:::     :::

"ชายผู้ทำให้จอมโหดเชื่อง" Denis Erwin ปะทะ The Crazy Gang

วันจันทร์ที่ 05 กรกฎาคม 2564 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
13,159
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จนถึงกระทั่งถึงทุกวันนี้ บอลอังกฤษก็ยังไม่มีทีมไหนสักทีมที่เล่นบอลเหมือนวิมเบิลดันในช่วงปลายยุค 80s ถึงต้นยุค 90s และต่อจากนี้คือเรื่องราวของ เดนนิส เออร์วิน ที่เล่าให้ฟังจากปากโดยตรง ในวันที่ไปปราบ "The Crazy Gang" จอมโหดวิมเบิลดันถึงถิ่น!!

พวกเขาทำได้ดีในแบบที่พวกเขาเป็น เมื่อย้อนกลับไปสู่ปี1988 การเอาชนะลิเวอร์พูลที่เวมบลีย์ในรอบชิงเอฟเอคัพจากฐานะที่เป็นทีมรองบ่อนทั่วไปนั้น พวกเขาจัดระบบที่ดี มีความแข็งแกร่งทางกายภาพ แล้วก็ชนะได้ยากมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่พวกเขาเล่นที่บ้านนะ ไม่ว่าจะเป็นสนาม Plough Lane ในช่วงปลายยุค80s หรือที่ Selhurst Park ในยุคหลัง คุณจะรู้ได้เลยเดี๋ยวจะต้องไปเจออะไรบ้าง

ลองดูรายชื่อนักเตะในทีมเขา มีพวก Mick Harford, Eric Young, John Fashanu, Vinnie Jones, Dennis Wise, Marcus Gayle, Lawrie Sanchez  ไล่เรียงรายชื่อไปมีแต่พวกตัวถึกๆทั้งนั้น แล้วส่วนใหญ่สูงเกินหกฟุตล้วนๆ มีแต่พวกฮาร์ดแมนตัวใหญ่ๆทั้งก๊กเลย อาจจะมีตัวที่เล่นซอฟท์ๆสักหนึ่งหรือสองคนผสมอยู่ด้วยเพื่อเป็นอาวุธยิงของพวกเขา

อาจจะได้เจอเดนนิส ไวส์ หรือ ร็อบบี้ เอิร์ลก็เป็นมิดฟิลด์ที่ดี, เทอรี่ ฟีแลนก็อยู่ด้วยในตอนนั้น และเขาเป็นนักฟุตบอลที่ดีมาก

คุณจำเป็นต้องเตรียมตัวให้ดีๆเวลาเจอพวกเขา ถือเป็นเกมที่แปลกออกไป เราเคยลองให้ทีมสำรองพยายามลองเล่นในสไตล์ของวิมเบิลดันขณะที่เป็นแมตช์ฝึกซ้อมย่อยๆ ซึ่งสไตล์นี้มันเหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับนักเตะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเหลือเกิน เพราะปกติแล้วพวกเขาจะพยายามเอาพักบอลลงแล้วก็จ่ายบอลต่อ เพราะการจะให้นักเตะหนุ่มๆในชุดสำรองของเรานั้นเล่นด้วยการวิ่งเฮโล เทไปแบบยาวๆนั้นมันยากมาก เพราะไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคยของพวกเขาเลย แต่เราก็จำเป็นต้องทำ

เวลาเจอวิมเบิลดันเราต้องเตรียมตัวหนักพอๆกับการเจออาร์เซนอลเลยทีเดียว

ผมคิดว่าน่าจะเป็นซีซั่นแรกของผมที่ยูไนเต็ดนะ ตอนที่เราบุกไปชนะที่นั่น แต่เกมนั้นผมไม่ได้ลงเพราะว่าผู้จัดการทีมส่ง Mal Donaghy ซึ่งเป็นตัวเซ็นเตอร์ฮาล์ฟของเราลงไปยืนแบ็คซ้ายแทน เพราะว่าป๋าต้องการเอาเซ็นเตอร์ไปต้านลูกกลางอากาศของพวกเขา ผมนั่งดูอยู่ และกว่าพวกเขาจะชนะมันยากมาก

หลังจากนั้นในปีต่อๆมา ตอนที่ผมได้ลงเล่นและไปเยือนที่นั่น ผมจะต้องเตรียมตัวสำหรับบอลโด่งมากๆ และฝึกดวลลูกกลางอากาศเอาไว้ ถึงแม้ผมจะลงแบ็คซ้ายหรือแบ็คขวา ผมก็จะต้องเจอปีกประเภทที่สูงเกินหกฟุตอยู่ดี เท่าที่นึกออกก็คือ Gayle นี่แหละที่แว้บขึ้นมาในหัว เขาเล่นลูกกลางอากาศได้เก่งมากๆ (Marcus Gayle ตัวรุกทีมจอมโหดวิมเบิลดัน เจ้าของส่วนสูง 185cm -ผู้แปล)

ผมได้ลงสนามเจอเกมยากๆกับพวกเขาหลายเกมเลย แต่เชื่อมั้ยว่าไม่มีสักเกมเลยที่จะเป็นของผม ส่วนใหญ่ตัวที่ได้รับคำชมและยกย่องมักจะเป็นพัลลี่ กับ บรูซซี่เสมอแหละ!

พวกเขาจะทำได้ดีกว่ามากๆยามที่เล่นเป็นทีมเหย้าในบ้าน เพราะว่าเขาได้เล่นในพื้นสนามของตัวเองที่คุ้นเคยอยู่ในตัว พวกเขาไม่ชอบรดน้ำให้หญ้าในสนามตัวเอง เพราะงั้นสนามมันก็เลยเป็นหลุมเป็นบ่อเสมอ แล้วเราก็มักจะต้องไปเล่นที่นั่นในวันที่อากาศมันร้อนๆบ่อยด้วย มันเลยทำให้ยิ่งยากเข้าไปใหญ่

ส่วนการไปเจอพวกเขาที่ Selhurst Park นั้นก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นการไปเจอสนามที่ง่ายกว่าเลย  เราต้องขับไปตามถนนM25 แล้วก็ต้องหาจุดแวะพัก ไม่งั้นคือต้องขับผ่านตัวเมืองในช่วงบ่ายวันศุกร์ ซึ่งคุณคงจะจินตนาการได้ว่ามันไม่คงเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่ารื่นรมย์สักเท่าไหร่ เราอาจจะต้องนั่งอยู่บนรถบัสตั้งแต่ 4 จนถึง 7 ชั่วโมง และคุณก็ได้แต่จำใจต้องรับสภาพมันให้ได้

มันเป็นอะไรที่แตกต่าง และมันจะเป็นงานยากเสมอ นั่นแหละคือสิ่งที่สวยงามอย่างนึงของพรีเมียร์ลีกเมื่อเราได้ย้อนกลับไปตอนนั้น มีทีมที่ใช้วิธีการเล่นตามธรรมชาติของพวกเขาแตกต่างกันมากมายหลายทีม ไม่ว่าจะเป็นอาร์เซนอล หรือ ลิเวอร์พูลที่เน้นเรื่องการเล่นฟุตบอล หรือ วิมเบิลดัน ทีมที่จะวิ่งเข้าหวดและใส่คุณก่อนจะทันอ้าปากถาม หรือจ่ายบอลออกไปให้พ้นตัวด้วยซ้ำ

พวกเขาคือความทรงจำที่ดีของการเจอทีมที่สร้างคาแรคเตอร์เช่นนี้ขึ้นมา

เราผจญกับเกมยากๆบ่อยครั้งและก็มีแพ้ไปหลายเกม แล้วถ้าเราดันทะลึ่งไปชนะที่นั่นขึ้นมา เราแทบจะต้องคลานด้วยมือเดียวตอนท้ายทุกครั้ง ซึ่งหลังจากที่ผ่านช่วงยุค90sมานั้น ทีมเราขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าอย่างที่เห็นกัน แต่แน่นอนว่า ในช่วงปี 1993/94 มันยังเป็นสมรภูมินรกอยู่ ดังนั้นตอนที่เราต้องโคจรมาเจอกับพวกเขาในเอฟเอคัพ เรารู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ในจุดนั้นนักเตะเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมเข้าไฟต์ปะทะ และต้องดูแลตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น

สำหรับผมแล้ว ทีมปี 93/94 เป็นชุดที่มีกายภาพแข็งแกร่งที่สุดที่ผมเล่นอยู่ในทีมด้วย คุณต้องมีทีมที่physicalแข็งแกร่งเพื่อที่จะคว้าแชมป์ลีกให้ได้ จะเป็นแค่ทีมที่เน้นการเล่นฟุตบอลอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องใช้ทั้งสองอย่างเลย

