:::     :::

"ความฝันที่สเตรทฟอร์ดเอนด์ และเพื่อนเล่นของรอย คีน" Diego Forlan

วันศุกร์ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,782
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เรื่องเล่าจากปากของ Diego Forlan ตำนานที่แฟนบอลยังไม่เคยลืม กับความฝันในการอยากกลับมาเยือนสนามแห่งนี้อีกครั้งด้วยความคิดถึง โดยเฉพาะฝั่งสเตรทฟอร์ดเอนด์ และเรื่องเล่าที่แฟนบอลอาจไม่เชื่อว่า ฟอร์ลันเป็นอีกหนึ่งอดีตนักเตะที่เป็นเพื่อนเล่นกับคนแบบรอย คีนได้!!!

ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ตกปากรับคำว่าจะกลับไปเยือนโอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง หลังจากที่เขาได้เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ย้ายออกจากทีมไปในปี 2004 เขาก็ไม่เคยได้กลับมายังสนามแห่งนี้อีกเลย

โดยกองหน้าจอมถล่มประตูชาวอุรุกวัยผู้นี้ได้ลงสนามเดบิวต์ครั้งแรกเมื่อ 20 ปีที่แล้วในเกมเจอกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส และได้ลงสนามทั้งหมด 98 นัดภายใต้ยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทำไปทั้งสิ้น 17 ประตู

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเบิ้ลสองประตูรวดใส่ลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ ซึ่งสองเม็ดนั้นทำให้ดาวยิงผมทองคนนี้กลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลที่แมนยูไนเต็ดรักมากเป็นพิเศษอีกคนหนึ่ง ในลักษณะของการเป็น cult hero ของแฟนบอลปีศาจแดง จนทำให้มีเพลงเชียร์เป็นของตัวเองที่ยังร้องมาจนถึงทุกวันนี้ว่า

'Diego, whoah, Diego, whoah. He came from Uruguay, he made the Scousers cry...'


แต่ถึงแม้จะยังเป็นที่คิดถึงอยู่อย่างยาวนานที่แมนเชสเตอร์แห่งนี้ ดาวเตะที่เพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปในปี 2019 และกลับไปทำงานบริหารทีมอยู่ในสโมสรบ้านเกิดกับ Penarol และ Atenas ก็ตามที แต่ดิเอโก้ก็ยังรอคอยการกลับมายังสถานที่นี้ เพื่อได้เหยียบผืนหญ้าของโอลด์แทรฟฟอร์ด และมาเจอแฟนบอลที่ยังคงรักเขาเสมอมาอีกครั้ง

มีบทสัมภาษณ์ล่าสุดที่ฟอร์ลันได้พูดคุยกับผู้ดำเนินรายการอย่าง Zarah Connolly เอาไว้ว่า เขานึกภาพว่า การที่จะได้กลับมายังโรงละครแห่งความฝันอีกครั้งนั้น มันทำให้เขา 'ขนลุก' เลยทีเดียว

"ผมได้กลับมาเมืองแมนเชสเตอร์แค่ครั้งเดียวจริงๆตอนงานฉลองคุมทีมครบ 25 ปีของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" (พฤศจิกายน ปี 2011)

"ตอนนั้นผมเล่นให้อินเตอร์มิลาน ผมกลับมาที่นี่แค่มาร่วมงานฉลอง และพักที่โรงแรม จำได้ว่าผมเดินทางมากับคุณแม่ ไม่แน่ใจว่า 2011 หรือ 2012 ผมไม่มั่นใจ น่าจะเป็นช่วงปลายปี 2011 ถ้าจำไม่ผิด"

"แต่ว่า ผมยังไม่ได้กลับไปที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดเลย และผมรู้ตัวเลยว่า สักวันนึงผมจะต้องกลับมาที่นี่ให้ได้"

เห็นภาพนี้แล้วโคตรขนลุก

ฟอร์ลันเกือบจะได้มาที่นี่แล้วในฐานะนักเตะ ยามที่บียาร์เรอัล ได้จับสลากอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันกับยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2004/05 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่เขาอยู่ร่วมกับทีม Yellow Submarine แต่ว่าตอนนั้นเกิดปัญหาอาการบาดเจ็บแฮมสตริง ทำให้ฟอร์ลันไม่ได้เดินทางมาที่นี่

วันนั้นจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ในเกมที่นักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ เวย์น รูนีย์ ทำประตูกันไม่ได้

แต่เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำฟุตบอลโลก 2010 ยอมรับว่าเขาอยากสัมผัสประสบการณ์ในเข้ามาโอลด์แทรฟฟอร์ดในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัฒจันทร์ฝั่ง "Stretford End"

 ซาราห์ได้ถามคำถามเขาว่า ถ้าเขาได้กลับมาจริงๆอาจจะมีเหตุการณ์ตื้นตันใจเกิดขึ้นก็ได้นะ เพราะยังไงแฟนบอลก็ต้องร้องเพลงเชียร์ของเขาดังกระหึ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน

เขายอมรับว่าคงเป็นแบบนั้น

"ตอนที่คุณถามเรื่องนี้ขึ้นมา ผมนึกภาพออกเลยว่าผมต้องขนลุกแหงๆ" ฟอร์ลันยิ้ม


"ใช่ ผมคงจะปลื้มปริ่มมาก ผมสนิทกับ Andy Mitten (นักข่าวและแฟนบอลสายแมนยูไนเต็ด) และเราคุยกันบ่อยมาก ทุกๆครั้งเขาจะพูดว่า นายต้องไปยืนอยู่บนอัฒจันทร์ด้านบนสุดร่วมกันกับแฟนๆตรงสเตรทฟอร์ดเอนด์ บางทีเราน่าจะไปตรงนั้นได้นะ!"

"ผมอาจจะให้ครอบครัวอยู่ในห้อง VIP แล้วผมอาจจะลงไปกับแฟนบอลบางคน เขาจะได้ดูแลผมได้ตรงสเตรทฟอร์ดเอนด์!"

ตำนานถอดเสื้อแล้วใส่กลับไม่ได้ ที่ยังตราตรึงและโคตรฮาในความโคตรสุดของฟอร์ลัน ก็แบบนี้แหละจะไม่เป็น cult hero ได้ไง

"โดยภาวะที่มีการระบาดแบบนี้ บางทีการเดินทางมันลำบากนะ แต่ผมก็อยากไป ผมจะไป จะพยายามไป"

"ยังไม่รู้นะว่าจะไปคนเดียว หรือพาภรรยาและลูกๆไปด้วย ยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่ที่รู้คือผมต้องกลับไปแน่นอน"

โคตรทรงพลัง

นอกจากนี้ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ยังย้อนความเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวแปลกๆที่เขาเคยโดน รอย คีน แกล้ง ที่งานฟุตบอลโลกปี 2018 อีกด้วย โดยดาวเตะอุรุกวัยเคยเป็นลูกทีมของ "ลูกพี่" คีนในโอลด์แทรฟฟอร์ดช่วงปี 2002-2004 ก่อนจะออกไปประสบความสำเร็จกับบียาร์เรอัลที่ประเทศสเปน

แต่ทั้งสองคนได้เจอกันอีกครั้งแบบเซอไพรส์ระหว่างมีงานฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งทั้งสองกำลังทำงานเป็นกูรูในทีวีอยู่พอดีช่วงนั้น

ฟอร์ลันได้ไปอยู่ในโรงแรมเดียวกันกับอดีตดาวเตะปีศาจแดงหลายๆคนด้วยความบังเอิญ แต่มีเพียงอดีตกัปตันทีมรายนี้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ได้เจอเขาแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างน่าประทับใจ

ฟอร์ลันเล่าเรื่องคีโน่ให้ฟังดังนี้

"ตอนนั้นผมอยู่ที่งานฟุตบอลโลก มันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่นักเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดหลายคนเลย มาพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกัน"

"ผมจำได้ว่ามีอยู่วันนึงเราเข้าไปที่ยิม ผมเจอ ฟิล(เนวิลล์) แกรี่ (เนวิลล์) กิ๊กส์ซี่ และคิดว่าอีกคนน่าจะมี (ปาทริซ)เอฟร่าด้วย ซึ่งผมอยู่ไม่ทันลงสนามเล่นร่วมกันกับเขา แต่ว่าผมเคยลงเล่นสู้กับทีมของเขาอยู่"

"มันฮามากเลยเพราะว่าทุกคนอยู่ในห้องแต่งตัวเดียวกันยังกะพวกเราเป็นนักเตะกันอยู่ แต่เราไปที่นั่นคือไปทำงานให้ช่องทีวีต่างช่องกันที่ไปทำข่าวฟุตบอลโลกครั้งนั้น"


"ผมจำได้ว่าวันนั้นผมกำลังเหนื่อยๆเลย จากอุรุกวัยมารัสเซีย ผมจำไม่ได้นะว่าตอนนั้นตรงกับแมตช์ไหน ผมก็กำลังรอลิฟท์อยู่ แล้วมีใครไม่รู้มาตบด้านหลังผม แล้วตบอย่างแรงเลยนะ! และก็พูดขึ้นมาว่า นายพอจะรู้ไหมว่า ฉันจะกลับไปที่ห้องยังไง?!"

"ผมนึกในใจว่า ใครว้าาาา มาตีเราในโรงแรมแบบนี้?! ผมก็เลยหันหลังกลับไปมอง ปรากฏว่า มันคือคีโน่เว้ย! โคตรดีใจมากๆที่ได้เจอเขาอีกครั้ง"

"เป็นเวลาที่ดีมากๆเลย เราได้เจอกันอยู่ 2-3 วันที่นั่น แล้วมีโอกาสได้ใช้เวลาด้วยกัน เขาเป็นคนที่เยี่ยมมากเลย"

ฟอร์ลันอธิบายให้ฟังว่า แม้เขาจะสนิทกับเพื่อนร่วมทีมที่อายุใกล้ๆกันมากกว่า แต่เขาคิดว่าคีนเป็นข้อยกเว้น

"ตอนที่อายุยังน้อย ผมก็สนิทกับพวก จอห์น โอเชีย กับเวส บราวน์มากๆ เพราะเราอยู่บนม้านั่งสำรองด้วยกันบ่อยๆ รวมถึงกับฟิล แล้วก็โอเล่ด้วย แต่ก็อยู่กับคนอื่นด้วยทุกๆคนแหละตอนนั้น"

"แต่ว่าในช่วงที่ผมค้าแข้งอยู่นั้น กัปตันทีมที่ยิ่งใหญ่สุดๆสำหรับผมคือรอย คีน เขาเป็นนักเตะที่ผมสามารถเรียนรู้อะไรมาจากเขาได้เยอะแยะมากมาย ซึ่งก็แน่นอนแหละ เขาจะเสียงดังๆหน่อย ตะโกนโหวกเหวกอยู่ตลอดเวลาเลย"

นอกจากนี้ฟอร์ลันยังเคยเปิดเผยถึงมุมมองของอดีตกัปตันรายนี้ของเขาที่มีต่อสโมสรของโรมัน อับราโมวิชอย่างเชลซี เมื่อย้อนกลับไปในช่วงต้น 2000s โดยดิเอโก้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง The National ตั้งแต่เมื่อปี 2016 ดังนี้

"เชลซีก็เล็กๆแหละ ไม่ได้ใหญ่เท่ากับลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอล"

"กัปตันของผมอย่างรอย คีน และนักเตะแมนยูคนอื่นๆจะอธิบายกันแบบนี้เวลาที่ผมถามถึงเชลซีในยุคนั้น ซึ่งสุดท้าย โจเซ่ มูรินโญ่ ก็ได้เข้ามาคุมเชลซีก่อนที่ผมจะย้ายออกจากอังกฤษ และเขากลายเป็นฮีโร่ที่นั่น เปลี่ยนจากสโมสรธรรมดา กลายเป็นแชมเปี้ยนบนเกาะอังกฤษอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 50ปีเลย"

ฟอร์ลันถอดเสื้อดีใจหลังยิงประตูชัยเชือดเชลซีในช่วงเฟอร์กี้ไทม์

การได้อยู่ร่วมยุคกับ "ตำนานเบอร์7" สองคน ทั้งเดวิด เบ็คแฮม และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฟอร์ลันก็เคยเล่าถึงเรื่องของสุดหล่อทั้งสองคนนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านรูปร่างหน้าตา และฝีเท้าที่โด่งดังไม่แพ้กัน

เรื่องราวเท่าที่ฟอร์ลันได้เคยสัมผัสทั้งคู่มานั้น เขาเล่าว่าโด้จะใช้เวลาแต่งหล่อนานกว่าพี่เบ็คมาก

"โรนัลโด้จะดูเก๊กๆหน่อยในห้องแต่งตัว จะไม่เหมือนเบ็คแฮม โด้จะติดกระจกอยู่ตลอดเวลา ส่องกระจกทั้งวันจริงๆ แต่งองค์ทรงเครื่องอยู่หน้ากระจกเยอะเลย"

"ส่วนเบ็คแฮมดูจะชิลๆกว่า พวกเขาต่างกันมาก คริสเตียโน่จะทำนู่นทำนี่ เบ็คแฮมจะดูไม่ได้เนี้ยบมาก ใส่แบบพอดีๆ ส่วนอีกคนนึงเราจะไม่มีทางเห็นเขาไม่เนี้ยบเลยสักครั้งเดียว"

ฟอร์ลันเชื่อว่า คุณภาพที่ยอดเยี่ยมของความเป็นทีมที่ยูไนเต็ดตอนนั้น คือความแข็งแกร่งของทีมที่เต็มไปด้วยบุคลิกที่หลากหลายแตกต่างกันมากมายในทีม

"อีกคนนึงที่พูดตลอดเวลาในทีม และคุยกะเพื่อนเยอะมากคือแกรี่ เนวิลล์ 5555 เขาเป็นคนชอบพูดมากๆเลยนะ!"

"แล้วก็ยังมีกิ๊กส์ซี่ที่เป็นตัวฮาด้วยเหมือนกัน และสโคลส์.. บางทีเขาดูเงียบๆนะ แต่รู้ไหมว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนเงียบๆ ที่บางทีก็โคตรจะไ่ม่เงียบด้วยในเวลาเดียวกัน มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เพราะเรามีคาแรคเตอร์ต่างๆมากมายในทีม แต่ทุกคนก็เป็นคนดีๆทั้งนั้น ผมมีความสุขมาก"

"พวกเราคว้าชัยชนะด้วยกัน จากการมีผู้จัดการทีมอย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันด้วย เขารู้จักทุกคนเป็นอย่างดี และเป็นคนที่น่ารักมากๆ เป็นช่วงเวลาที่ดีเลย ทุกคนต่างมีบุคลิกที่แตกต่างกันเป็นของตัวเองแบบปัจเจก"

"แต่ผมก็สนิทและมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆกับทุกๆคนในทีมเช่นกัน"

และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของสุดยอดกองหน้าชาวอเมริกาใต้อีกคนหนึ่งที่แม้อาจจะดูเหมือนไม่ประสบความสำเร็จตอนอยู่โอลด์แทรฟฟอร์ด แต่จริงๆฝีเท้าและ "คลาส" ระดับสูงของฟอร์ลัน มันแสดงออกมาทุกครั้งเวลาที่เขาลงเล่นอยู่แล้วว่า นักเตะคนนี้ฝีเท้าโหดขนาดไหน (จริงๆฝีตีนระเบิดตั้งแต่อยู่ Independiente แล้ว)

กับเกียรติประวัติประดับบารมี ด้วย "แชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย" แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย กับยูไนเต็ด / แชมป์ยูโรปาลีก และ แชมป์ซุปเปอร์คัพ กับแอตเลติโกมาดริด อย่างละสมัย / แชมป์โคปาอเมริกา ปี 2011 กับทีมชาติอุรุกวัย 1 สมัย

และรางวัลส่วนตัวทั้ง European Golden Boot สองสมัย (2003/04 และ 2008/09), รางวัล Golden Boot, Golden Ball, Goal of the Tournament รวมถึงติด Dream Team ของ WC2010 ในปีพีคที่สุดของเขา

นี่คือโคตรกองหน้าขวัญใจแฟนผีอีกหนึ่งคน นักเตะอุรุกวัยคนแรกในประวัติศาสตร์ของปีศาจแดง

ตำนานชายผู้ละเลงเลือดใส่สนามแอนฟิลด์..

Diego Forlan

-ศาลาผี-

References

https://www.sportbible.com/football/roy-keane-set-to-be-interviewed-for-sunderland-job-20220202

https://www.manutd.com/en/news/detail/former-uruguayan-striker-diego-forlan-reveals-unfulfilled-man-utd-old-trafford-ambition

https://www.manutd.com/en/news/detail/diego-forlan-roy-keane-pranked-me-during-2018-world-cup-reunion

https://www.football365.com/news/ronaldo-spent-all-day-looking-in-the-mirror-forlan

https://www.transfermarkt.com/diego-forlan/profil/spieler/3408



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด