:::     :::

"สามเหลี่ยมมรณะ" Review : Florian Wirtz เต็มพิกัด สลัดจอมลุย!!!

วันอาทิตย์ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,850
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
นี่คือบทความ Review นักเตะที่เคยมีข่าวแว้บๆกับแมนยูไนเต็ด และดูเหมือนว่านี่จะเป็นหนึ่งใน Wonderkid ของแท้จากแฟนบอล ด้วยวัยแค่ 18 แต่แบกกลางรุกให้เลเวอร์ฯหนักมากๆ เหมือนมิดฟิลด์มีหนวดแถวๆบ้านเลย!!!

ใจเย็นก่อนโยม ต้องรีบอธิบายบทความนี้ก่อนว่า แมนยูไนเต็ดไม่ได้มีข่าวอะไรกับนักเตะคนนี้ขึ้นมา แค่อยากมารีวิวนักเตะที่น่าสนใจให้ได้อ่านกันเฉยๆ ดังนั้น ไม่ต้องตกใจ(หรือดีใจไป) เจ้าหมอนี่ไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับแมนยูขึ้นมา เขียนเป็นเนื้อหาเชิงแนะนำนักเตะในวงการฟุตบอลให้รู้จัก เพื่อเพิ่มความสนุกในการดูบอล และทำความรู้จักไว้เฉยๆ

เผื่ออีกสี่ปีข้างหน้ามีข่าวกับตัวนี้ขึ้นมาค่อยว่ากันอีกที สำหรับ Florian Wirtz (ฟลอเรียน เวิร์ตซ์) มิดฟิลด์แห่งอนาคตชาวเยอรมันรายนี้

สาเหตุที่รู้จักเด็กคนนี้เนื่องจากฟอร์มที่จู่ๆก็ก้าวกระโดดขึ้นมามากๆจากปีก่อน และดังจนสื่อเอามาโยงกับแมนยูในช่วงก่อนหน้านี้พักใหญ่ๆ (ซึ่งถ้ามีข่าวในช่วงตลาดซื้อขายที่ผ่านมาบ้าง ก็ยังดูเข้าเค้าว่า ราล์ฟ ต้องการนักเตะเยอรมันมาเข้าระบบ แต่เงียบแบบนี้ แปลว่ามันไม่มีมูลจริงๆ)

ด้วยความที่นักเตะรายนี้อายุน้อยมาก แต่ติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ไป 4 นัดแล้ว แถมชื่อเสียงก็ดังพอควรในบุนเดสลีกา ดังนั้นลองมาอ่านกันดูว่า นักเตะคนนี้เป็นยังไงบ้าง และมีอะไรดี ผ่านการรีวิวแบบสั้นๆคร่าวๆ(เหรอ) ในบทความเคล้ากาแฟสดที่คุณเดินไปซื้อจากร้านแถวบริษัท มาจิบพอกรึ่มๆเพื่อประกอบการอ่านบทความนี้

หมอนี่เล่นยังไง ตำแหน่งไหน มีอะไรดีในตัว และแมนยูไนเต็ดควรจะเข้าไปลองสีๆกะลิ้มกะเหลี่ยเอามาเข้าทีมหรือไม่ ไปดูกัน


1. ข้อมูลทั่วไป

Florian Wirtz (เวิรตซ์ [ไม่ออก "แว๊ทซ์"] เหมือนไค ฮาแวร์ตซ์)

อายุ : 18 ปี

สัญชาติ : เยอรมัน

ส่วนสูง : 176 cm น้ำหนัก : 70 Kg

เท้าถนัด : ขวา

สโมสร : Bayer 04 Leverkusen

สถิติฤดูกาล 2021/22 : ลงเล่น(ทุกรายการ) 24 นัด ยิง 8 ประตู /12 แอสซิสต์

ตำแหน่งหลัก : มิดฟิลด์ตัวรุก (AM) > Rating 7.52

ตำแหน่งอื่นๆที่เล่นได้ : ตัวทำเกมหน้าต่ำ (SS) / ตัวรุกฝั่งขวา(AMR)

ค่าตัวโดยประเมิน : 60 ล้านปอนด์


2. สไตล์การเล่นและบทบาทถนัด

ถ้าใครกลัวอ่านภาคบรรยายอย่างเดียวแล้วเห็นภาพไม่ชัด เลื่อนบทความลงไปล่างสุด ไปดูฟอร์มการเล่นของนักเตะตัวนี้ใน Youtube ก่อนสักสิบนาที ค่อยกลับมาอ่านหัวข้อนี้ต่อก็ยังได้

สรุปได้แบบกระชับๆว่า เขาเป็น "มิดฟิลด์ตัวรุกจอมกระชากบอลที่เลี้ยงกินตัวเก่ง คอนโทรลบอลเนียน และจ่ายบอลทะลุช่องได้ดี" ซึ่งที่ฟลอเรียน เวิร์ตทำ ไม่ได้เพียงแค่เลี้ยง "กินตัว"อย่างเดียว

แต่มัน "กินหัว" ด้วย

ผมไม่ได้มุก เพราะมันเลี้ยงเอาชนะตัวแทคเกิล แล้วเข้าไปยิง "เด็ดหัวคู่ต่อสู้" ได้เองสบายๆ ยังกะมี winger เข้ามาเล่นอยู่ในตำแหน่งพื้นที่ center + half space


เอาเรื่องของ Role ก่อน จากการสังเกตและดูการเล่นของหมอนี่สักพักใหญ่ๆ ส่วนตัวผมคิดว่า ตอนแรกจะเขียนว่ามันเป็น Mezzala อยู่ เพราะสกิลการขับเคลื่อนบอลขึ้นหน้ามาทำเกมรุกนี่คือชัดเจนมากๆ ใครเห็นผ่านๆก็ต้องคิดแบบนั้น ดูเหมือนว่าเป็นมิดฟิลด์ที่มีความเป็น เบอร์8 อยู่ในตัวสูง (Mezzala ก็ได้ชื่อว่าเป็นตำแหน่ง Classic no.8 อยู่แล้ว)

แต่..

ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ "เล่นได้มากกว่าเบอร์ 8" เพราะเขาถนัดเล่นแบบ "เบอร์ 10" ด้วยเหมือนกัน เป็นเบอร์ 10 ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายได้ในคนเดียวกัน

"ตัวทำเกมรุกจากแดนกลาง" คำนี้ก็จำกัดความฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ได้ดีกระชับดี


เพราะเมื่อเราศึกษารายละเอียดการเล่นจริงๆที่เขาเล่นในแต่ละเพลย์ เมื่อพิจารณาการทำเกมรุก, การเลี้ยงกระชากบอล วิ่งบุกตะลุยขึ้นหน้า, การครองบอลเพื่อปั้นเกมบุกให้ทีม, เทคนิคต่างๆ รวมถึงแนวคิดในการเล่นแล้ว

ผมคิดว่า หมอนี่ "เกินเบอร์" ความเป็น Mezzala มากๆ

เราควรระบุ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เป็น "Advance Playmaker" น่าจะดีที่สุด เพราะทำได้ทั้งบุกตะลุยตรงกลาง ถ่างออกข้างก็ได้ และทั้งยิงทั้งจ่ายในคนเดียวกัน

เด่นที่เรื่องของการแอสซิสต์ สนับสนุนเพื่อนมากกว่า แต่ก็ยิงเองได้

ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ Role คล้ายๆ "บรูโน่ แฟร์นันด์ส" ของเรานั่นแหละ เป็นกลางรุกตัวทำเกมบุกเหมือนกัน เพียงแค่ "สไตล์" แตกต่างกันเท่านั้นเอง


-บรูโน่ มักเล่นบอลเสี่ยง ใช้จินตนาการสร้างสรรค์เกมแบบเบอร์ 10 แท้มากกว่า 

-ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ จะเล่นเป็นตัวขับเคลื่อนตามระบบทีม พาบอลขึ้นไปข้างหน้าด้วยตัวเอง เน้นการครองบอลเป็นหลัก มากกว่าการเป็นศูนย์กลางจ่ายบอลทำเกมให้เพื่อน

บรูโน่ชอบใช้การวางบอล ชอบเล่นเกมรุกเร็ว ส่วน เวิร์ตซ์ จะชอบไปกับบอล เน้นจ่ายเรียดเท้าสู่เท้า วิ่งเจาะช่อง โดยที่นิสัยการเล่นหลักๆของเขาจะถนัดการเล่นบอลสั้น ไหลทะลุช่องให้เพื่อนเข้าทำ ถือว่าสไตล์ต่างกันพอควร

แต่เมื่อเติมสูงเข้ากรอบเขตโทษ พลังทำลายจะคล้ายกับบรูโน่มาก เพราะทำได้ทั้งยิงทั้งจ่าย สามารถขึ้นไปเป็น "Second Striker" ได้เหมือนกันทั้งคู่เลย อันนี้คือเหมือนจริง


ส่วนการเล่นริมเส้น ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ จะไม่เหมือนบรูโน่

-พี่หนวดถ่างออกริมเส้น จะยังเล่นเป็น AP ทำเกมด้านข้างอยู่ (คล้ายๆมาต้า)

-เวิร์ตซ์ถ่างออกริมเส้น จะกลายสภาพเป็น "AMR" ปีกขวาในยุคต้น2000s ที่ยืนสูงขึ้นมามากกว่า MR แบบยุค 90s คล้ายๆพวกเฟล็ทเชอร์ ไดส์เลอร์ อิเนสต้า ยุคแรกๆ

ถ้าเทียบความเป็น กลางรุกสไตล์ "Enganche" ที่ยืนปักคุมพื้นที่ตรงกลาง เชื่อมเกม ทำเกม เป็นHook[ตะขอ]เกี่ยว ระหว่าง ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ต้องพิจารณาจากการเล่นจริงที่เป็น Heatmap เป็นหลัก จะเห็นพื้นที่การเล่นตามนี้

ฟลอเรียนจะโจมตีในพื้นที่หน้าแผงหลังคู่ต่อสู้ อยู่แดนบนของทีมค่อนข้างเยอะ และถนัดเล่นเยื้องทางขวามากกว่า แต่ซ้ายก็พอจะไปได้ แอเรียการเล่นค่อนข้างครอบคลุม ก็ชัดเจนว่าเป็นตัว AP แน่นอนที่ถ่างออกข้างได้ถนัด จะไม่ใช่ Enganche ที่ปักหมุดตรงกลางเหมือนพวกโทนี่ โครส / โมดริช / เปดรี้

ส่วนของบรูโน่ ตามข้อมูลล่าสุดของเมื่อปลายปีก่อน ยกมาจากเกมเจออตาลันต้า และตามปกติของข้อมูลบรูโน่ที่ผ่านๆมา heatmap พี่แกก็จะอยู่ประมาณนี้ตามปกติ

สังเกตว่าพื้นที่การเล่นของบรูโน่ในการยืนตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวบนของทีม แทบจะเหมือนกันกับฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เป๊ะๆ แต่จะเยื้องทางซ้ายมากกว่า (อันนี้แฟนผีน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว)

แต่จุดที่น่าสังเกตคือ ให้ดูสีจางๆของพื้นที่เล่นบรูโน่ให้ดีว่า ถ่างออกไปเล่นริมเส้นสองข้าง (Flanks) ค่อนข้างมากกว่าฟลอเรียน เวิร์ตซ์

ดังนั้นถ้าวัดความเป็น Enganche ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวคุมเกมตรงกลาง ฟลอเรียนดูจะเล่นในแอเรีย Center ของสนามมากกว่า มีความเข้มข้นของการเป็น "มิดฟิลด์เบอร์ 8" มากกว่า ส่วนบรูโน่จะมีมิติการเล่นเป็น Wide Playmaker เยอะกว่ามาก คอยถ่างออกไป Flanks สองข้างเพื่อทำเกม หรือครอสบอลเข้ากลางค่อนข้างเยอะ

คนอ่านน่าจะเห็นภาพได้ชัดเจนจากหลักฐานข้อมูลนี้นะครับ

ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายกว่านั้นอีกก็คือ เอา ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เทียบกับนักเตะที่แฟนบอลรู้จักกันดีอยู่แล้ว และเล่นตำแหน่งเดียวกัน สไตล์คล้ายๆกัน ก็สามารถยกตัวอย่างพวก "เมสัน เม้าท์" และ "ฟิล โฟเด้น" มาเทียบได้ เวิร์ตซ์ก็ประมาณสองคนนี้แหละ 

แต่อีกรายนึงที่ดูเหมือนจะคล้ายๆกัน แต่ไม่คล้าย ก็คือตัวรุกเยอรมันอีกคนที่เป็นรุ่นพี่ของฟลอเรียน 4 ปี อย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ เพราะฟลอเรียนไม่ได้มีความเป็น "หน้าต่ำ" (Deep-lying Forward) เท่า ไค ฮาแวร์ตซ์

แม้จะยิงเยอะ แอสซิสต์เยอะ แต่physicalไม่ได้เด่นขนาดน้องไคที่เล่นในกรอบสู้กับกองหลังคู่แข่งไหว / ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ตัวเล็กมาก สูงแค่ 176 cm เท่านั้นเอง ไม่แปลกที่ heatmap จะฟ้องว่าไม่ค่อยเข้าไปลึกในกรอบเขตโทษมาก

เพราะงั้นถามว่า ตัวนี้เป็นเหมือน ฮาแวร์ตซ์จิ๋ว ได้ไหมตัวนี้ ก็ต้องบอกว่าไม่น่าจะได้

3. จุดเด่น

ข้อมูลได้จากการscoutเองจากการเล่นในสนามที่เห็นชัดๆ ผนวกกับสถิติวิเคราะห์จากแหล่งข้อมูลopensourceต่างๆที่เป็นหลักฐานการลงเล่นของนักเตะ

3.1 การเลี้ยงบอล (dribbling)

ข้อนี้ยืนหนึ่งมาเลยสำหรับฟลอเรียน เวิร์ตซ์ อย่างที่บอกไปแล้วว่า เขาคอนโทรลบอลได้ดี เลี้ยงบอลติดเท้า และไปกับบอลได้รวดเร็ว เลี้ยงกินตัวเก่งมากๆ ล็อคหลบผ่านคู่แข่งเป็นว่าเล่น เยอะเหมือนที่คนเราจำไม่ได้ว่ากินขนมปังไปแล้วกี่แผ่นนั่นแหละ

การเลี้ยงที่บอลติดเท้า ประกอบไปด้วยความคล่อง และดูมีเซนส์เอาตัวรอดได้ดี

เทียบระดับการเลี้ยง ก็ถือว่าเลี้ยงไปกับบอลได้ดีกว่าบรูโน่พอควร พริ้วมาก

3.2 "First Touch" และการคอนโทรลบอล

ข้อนี้เป็นหนึ่งในสกิลของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ที่โดดเด่นมากๆ เนื่องจากเป็น skillful attacking midfielder ที่ทักษะครบครันในการเล่นกับบอล ดังนั้นการเล่นสายเทคนิคต่างๆจึงดีมาก เฟิร์สทัชก็เช่นกัน ถ้าใครสังเกตการเล่น "บอลแรก" ของฟลอเรียน เวิร์ตซ์ จะรู้เลยว่าหมอนี่คิดเพลย์ต่อไปล่วงหน้าแล้ว และเอาตัวรอดได้เก่งมาก แตะจังหวะเดียวก็ kill คู่แข่งที่เข้ามาเพรสทีนึงอย่างต่ำๆ 1-2 ตัวได้สบายๆ แถมเหลี่ยมบอลดี

การคอนโทรลบอลก็เนียนพอๆกับเฟิร์สทัช แถมความหลากหลายในการเล่นก็เยอะมาก เล่นได้หลายรูปแบบ ลูกงัด แตะอ้อม ลอดดากคู่แข่ง ยกบอลหลบกันเห็นๆ มีหมด เทคนิคเยอะ

เอ็งก็ฟาล์วแบบไม่มีทรงเกินป๊ายยย

3.3 ความคล่องตัว (Agility)

หรือเรียกภาษาบ้านๆว่า หมอนี่มันค่อนข้างพริ้วพอสมควร เพราะความสามารถด้านร่างกายที่ทดแทนส่วนสูงที่หายไป ทำให้ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มีความคล่องตัวที่ "สูง" แทนสัดส่วนในแนวตั้งของร่างกาย

นอกจากคล่องแล้ว ก็ถือว่ามีเร็วที่ใช้งานในเกมรุกได้ดี (ก็เลี้ยงกินตัวได้อะนะ) แว้บนึงรู้สึกเหมือนเห็น แวร์รัตติร่างกระชากบอลยังกะปีกนั่นแหละ คล้ายๆแบบนั้น

3.4 ไหวพริบและการเอาตัวรอด (Flair)

ก็ต่อเนื่องมาจากความเร็วนั่นแหละ ความพริ้วที่เกิดขึ้น นอกจากร่างกายจะขยับเร็ว เปลี่ยนทิศทาง หลบหลีกคู่ต่อสู้ได้ดีด้วย AGI สูงๆแล้วนั้น หมอนี่ยังมีการเล่นที่สแตทสาย mental โหดใช้ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องของไหวพริบ ซึ่งก็อย่างที่กล่าวไปนั่นแหละครับว่า เขามีความเป็นมิดฟิลด์สูง

พวกMFธรรมชาติส่วนใหญ่ สกิลสำคัญที่ต้องมีคือ เอาตัวรอดให้ได้จากระยะ สามมมมมร้อยหกสิบองศา สวัสดีครับ!!!

3.5 วิสัยทัศน์การเล่น (Vision)

ข้อนี้เป็นจุดเด่นที่ทุกสำนักยืนยันตรงกันว่า วิชั่นการเล่นของเขาอยู่ในระดับที่ดีงาม ถึงแม้อาจจะยังไม่ถึงกับวิชั่นเทพ แต่ก็ถือว่าสูงในระดับที่ใช้ได้ จากการเล่นในสนามที่ค่อนข้างพริ้ว อ่านเกม อ่านพื้นที่ อ่านคู่แข่งขาด จ่ายบอลไปยังเพื่อนได้ดี จากแอสซิสต์ไปสิบกว่าลูกในปีนี้ ก็ค่อนข้างชัดว่า วิชั่นการเล่นดีมากๆ

ขนาดเป็นข้อมูลเก่า2ปีที่แล้ว Wirtz ก็มีสถิติการเลี้ยงบอล และวิชั่น ที่สูงกว่ามาตรฐานดาวรุ่งทั่วไป/ใกล้เคียงPedri และตัวท็อปในชาร์ทนี้คือSancho!!!

3.6 การจบสกอร์ (Finishing)

คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก สามารถหาดูได้ตามคลิปต่างๆทั่วไปในยูทูปที่มักจะตัดมาแต่ช็อตดีๆ ให้เหมือนเป็นเทพยูทูป แต่อยากบอกว่า การจบสกอร์ของนักเตะคนนี้ก็ของจริงเช่นกัน เพราะการยิงดูดีเลยทีเดียว ยิงคม หนักแน่น และทิศทางดีมาก ดูแน่นอนทีเดียว

8 ประตูในฤดูกาลนี้ จากตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ก็น่าจะเยอะพอเป็นหลักฐานนอกจากดูแค่คลิปการเล่นอย่างเดียว

               

3.7 การจ่ายแทงช่อง (Through Balls)

ข้อนี้อาจจะดูโจ่งแจ้งไปหน่อย แต่ถ้าให้พูดลักษณะของจุดเด่นฟลอเรียน เวิร์ตซ์ การเล่นบอลจ่ายสั้น แทงช่อง ถือว่าโดดเด่นเอามากๆคนนึงที่มักจะจิ้มให้เพื่อนทำประตูได้เสมอ

ลักษณะการจ่ายของฟลอเรียน เวิร์ตซ์ หลักๆจะเป็น "ลูกเรียด" ซะส่วนใหญ่ จากข้อมูลการจ่ายเรียด 444 ครั้ง ที่มากกว่า การจ่ายระดับที่ลอยขึ้นมาจากพื้นแต่ไม่เกินไหล่ 128 ครั้ง และเป็นบอลลอยโด่ง 113 ครั้ง ก็ค่อนข้างชัดว่า เด็กคนนี้เน้นการจ่ายที่เล่นบอลกับพื้น ซึ่งก็เป็นจุดเด่นของเขามากๆ

แต่ หากใครที่ไม่รู้ และไปดูแต่ ตัวเลขสถิติ "เปอร์เซ็นต์การจ่ายสำเร็จ" มาจากที่ต่างๆ อาจจะเข้าใจว่าหมอนี่จ่ายบอลไม่แม่นก็ได้ เพราะข้อมูลหลายๆแหล่ง เก็บสถิติการจ่ายบอลรวมของเวิร์ตซ์ เฉลี่ยแล้ว Pass Success อยู่ที่ "75%" 79% จากข้อมูลสองแหล่ง (fbRef/whoscored) เอาจริงๆการจ่ายของฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่มันเป็นการจ่ายบอลบุก ที่แทงบอลให้เพื่อนไปเอาในพื้นที่ว่างอย่างนิ่มๆเป็นหลัก โอกาสสำเร็จก็เลยน้อยลงไป

(จริงๆสถิติก็ไม่แย่นะ ปีนี้สถิติของฟลอเรียนคือ บอลสั้น 82.7% บอลระยะกลาง 80.8% แต่สถิติมันแค่ไปโดนหารเยอะที่ การวางบอลยาว สำเร็จแค่ 57.4% เท่านั้นเอง ก็ถือว่าวางบอลยาวไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งก็ไม่ใช่จุดเด่นการเล่นของเขาอยู่แล้วที่มักจะเลี้ยงพาบอลขึ้นหน้าเอง แต่สรุปคือลูกจ่ายไม่แย่)

การแทงช่องเข้าพื้นที่สุดท้ายของฟลอเรียน ถือว่าเด่นจริงๆในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกศูนย์กลางของเลเวอร์ฯ ถ้าเป็นภาษาเกมฟุตบอล ท่าถนัดของตัวนี้คือการกด "สามเหลี่ยม" ที่แทงบอลทะลุช่องเนียนๆผ่านไลน์กองหลังคู่แข่งนั่นเอง

เหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อบทความว่า "Florian Triangle" (สามเหลี่ยมแห่งฟลอเรียน) ที่ขอตั้งชื่อท่าไม้ตายการแทงช่องคิลเลอร์พาสของเจ้าหนู Florian Wirtz เอาไว้ตรงนี้เลย เนื่องจากการเล่นจริงๆในสนาม ก็เหมือนน้องจ้องจะกดสามเหลี่ยมตลอดเวลา

ท่าไม้ตาย "Florian Triangle" ที่กดอัลติให้เห็นเป็นประจำ

ซึ่งชื่อนี้ที่เหมือนจะมาจาก "ฟลอเรียน ไทรแองเกิล" ในวันพีซก็จริง แต่เรานึกไปถึง "Bermuda Triangle" ทะเล(ที่เคย)ลึกลับ อันเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมจากสามมุมของ เครือรัฐปวยร์โตริโก(Puerto Rico), เกาะเบอร์มูดาของอังกฤษ(Bermuda) และ ฟลอริด้า (Florida) นั่นเอง

3.8 "จุดอ่อน"

จุดอ่อนของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ก็มีที่ค่อนข้างเห็นชัดมากๆหลายจุด เราก็ใช่ว่าจะบอกว่านี่เป็นเด็กที่ "โคตรเทพ" อะไรขนาดนั้น ไม่ใช่เลย (เดี๋ยวจะอธิบายไว้เพิ่มเติมในหัวข้อหลังๆ)

ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เพิ่งจะเปรี้ยงขึ้นมาปีนี้ปีแรกเอง ยังต้องพิสูจน์อีกเยอะ ในวัย 18 ปี ฤดูกาลนี้เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง ระยะทางยังอีกยาวไกล

จุดอ่อนสำคัญๆของน้องสามเหลี่ยมคือ

3.8.1 ความแข็งแกร่ง การแทคเกิล และแรงปะทะ

ด้านความแข็งแกร่งของร่างกาย ถือว่าค่อนข้างเสียเปรียบคู่แข่งพอสมควร เนื่องจากฟลอเรียนตัวเล็ก และมวลร่างกายก็ไม่ได้มาก ความแข็งแกร่งไม่มีเลย ซึ่งแน่นอนว่าแรงปะทะค่อนข้างน้อย (คงไม่ต้องบอกว่า ประเด็นนี้แฟนผีจะนึกถึงใครในแมนยูไนเต็ดนะ) การจะให้เข้าแทคเกิลคู่ต่อสู้คงยาก ซึ่งปกติน้องก็ไม่ค่อยเข้าแทคเกิลอยู่แล้ว เล่นไป 18 เกม แทคเกิลแค่ 25 ครั้ง เฉลี่ยเข้าแทคคู่แข่ง เกมละครั้งกว่าๆ

อนึ่ง : ข้อด้อยตรงนี้อาจทดแทนได้ด้วยสกิลการเล่นที่เหนือชั้น คล้ายๆกับบรูโน่ เพราะแม้บรูโน่ดูจะแข็งกว่านิดๆ แต่พี่หนวดก็ใช่ว่าจะแข็งอะไรขนาดนั้น ต้องรอดูกันต่อไปว่า เมื่อฟลอเรียนโตเต็มวัย จะทนมือทนตีนของพวกบอลอังกฤษได้รึเปล่า

(ถ้าสักวันนึงมีทีมใหญ่ๆสนใจไปดึงตัวมานะ แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะเล่นอยู่ในเยอรมันนั่นแหละ จะมาให้กระดูกหักในEPLทำไม-*-)

3.8.2 ลูกกลางอากาศ

ก็ต่อเนื่องมาจากด้านกายภาพของข้อแรก นอกจากความเสียเปรียบเรื่องแรงปะทะ มวลร่างกาย ความแข็งแกร่งแล้ว ก็ยังรวมถึงความเสียเปรียบในเรื่อง "ลูกกลางอากาศ" อีกด้วย เนื่องจากสูงแค่ 176 เท่านั้นเอง

สถิติการดวลลูกกลางอากาศชนะคือ 26.8% (ดวลลูกโด่ง 41 ครั้ง ชนะแค่ 11 ครั้ง ก็ตามสภาพ)

4. What if? Florian Wirtz to "Manchester United"

ในหัวข้อสุดท้าย กับการคาดเดาว่า การจะซื้อฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มาอยู่แมนยูไนเต็ดนั้น มีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน และน่าสนใจเพียงใดในการประยุกต์ใช้กับแผนการเล่นของทีม

เมื่อเราวิเคราะห์จากข้อมูลทั้งหมดเบื้องต้นมาด้านบนว่า เขาคือ มิดฟิลด์ตัวรุก ที่มีเกมบุกจากกลางสนามแข็งแกร่ง เลี้ยงบอลดี พาบอลขึ้นหน้าได้ เติมเกมบุก ทั้งยิงทั้งจ่าย มีความคล่องตัว และแทงบอลทะลุช่องให้เพื่อนยิงได้ดี

ตำแหน่งตรงนี้ พูดจริงๆก็คือ หากเป็นในระบบ "4-2-3-1" ก่อนหน้านี้ที่เราใช้บรูโน่บ่อยๆ เจ้าหนู ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ คือ "ทับตำแหน่ง" กับบรูโน่ แฟร์นันด์ส แบบตรงๆเลย

เพราะปีนี้ ที่ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ขึ้นมาโดดเด่น และยิงได้เยอะ จ่ายบอลได้เยอะนั้น มันก็มาจากตำแหน่งที่เขายืนเป็นเพลย์เมคเกอร์ตัวกลาง ในจุดAM ของเลเวอร์คูเซ่น ในระบบ 4-2-3-1 โดยมีหน้าเป้าตัวจบสกอร์อย่าง Patrik Schick คอยรับบอล และทำประตูจากการเล่นคอมโบกับ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ นั่นเอง

หากมาอยู่แมนยูไนเต็ด ในเบื้องต้นก็คือสามารถลุ้นที่จะใช้เป็นตัวแทนระยะยาวของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ในระบบ 4-2-3-1 บริเวณจุด AM ของมิดฟิลด์ตัวรุกเลย

ถ้าเราจะเล่นระบบนี้ และซื้อฟลอเรียนมาเข้าทีม หน้าตาของยูไนเต็ดก็จะมีโฉมหน้าประมาณนี้

ทรงนี้ แผนนี้ ได้อยู่นะ ถ้าสมมติไม่ซื้อ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เข้ามา ก็ใช้บรูโน่/ฮันนิบาล เล่นจุดนั้นแทน ส่วนไรซ์ก็ เนเวส การ์เนอร์ ได้

หลายคนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะคิดว่า 4-2-3-1 เนี่ยนะ ทีมเราไม่ใช้แล้วไม่ใช่เหรอ?

คำตอบคือ ก็ยังใช้อยู่นะครับ เกมก่อนหน้านี้รังนิคก็เล่นแผนนี้ รวมถึงนัดล่าสุดด้วย

พูดถึง ทีมปัจจุบัน กับระบบของรังนิคก่อน หลังจากที่เกมล่าสุดมีการส่ง "ปอล ป็อกบา" คืนสนามมาแล้วนั้น แผนการเล่นของทีม ที่ยืน position จริงๆในสนาม เกมนี้มันก็กลับไม่ใช่ 4-3-3 แท้

แต่วันนั้นเป็น formationในระบบแบ็คโฟร์ที่ใช้มิดฟิลด์สองคนอย่าง ป็อกบา กับ แม็คโทมิเนย์ จะสลับกันขึ้นหน้า ลงต่ำ ตลอดเวลา ไม่มีใครเล่นเป็น เบอร์6 แท้

ในเกมที่แพ้มิดเดิลสโบรห์ตกรอบ FA Cup แผนการเล่นในวันนั้น มันจึงกลายเป็น "4-2-3-1" ไปโดยปริยาย ด้วย Average Position ในสนามที่เกิดขึ้น โดยมีบรูโน่ยืนค้ำสูง ถ่างออกข้างเล่นเกมรุกให้ทีมในแดนบนตลอดเวลา

และป็อก-แม็ค ก็เล่นเป็นคู่กลางต่ำแบบ "6s" นั่นเอง

Average Position การยืนตำแหน่งโดยเฉลี่ยของนักเตะในทีมวันนั้น ช่วง Phase 1 ภาคการครองบอล ทำเกมรุก ยืนกันทรงนี้

ดังนั้นแผน 4-2-3-1 ก็มีโอกาสสูงอยู่ที่แมนยูไนเต็ดจะสวิตช์กลับมาเล่นแผนนี้ ที่เคยเป็นจุดเด่นของบอลยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อย่างที่เราทราบๆกัน มันก็ไม่แปลกอะไร เพราะบอลสมัยใหม่ก็เล่นกันด้วยการยืนลักษณะนี้กันมากมาย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับโอเล่เลย

สำคัญที่สุดสำหรับแฟนผีก็คือ ระบบนี้เป็นระบบเก่งของ โค้ชที่พวกคุณอยากได้มากที่สุด อย่าง Erik ten Hag ด้วย

แคนดิเดทสองคนที่ดูน่าจะเป็นไปได้ที่สุดสำหรับตำแหน่ง ผู้จัดการทีมถาวรคนใหม่ ของแมนยูไนเต็ด ตอนนี้ก็มีชื่อของ เอริค เทน ฮาก และ เมาริซิโอ พอเชตติโน่ สองคนนี้ที่เบียดกันมาในความคิดเห็นอันเป็นที่ถกเถียงกันอยู่อย่างเมามันส์ของแฟนบอล  (ซึ่งผู้เขียนก็ไม่กล้าฟันธงเหมือนกันว่าใครดีกว่า กลัวโดนด่า ยังไม่เขียนถึงละกัน ฮา)

แคนดิเดทอื่นๆก็มีราล์ฟ รังนิค ตามมาห่างๆมากกว่าเดิม(หลังจากผลงานเริ่มไม่เข้าตาแฟนผีหลายๆส่วน) หรือจะเป็น เบรนดอน รอดเจอร์ส?

FYI : เอริค เทน ฮาก โปรดปรานระบบการเล่น "4-2-3-1" มากกว่า แต่ก็เล่น "4-3-3" ด้วยในบางครั้ง

ส่วน "พอช" แน่นอนว่าชัดเจนอยู่แล้ว กับแผน "4-3-3" ที่ถนัดการใช้ฟร้อนท์ทรี กลางสามตัวของแก

เมื่อดูจากที่รังนิคปรับทีมแล้ว สองแผนนี้น่าจะเป็นแผนการเล่นหลักๆของยูไนเต็ดไปอีกระยะใหญ่ๆ แต่กับระบบการเล่นปัจจุบัน ก็มีแนวโน้มเหมือนกันว่า ทีมอาจจะพยายามปรับไปเล่น "4-3-3 " มากขึ้นเรื่อยๆจนถึงระดับที่ถาวรในอนาคต

เนื่องจากหากวัดกันจริงๆแล้ว ปรัชญาและรากฐานการเล่นบอลเพรสซิ่งนั้น 4-3-3 ดูจะเหมาะ และเข้าแก๊ปกับการเล่นเพรสซิ่งมากกว่า โดยเฉพาะการใช้ High Pressing เป็นอาวุธ รวมถึง Gegenpressing ด้วย

ทีมที่เล่นเพรสซิ่ง และระบบใกล้เคียงกับที่รังนิคต้องการวางรากฐาน ก็คือลิเวอร์พูลกับแมนซิตี้นี่แหละที่เล่น 4-3-3

4-3-3 คือแผนที่สมดุล เพราะมีแดนกลางที่แข็งแกร่ง ด้วยการใช้กลางสาม และตัวรุกฟร้อนท์ทรี สามคน ซึ่งระบบนี้สามารถยืดหยุ่นทำให้เกมรุกโหดกว่าการใช้แค่ตัวรุกสามตัวบนเท่านั้น เพราะโดยธรรมชาติแล้ว กลางสองตัวในระบบนี้ จะสามารถเติมเกมรุกขึ้นสูงได้ตลอดเวลา

เมื่อรวมถึง "วิงแบ็ค" ที่จะเติมมาบุกได้อีกสองคน อาจจะทำให้ทีมที่เล่นแผน 4-3-3 สามารถมีตัวผู้เล่นเติมเกมรุกเป็นพื้นฐานอยู่ที่ "7 ตัว" ได้เลย (กองหน้า 3 + กลางรุก 2 + วิงแบ็ค 2) ในขณะที่หลังบ้าน ก็จะมีกลางต่ำคอยตัดเกม ชะลอเกมตรงกลางคนนึง และมี CB ห้อยท้ายไว้สองตัว

ย้อนกลับมาที่ "Florian Wirtz" เมื่อจะนำมาจับกับระบบ 4-3-3 หากว่าแมนยูไนเต็ดจะยึดแผนนี้ในอนาคต หากว่าเป็นพอช เข้ามาคุมทีม หรือเทน ฮาก ที่อาจจะมีปรับไปเล่น 4-3-3 ได้เหมือนกันนั้น ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ จะลงได้หรือไม่ในระบบ 4-3-3

คำตอบคือ "ได้"

วิธีการใช้ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ในระบบ 4-3-3 นั่นก็คือใช้เขาเป็นมิดฟิลด์เบอร์ 8 กึ่งเบอร์ 10 ได้ ในลักษณะเดียวกันกับที่ "เฟร็ด" กำลังพยายามเล่นคู่กับ "บรูโน่" ในช่วงที่ผ่านมา

มิดฟิลด์ตัวรุกคู่ "8s" นั่นเอง ฟลอเรียนสามารถลงในตำแหน่งนี้ได้ในแผน 4-3-3

ซึ่งเมื่อดูจากการเล่นแล้ว ต้องบอกเลยว่า ฟลอเรียน เวิร์ตซ์นั้น "เหมาะมาก" ในการที่จะไปสอยซื้อมาซะเลย แล้วจับเล่นคู่กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แทนเฟร็ด แทนป็อกบา (ที่ปีหน้าจะไม่อยู่แล้ว) ได้สบายๆ

และสาเหตุที่ต้องเปรียบเทียบกับบรูโน่ไว้ช่วงต้นบทความ ก็เพื่อคำอธิบายในพาร์ทนี้แหละ เพราะหากว่า ทีมอยากจะได้นักเตะมิดฟิลด์ตัวรุกแบบ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เข้ามานั้น จะยิ่งเหมาะกับการจับคู่กับพี่หนวดเลย นั่นเป็นเพราะว่า แม้สองคนนี้จะเล่นใน Role ที่คล้ายกันมากๆ อย่างการเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่เป็น Advance Playmaker เหมือนกัน

แต่.. สองคนนี้ "สไตล์ต่างกัน" โดยสิ้นเชิง

สไตล์ คือลักษณะวิธีการเล่นที่นักเตะถนัด และชอบ ก็อย่างที่บอกไปว่า บรูโน่เน้นการเล่นบอลเร็ว เปิดบอล วางบอลยาวให้ตัวรุกเข้าทำ เล่นบอลกล้าได้กล้าเสีย

ทางด้าน ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ คือกลางรุกตัวที่ชอบการเลี้ยงบอล ขับเคลื่อนเกมขึ้นแดนหน้าในลักษณะของเบอร์ 8 มีสกิลเทคนิคดี ครองบอลได้ เอาตัวรอดได้เก่งมากๆ ซึ่งแตกต่างจากบรูโน่ที่จะชอบจ่ายบอลมากกว่ากระชากขึ้นหน้าเอง ยกเว้นว่าถ้าจำเป็นและมีจังหวะหลุดจริงๆ

แต่ฟลอเรียน กระชากบอล และบุกขึ้นหน้าเองบ่อยครั้งกว่า ดังนั้นเรื่องการholding ก็แตกต่างกันแล้ว

ส่วนสไตล์การจ่ายบอล ก็ไม่เหมือนบรูโน่อีก เขาจะเหมือนฟานเดอเบคมากกว่า ตรงที่ใช้การจ่าย "บอลเรียด" อย่างที่วิเคราะห์ไปแล้ว และเล่นแทงสามเหลี่ยมให้เพื่อนหลุดทะลุไลน์กองหลัง ในลักษณะของการจ่าย "คิลเลอร์พาส" ไหลบอลนิ่มๆเรียดๆให้เพื่อนยิงนั่นเอง

ชัดเจนมากๆว่า สองคนนี้มิติการบุกในฐานะมิดฟิลด์คู่ 8s ต่างกัน ดังนั้น ในระบบ 4-3-3 ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ก็จะเล่นได้แน่นอน และรูปร่างหน้าตาของทีมก็จะออกมาในลักษณะนี้

ถ้าได้แบบนี้ก็วิ่งบุกกันกระจุยกระจายแน่นอน โขวโบกกกกก!!!

และทั้งหมดนี้ คือการรีวิว และวิเคราะห์การเล่นของนักเตะดาวรุ่งที่อายุเพียง 18 ปี และกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตกลางรุกคนใหม่ของอินทรีเหล็กในอนาคต

เอาจริงๆแล้วตอนแรกที่นั่งดูการเล่นของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เรายังไม่ปิ๊งเท่าไหร่ ไม่ได้ว้าวขนาดนั้น เพราะที่เห็นจะเป็นการเลี้ยงบอลซะเยอะ และลูกยิงประตูมันก็ต้องมีในคลิปพวกนี้อยู่แล้ว

ก็เลยคิดในใจว่า นักเตะคนนี้ดังกันเพราะสื่อเยอรมันอวยกันมากกว่า เพราะเด็กก็เพิ่งจะปังมาปีนี้ (ซีซั่นที่แล้ว ดูสถิติเชิงประจักษ์แล้วก็ไม่ได้เด่นอะไรมากมาย)

แต่เมื่อพิจารณาถึง "อายุ" ของนักเตะคนนี้ เทียบกับเทคนิคการเล่นในสนามที่อยู่ในระดับสูงใช้ได้ เราจึงคิดว่า ด้วยเบสการเล่นที่ทำได้ขนาดนี้ในวัยแค่ 18 ปี เอาจริงๆมันต้องเป็นนักเตะรุ่นๆเดียวกันกับพวก Ansu Fati, Youssoufa Moukoko และอาจจะรวมถึง Pedri ด้วยนั้น 

Florian Wirtz อาจจะยังไม่ได้เทคนิคเหนือชั้นหรือเก่งเท่ากับตัวดังๆพวกนี้ ในวัยใกล้ๆกัน (17/18/19)

แต่ถามว่าเป็นรองเยอะไหม ก็ไม่

เพราะเทคนิคการเล่นโดยรวมเข้าขั้นดีมาก เบสิคสกิล และโดยเฉพาะภาคการ "คอนโทรลบอล" ผู้เขียนคิดว่ามันเป็นสิ่งพิเศษและมหัศจรรย์ในตัวของ "สามเหลี่ยมมรณะแห่งอินทรีเหล็ก" คนนี้มากๆ

อายุแค่ 18 แต่เป็นตัวแบกเกมรุกของทีมระดับห้างยาแล้วนั้น ถือว่าไม่ธรรมดาเลย แปลว่าPotentialการเล่นของฟลอเรียนยังไปได้อีกไกลมาก

"เวิร์ตซ์ กับ แวร์ตซ์" ศิษย์ร่วมสำนักเซียนเต่า

ถ้ามันจะมีอะไรที่ขาดไปของฟลอเรียน ก็อาจจะเป็นเรื่องของเสน่ห์การเล่นเฉยๆ ที่อาจจะไม่ได้ถึงกับดูแล้วทึ่ง เพราะเป็นพวกเล่นช็อตมหัศจรรย์เหมือนพวก อันซู ฟาติ พวกนั้น

เพียงแต่ว่า ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ โตมากับบอลเยอรมัน และการเล่นของเขามันดูแล้วเห็นชัดมากๆว่า นี่คือตัวกลไกที่เหมาะกับการเล่นที่เข้ากันกับ "บอลระบบ" มากกว่าเน้นความสามารถเฉพาะตัว