คุณลองดูแกนหลักของทีมเราสิ ไม่ว่าจะ บิ๊กพีท, บรูซซี่, พัลลี่, ร็อบโบ้, อินซ์ซี่, คีนนีย์, สปาร์คกี้ ตัวพวกนี้กายภาพแข็งแกร่งล้วนๆ และเช่นเดียวกันกับแบ็คขวาอย่างปาร์ค, เนฟ ตอนที่เขาขึ้นมาสู่ทีม, ตัวผม, กิ๊กซี่ ทุกคนไม่มีใครกลัวการเข้าปะทะเลย, ชาร์ปปีย์อาจจะระวังตัวเองหน่อย, ชอคซี่ก็เองเอาอยู่ มันเป็นทีมที่เต็มไปด้วยคนเป็นผู้นำอยู่ในทีมแล้วทั้งนั้น แล้วพอรอยคีนเข้ามา เราก็มีขุนพลที่พร้อมจะห้ำหั่นศัตรูอยู่ทั้งทีม

(บิ๊กพีท คือ ปีเตอร์ ชไมเคิล, บรูซซี่ก็ สตีฟ บรูซ, พัลลี่ คือ แกรี่ พัลลิสเตอร์, ร็อบโบ้ อินซ์ซี่ ชาร์ปปีย์ ไม่ต้องอธิบาย, สปาร์คกี้ก็ มาร์ค ฮิวจส์, ปาร์ค คือ พอล ปาร์คเกอร์, คีนนีย์ คือชื่อเล่นที่เพื่อนร่วมทีมสมัยนั้นใช้เรียก "รอย คีน" ส่วนแฟนบอลก็จะเรียกคีโน่มากกว่า, และคนสุดท้ายที่อาจจะงงกันหน่อยก็คือ ชอคซี่ คือชื่อเล่นของ "ไบรอัน แม็คแคลร์" เพราะนามสกุลแกไปเหมือนกับชอคโกแลตเอแคลร์ ก็เลยชื่อเล่นว่าชอคซี่นั่นเอง -ผู้แปล)


ในแง่ที่เป็นจุดซึ่งยากที่สุดสำหรับเรา ก็คงจะเป็นสามมิดฟิลด์ที่ต้องสู้ตายระดับถวายหัวกันเลย บางทีร็อบโบ้ กับ คีนนีย์อาจจะหนักสุด คีนนีย์ในตอนนั้นคือมิดฟิลด์ box-to-box วัยรุ่นไฟแรงและโคตรถึก ร็อบโบ้ในช่วงกลางๆของยุค90sนั้นคือช่วงปลายเส้นทางอาชีพกับยูไนเต็ดแล้ว แต่เขาเป็นผู้นำที่สุดยอดมาก เขาไม่กลัวการเข้าไปบวกปะทะกับใครหน้าไหนทั้งนั้น

ซึ่งนั่นแหละคือสิ่งที่คุณต้องการในพื้นที่ตรงกลางสนาม เพราะว่ามันคือแอเรียที่เกมสู้กันอย่างหนัก โดยเฉพาะการเก็บบอลจังหวะสองเป็นหลัก ซึ่งร็อบโบ้ กับ คีนนีย์ก็ทำได้โคตรดี

ถ้าเกิดเราโหม่งเคลียร์กันไม่ขาด เราก็ยังมีบอลจังหวะสองที่เก็บกวาดกันได้อย่างสุดยอด คุณต้องเชื่อมั่นในตัวพวกเขาว่าจะดวลกับคู่แข่งชนะในแต่ละไฟต์ ผมรู้สึกด้วยว่าเรามีทีมที่เล่นฉลาดด้วยที่สามารถอ่านเกมกันได้อย่างดี ซึ่งก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการต่อสู้เช่นเดียวกัน

ดังนั้นแล้ว การต้องบุกไปเยือนเซลเฮิร์ส ปาร์ค กับการเจอกันในถ้วยเอฟเอคัพ ไม่ว่าจะเจออะไรเราต้องพร้อมทั้งนั้น

และเล่นไปแค่20นาที วินนี่ก็ส่งเอริคสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น พุ่งเข้าเสียบเขาจนตัวลอยกลางอากาศ

..อืม ก็ปกตินิ!

ปกติเอริคเป็นคนที่ฟิวส์ขาดได้ง่าย แต่เขากลับรับมือกับมันได้ นั่นเป็นเพราะว่าเขาเตรียมใจมาแล้ว เขารู้ดีว่าจะต้องโดนเตะและจะต้องยืนหยัดขึ้นสู้ พวกเราทุกคนรู้ดีว่าพวกเขาจะทำอะไร นั่นก็คือการพยายามทำให้ตัวคีย์แมนของเรา"หลุด"ให้ได้ เนื่องจากเอริคคือตัวทำเกมคนสำคัญที่สุดของเรา และวิธีการแบบนี้แหละคือส่วนหนึ่งของการเล่นฟุตบอลในยุคนั้น

กิ๊กซี่ เอริค ชาร์ปปีย์ แคนเชลสกี้ ตัวเพลเมคเกอร์พวกนี้คือตัวที่ถูกหมายหัวเอาไว้ พวกนั้นเตะเขา ทำให้เขาหงุดหงิด กิ๊กซี่ตอนนั้นยังเด็กมากๆ ดังนั้นมันจึงเป็นบทเรียนที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา และบางทีอาจจะเป็นจุดสำคัญของเส้นทางอาชีพที่เขาจะดำเนินต่อไปอีกด้วย

ปฏิกิริยาของเอริคที่โดนเตะนั้นก็ออกมาอย่างเป็นปกติของเขา ช่วงก่อนหมดครึ่งแรกผมครอสบอลไปหาเขาจากทางซ้าย แทนที่จะวิ่งเข้าไปจุดนับพบในกรอบ แต่เอริคกลับถอยฉากออกมาแทน

เขาอ่านเกมขาดจริงๆ เมื่อบอลถูกโหม่งเคลียร์ออกมาจากกองหลังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วบอลมันก็ลอยมาเข้าทางเขา เขาเดาะบอลลอยด้วยหลังเท้าหนึ่งจังหวะ จากนั้นก็วอลเล่ย์ตูมเสียบสามเหลี่ยมมุมไกลจากระยะ 20ถึง25หลา เป็นประตูที่น่าเหลือเชื่อสุดๆ แต่นั่นแหละ เอริค เขามีฝีเท้าที่น่าเหลือเชื่อมาก

และนั่นคือการตอบโต้ของเอริค คันโตน่า ต่อการพยายามไล่เตะเขาให้เจ็บออกจากสนามไปของวินนี่ โจนส์

เมื่อครึ่งหลังเริ่มต้นมาไม่นาน อินซ์ซี่ยิงประตูที่สองจากลูกโหม่งจากเตะมุม ทำให้เราได้หายใจหายคอกันบ้าง มันเป็นเกมที่ตัวเขาเองโปรดปรานเหมือนกัน เหมือนอย่างคีนนีย์กับร็อบโบ้ อินซ์ซี่นั้นไม่กลัวในการหวดขาแลก ไม่กลัวการโดนตะโกนตะคอกใส่ เขาทั้งเร็วทั้งแข็งแกร่ง เขาเป็นนักเตะที่ดีมาก และเป็นองครักษ์ที่คอยป้องกันให้ร็อบโบ้

ผมคิดว่าในช่วงที่เขาเสร็จสิ้นการค้าแข้งกับยูไนเต็ดไปนั้น เขาใช้เวลาสองปีอยู่กับคีนนีย์ และพวกเขาส่งผลดีซึ่งกันและกัน  พวกเขาเคลื่อนที่ทั้งคู่ กล้าเข้าบอลทั้งคู่

ในยามที่เขาเล่นกับร็อบโบ้นั้น อินซ์ซี่เหมือนจะวิ่งพล่านกว่าปกติหน่อย เพราะว่าร็อบโบ้เล่นในแนวลึก และบทบาทตรงนี้ก็จะกลับกันไปโดยปริยายเมื่อคีนนีย์ลงมาแทน เพราะว่าเขาคือ box-to-box จอมพลังที่จะทำหน้าที่วิ่งตะลุยแทน อินซ์ซี่เป็นนักเตะที่ underrated สุดๆ และเป็นนักฟุตบอลที่ไม่เกรงกลัวใคร ทำประตูได้ และวิ่งพล่านไปทั้งสนาม

สองประตูที่นำอยู่ในเวลาที่เหลือน้อยกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เราคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งมันช่วยได้มาก เพราะว่าวิมเบิลดันไม่ได้เป็นสโมสรที่แฟนบอลสนับสนุนอย่างดีที่สุด เพราะว่าทีมพวกเรานั้นได้รับการตามสนับสนุนที่น่าทึ่งเสมอ เราเคยมีแฟนบอลตามไปเชียร์เยอะกว่าเจ้าถิ่นด้วยซึ่งมันสุดยอดมากๆสำหรับเรา ซึ่งในปีก่อนที่เราจะได้แชมป์ลีกครั้งแรกนั้น แฟนบอลตามไปทุกที่ และพวกเขาเยอะจริงๆจนบุกกันลงไปในสนามเลยตอนที่ร็อบโบ้ยิงประตูได้!

ดังนั้นแฟนบอลจึงเฮกันลั่นเมื่อเราทำเกมกันอย่างสุดสวยจนทำประตูที่สามของเราได้สำเร็จ ซึ่งลูกนั้นผมเป็นคนยิงเอง

ทุกคนคิดว่าประตูที่ผมชอบที่สุดคือลูกที่ยิงลิเวอร์พูลซึ่งมันมีความพิเศษ แต่จริงๆแล้วเข้าใจ การไปเยือนแอนฟิลด์แล้วยิงฟรีคิกลูกนั้น มันไม่มีตัวคู่แข่งป้องกันอยู่ในกรอบ แต่ลูกที่ยิงวิมเบิลดันนั้นสุดยอดมากสำหรับผม มันคือที่สุดของที่สุดแล้ว มันคือประตูจากความเป็นทีมจริงๆ

การจ่ายบอลไปมาก่อนจะเข้าทำ วิธีการครองบอล พวกเราแค่ต้องอ่านเกมให้ขาด ดังนั้นเราเลยครองบอลแค่แปปเดียว และคนก็ตะโกนเฮโอเล่โอเล่กันในทุกๆจังหวะที่จ่ายบอล ผมคิดว่าผู้จัดการทีมคงไม่ได้ชอบให้เล่นแบบนั้นเท่าไหร่ เราพยายามจะเผาเวลาเล็กน้อย แต่ป๋าไม่ชอบให้เราเล่นติดโชว์แอ็ค ซึ่งจริงๆมันก็แฟร์ดี เขาแค่อยากให้นักเตะเล่นไปตามเกม

เราครองบอลไว้ได้ ทำให้พวกเขาพุ่งใส่เราเข้ามา ซึ่งตอนที่ผมได้บอลอยู่นั้น ผมเห็นตัวบู๊อย่างวินนี่เข้ามาที่ชอบเล่นหนักๆนั้น ไม่น่าจะพลิกตัวตามได้ทัน ผมเลยแตะสวนและเริ่มวิ่งเต็มฝีเท้า และเล่นวันทูกับอินซ์ซี่แล้ววิ่งเข้าไปถึงกรอบเขตโทษ แล้วล็อคหลบกองหลังคนแรกผ่านไป คนสองอย่างวอร์เรน บาร์ตันก็โดนผมค่อยๆล็อคผ่านไปอีกคน จากนั้นยิงไปมุมเสาไกล

แต่จริงๆมันดูไม่เป็นลูกชู้ตเลย เหมือนยิงลูกกระดอนมากกว่า แต่โกลคนไหนก็ไม่มีทางเซฟมันได้ และมันก็คือประตูที่ผมชอบที่สุดเลยที่ผมเลี้ยงผ่านกองหลังพวกเขาสองคน แล้วยิงเข้าเสาไกล


จริงๆแล้วลูกนี้ก็ไม่ค่อยมีใครจำได้หรอก ซึ่งมันก็ไม่แปลกอะไรนะ เพราะเอริคก็ยิงประตูสุดสวยที่ว่านั่นในเกมนี้ มันคล้ายๆกับสองปีหลังจากนี่ที่ผมยิงประตูสวยๆใส่วิมเบิลดันในเกมนัดเปิดสนามของฤดูกาล จากนั้นมิสเตอร์เบ็คแฮมก็ยิงลูกครึ่งสนามแย่งซีนผมไปอีก!(ฮา)

แต่ถ้าให้พูดถึงสมัยยังค้าแข้งล่ะก็ นั่นคือ "ประตูที่ผมชอบที่สุด" กับ "ทีมชุดที่ชอบที่สุด" ใน "ยุคที่ผมชอบที่สุด" จริงๆ

-Denis Erwin-

References

https://www.manutd.com/en/news/detail/utd-unscripted-denis-irwin-taming-the-crazy-gang

https://www.youtube.com/watch?v=SzZBlxugCwQ

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด