สำหรับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ โดยกว่าที่จะย้ายมาเล่นกับ “ปีศาจแดง” เส้นทางที่ก้าวเดินผ่านมาของเขา ถือว่ามีความน่าสนใจไม่น้อยเลย จากเด็กปั้นของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สู่การก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ของยอดทีมแห่งดินแดนกังหันลมอย่างน่าชื่นชม
เรื่องราวที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนคือ ผู้ค้นพบพรสวรรค์ของฟาน เดอ เบ็ค คนแรกๆ นั่นคือตำนานทีมชาติเนเธอร์แลนด์ อย่างเดนนิส เบิร์กแคมป์ ดาวยิงที่แสนเยือกเย็น พร้อมกันนี้ โชคชะตายังขีดให้ทั้งสองคน มีเส้นทางชีวิตที่มาบรรจบกันอย่างไม่น่าเชื่อ
ย้อนเวลากลับไป ฟาน เดอ เบ็ค เกิดในครอบครัวชาวนา ก่อนเข้าสู่เส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนท้องถิ่น แน่นอนว่า เขาถือว่าเป็นเด็กที่มีแววทางด้านลูกหนัง
กระทั่งได้รับความสนใจจากทีมดังของประเทศอย่างพีเอสวี และเฟเยนูร์ด แต่ว่าผลสุดท้ายนั้น เขาเลือกอะคาเดมี่ของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เพราะครอบครัวเป็นแฟนตัวยงของสโมสรแห่งนี้ และอยากเห็นลูกชายเป็นนักเตะของทีมนี้เช่นเดียวกัน
ฟาน เดอ เบ็ค เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในรุ่นอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่มีเบิร์กแคมป์ คอยรับหน้าที่ดูแลทีมอยู่ โดยนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น และความประทับใจแรกที่ตัวเบิร์กแคมป์ มีต่อเด็กชายคนนี้
เบิร์กแคมป์ มองแล้วว่า ฟาน เดอ เบ็ค มีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นไปเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องผ่านการขัดเกลาเสียก่อน เพราะนักเตะอายุน้อย ย่อมมีจุดบกพร่องเป็นของตัวเอง
รูเบน ยองไคนด์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาความสามารถของดาวรุ่งอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ออกมาเปิดเผยว่า ย้อนกลับไปประมาณปี 2008-2009 ฟาน เดอ เบ็ค ตัดสินใจเข้ามาทดสอบฝีเท้ากับทีมเยาวชน
ซึ่งตามนโยบายของสโมสร พวกเขาจะเปิดโอกาสให้เด็กมาคัดตัว 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 1 เดือนด้วยกัน เพื่อเป็นการเฝ้ามองว่า เด็กคนไหนมีพรสวรรค์ และขีดความสามารถ ที่สอดคล้องกับปรัชญาของสโมสรบ้าง
ยองไคนด์ เล่าต่อว่า ผลสุดท้าย อะคาเดมี่ของอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตัดสินใจรับตัวของ ฟาน เดอ เบ็ค เข้ามาร่วมทีม เพราะมองว่า ฝีเท้าตอบโจทย์ และสามารถต่อยอดได้
ก่อนที่ขั้นตอนต่อมา เบิร์กแคมป์ จะเห็นพรสวรรค์บางอย่างในตัวของเด็กคนนี้ แต่อย่างที่บอกไป มันเป็นพรสวรรค์ที่ต้องใช้เวลาการขัดเกลาให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายของทีมเยาวชนแห่งนี้อยู่แล้ว
เบิร์กแคมป์ เดินไปบอกกับทีมพัฒนาเยาวชนของสโมสรว่า ฟาน เดอ เบ็ค จะเติบโตมาเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ดังนั้น ทีมจึงต้องรีบดูแลเขามากเป็นพิเศษ
โดยกำชับว่า ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด, ดูแลแบบตัวต่อตัว และดูพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นการงัดเอาศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมา พร้อมกับเป็นลดจุดด้อยของตัวเอง
ช่วงเวลานั้น เบิร์กแคมป์ มองว่า ฟาน เดอ เบ็ค ยังขาดในเรื่องของการประสานงาน โดยเฉพาะแง่ของการเคลื่อนไหวในสนาม แม้ว่ามีความแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ฟาน เดอ เบ็ค ในวัยเด็กยังขาดอยู่ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า "ทีเด็ดทีขาด" รวมถึงการตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย ดังนั้น เบิร์กแคมป์ จึงร้องขอให้สโมสรดูแลจุดนี้มากเป็นพิเศษ
สิ่งที่เบิร์กแคมป์ ลงมือทำไปทั้งหมด เพราะเขามองแล้วว่า ฟาน เดอ เบ็ค น่าจะยกระดับศักยภาพของตัวเองได้ หากว่าได้รับการเพาะบ่มอย่างถูกวิธี และลงมือทำมันตั้งแต่อายุยังน้อย
อดีตกองหน้าของอาร์เซน่อล มองแล้วว่า ปัจจัยเหล่านี้ ถือเป็นรากฐานสำคัญ ในการปลูกฝังแนวทางที่ถูกต้อง ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพราะยังง่ายต่อการพัฒนา
ที่สำคัญ เบิร์กแคมป์ ยังเล็งเห็นเงาของตัวเองในตัวฟาน เดอ เบ็ค ทั้งในแง่ของขีดความสามารถในการหาพื้นที่ว่าง รวมไปถึงความเฉลียวฉลาดในการเล่นฟุตบอลแต่ละจังหวะด้วย เพื่อเป็นการครองความได้เปรียบในสนามแข่งขัน
การค้นพบ และคำแนะนำของเบิร์กแคมป์ ส่งผลให้อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทำการประคบประหงมทางฟาน เดอ เบ็ค อย่างถูกวิธี จนสามารถพัฒนาจนกลายมาเป็นนักเตะที่สามารถเล่นในตำแหน่งหมายเลข 6 และ 8 กล่าวคือ สามารถเล่นเกมรุก และเกมรับ ได้อย่างน่าชื่นชม
ผลสุดท้าย ฟาน เดอ เบ็ค จะผลิดอกออกผล ในเรื่องเทคนิคการเล่น นำมาซึ่งประโยชน์กับทีมอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ชุดใหญ่ รวมถึงทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ทยอยเก็บเกี่ยวความสำเร็จเข้าไปในโปร์ไฟล์ของตัวเอง
พร้อมกับมีเส้นทางลูกหนังให้ฟาน เดอ เบ็ค พิสูจน์ตัวเองอีกมากกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งต้องอาศัยเวลาในการปรับตัว และเรียกจังหวะการเล่นที่เหมาะสม เหมือนกับที่เขาทำมาในวัยเด็ก
โชคชะตาของเบิร์กแคมป์ กับฟาน เดอ เบ็ค ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เมื่อปัจจุบัน ดาวเตะวัย 23 ปี กำลังคบหาดูใจอยู่กับทาง “เอสเทลล์” ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ เธอเป็นลูกสาวของเบิร์กแคมป์ นั่นเอง