ถ้าใครดูคลิปการเล่นของเขาแล้วจะบอกว่า "เห็นแล้วก็เฉยๆ" ก็ไม่แปลกเลย เพราะผมก็มีรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันในด้านความหวือหวา ที่ดูแล้วก็งั้นๆ

แต่หากพิจารณาดีๆ ฟลอเรียนเป็นเหมือนเครื่องจักรที่แม่นยำ และทำงานได้อย่างแน่นอนมากๆอีกคน

หากว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะมีรากฐานใหม่ที่ เน้นบอลระบบมากขึ้นกว่าเดิม จากการเป็น Consultancy ของราล์ฟ รังนิค ไปอีกราวๆสองปีครึ่งที่จะวางรากฐานตรงนี้ไว้

การจะดึงเอานักเตะเยอรมันที่ฝีเท้าโดดเด่น และดูจะเข้ากับ "บอลระบบ" ก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้ ที่สายตายาวไกลของรังนิค จะจี้ให้บอร์ดไปดึงเอาฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มาเข้าทีม ในฐานะนักเตะตัวหลักระยะยาว คล้ายๆตอนซื้อชอว์มาเป็นแบ็คซ้ายของทีม

แน่นอนว่า เกมเพรสซิ่งของฟลอเรียน เวิร์ตซ์ มีติดตัวอยู่แล้วจากบอลเยอรมัน กับสถิติการเพรสสำเร็จ (Successful Pressure) อยู่ที่ 36.3% สูงกว่าทั้งแม็ค และ ทั้งเฟร็ดด้วยซ้ำ

(เฟร็ด 27.6% แม็คเพรสสำเร็จ 26.5% ด้วยจำนวนการเพรสของฟลอเรียนที่พอๆกัน > น้อยกว่าเฟร็ด แต่เยอะกว่าแม็ค)

และเมื่อเทียบสถิติเกมรุกของนักเตะตำแหน่งเดียวกัน4คน ได้แก่ เวิร์ตซ์, บรูโน่, เม้าท์ และ โฟเด้น ผลออกมาดังนี้

Wirtz : จ่ายสำเร็จ 75% / ยิงเข้ากรอบต่อเกม 0.71 / Shot Creationต่อ90นาที 5.45 / Goal Creationต่อ90นาที 1.36 

B.Fernandes : จ่ายสำเร็จ 73.2% / ยิงเข้ากรอบต่อเกม 0.66 / SCA ต่อ90นาที 4.43 / GCA ต่อ90นาที 0.36 

Mount : จ่ายสำเร็จ 76.3% / ยิงเข้ากรอบต่อเกม 1.19 / SCA ต่อ90นาที 3.88 / GCA ต่อ90นาที 0.56 

Foden : จ่ายสำเร็จ 80.2% / ยิงเข้ากรอบต่อเกม 1.15 / SCA ต่อ90นาที 3.28 / GCA ต่อ90นาที 0.57 

จากการประมวลสถิติการเล่นแล้ว เกมรุกของ ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ดูจะดุเดือดและช่วยสร้างสกอร์ให้ทีมเยอะมากในแต่ละนัด

สถิติการลงลงสนามของเขาในปีนี้ ครึ่งซีซั่นที่ผ่านมา เด่นกว่ามิดฟิลด์ตัวรุกอีกสามคนที่เหลือในลิสต์นี้อยู่แบบเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ SCA กับ GCA ที่เล่นกับทีมระดับเลเวอร์ฯ แล้วปั้นเกม ทำเกมได้ขนาดนี้ ด้วยวัยแค่นี้

ดูยังไงๆ นี่ก็เป็นดาวรุ่งแห่งอนาคตของทีมชาติเยอรมันอย่างแท้จริง ที่แฟนบอลควรจะรู้จักเขาเอาไว้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่บทความนี้เกิดขึ้นมาให้ผู้อ่านได้อ่านกันครับ

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลการวิเคราะห์แบบ original ของศาลาผี ที่เป็นเพียงข้อมูล "เบื้องต้น" เท่านั้น

ยังลงลึกได้มากกว่านี้อีกเยอะ

ซึ่งหากว่ากระแสกับทีมมากกว่านี้ หรือมีโอกาสอื่น ก็ยังมีข้อมูลวิเคราะห์ที่ลงลึกไปมากขึ้นกว่านี้อีก จากแหล่งข้อมูลวิเคราะห์อื่นๆที่อาจจะหามาเพิ่มเติมให้ ซึ่งมันก็พอจะมีข้อมูลเพิ่มเติมด้านเจาะลึกการเล่นลงไปอีก

และถ้าเราจะซื้อมาเสริมกองกลางเพื่อเป็นตัวหลักเล่นเบอร์ 8 แทนแม็คเฟร็ด บอกได้เลยว่า ทีมจะโหดขึ้นอีกเป็นกระบุงโกย เพียงแค่เปลี่ยนนักเตะที่มีทักษะการเล่นดีกว่า คุณภาพก็เปลี่ยนไปสิ้นเชิง เหมือนที่คุณเห็นความต่างของ Dalot กับ Wan-Bissaka นั่นแหละ

เขาคือมิดฟิลด์ผู้มีพลังเต็มพิกัด สลัดจอมลุย ที่จะกระชากบอลควบตะบึงไปข้างหน้าให้ทะลุ อย่างไม่หยุดยั้ง

"สามเหลี่ยมมรณะ" Florian Wirtz

-ศาลาผี-


References

https://fbref.com/en/players/e7fcf289/Florian-Wirtz?

https://www.transfermarkt.com/florian-wirtz/leistungsdaten/spieler/598577?

https://www.whoscored.com/Players/394786/Show/Florian-Wirtz?

https://soccerment.com/wonderkids-florian-wirtz/

https://twitter.com/analytics_hp/status/1451260047825113101

https://fbref.com/en/stathead/player_comparison.cgi?request=1&sum=0&comp_type=by_type&dom_lg=1&spec_comps=big_5&player_id1=e7fcf289&p1yrfrom=2021-2022&player_id2=507c7bdf&p2yrfrom=2021-2022&player_id3=9674002f&p3yrfrom=2021-2022&player_id4=ed1e53f3&p4yrfrom=2021-2022


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด