทั้งๆที่เป็นปีกแท้แค่คนเดียวที่มีอยู่ แต่กลับเล่นไม่ได้เรื่องจริงๆ

-ฮวน มาต้า เหมาะสำหรับการใช้งานบางเกม และที่สำคัญพี่แกไม่เคยเล่นแบบWingerเลยด้วยซ้ำ เพราะพี่แกคือPlaymakerตัวกลาง แม้จะถ่างออกไปเล่นขวาได้บ้างแต่สุดท้ายก็ต้องหุบมากลางอยู่ดี เพราะไม่ใช่นักเตะที่มีสกิลทักษะและความเร็วของตัวริมเส้นขนานแท้ในroleแบบ Winger เลยแม้แต่น้อย

-แรชฟอร์ด & มาร์กซิยาล แพ็คคู่มาเลย สองคนนี้คือ"กองหน้าตัดเข้าใน" เป็นหน้ากึ่งปีกแบบ Inside Forward อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เป็นจุดแข็งของทั้งคู่คือ "การยิงประตู" โดยใช้ความเร็วในการเล่น หรือการเล่นสวนกลับ สองคนนี้ถนัดในการทำประตูมากกว่า

แต่ภาคการ"สร้างสรรค์เกมรุกด้วยตัวเอง" เป็น "0" ทั้งคู่

อาจจะดูเหมือนเขียนแรงไปหน่อย แต่มันคือเรื่องจริง

เกมล่าสุดแม้กระทั่งทีมอ่อนๆอย่าง อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ บอลบุกไปตายที่คู่แรชฟอร์ด มาร์กซิยาล แทบทุกครั้งที่ได้บอลไปทำเกมบุก ไม่สามารถทำเกมได้เลย จะเจาะด้วยตัวเอง หรือจะครีเอทเกมรุกให้เพื่อน จะยิงไกล แม้กระทั่งบอลเร็วชิ่งสั้นวันทู ก็ถูกคู่แข่งรู้แกว ยืนแพ็คแน่นๆปิดรู และดักลูกวันทูได้หมด ไม่ว่าจะคู่หมาก-แรช / ฟานเดอเบค-มาต้า

คู่แข่งก็เริ่มรู้ทันและดักเราได้หมดแล้ว

ไม่ว่าจะแรชฟอร์ด หรือมาร์กซิยาล ทั้งคู่ไม่ว่าจะใครที่สลับตำแหน่งกัน ถ่างออกมาเล่นด้านข้างซ้ายจากตำแหน่งLWนั้น ไม่มีใครทำเกมบุกได้ดีแบบจริงๆจังๆสักคนเลย นานๆถึงจะทำได้สักที แต่ส่วนใหญ่จะเสียบอลง่ายๆ บางทีก็ลากๆไปติดคู่ต่อสู้ดื้อๆ ต้องบอกว่า สองคนนี้ไม่ว่าใครจะออกมาเล่นในpositionที่เป็น LW ไม่มีใครสร้างสรรค์หรือทำเกมรุกได้เลยแม้แต่คนเดียว ทั้งหมากและแรช

สุดท้าย เกมรุกก็ต้องไปอยู่ที่บรูโน่อยู่คนเดียวที่มีจินตนาการและพยายามเปิดเกมรุกอยู่คนเดียว ไม่ว่าจะเข้าเป้า หรือเสี่ยงจ่ายเสียเค้าก็ต้องทำ จนกระทั่งบางคนหยิบตรงนี้ไปโจมตีบรูโน่ซะด้วยซ้ำว่าเสียบอลเยอะ ทั้งๆที่แกต้องแบกภาระเกมรุกทีมเราหนักหนาสาหัสเกินจำเป็นมากๆ

โคตรน่าเห็นใจบรูโน่เลย สงสารมาก วิ่งจนหมดแรงทุกนัด เสี่ยงเปิดบอลบุกขึ้นหน้าก็โดนแฟนบางส่วนด่าอีก

เมื่อหมากแรชเล่นกันแบบนี้ เราจึงเสียการทำเกมรุกจากทั้งสองตำแหน่ง ไม่ว่าจะกองหน้า หรือปีกซ้าย สุดท้ายแล้วเมื่อรวมกับ แบ็คสองข้างที่ขึ้นเกมไม่ได้ด้วย เกมริมเส้นจึงไม่มีเลยไม่ว่าจะฝั่งไหน ส่วนปีกขวาที่ใช้มาต้า กรีนวู้ด ก็เห็นกันอยู่แล้วว่า"บอดสนิท"ไม่ต่างกัน

จุดนี้สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่า ทำไมโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถึงได้มีข่าวและแสดงออกชัดเจนว่าพวกเขาต้องการตัว "เจดอน ซานโช่" (อีกแล้ว) มาเข้าทีมมากขนาดนั้น เพราะปัญหาแทบทุกอย่างจะถูกแก้ไปได้เปลาะใหญ่ๆทันที หากว่าซื้อซานโช่ หรือ"ปีกขวาตัวสร้างสรรค์เกม" เก่งๆใครก็ได้สักคนมาเข้าทีม

เหมือนอย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า ดูเหมือนว่าโซลชาก็"รู้"ว่าทีมขาดอะไร นั่นแหละทำไมเขาจึงอยากได้ซานโช่มากๆ แต่สโมสรก็ไม่สามารถซื้อมาให้ได้นั่นเอง

ย้อนกลับไปด้านบนอีกครั้งที่ผมร่ายลิสต์ไว้ว่าทีมขาดอะไร

-ขาดมิติเกมรุกจากริมเส้น -ขาดบอลครอสจากริมเส้น -ขาดลูกยิงไกล -ขาดคนแบ่งเบาการสร้างสรรค์เกมรุกจากบรูโน่

ที่สำคัญ "ขาดคนที่จะอยู่โยงเล่นในพื้นที่ปีกขวาแบบถาวรในทีม" นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะแมนยูไนเต็ดยุคนี้มันเบ้ซ้ายหนักกว่าเก่าซะอีก ไปยืนออกันอยู่แต่ฝั่งซ้าย แม้กระทั่งหน้าขวาอย่างกรีนวู้ด มาต้า ก็หุบเข้ากลาง บางทีมาโผล่อยู่ข้างซ้ายอีก ด้านขวาก็เหลือแบ็คขวาอยู่ตัวเดียวที่ทำเกมรุกไม่เก่ง แต่ก็ต้องฝืนธรรมชาติมาขึ้นเกมสูง

แล้วพอขึ้นเกมสูง สุดท้ายโดนสวนกลับในพื้นที่ข้างหลังทางขวา เวลาแบ็คหลุดตำแหน่ง สุดท้ายเจอบอลเค้าท์เตอร์ใส่จนทีมเสียประตูอีก

passmap แสดงการเบ้ซ้าย และบอลไปฝากอยู่ที่ตัวไม่มีสกิลรุกอย่างมาติชและชอว์ค่อนข้างเยอะ จนขวาบอดจนเกิดจุดตายที่คู่แข่งใช้เจาะได้

ปัญหาจุดนี้เป็นเรื่องของการ "บาลานซ์การใช้พื้นที่ในสนาม" ให้มันสมดุล เพราะทีมโย้และเบ้ไปซ้ายมากๆจนบางทีขวาไม่เหลือตัว และคู่แข่งก็มักจะจู่โจมสวนกลับจากจุดนั้นบ่อยๆ และนอกจากนี้คู่แข่งก็ยังจะไปเน้นป้องกันเกมรุกจากกราบซ้ายของเราเป็นพิเศษก็พอ แค่นี้แมนยูก็เจาะไม่ไหวแล้ว ยิ่งรับมือง่ายหนักเข้าไปใหญ๋ถ้าเรามีแต่เกมด้านซ้าย

"ปีกแท้เก่งๆ" จึงเป็นคำตอบสำคัญเบื้องต้นที่ทีมจำเป็นต้องนำเข้าทีมมาให้เร็วที่สุด

เรื่องตรงนี้เป็นอีกครั้งนึงที่เกี่ยวพันกับปัญหาการบริหารงานและซื้อขายนักเตะที่ย่ำแย่ของทางบอร์ดอีกครั้ง ที่แอบส่งผลจนถึงภาคการเล่นในสนามของทีมด้วยที่มันเละเทะและวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ มันมีส่วนจริงๆ แต่ทางโซลชาและทีมโค้ช รวมถึงนักเตะในสนาม ทุกๆฝ่ายก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งนั้นเพราะผิดกันหมดนี่แหละ เรื่องหลักๆจะหนักที่ความผิดโซลชาซะเยอะ นั่นเป็นเพราะว่า "อาวุธบางอย่าง" เราสามารถใช้งานได้ แต่ ผจก. กลับไม่ค่อยติวและสั่งให้ทีมเล่นมากนัก นั่นก็คือบอลโยน หรือบอลครอส ที่มีน้อยมากๆ และเอาจริงๆจะแม่นหรือไม่แม่นก็เหอะ

อย่างน้อยช่วยลองเปิดบอลเข้ากรอบกันบ้างก็ยังดี

แต่นี่คือไม่มีเลย เอะอะจะเล่นแต่แบบเดิม ต่อบอลสั้นไปเรื่อยๆรอเสียบอล แค่นั้น มีโอกาสก็ไม่ยอมเปิด

จะคอยดูว่า มีตัวครอสดีๆหายโควิดกลับมาแล้ว จะใช้งานไหม หรือจะส่งแต่"ลูกรัก"ลงสนามอีก

โซลชาสามารถแก้จุดนี้ได้ด้วยการใช้คาวานี่ที่สมควรลงตัวจริงแทนมาร์กซิยาลได้แล้ว ถ้าเขาอยู่ในสนาม เรามีเป้าในการครอสบอลยัดเข้ากรอบแน่นอน นอกจากนี้การกำชับให้นักเตะแบ็ค หรือ กลางรุก ให้เปิดบอลโด่งเลยเมื่อมีโอกาส หรือลองยิงไกลดูหากมีช่อง เรื่องพวกนี้โค้ชสามารถ "สั่งวิธีการเล่น" ให้นักเตะทำได้

โดยที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องมีปีก หรือไม่มีปีกเลยด้วยซ้ำ

ผมถึงได้บอกว่าจริงๆมันแก้ไขได้ แต่หลายเรื่องเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว แต่กลับเล่นกันเหมือนไม่มีซะยังงั้น โดยเฉพาะลูกยิงไกลจากแถวสองที่มีตัวยิงดีๆหลายคน แต่ไม่ค่อยกล้ายิงกันเลย

ทั้งหมดจึงเป็นคำตอบที่ "วกวน" กลับมาปัญหาจุดเดิมๆ ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆยิ่งเปิดให้แผลเหวอะกว่าเดิมว่า จุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ย้อนกลับมาเรื่องที่เราไม่มีปีกขวาใช้งาน จนทำให้ไม่มีการทำเกมรุกจากริมเส้นเลยแม้แต่น้อย ซึ่งอันที่จริงแล้วมันเป็นsignatureของ Sir Alex Ferguson สมัยก่อนด้วยซ้ำที่ปีศาจแดงยึดโยงการบุกจากริมเส้นเป็นอาวุธหลัก

และสิ่งที่แมนยูต้องทำนั้น ไม่ใช่แค่การซื้อ "ปีกขวา" เก่งๆเข้ามาร่วมทีม เพียงแค่นั้นแล้วจบ

แต่แมนยูในตอนนี้ จำเป็นต้องได้ปีกแท้เก่งๆเข้าทีมมาอย่างน้อย "2ตัว" ด้วยซ้ำ

คือเอาปีกขวามาก่อนเป็นfirst priority แต่มันไม่พอ ควรต้องซื้อ "ปีกซ้ายเก่งๆ" ที่ใช้งานได้จริง และสร้างความแตกต่างได้ เข้ามาร่วมทีมอีกหนึ่งตำแหน่ง

เพราะตัวที่ใช้งานในตำแหน่งนี้อยู่ ไม่มีใครเล่นปีกซ้ายได้จริงๆจังๆสักคนเลย

แดนเจมส์ตัดทิ้งไปฝึกวิชาก่อนสักสามปีค่อยกลับมาคุยกัน ส่วน หมาก แรช เห็นชัดเจนแล้วว่า พวกเขาขึ้นเกมไม่ได้ ตั้งเกมรุกไม่ได้เลยจากตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วสักทีที่ต้องหา "ปีกซ้าย" เก่งๆคนใหม่มาเข้าทีมแบบจริงจังได้แล้ว

แรชฟอร์ดเหมาะจะยืนกองหน้าในระบบหน้าคู่และทำได้ดีกว่าการถ่างออกมาริมเส้นอย่างมาก ควรใช้rotationตำแหน่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด

หาตัวใหม่มายืนเป็นตัวรุกด้านซ้ายหลักๆไปเลยหนึ่งตัว แล้วให้ มาร์กซิยาล กับ แรชฟอร์ด อยู่ในสถานะที่ต้องแย่งตำแหน่งปีกซ้ายกับตัวใหม่ที่ว่าอีกทีนึง รวมถึงให้สองคนนี้ต้องแย่งตำแหน่งกันเองในตำแหน่ง "กองหน้าตัวกลาง" ที่มีโควตาลงสนามได้แค่คนเดียว แล้วก็สลับๆกันเล่น ไม่ต้องลงมาเล่นคู่กัน ไม่งั้นก็จะห่วยคู่อย่างที่เห็นจนเจาะแค่ทีมแบบอิสตันบูลไม่เข้า ทั้งๆที่พวกเขาไม่มีอะไรเลยด้วยซ้ำ

ในเวลาที่Facundo Pellistriย้ายเข้ามาในสถานะนักเตะดาวรุ่งเท่านั้น ส่วนAmad Diallo Traore ก็ยังไม่น่าจะเข้ามาแล้วสร้างimpactหรือแบกทีมได้แบบทันทีทันควัน ถึงเวลาที่เราต้องควานหาผู้เล่นตำแหน่งนี้เข้าทีมมาอย่างน้อยอีก "สองตัว" เพื่อมาแก้ปัญหาทีมให้ได้ ไม่ว่าตอนนั้นใครจะเป็นผู้จัดการทีมมาคุมก็ตาม แต่เราจำเป็นต้องซื้อปีกเข้ามาร่วมทีมโดยด่วน

ติดปีกเมื่อไหร่ โบยบินเมื่อนั้น

-ศาลาผี-

"ผมไม่ถูกใจปีกแมนยูยุคนี้" พี่เบ็คอาจจะไม่ได้กล่าวเอาไว้ แต่เชื่อว่าแกก็คิดเหมือนเรานี่แหละ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด