หลายสโมสรมักจะใช้ช่วงเบรคทีมชาติเพื่อปรับเปลี่ยนเทรนเนอร์เพราะจะมีเวลาสำหรับการเตรียมความพร้อมราว 2 สัปดาห์เพื่อเริ่มต้นกับเทรนเนอร์คนใหม่ 

เซลต้า บีโก้ เป็นสโมสรแรกของลีกเมืองกระทิงที่ตัดสินใจเปลี่ยนผ่านในช่วงเวลานี้ หลังทีมดังเมืองบีโก้ปลด ออสการ์ การ์เซีย ออกจากตำแหน่ง หลังทำผลงานในช่วงออกสตาร์ทซีซั่นนี้ย่ำแย่เก็บชัยชนะเพียงครั้งเดียวและมีเพียง 7 คะแนนจากการลงเล่น 9 นัด 

ออสการ์ การ์เซีย ถูกดึงมารับงานเทรนเนอร์ของ เซลต้า บีโก้ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2019 ต่อจาก ฟราน เอสกรีบา ก่อนถูกปลดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังเกมเสมอ เอลเช่ 1-1 เพียง 2 วัน 

แม้ว่าเทรนเนอร์วัย 47 ปีจะช่วยทีมดังเมืองบีโก้รอดพ้นการตกชั้นในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ตาม ทว่าจากการทำผลงานแย่ในช่วงต้นซีซั่นนี้ทำให้เขาคุมทีมลงสนามเพียง 9 นัด ก่อนกลายเป็นอดีตของ เซลต้า บีโก้ ด้วยสถิติคุมทีมลงสนาม 38 เกม ชนะ 8 เสมอ 17 แพ้ 13 เกม

'ออสการ์ การ์เซีย ฆุนเยนต์ และสตาฟฟ์ของเขาจะไม่เป็นเทรนเนอร์ของ เซลต้า อีกต่อไป' 

'สโมสรของแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจทั้งต่อเทรนเนอร์ชาวกาตาลันและทีมงานของเขา สำหรับการทำงาน, ความเป็นมืออาชีพและความพยายามที่พวกเขาแสดงให้เห็นตลอดเวลาที่ เซลต้า ซึ่งพวกเขาสามารถนำทีมคงสถานะอยู่ในบนเวทีลีกาฤดูกาล 2019-2020 ที่ยุ่งยากซับซ้อนได้'

'เซลต้า ขออวยพรให้ ออสการ์ การ์เซีย และผู้ช่วยของเขาประสบความสำเร็จในอนาคตทั้งอาชีพการงานและเรื่องส่วนตัว' แถลงการณ์ของสโมสรระบุ

ส่วนคนที่จะเข้ามารับงานต่อจาก ออสการ์ การ์เซีย คือ เอดูอาร์โด้ กูเด็ต เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 46 ปีของ อินเตอร์นาซิโอนาล สโมสรดังของลีกบราซิเลียน

กูเด็ต ไม่ใช่คนอื่นไกลของ เซลต้า บีโก้ หลังเคยมาเล่นช่วงสั้นๆกับทีมดังเมืองบีโก้ในช่วงปี 2002 ก่อนพเนจรค้าแข้งกับหลายสโมสรจนกระทั่งยุติอาชีพในปี 2011 

เขาเริ่มต้นอาชีพเทรนเนอร์กับ โรซารีโอ เซนตราล ในปี 2015 ก่อนย้ายไปทำงานกบ คลับ ตีฮัวน่า, ราซิ่ง คลับ จนกระทั่งมารับงานเทรนเนอร์ของ อินเตอร์นาซิโอนาล ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 และเซ็นสัญญากับทีมดังเมืองกาแฟ 2 ปี

อินเตอร์นาซิโอนาล ยืนยันว่าสโมสรแยกทางกับ กูเด็ต เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมาหลังเทรนเนอร์วัย 46 ปี ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง 'น่าเสียดายที่โครงการของ เอดูอาร์โด้ กูเด็ต และทีมงานเทคนิคของเขาสิ้นสุดลงแล้ว หลังเกมกับ โกริติบา ซึ่งเป็นการอำลาของเทรนเนอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร'

ถึงตอนนี้ เอดูอาร์โด้ กูเด็ต รอเพียงการเปิดตัวฐานะเทรนเนอร์คนใหม่ของ เซลต้า บีโก้ อย่างเป็นทางการเท่านั้น

ผ่านพ้นเคส ออสการ์ การ์เซีย กำลังจะถึงคิวเชือด กาอีซก้า การีตาโน่ ของ แอธเลติก บิลเบา หลังเทรนเนอร์วัย 45 ปีทำผลงานช่วงเริ่มต้นซีซั่นน่าผิดหวัง หลังทีมดังแคว้นบาสก์แพ้ถึง 5 จากการลงเล่น 8 นัดแรกและเก็บได้เพียง 9 คะแนน จนแทบจะสูญสิ้นเครดิตที่นำสโมสรเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา 

แอธเลติก บิลเบา โปรโมต การีตาโน่ ฐานะเทรนเนอร์ของ บิลเบา แอธเลติก หรือ ทีม เบ ขึ้นมาทำงานกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2018 หลังการปลด เอดูอาร์โด้ เบรีซโซ่ ออกจากตำแหน่ง นับจนถึงปัจจุบันคุมทีมลงเล่น 80 เกม ชนะ 34 เสมอ 20 แพ้ 26 

ทว่าเวลาในฐานะเทรนเนอร์ของเขากำลังจะสิ้นสุดลงในอนาคตอันใกล้หลังทำผลงานช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ย่ำแย่ รอเพียงคำสั่งเชือดอย่างเป็นทางการถ้าหาก แอธเลติก บิลเบา ประสบความสำเร็จในการเจรจากับเทรนเนอร์คนใหม่ 

แอธเลติก บิลเบา มีข่าวเชื่อมโยงกับ 3 เทรนเนอร์ว่างงานทั้ง มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล, เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ และ เมาริซิโอ โปเช็ตตีโน่ น่าสนใจว่าใครใน 3 คนนี้เหมาะสมกับตำแหน่งเทรนเนอร์ของทีมดังแคว้นบาสก์มากสุด

1.มาร์เซลีโน่ การ์เซีย โตราล

เทรนเนอร์วัย 55 ปี มีประสบการณ์คุมทีมโชกโชนนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการตั้งแต่ปี 1997 ไล่ตั้งแต่ เลอัลตาด, สปอร์ติ้ง คีฆอน, เรเกรอาติโบ อูเอลบา, ราซิ่ง ซานตานเดร์, เรอัล ซาราโกซ่า, ราซิ่ง ซานตานเดร์, เซบีย่า, บียาร์เรอัล และ บาเลนเซีย

มาร์เซลีโน่ คุมทีมลงสนามรวมกัน 748 เกม ชนะ 347 เสมอ 195 แพ้ 206 ยิง 1,090 ประตู เสีย 794 ประตู ช่วงพีคสุดของอาชีพคือการนำ เรเกรอาติโบ อูเอลบา คว้าแชมป์ เซกุนด้า ซีซั่น 2006-2007 ก่อนนำทีมเล็กๆอย่าง ราซิ่ง ซานตานเดร์ จบฤดูกาล 2007-2008 อันดับ 6 คว้าตั๋วลุยฟุตบอลยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

มาร์เซลีโน่ ประสบความสำเร็จฐานะเทรนเนอร์ด้วยการนำทีมค้างคาวคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ซีซั่น 2018-2019 เพียงรายการเดียว 

ภาพรวมการทำงานของ มาร์เซลีโน่ ดีในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่เก่งขนาดนำต้นสังกัดประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ถึงขั้นการคว้าแชมป์ลีกเมืองกระทิง ทว่าเขายังมีคุณภาพมากพอสำหรับการนำทีมทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรป รวมถึงการคว้าแชมป์บอลถ้วยอย่างรายการ โกปา เดล เรย์ 

อย่างไรก็ตาม มาร์เซลีโน่ จะต้องอยู่ภายใต้บรรยากาศที่เอื้อหนุนต่อการทำงานของเขาด้วยเช่นกัน เนื่องจากเทรนเนอร์วัย 55 ปี เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงจนมีความขัดแย้งกับฝ่ายบริหารเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับหลายสโมสรก่อนหน้านี้ 

2.เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ 

บัลเบร์เด้ มีความคุ้นเคยกับทีมดังแคว้นบาสก์ทั้งในฐานะนักเตะและเทรนเนอร์ เขาจึงรู้จักธรรมชาติและปรัชญาของสโมสรเป็นอย่างดีโดยเฉพาะการทำงานภายใต้ข้อจำกัดที่ไม่เหมือนทีมใด นั่นคือการใช้งานเฉพาะนักเตะที่มีเชื้อสายบาสโก้เท่านั้น

เขาเริ่มงานเทรนเนอร์กับ บิลเบา แอธเลติก เมื่อปี 2002 ก่อนก้าวขึ้นมากุมบังเหียนทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในช่วงปี 2003-2005 และหวนคืนสโมสรอีกครั้งในช่วงปี 2013-2017 หลังย้ายไปทำงานกบ เอสปันญ่อล, โอลิมเปียกอส, บียาร์เรอัล, โอลิมเปียกอส และ บาเลนเซีย

บัลเบร์เด้ ประสบความสำเร็จฐานะเทรนเนอร์กับ โอลิมเปียกอส และ บาร์เซโลน่า ขณะกุมบังเหียนทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าในช่วงปี 2017-2020 ก่อนถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา 

ตลอดอาชีพเทรนเนอร์ของ บัลเบร์เด้ คุมทีมลงสนามรวมกัน 783 นัด ชนะ 416 เสมอ 168 แพ้ 199 ยิง 1,344 ประตู และเสีย 825 ประตู 

ถ้านับจากประสบการณ์และฐานะคนที่มีความคุ้นเคยกับสโมสร บัลเบร์เด้ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับตำแหน่งเทรนเนอร์คนใหม่ของ แอธเลติก บิลเบา

3.เมาริซิโอ โปเช็ตตีโน่ 

บิลเบา ตกเป็นข่าวกับ โปเช็ตตีโน่ แบบน่าประหลาดใจพอสมควร เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่มีส่วนเชื่อมโยงกันนอกจากการเป็นคู่แข่งขันกันก่อนหน้านี้ ทั้งช่วงที่เป็นนักเตะ (1994-2001) กับเทรนเนอร์ของ เอสปันญ่อล (2009-2012) 

โปเช็ตตีโน่ เตะฝุ่นมาตั้งแต่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2019 เขาเคยมีข่าวเชื่อมโยงกับหลายสโมสรก่อนหน้านี้ ก่อน แอธเลติก บิลเบา จะเข้ามามีเอี่ยวอีกหนึ่งทีมหากมีการปลด กาอีซก้า การีตาโน่ ออกจากตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม โปเช็ตตีโน่ ยังมีความปรารถนาที่จะทำงานกับสโมสรชั้นนำของอังกฤษ ขระเดียวกัน แอธเลติก บิลเบา ไม่ใช่สโมสรที่มีงบประมาณมากพอสำหรับการจ่ายค่าจ้างของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ 

แม้ว่า โปเช็ตตีโน่ จะได้รับการยกย่องจากวงการลูกหนังเมืองกระทิงในระดับหนึ่งจากผลงานที่เคยสร้างไว้กับ เอสปันญ่อล แต่การทำงานภายใต้ขีดจำกัดกับสโมสรอย่าง แอธเลติก บิลเบา ซึ่งใช้เฉพาะนักเตะที่มีเชื้อสายบาสโก้ มันจึงมีโอกาสน้อยที่เทรนเนอร์วัย 48 ปีจะนำทีมดังแคว้นบาสก์ประสบความสำเร็จ