โดยโยงไปที่เรื่องความสัมพันธ์ในอดีตระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ และลูกากูว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
ทำให้ทีแรกหลายคนมองว่า โอกาสที่ลูกากูจะย้ายไปโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีน้อยกว่ากรณีที่ ลูกากูจะย้ายกลับสแตมฟอร์ด บริดจ์ ยิ่งช่วงเวลาดังกล่าวกระแส อัลบาโร่ โมราต้า แรงขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้สาวก เร้ด อาร์มี่ เทใจไปให้กองหน้าชาวสเปนเสียมากกว่า
แต่ท้ายที่สุดทั้งคู่กลับต้องสลับขั้วคนที่ว่าจะไปสแตมฟอร์ด บริดจ์ กลับต้องเปลี่ยนเส้นทางขึ้นเหนือไปยังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และคนที่ทำท่าว่าจะได้สวมเสื้อสีแดงกลับต้องเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
มันสามารถเกิดขึ้นได้และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แฟนผีแดงก็เช่นกัน พวกเขาถือว่ารับได้กับการมาของลูกากูแม้ทีแรกจะแคลงใจ แต่พอเห็นผลงานในสนามของ 'เดอะ รอม' ทุกคนต่างยกนิ้วให้ ...
ย้อนกลับไปในกรณีก่อนหน้าที่ลูกากูจะย้ายมาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ตอนนั้น เดอะ มิร์เรอร์ ได้รวบรวมคำพูดของทั้ง มูรินโญ่ และ ลูกากู ในสถานการณ์ต่างๆออกาให้เห็นกันเป็นฉากๆ
ทั้งคู่ถูกโยงว่ามีความสัมพันธ์ที่ง่อนแง่นและเป็นไปในทิศทางที่ไม่ดีเสียมากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่ลูกากูงอแงอยากย้ายไปเล่นที่เอฟเวอร์ตัน
ตอนนั้นสื่อดังหลายเจ้าต่างเล่นข่าวที่ว่า มูรินโญ่ไม่ยอมพูดคุยกับลูกากูเลยหลังจากย้ายไปเอฟเวอร์ตัน ไม่มีทื้งข้อความหรืออะไรก็แล้วแต่ส่งไปหาหัวหอกชาวเบลเยียม แต่มันกลับเป็นเรื่องโอละพ่อที่สื่อเขียนและเล่นกันไปเองเพราะท้ายที่สุดแล้ว ลูกากูเป็นคนออกมาบอกเองว่ามูรินโญ่เป็นคนแรกเลยที่ส่งข้อความมาหาเขา
"ทุกคนต่างพูดว่า มันเป็นความผิดพลาดของมูรินโญ่ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นการตัดสินใจของผมเอง (ที่ย้ายไปเอฟเวอร์ตัน) ผมเดินไปหาเขาที่ห้องทำงานเพื่อถามว่าผมย้ายทีมได้หรือเปล่า เขาเป็นคนแรกที่บอกออกมาว่า 'โชคดี'"
"ผมเซ็นสัญญาตอน 11 โมง และข้อความแรกที่เข้ามายังแบล็คเบอร์รี่เครื่องเก่าของผมมาจาก โชเซ่ มูรินโญ่"
'โชคดี ทำหน้าที่ของนายให้ดีที่สุดและฉันหวังว่าจะเจอแกในฤดูกาลหน้า'
"เขาเป็นคนแรก ไม่มีใครรู้มาก่อน และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเคารพเขาอย่างมาก"
เรื่องราวระหว่างมูรินโญ่กับลูกากูยังคงถูกปรุงแต่งไปมากมาย
กองหน้าชาวเบลเยี่ยมเคยระบุด้วยซ้ำไปว่าบางครั้งคำสัมภาษษณ์ของเขาถูกสื่อนำไปตีความแบบผิดๆ
ผิดถึงขั้นที่มูรินโญ่เองก็ยังไม่เข้าใจและเคยออกมาสวนกลับหลายครั้ง แต่ลูกากูทราบดีว่านั่นคือการเล่นเกมของสื่อ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองถูกเผยแพร่ไปในด้านลบ แต่ในความเป้นจริงแล้วทั้งคู่กลับแนบแน่นกว่าที่คิด
"เขาต้องการให้ผมอยู่ต่อและถามว่าทำไมผมถึงอยากไปนัก บทสัมภาษณ์บางอันของผมมันถูกปรุงแต่งขึ้นมา แต่ความเป็นจริงคือเขาเห็นด้วยกับการไปของผม"
"เขาเข้าใจถึงสิ่งที่ผมต้องการ นั่นคือสิ่งที่ผมประทับใจเขา"
"ตอนแรกผมทำงานกับเขาได้ 2 เดือน มันเป็นบางสิ่งที่พิเศษ เขากำลังสร้างเครื่องยนต์ที่จะไม่มีวันพังขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งความสัมพันธ์ของเราไม่มีปัญหาอะไรเลย"
"ผมต้องการเล่นให้มูรินโญ่มาตั้งแต่อายุ 11 ปี" ลูกากูระบุและว่าเมื่อเขาได้โอกาสที่สอง เขาจะไม่มีวันที่จะปฏิเสธและยินดีกับโอกาสครั้งนี้ที่ได้รับ
ใช่ ตอนนี้มูรินโญ่กลับมาทำงานร่วมกับลูกากูอีกครั้งแต่เปลี่ยนจากฝั่งสีน้ำเงินกลายเป็นสีแดงแห่งแมนเชสเตอร์ ที่ที่พวเขากำลังไปได้สวย
ลูกากูทราบถึงความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้น ทุกสิ่งที่เขาทำ ทุกสิ่งที่เขาทำลงบนสนาม นั่นจะถูกจับตามองมากขึ้นและจะได้รับคำวิจารณ์เพิ่มมากกว่าในอดีต
อย่างไรก็ตามลูกากูพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ ความท้าทายที่เดิมพันด้วยความสำเร็จและความมีชื่อเสียง
"เขายังคงเหมือนเดิม" นี่คือบทสัมภาษณ์ล่าสุดที่ลูกากูมีให้กับ บีบีซี2
"เขาต้องการสิ่งที่ดีที่สุดจากนักเตะ"
"เขาจะไม่ให้นักเตะได้พักเลยเวลาที่พวกเขาลงไปยังสนาม เขาต้องการให้ทุกคนสู้ทั้งในสนามซ้อมและในเกม"
นั่นคือบุคลิกในสนามของมูรินโญ่ชายที่ขึ้นชื่อว่าเกลียดการเป็นรอง และเกลียดการเป็นเบอร์ 2 มากที่สุด
การกลับมาร่วมงานกันหนนี้ระหว่าง มูรินโญ่ - ลูกากู จะทำให้ปิศาจแดงกลับมาเกิดได้อีกครั้งหรือไม่
สิ่งนี้น่าสนใจ โดยเฉพาะสาวกผีแดงที่อยากให้มันเป็นเช่นนั้น !!!
โกสุ่ย
