:::     :::

ช่วงเวลาพิสูจน์ใจของ "วรชิต"

วันพฤหัสบดีที่ 03 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
6,073
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ช่วงนี้ "ชลบุรี เอฟซี" ได้รับความสนใจจากแฟนบอลไทยเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวทั้งในและนอกสนามของ "ฟาอิก โบลเกียห์" เจ้าชายแห่งบรูไน รวมทั้งฟอร์มอันดุดันของ "ฉลามชลพลังหนุ่ม" ที่ก้าวมาท้าทายบัลลังก์แชมป์ไทยลีกเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หลังมีคะแนนตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงอยู่ 7 แต้มเท่านั้น

โดยเคล็ดไม่ลับของฟอร์มเทพคือส่วนผสมของนักเตะยังเติร์กจากเบ้าหลอม “ฉลามชลอคาเดมี่” ปีกกล้าขาแข็งก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมอย่างสง่างาม


ทั้ง บุคฆอรี เหล็มดี, ทรงชัย ทองฉ่ำ, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, รชต หมอรักษา หรือ ชิษณุพงษ์ โชติ  ประสานงานกับแข้งเก๋าอย่าง เรนาโต้ เคลิช, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, กีดี้ คานยุค และ เดนนิส มูริลโล่ แถมมีเชฟฝีมือดีอย่าง “สะสม พบประเสริฐ” ช่วยปรุงรสชาติลูกหนังของ “ฉลามชล” ให้กลมกล่อมเหลือเกิน  จากนี้เชื่อว่าเราคงได้เห็นอะไรดีๆ จากทีมชุดนี้อีกเยอะ 

ในห้วงเวลาที่ท้องทะเลฝั่งตะวันออกกำลังปกคลุมไปด้วยสีชมพู แต่อีกฟากฟ้าอดีตนักเตะของพวกเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

ใช่แล้วครับ เรากำลังพูดถึง “ยิม” วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ กองกลางที่ย้ายจาก ชลบุรี เอฟซี ไปร่วมทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเลก 2 


หลังสวมเครื่องแบบสีน้ำเงินเข้มของ “เดอะ แรบบิท” ไป 6 เกม แบ่งเป็นรีโว่ ไทยลีก 4 นัด และฟุตบอลถ้วย รีโว่ ลีกคัพ อีก 1 นัด และ ช้าง เอฟเอคัพ อีก 1 นัด “เจ้ายิม” ยังไม่สามารถกวักมือเรียกฟอร์มเทพออกมาได้เลย

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเปลี่ยนกุนซือบ่อยของ บีจีพียู จาก ดุสิต เฉลิมแสน มาเป็น สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ทำให้แท็คติกการเล่นของทีมเปลี่ยนไป 

ขณะที่ตำแหน่งการยืนของ “เจ้ายิม” ยังคงกั๊กๆ จะเล่นกองกลางตัวเคลื่อนเกมก็ไม่เด่นเหมือน เชาว์วัตน์ วีระชาติ เพื่อนร่วมรุ่นทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ปี 2017 ที่ มาเลเซีย 

หรือจะขึ้นไปเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์ยืนอยู่หลังคู่หัวหอกอย่าง อิคซาน ฟานดี้ กับ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ ก็ยังดูไม่คลิ๊กกัน เพราะต่างคนต่างเล่นไปคนละทาง 


ไม่แปลกที่จำนวนสกอร์ที่ทำไว้ 8 ประตูในลีก สมัยค้าแข้งกับ “ชลบุรี เอฟซี” ยังไม่ขยับไปไหน แม้จะยิงประตูในบอลถ้วยได้แล้ว 1 ตุง ก็ยังไม่ทำให้ “ยิม” คนเดิมกลับมา 

หากต้องรอการมาของ มาโกโตะ เทรุกะโมริ กุนซือคนใหม่อาจทำให้ความมั่นใจของเจ้าตัวหล่นหายไปมากกว่านี้ 

ด้วยค่าตัวที่มหาศาลย่อมทำให้ “ยิม” แบกความคาดหวังจากแฟนบอล บีจีพียู ไว้เยอะ ประกอบกับฟอร์มเทพก่อนย้ายมารัง บีจี สเตเดียม ทำให้แฟนบอลอยากเห็นฟอร์มการเล่นและการยิงประตูแบบนั้น มากกว่าการจ่ายบอลไปมาไร้มิติ 


แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ เพราะระบบการเล่นของ ชลบุรี มันฝังอยู่ใน DNA ของ เจ้ายิม เต็มตัว ขณะที่ระบบการเล่นของ บีจีพียู เองก็ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ 

หากความกดดันถาโถมเข้ามา บางทีเจ้าตัวอาจไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมา จะกลายเป็นดีลที่น่าผิดหวังก็ได้ 

หวังว่าเหตุการณ์จะไม่เลวร้ายขนาดนั้น และขอให้ “ยิม” คืนร่างเทพที่คุ้นเคย เพื่อยกระดับฝีเท้าตัวเองไปอีกระดับให้ได้

นี่คือช่วงเวลาพิสูจน์หัวใจของ “เจ้ายิม” โดยแท้ และโปรดท่องไว้ ท้อเป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร 

จะเกิดหรือดับ อยู่ที่ตัวเองลิขิตเองแล้ว


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด