โยอาคิม เลิฟ กำลังนำทีมชาติเยอรมันลงทำศึกยูโร 2020 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในฐานะโค้ชทีมอินทรีเหล็กของเทรนเนอร์วัย 61 ปี หลังทำงานในตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่ปี 2006 

เลิฟ คาดหวังถึงการคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรกของเขาส่งท้ายการทำงานฐานะเทรนเนอร์ทีมอินทรีเหล็ก แต่ เยอรมัน จะก้าวไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับขุมกำลังนักเตะที่จะมีบทบาทสำคัญในทัวร์นาเมนต์นี้ 

ขุมกำลังอินทรีเหล็กชุดล่าสุดเป็นการผสมผสานระหว่างนักเตะประสบการณ์อย่าง มานูเอล นอยเออร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, โทนี่ โครส, อิลคาย กุนโดกาน, โธมัส มุลเลอร์ หรือ โยชัว คิมมิค ผสมผสานกับผู้เล่นสายเลือดใหม่อย่าง แซร์ช นาบรี้, ไค ฮาแวร์ตซ์, ติโม แวร์เนอร์, ลีรอย ซาเน่, นิคลาส ซือเล่, ฟลอเรียน นอยเฮาส์ หรือ จามาล มูเซียล่า

ส่วนนักเตะที่จะเป็นกุญแจสำคัญไขสู่ความสำเร็จของ เยอรมัน ในศึกยูโรรอบสุดท้ายครั้งนี้ 5 คนมีใครบ้างไปดูกันครับ 

โธมัส มุลเลอร์ 

อายุ : 31 ปี

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง : กองหน้า

เล่นทีมชาติ/ประตู : 101/38

โธมัส มุลเลอร์ เป็นผู้ทำแอสซิสต์มากสุดของศึกบุนเดสลีกาซีซั่น 2020-2021 จนกลับมาติดทีมชาติเยอรมันครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยพร้อมเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในทีมของ โยอาคิม เลิฟ ชุดทำศึกยูโร ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ส่งท้ายของเทรนเนอร์วัย 61 ปีก่อนก้าวลงจากตำแหน่งที่ทำงานมาตั้งแต่ปี 2006

มุลเลอร์ เพิ่งทำสถิติลงเล่นกับทีมชาติเยอรมันครบ 100 นัดในเกมอุ่นเครื่องที่เสมอ เดนมาร์ก 1-1 และเขาทำอีกหนึ่งประตูในเกมชนะ ลัตเวีย 7-1 เพิ่มยอดกับทัพอินทรีเหล็กเป็น 39 ประตูเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ฮันซี่ ฟลิค อดีตโค้ช บาเยิร์น มิวนิค และเทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมันคนต่อไปเคยกล่าวถึง มุลเลอร์ ว่าเป็นนักเตะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โดยมีความสามารถในการพาพื้นที่, เพื่อนร่วมทีมและทำประตู เพิ่มมิติในการโจมตีให้กับทีม

นอกจากนี้ มุลเลอร์ ยังเป็นนักเตะที่มีคุณสมบัติความเป็นผู้นำที่จะมีความสำคัญต่อทีมทั้งในและนอกสนาม เขาจะมีบทบาทสำคัญในการนำทีมอินทรีเหล็กลุ้นคว้าแชมป์ยุโรปในช่วงหน้าร้อนนี้ รวมถึงการนำ บาเยิร์น มิวนิค สร้างประวัติศาสตร์คว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกา 10 สมัยติดต่อกันในซีซั่นหน้าด้วย 

มานูเอล นอยเออร์

อายุ : 35 ปี

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง : ผู้รักษาประตู 

เล่นทีมชาติ/ประตู : 100/0

มานูเอล นอยเออร์ มีความสำคัญต่อความหวังในการลุ้นความสำเร็จของทีมชาติเยอรมันไม่น้อยไปกว่าผู้เล่นตำแหน่งอื่น หลังนายทวารวัย 35 ปีกลายเป็นผู้เล่นคนที่ 13 ในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นกับทัพอินทรีเหล็กครบ 100 เกม 

นอยเออร์ ทำสถิติเก็บคลีนชีตกับทีมชาติเยอรมัน 43 เกม และมีเพียงไม่กี่คนที่จะโต้แย้งว่านายทวารวัย 35 ปีจาก บาเยิร์น มิวนิค ไม่คู่ควรกับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลก 

โยอาคิม เลิฟ เชื่อมั่นในตัว นอยเออร์ มากเป็นพิเศษ เทรนเนอร์วัย 61 ปีกล่าวชื่นชมผลงานของนายทวารวัย 35 ปีที่เฝ้าเสาให้ทัพอินทรีเหล็กมาตั้งแต่ปี 2009 ว่า 'ตามความเป็นจริง เขาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลก หรือแม้การเป็นผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลกมานานหลายปีแล้ว'

ในฐานะกัปตันทีมชาติเยอรมัน การปรากฎตัวของ นอยเออร์ สร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนร่วมทีมของเขา เช่นเดียวกับการสร้างความหวาดหวั่นให้แนวรุกคู่แข่ง นอกจากช่วยปกป้องการเสียประตูแล้ว เขายังมีส่วนในการเปิดเกมโจมตีฝ่ายตรงข้ามในเวลาเดียวกันด้วย

โยชัว คิมมิค

อายุ : 26 ปี

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวรับ/แบ็กขวา 

เล่นทีมชาติ/ประตู : 55/3

โยชัว คิมมิค แจ้งเกิดกับทีมชาติเยอรมันในตำแหน่งแบ็กขวาตั้งแต่ปี 2016 ก่อน โยอาคิม เลิฟ จะปรับนักเตะมาเล่นมิดฟิลด์ตัวรับตั้งแต่ปี 2018 ที่สร้างผลกระทบต่อทีมอินทรีเหล็กมหาศาล

คิมมิค เป็นนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดทั้งสองบทบาททั้งกับ บาเยิร์น มิวนิค และ เยอรมัน ซึ่งได้รับคำชื่นชมจาก ฮันซี่ ฟลิค อดีตเทรนเนอร์ทีมเสือใต้ที่กล่าวถึงลูกน้องว่า 'เขาสามารถเป็นนักเตะดีที่สุดในโลก เขาเป็นผู้เล่นระดับโลกในหลายตำแหน่งอยู่แล้ว แต่เขาสามารถก้าวไปอีกระดับ และผมหวังว่าเขาจะทำสำเร็จ'

มิดฟิลด์วัย 26 ปีมีทีเด็ดในการเปิดบอลทั้งลูกตั้งเตะและโอเพ่นเพลย์ เขาสัมผัสบอลเฉลี่ยต่อเกมมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆในบุนเดสลีกาและยังมีความเข้าใจเกมเป็นอย่างดี มีส่วนร่วมทั้งเกมรุกและการป้องกัน แน่นอนว่า คิมมิค จะมีบทบาทสำคัญกับทีมชาติเยอรมันในศึกยูโรรอบสุดท้าย รวมถึงกับทีมเสือใต้ในอนาคตด้วย

แซร์ช นาบรี้

อายุ : 25 ปี

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง : กองหน้า 

เล่นทีมชาติ/ประตู : 22/16

มีเพียง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (41) กับ โธมัส มุลเลอร์ (11) เท่านนั้นที่ทำประตูมากกว่า นาบรี้ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนช่วย บาเยิร์น มิวนิค คว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกา 9 สมัยติดต่อกัน 

นาบรี้ พัฒนาศักยภาพขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหน้าอันตรายของเวทีบุนเดสลีกานับตั้งแต่การเล่นกับ แวร์เดอร์ เบรเมน, ฮอฟเฟนไฮม์ มาจนถึง บาเยิร์น มิวนิค เขาก้าวขึ้นมาติดทีมชาติเยอรมันครั้งแรกเมื่อปี 2016 แต่การบาดเจ็บทำให้เขาพลาดการมีส่วนร่วมกับศึกฟุตบอลโลกปี 2016 ก่อนแนวรุกวัย 25 ปีจะมีโอกาสร่วมทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในศึกยูโรรอบสุดท้าย

แนวรุกวัย 25 ปี ทำ 16 ประตูจากการลงเล่น 22 เกม และยังทำอีก 6 แอสซิสต์ การมีส่วนร่วมกับการทำ 22 ประตู นั่นทำให้เขามีค่าเฉลี่ยในการมีส่วนร่วมกับการทำประตูของทัพอินทรีเหล็กทุกๆ 81 นาที

นั่นทำให้ นาบรี้ เป็นหนึ่งในผู้เล่นอันตรายที่สุดในทีมอินทรีเหล็กที่จะร่วมทำศึกยูโรรอบสุดท้ายหลัง โยอาคิม เลิฟ จะปรับแนวรุกวัย 25 ปีมาเล่นตำแหน่งหน้าเป้า เขาจะมีบทบาทสำคัญทั้งการทำประตูหรือแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม 

มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์

อายุ : 32 ปี

สโมสร : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

ตำแหน่ง : เซนเตอร์ 

เล่นทีมชาติ/ประตู : 72/5 

อีกหนึ่งผู้มีอิทธิพลที่ถูก โยอาคิม เลิฟ เรียกตัวกลับมาติดทีมชาติเยอรมันในรอบ 2 ปี เช่นเดียวกับ โธมัส มุลเลอร์ ยกเว้นเพียง เยโรม บัวเต็ง คู่หูเซนเตอร์ของเขาจาก บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้น ซึ่ง ฮุมเมิ่ลส์ อาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของทัพอินทรีเหล็กชุดทำศึกยูโรรอบสุดท้าย

การกลับมาของ ฮุมเมิ่ลส์ ไม่เพียงแต่การนำมาซึ่งความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประสบการณ์โชกโชนบนเวทีระดับนานาชาติ, ผู้ชนะบุนเดสลีกาและ เดเอฟเบ โพคาล ที่จะก่อประโยชน์ให้ทีมอินทรีเหล็กอย่างที่ เลิฟ ต้องการจึงตัดสินใจเรียกแนวรับวัย 32 ปีกลับมาติดโผ 

ฮุมเมิ่ลส์ ยังเป็นหนึ่งในกองหลังชั้นนำของบุนเดสลีกาฤดูกาลที่ผ่านมา เขาเป็นฝ่ายชนะในการสกัดบอล 386 และโหม่งสกัด 168 ครั้ง มากสุดเซนเตอร์ทุกคนของลีกเมืองเบียร์ 

ความสามารถในการครองบอลของ ฮุมเมิ่ลส์ ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ทีมอินทรีเหล็กสามารถสร้างเกมจากแดนหลังและพึ่งพาแนวรับวัย 32 ปีในสถานการณ์คับขัน ไม่เพียงแต่การเล่นเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการโจมตีคู่แข่งจากแดนของพวกเขาด้วย นั่นคือสิ่งที่ เลิฟ ต้องการจาก ฮุมเมิ่ลส์ ในศึกยูโรรอบสุดท้าย