:::     :::

11 แข้งฟอร์มเด่นครึ่งซีซั่นลีก เอิง

วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม 2564 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
1,305
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลีกสูงสุดฝรั่งเศสกำลังอยู่ในช่วงพักการแข่งขันครึ่งฤดูกาล ซึ่งสถานการณ์อย่างที่ทราบ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง นำโด่งเป็นจ่าฝูงเก็บไป 46 คะแนนพร้อมคว้าแชมป์หน้าหนาวไปครอง

เป็นไปตามที่หลายคนคาดหวังกับฟอร์มการเล่นของ เปแอสเช แม้ว่าช่วงหลังอาจจะมีสะดุดไปบ้าง แต่จากการเสริมทีมและมีนักเตะที่เหนือกว่าชาวบ้าน ระยะห่างที่ทำได้ก็ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย

ทั้งนี้ฟุตบอลฝรั่งเศสจะกลับมาอีกครั้งในช่วงต้นปี แต่จะเป็นรายการ เฟร้นช์ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้ายให้บรรดาสโมสรที่เข้ามาถึงรอบนี้ได้ลงห้ำหั่นกันก่อน

ส่วน ลีก เอิง จะเริ่มครึ่งหลังของซีซั่น 2021/22 ในวันศุกร์ที่ 7 มกราคม โดยจะลากยาวไปจนถึงปลายเดือนพฤษภาคมเพื่อหาแชมป์ในบั้นปลาย

เหลืออีก 19 เกมให้ทีมนำหนีห่างคู่แข่ง รวมไปถึงบรรดาผู้ล่าที่ต้องพยายามขยับเข้าใกล้หัวตาราง นอกจากนั้นทีมอื่นๆ ต่างหวังพลิกสถานการณ์ พร้อมขยับตำแหน่งของตนเองไปอยู่ในจุดที่ต้องการ

นั่นคือเรื่องของอนาคตที่จะถูกตัดสินในอีก 5 เดือนถัดไป แต่วันนี้จะพาไปอ่านผลงานของ 11 นักเตะยอดเยี่ยมที่ถูกคัดมาจาก 19 นัดแรก มีใครกันบ้างลองไปติดตามกันได้ ... 





อันโธนี่ โลเปส (โอลิมปิก ลียง)


แม้ผลงานของ โอลิมปิก ลียง จะลุ่มๆ ดอนๆ จนแฟนบอลไม่พอใจ รวมไปถึงปัญหาภายในมุ้งที่มีสัญญาณไม่ดีส่งออกมา แต่ฟอร์มของผู้รักษาประตูช่วงโปรตุเกสกลับทำได้ยอดเยี่ยม

อันที่จริงหลายๆ ทีมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเสียเท่าไหร่ เพราะเมื่อปราการด่านสุดท้ายต้องทำงานหนักและออกแรงมากกว่าคนอื่นๆ มันหมายถึงสัญญาณอันตราย

26 ประตูที่เสียไปจาก 19 นัดแรก ถือเป็นจุดที่น่ากังวลของ โอแอล เพราะไม่เพียงจะเป็นการบ่งบอกว่าทีมมีปัญหาแนวรับ มันยังส่งผลให้พวกเขาหล่นไปอยู่ที่ 13

ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่ได้ โลเปส งัดผลงานยอดเยี่ยมออกมา ดีไม่ดี ลียง อาจจะโดนถลุงไปมากกว่านี้ เพราะนายด่านวัย 31 ปีทำสถิติเซฟไปถึง 67 ครั้งในครึ่งซีซั่นแรก หรือเฉลี่ย 3.72 ครั้งต่อนัด





โชนาตาน โกลสส์ (ล็องส์)


วิงแบ็กขวาที่สื่อแดนน้ำหอมพูดถึงอย่างมาก เพราะผลงานอันยอดเยี่ยมในการช่วยงานทางกราบขวาของแข้งรายนี้ ทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยนาม

จากนักเตะฝีเท้าปานกลางที่โลดแล่นในลีกแดนน้ำหอมและเยอรมนี แต่แข้งวัย 29 ปีพัฒนาตนเองในช่วงไม่กี่ปีหลังจนกลายมาเป็นวิงแบ็กจอมแอสซิสต์ที่เติมเกมได้สุดมันแบบถึงพริกถึงขิงคนหนึ่งในลีก

สถิติ 7 แอสซิสต์คงเป็นเครื่องชี้วัดได้ดี ซึ่งจำนวนดังกล่าวยังเป็นรองเพียงแค่ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ (8) กองหน้าเปแอสเชรายเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีผลงาน 2 ประตูเข้ามาตอกย้ำวความยอดเยี่ยม แม้ว่าผลงานของ ล็องส์ ตกลงไปในช่วงที่ผ่านมา แต่ฟอร์มส่วนตัวทำให้ โกลสส์ เป็นที่จับตามอง และโดนสื่อเชียร์ให้ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสอีกด้วย





ดานเต้ (นีซ)


ในวัย 38 ปี และอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าฉีกขาดเมื่อเดือนตุลาคมปี 2020 ไม่มีใครคาดคิดว่า ปราการหลังตัวกลางชาวบราซิลจะกลับมายอดเยี่ยมได้อีกครั้ง

แต่ ดันเต้ ทำให้คำครหาและข้อสงสัยเหล่านั้นให้หายไป โดยเฉพาะผลงานช่วงต้นซีซั่นที่มีส่วนช่วยให้ทีมไม่เสียประตู 9 จาก 7 นัดแรก แถมโดยสอยไปเพียง 3 ลูกเท่านั้น

แน่นอนว่าอดีตกองหลังบาเยิร์น มิวนิค ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม จากผลงานอันยอดเยี่ยมที่ทำได้ และหลายคนยังมองว่ามีส่วนในการคอยสอนงาน ฌอง-แคลร์ โตดิโบ กองหลังรุ่นน้องอีกด้วย





วิลเลียม ซาลีบา (โอลิมปิก มาร์กเซย)


แม้จะไม่ได้รับความเชื่อใจจาก อาร์เซน่อล แต่นั่นคือสิ่งที่ผลักดัน ซาลีบา อยากพิสูจน์ตนเองให้ใครหลายคนด้ประจักษ์

โอลิมปิก มาร์กเซย เปิดโอกาสและมอบเวทีให้แนวรับวัย 20 ปีได้แสดงผลงาน ซึ่งกองหลังรายนี้ไม่ทำให้ผิดหวังตอบแทนด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม พร้อมกลายมาเป็นแกนหลักของ โอแอ็ม

ไม่แปลกใจที่ ฮอร์เค่ ซามเปาลี เทรนเนอร์มาร์กเซยจะใช้งาน ซาลีบา และมอบสถานะตัวเลือกแรกในแนวรับให้กับนักเตะ พร้อมคำชมที่ว่าอดีตกองหลัง แซงต์-เอเตียน จะเป็นอนาคตและเพชรเม็ดงามของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส

สถิติในซีซั่นนี้หากไม่เจ็บหรือมีโทษแบน ซาลีบา ลงสนามตลอด โดยผ่านครึ่งซีซั่นแรกลงหวดไปแล้ว 23 เกมจากทุกรายการ





มาร์กินโญส (เปแอสเช)


มีคนแซวว่าการเลือกนักเตะยอดเยี่ยมในศึกลีก เอิง ไม่ต้องคิดอะไรให้มากความแค่จิ้มผู้เล่นจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง มาก็พอ 

แต่สำหรับกรณี มาร์กินโญส แตกต่างออกไป เพราะปราการหลังวัย 27 ปีทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมั่นคงต่อเนื่อง ที่สำคัญยังช่วยงานทั้งในแนวรับ รวมไปถึงเกมรุกอีกด้วย

ผลงาน 3 ประตูในซีซั่นนี้เกิดขึ้นในเกมสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้า 6 คะแนนจากศึกที่ยากลำบาก ไม่นับรวมการป้องกันหรือขัดขวางฝ่ายตรงข้ามที่เป็นงานหลักของแนวรับชาวแซมบ้า





มาร์กแต็ง แตร์รีเย่ร์ (แรนส์)


หนึ่งในแนวรุกฟอร์มเด่นของสโมสรแรนส์ ซึ่งสร้างผลงานจนเป็นที่จับตาอย่างมากในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก

9 ประตูจาก 18 นัดบนเวที ลีก เอิง คือสถิติอย่างเป็นทางการจนถึงตอนนี้ แต่หากใครติดตามผลงานการลงสนามในแต่ละเกมของ แตร์รีเย่ร์ คงคิดไปในทำนองเดียวกันว่าหมอนี่ 'มีของ'

ตำแหน่งถนัดอาจจะเป็นตัวริมเส้น แต่ด้วยความยืดหยุ่นบวกกับความสามารถทำให้โดนปรับไปยืนทางขวาบ้าง กองหน้าตัวเป้าบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านั้นยิ่งทำให้ศักยภาพของแนวรุกวัย 24 ปีถูกดึงออกมา

แฟนบอลจึงได้เห็นพัฒนาการที่รุดหน้าจนต้องหันมามอง และมีหลายคนประทับใจฝีเท้าหนุ่มรายนี้เป็นอย่างยิ่ง





เซโก โฟฟาน่า (ล็องส์)


หนึ่งในมิดฟิลด์ตัวกลางของลีก เอิง ที่ถูกพูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานส่วนตัวจนทำให้มีข่าวโยงหลายสโมสรในยุโรป

โฟฟาน่า แสดงให้เห็นทั้งพละกำลัง ความเร็ว ทักษะ การทะลุทะลวงแบบ บ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์ มิดฟิลด์ ที่สำคัญคือจำนวน 5 ประตูยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพัฒนาการเรื่องการเล่นของนักเตะได้เป็นอย่างดี

หนึ่งในคนที่คอยผลักดัน โฟฟาน่า คงหนีไม่พ้น ฟร้องก์ เอส เทรนเนอร์ล็องส์ ที่ปรับให้กองกลางรายนี้ขยับขึ้นหน้ามากขึ้นเมื่อมีโอกาส เพราะไม่เพียงจำนวนประตูประตูที่ทำได้ มันยังหมายถึงการเปิดพื้นที่และสร้างอันตรายให้คู่แข่งมากกว่าเดิม

สิ่งเหล่านั้นทำให้สายตามากมายหันมาจับจ้องนักเตะวัย 26 ปีใกล้ชิดมากขึ้น โดยเฉพาะทีมต่างๆ ที่พร้อมฉกตัวไปครอง





เตชี่ ซาวานิเย่ร์ (มงต์เปลลิเย่ร์)


มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 30 ปีถือเป็นตัวแบกของ มงต์เปลลิเย่ร์ ในซีซั่น ชนิดที่ว่า 'ขาดเธอเมื่อไหร่ ฉันขาดใจเมื่อนั้น'

จำนวน 5 ประตูกับ 6 แอสซิสต์จาก 16 นัดที่ผ่านมาอาจจะเป็นคำตอบได้ดีที่สุด เพราะมันคือจำนวน 1 ใน 3 ที่กองกลางรายนี้มีส่วนร่วมในการสอยตาข่ายให้กับทีม (มงต์เปลลิเย่ร์ ทำได้ 33 ประตูจาก 19 นัด)

ซาวานิเย่ร์ อาจจะมีจุดอ่อนเรื่องการควบคุมอารมณ์เพราะบ่อยครั้งโดนใบเหลืองง่ายไป ซึ่งบางทีอาจจะเลยเถิดเป็นใบแดง แต่สิ่งที่สโมสรมองเป็นอันดับแรกคือผลงานในสนาม ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าสำคัญกับทีมอย่างมาก





ดิมิทรี ปาเยต (โอลิมปิก มาร์กเซย)


ช่วงต้นฤดูกาลที่ โอแอ็ม ขาดกองหน้าตัวเป้าเพราะสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ก็ได้ ปาเยต นี่แหละคอยช่วยงานแบกเรื่องทำประตูให้กับสโมสร

ซามเปาลี ดูจะไว้ใจกองกลางวัย 34 ปีอย่างมาก เพราะเขาไม่อิดออดในการปรับ ปาเยต ไปเป็นกองหน้าตัวเป้าจำเป็นในช่วงดังกล่าว ซึ่งนักเตะตอบแทนได้ดีอย่างมาก

แม้แต่ในตอนที่กลับไปเป็นตัวปั้นเกมตามถนัด อดีตกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสยังคงสานต่อผลงานยอดเยี่ยม ซึ่งตีเป็นตัวเลขคือ  7 ประตู 6 แอสซิสต์จาก 15 นัดที่ลงสนามในช่วงครึ่งซีซั่นแรก





คีลียัน เอ้มบั๊ปเป้ (เปแอสเช)


ถือเป็นนักเตะที่ทำผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก เพราะหัวหอกวัย 23 ปีแสดงให้เห็นพัฒนาที่รุดหน้าไปอีกขั้น

9 ประตูกับ 8 แอสซิสต์คือตัวเลขที่หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสทำได้ ไม่นับรวมฟอร์มการเล่นในแต่ละนัดที่ถือว่ายังคงรักษามาตรฐานได้ดี

แม้ทีแรกจะมีข้อสงสัยในการปรสานงานกับ เนย์มาร์ และ ลีโอเนล เมสซี่ ว่าจะโดนกลบรัศมีหรือไม่ แต่กลายเป็นน้องเล็กรายนี้ทำได้ดีกว่ารุ่นพี่ทั้งสองคน

จำนวนประตูอาจจะลดลงไปบ้าง แต่มันทดแทนด้วยจำนวนแอสซิสต์ซึ่งเจ้าตัวเผยเองว่าพอใจกับสมดุลนี้ เพราะมันหมายถึงการเปิดโอกาสและช่วยให้คนอื่นๆ ก้ามาทำผลงานช่วยสโมสร





โจนาธาน เดวิด (ลีลล์)


โดนวิจารณ์อย่างมากในช่วงแรกที่เดินทางมายัง ลีก เอิง เพราะสื่อกับแฟนบอลโยนแรงกดดันว่า เดวิด จะเข้ามาเป็นตัวแทน วิคเตอร์ โอซีเมน

แต่หลังจากมีเวลาปรับตัวให้เข้ากับทีมและลีก กลายเป็นว่ากองหน้าชาวแคนาดาทำผลงานที่ดีจนได้รับคำชมอย่างมากมายเป็นการตอบแทน

โดยเฉพาะซีซั่นนี้กดไปแล้ว 12 ประตูยืนหนึ่งเป็นผู้นำดาวซัลโวของลีก พร้อมช่วยให้ ลีลล์ ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาหลังจากโซซัดโซเซในช่วงแรก

นอกจากนั้นหากนับรวมผลงานรอบ 1 ปีปฏิทิน หัวหอกวัย 21 ปีทำไปได้ถึง 22 ลูกบนลีกสูงสุดแดนน้ำหอม ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นการยกระดับได้ดีอย่างน่าชมเชย




ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด