:::     :::

เรื่องดีจากการปราชัยของบาร์ซ่า

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2565 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
1,849
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
บาร์เซโลน่า สู้ได้ดีในการเผชิญหน้ากับคู่ปรับสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด ก่อนจะพ่ายในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-3 ของรอบตัดเชือกรายการ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ชาบี เอร์นานเดซ ประเดิมเกม 'เอล กลาซิโก้' ฐานะเทรนเนอร์ด้วยการปราชัยต่อ เรอัล มาดริด 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบตัดเชือกรายการ ซูเปร์ โกปา เด เอสปันญ่า ที่ริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันพุธที่่ผ่านมา แต่ทีมอาซูลกราน่าของเทรนเนอร์วัย 41 ปียังแสดงให้เห็นเรื่องราวแง่บวกหลายอย่าง

บาร์เซโลน่า มีตัวเลือกลงสนามมากขึ้นหลัง อันซู ฟาตี, เมมฟิส เดอ ปาย, เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้, เฟรงกี้ เดอ ย็อง กับ โรนัลด์ อาเราโฮ ฟิตกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือก แต่ ชาบี ส่งเฉพาะสองรายหลังออกสตาร์ทตัวจริงเท่านั้น ขณะที่ 3 รายแรกลงสนามฐานะสำรอง

ชาบี ยังเลือกส่ง เฟร์ราน ตอร์เรส แนวรุกป้ายแดงที่เพิ่งย้ายมาจาก แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 55 ล้านยูโรลงประเดิมสังเวียนด้วยเช่นกัน แต่อดีตเด็กปั้นทำผลงานน่าผิดหวัง เนื่องจากเพิ่งฟื้นตัวจากการติดเชื้อ 'โควิด-19' และบาดเจ็บเท้าจนพลาดการลงเล่นตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จนถูกถอดออกจากสนามระหว่างช่วงพักครึ่ง


ทีมอาซูลกราน่าพลาดท่าเสียประตูให้ทีมชุดขาวก่อนเมื่อ คาริม เบนเซม่า จ่ายบอลให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ใช้ความเร็วสปีดหนี อาเราโฮ เข้าไปกดด้วยซ้ายในเขตโทษเสียบตาข่าย 1-0 ช่วงนาที 25 แต่ บาร์เซโลน่า ที่ถูกมองว่าเป็นทีมรองบ่อนตามตีเสมอสำเร็จช่วงนาที 41 จากจังหวะที่ เดมเบเล่ ผ่านบอลจากทางซ้ายให้ ลุค เดอ ย็อง ชาร์จผ่านตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ 

บาร์เซโลน่า กลับมาเล่นได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลัง แต่ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายพังประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อ มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น ใช้เท้าสกัดการเปิดบอลของ ดาเนียล การ์บาฆาล เข้าทาง เบนเซม่า กดให้ทีมชุดขาวนำ 2-1 ช่วงนาที 72 ก่อน จอร์ดี้ อัลบา จะเปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ อันซู ฟาตี โหม่งตีเสมอช่วงนาที 83 ลากเกมเข้าสู่การต่อเวลาพิเศษ


เรอัล มาดริด มาพังประตูชัยในช่วงนาที 98 จากการประสานงานของสองสำรอง โรดรีโก้ โกเอส เปิดบอลให้ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ นำทีมชุดขาวทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึก ซูเปร์ โกปา เด เอสปันญ่า หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ตามเป้าหมาย 

นั่นคือการปราชัยในเกม 'เอล กลาซิโก้' 5 เกมติดต่อกันของ บาร์เซโลน่า และเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกในฐานะเทรนเนอร์ของ ชาบี เอร์นานเดซ แต่ยังมีข้อดีหลายอย่างจากทีมอาซูลกราน่าภายใต้การดูแลของเทรนเนอร์วัย 41 ปี

'เบนเซม่า & วินิซิอุส'

ไม่มีข้อโต้เถียงว่าใครเป็นนักเตะดีที่สุดสองคนแรกในสเปนซีซั่นนี้ ในขณะที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับผู้เล่นสองคนนี้เป็นคู่หูแนวรุกดีที่สุดในโลกลูกหนังปัจจุบัน 

วินิซิอุส จูเนียร์ กับ คาริม เบนเซม่า ทำคนละประตูให้ เรอัล มาดริด ในการเผชิญหน้ากับคู่ปรับที่พวกเขาคุ้นเคย ทั้งสองคนแสดงให้เห็นถึงคลาสและความเด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดหายไปจากทีมอาซูลกราน่าในปัจจุบัน


แนวรุกชาวบราซิเลียนวัย 21 ปีเบิกสกอร์แรกจากความช่วยเหลือของ เบนเซม่า ก่อนหัวหอกชาวฝรั่งเศสจะยิงประตูในช่วงครึ่งหลัง นั่นทำให้ทั้งสองคนทำรวมกัน 38 ประตูให้ เรอัล มาดริด ในซีซั่นนี้ นำต้นสังกัดเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จทั้งในสเปนและบนเวทียุโรป

'อันซู ฟาตี เป็นของจริง'

เขากลายเป็นส่วนสำคัญของ บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่แจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะโชคร้ายถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักแข้งนานกว่าหนึ่งปีก็ตาม แต่อย่าลืมว่าเขาเพิ่งอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น

จากปัญหาบาดเจ็บกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาของ ฟาตี นับตั้งแต่บาดเจ็บเข่าซ้ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2020 เขาฟิตกลับมาลงสนามในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาและผ่านมาจนถึงตอนนี้เพิ่งออกสตาร์ทเพียง 4 เกมเท่านั้น


เขากลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมที่ ริยาดห์ หลังลงเล่นแทน ลุค เดอ ย็อง ช่วงนาที 66 แม้จะแสดงให้เห็นถึงอาการสนิมเกาะแข้งขาอย่างชัดเจน แต่แนวรุกวัย 19 ปีสามารถสร้างผลกระทบได้ทันทีจากการโหม่งประตูตีเสมอให้ทีมอาซูลกราน่า

แม้ว่าทีมของ ชาบี จะตกรอบในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ตาม แต่การกลับมาของ อันซู ฟาตี รวมถึง เปโดร กอนซาเลซ โลเปซ เปดรี้ จะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีสำหรับการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของสโมสรในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง

'ลุค เดอ ย็อง ก้าวขึ้นมาอีกระดับ'

เดอ ย็อง ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นตัวจริงของ บาร์เซโลน่า สโมสรที่มีความต้องการเกินระดับความสามารถตามธรรมชาติของกองหน้าชาวดัตช์ โดยมีข้อโต้แย้งมากมายนับตั้งแต่ทีมอาซูลกราน่าดึงหัวหอกวัย 31 ปีมาจาก เซบีย่า ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

แต่ ลุค มักจะหาโอกาสทำประตูในโอกาสสำคัญเสมอ ตอนที่ยังเล่นกับ เซบีย่า หัวหอกชาวดัตช์จะทำประตูได้ในการเผชิญหน้ากับทีมใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด รวมถึงเกมดาร์บี้แมตช์กับ เรอัล เบติส เขายังทำสองประตูในรอบชิงชนะเลิศของศึก ยูโรปาลีก กับ อินเตอร์ มิลาน เมื่อ 2 ปีก่อนด้วย


นับตั้งแต่ย้ายมา 'คัมป์ นู' เดอ ย็อง เพิ่งทำเพียง 3 ประตู ซึ่งรวมถึงหนึ่งประตูในเกม 'เอล กลาซิโก้' เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าเขาจะได้รับโอกาสค่อนข้างจำกัดจาก ชาบี จนมีข่าวว่าอาจถูกโละทิ้งในช่วงเดือนมกราคมนี้ แต่กองหน้าวัย 31 ปียังมีจุดแข็งที่แนวรุกคนอื่นของบาร์ซ่าไม่มี นั่นอาจทำให้สโมสรเลือกเก็บนักเตะไว้ใช้งานตลอดช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ 

'แท็คติกใหม่ ชาบี'

บาร์เซโลน่า ยุค ชาบี เอร์นานเดซ ยังคงเล่นระบบ 4-3-3 ไม่ต่างจากยุค โรนัลด์ คูมัน แต่มันมีความแตกต่างชัดเจนในสไตล์การเล่นของพวกเขา

บาร์ซ่า กำลังเพรสคู่แข่งมากขึ้นจากผู้เล่นแนวรุก 3 คนของพวกเขา รวมถึงสองฟูลแบ็ก ดาเนียล อัลเวส กับ จอร์ดี้ อัลบา ขณะที่แนวรับของทีมอาซูลกราน่าจะดันไลน์ขึ้นสูงเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้พวกเขามีความเสี่ยงต่อการเล่นเกมสวนกลับของคู่แข่ง แต่มันเป็นการตัดช่องทางการจ่ายบอลแนวลึกและทำให้คู่ต่อสู้มีเวลากับบอลน้อยลง


การเซ็นสัญญากับ ดาเนียล อัลเวส ฟูลแบ็กวัย 38 ปี รวมถึงการเลือกใช้งานอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง เคราร์ด ปีเก้ (35), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (34) และ จอร์ดี้ อัลบา (33) แสดงให้เห็นว่า ชาบี ต้องการนักเตะที่รู้อย่างชัดเจนว่าเขาต้องการใช้สไตล์การเล่นรูปแบบใดอย่างรวดเร็ว

'ชาบี มองแง่บวก'

'ถ้าเราพูดเกี่ยวกับวันนี้ เราเข้าใกล้แล้ว ในลีก เราอยู่ห่าง 17 คะแนน แต่วันนี้เราได้เข้าแข่งขันแล้ว'

'การได้ดูผลงานช่วง 20 นาทีแรก ผมคิดว่าพวกเราเล่นด้วยความซับซ้อน กำลังคิดถึงช่วงเวลาและผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นในตอนนี้ แต่หลังจากเราปลดปล่อยจากความซับซ้อนนั้นได้ ผมคิดว่าเราเป็นทีมที่ดีกว่าและในที่สุดเราก็เข้าสู่เกม' 

'ถ้าคุณเสี่ยงทายเหรียญ มันจะออกหัวในการเป็นตัวเต็งของ บาร์เซโลน่า ไม่มีใครพูดอะไร แต่มันออกก้อย' 


'ผมคิดว่าเราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง วันนี้พวกเราได้นักเตะคนสำคัญบางคนฟื้นตัวกลับมา เราบอกลาแชมป์ แต่ยังได้ปลดปล่อยตัวเองออกมาจากความซับซ้อนบางอย่างได้'

'ตอนนี้เรารู้สึกโกรธและสิ้นหวัง แต่พรุ่งนี้เราจะเห็นว่ามันดีขึ้น ถ้าเราต้องพ่ายแพ้ มันก็ต้องเป็นแบบนั้น'

บาร์เซโลน่า สร้างโอกาสทำประตูมากกว่า 20 ต่อ 14 ทีมอาซูลกราน่ายังเป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่า 53 เปอร์เซ็นต์ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์ แต่ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายกำชัยชนะครั้งที่ 100 จากการลงเล่นเกม 'เอล กลาซิโก้' ทุกรายการครั้งที่ 248 ส่วน บาร์เซโลน่า หยุดชัยชนะไว้ที่ 96 เกม อีก 52 ครั้งลงเอยด้วยการเสมอ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด