"Road to Manchester" เส้นทางก่อนจะมาเป็นอสูรของ Raphael Varane
ราฟาเอล วาราน เป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของโลกฟุตบอลในยุคปัจจุบัน และได้ย้ายมาร่วมทีมกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับทางคอนเทนต์ของ Inside United ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และแบ็คกราวน์ของอาชีพนักฟุตบอลจนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้
ดาวเตะเฟร้นช์แมนรายนี้ถูกริบประตูไปอย่างโหดร้ายในเกมที่ยูไนเต็ดเสมอกับเบิร์นลีย์ 1-1 เมื่อสัปดาห์ก่อนจากประเด็น VAR Review ที่ไม่มีมาตรฐาน และผู้ตัดสินอย่าง ไมค์ดีน ก็มาดูจอข้างสนาม แต่ยังไงก็ตามวารานก็ยังแสดงฝีเท้าอันยอดเยี่ยมอยู่ดีในเกมนั้นรวมถึงช่วงท้ายๆที่เกือบยิงได้ด้วยลูกไขว้อีกด้วย
ที่จริงแล้วราล์ฟ รังนิค ผู้จัดการทีมชั่วคราวของสโมสรรู้สึกว่า เพอร์ฟอร์มการเล่นของวารานในเกมเอฟเอคัพเจอมิดเดิลสโบรห์นั้นก็เป็นเกมที่ฟอร์มดีที่สุดอีกเกมเช่นกันสำหรับปีศาจแดง ซึ่งในคราวนี้วารานให้เวลากับทางเว็บไซต์ official ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่จะถูกตีพิมพ์ในแม็กกาซีนอย่างเป็นทางการของสโมสรอย่าง Inside United
วารานพูดคุยกับเราดังบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ ซึ่งเชื่อว่าแฟนผีเองก็อยากจะรู้จักเขาให้มากขึ้นเช่นกัน เพราะนับตั้งแต่วารานย้ายมา เขาไม่ได้มีข่าวอะไรที่หวือหวามากเท่าไหร่ แต่เป็นกองหลังที่ฟอร์มมั่นคงที่สุดในทีมฤดูกาลนี้ซึ่งฝากผีฝากไข้ได้ และไม่ก่อความผิดพลาดในแผงหลังเลย
ราฟาเอล ที่เรากำลังจะพูดคุยถึงเรื่องราวของคุณ เราย้อนไปถึงสมัยเริ่มต้นเลยได้ไหม ความทรงจำแรกๆของคุณกับฟุตบอลมีเรื่องอะไรบ้าง
"ผมคิดว่าน่าจะเป็นภาพที่บ้านผมกับครอบครัว กับพี่ชายของผม บ้านน่าจะเป็นความทรงจำแรกสุดของผมนะเกี่ยวกับฟุตบอล"
และมันก็น่าจะสู้ด้วยลำบากเลยใช่ไหมที่ต้องเล่นกับพี่ที่แก่กว่า ตัวใหญ่กว่าคุณ มีร้องไห้มั่งมั้ย?
"ใช่ครับ ยากมาก เขาพยายามจะชนะผมให้ได้ตลอด ดังนั้นผมเลยรู้สึกว่าสิ่งนี้มันกระตุ้นความรู้สึกและแรงขับของผมที่ทำให้เกิดความพยายามที่จะแข่งขันอยู่ตลอดเวลา
มันเป็นสิ่งที่ดีกับคุณมากๆเลย พ่อคุณมาจาก Martinique นี่ แต่ว่าที่ฝรั่งเศสเป็นไงบ้างตอนที่คว้าแชมป์โลกปี 1998 ที่บ้านเฮกันลั่นทุกคนเลยมั้ย
"เป็นความทรงจำที่ดีมากๆเลย ใช่แล้วตอนนั้นผมยังเด็กมาก แต่จำความได้แล้วนะ และก็มีความทรงจำอยู่"
ได้ข่าวคุณเล่นรักบี้ด้วยนี่ตอนแรกๆ เคยคิดอยากไปเล่นบ้างไหมหรือว่าอยากเล่นฟุตบอลแค่อย่างเดียวสำหรับคุณ
"ไม่ครับ เล่นฟุตบอลเท่านั้น"
คุณต้องไปเข้าโรงเรียนประจำ อยากถามว่าช่วงนั้นลำบากไหมกับชีวิตที่ต้องไปอยู่ไกลบ้านเพื่อไปเรียนหนังสือ
"ใช่ครับ สำหรับผมมันลำบากอยู่ มันวุ่นวายและก็เหนื่อยมาก แต่ยังไงก็ตามการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ และฟุตบอลก็เช่นกัน เพราะงั้นมันเลยยากในประเด็นที่ต้องทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน แต่แม่และพ่อของผมอยากจะช่วยและผลักดันให้ผมได้ทำทั้งสองอย่างนี้ได้"
เรื่องนี้ช่วยพัฒนาตัวตนของคุณให้กลายเป็นนักกีฬาอาชีพรึเปล่าที่ต้องพยายามอย่างมากยามที่ต้องอยู่ที่ห่างไกล
"ใช่เลย ผมคิดว่ามันเป็นโรงเรียนที่ดีเลยสำหรับการเรียนรู้ที่จะสู้และเข้มแข็งไว้ และด้านจิตใจที่จะไม่ยอมแพ้ด้วย"
การย้ายไปเล่นที่ล็องส์ และเล่นตำแหน่งกองหลังตัวกลางซึ่งตามปกติจะต้องมีอายุหน่อยนึงและมีประสบการณ์มาพอควร แล้วคุณสามารถทะลุขึ้นไปสู่ทีมได้ยังไงตั้งแต่อายุยังน้อย
"ผมคิดว่าตัวผมพร้อมนะ และมันเป็นเรื่องยากเวลาที่คุณอายุยังน้อย เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะต้องมีเล่นพลาดบ้างเพื่อจะได้พัฒนาขึ้น แต่ว่าในระดับมืออาชีพแล้วไม่มีใครมานั่งรอหรอก(ฮา) เพราะงั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยากหน่อยที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อยๆ แต่ผมว่าผมก็สร้างตัวตนขึ้นมาจากตรงนั้น ซึ่งก็ไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผมกับทุกๆคน ไม่มีอะไรสบายเลยในยามที่ต้องสู้เพื่อแย่งตำแหน่ง และลงเล่นด้วยความแฮปปี้ให้ได้"
แล้วรุ่นพี่ในทีมกับโค้ชได้ช่วยอะไรคุณมั้ยในช่วงนั้น?
"แน่นอนอยู่แล้ว มันสำคัญมากๆยามที่คนอายุน้อยๆต้องการความสบายใจร่วมกับเพื่อนทุกๆคนในทีม พวกเขาเหล่านั้นที่มีประสบการณ์มากกว่าสามารถช่วยคุณให้มั่นใจและนิ่งขึ้นได้เยอะ"
คุณเป็นกัปตันทีมก่อนที่จะย้ายไปอยู่เรอัลมาดริด มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยที่จะได้รับเกียรติแบบนั้นขณะที่อายุยังน้อยๆ เพราะงั้นก็อีกนั่นแหละว่า นั่นเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวตนของคุณได้ไหม?
"ใช่ มันเป็นฤดูกาลที่เหนื่อยมากสำหรับสโมสร ผมได้รับตำแหน่งกัปตันทีมในบางเกม เพราะงั้นมันเป็นเกียรติมากๆสำหรับผม ผมพยายามที่จะช่วยทีม ดังนั้นผมเลยพยายามที่จะนึกถึงเพื่อนร่วมทีมและกลุ่มของเราอยู่ตลอดเวลา"
ผมรู้มาว่าเหมือนมีโอกาสที่คุณจะได้ย้ายมาแมนยูด้วยซึ่งเซอร์อเล็กซ์เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่จริงๆแล้ว คุณได้เจอป๋าไหมและเขาไปหาที่บ้านคุณจริงรึเปล่า?
"จริงๆๆ เขามาที่บ้านของแม่ผม มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษจริงๆ ผมยังอายุน้อยมากและมันเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมเลยล่ะ"
เซอร์อเล็กซ์มักจะดูออกว่านักเตะคนไหนเก่ง คุณรู้สึกไหมว่ามันเป็นโชคชะตา และอาจจะได้ย้ายมายูไนเต็ดสักวันนึง อย่างที่เราคอยติดตามการเล่นของคุณอย่างต่อเนื่อง
"ใช่ครับ ผมคิดว่าเป็นเช่นนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่พิเศษสำหรับผมเสมอ ประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ ผมติดตามสโมสรนี้อยู่ตลอด และผมก็จำเรื่องราวดีๆหลายอย่างของที่นี่ได้ ยกตัวอย่างเช่นเกมแชมเปี้ยนส์ลีก และเกมพรีเมียร์ลีกที่สำคัญๆ ที่นี่ยอดเยี่ยม และผมก็ตามดูแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดตลอด"
ก็เป็นเรอัลมาดริดที่คุณไปอยู่ก่อนที่จะมาที่นี่ และคุณก็ประสบความสำเร็จด้วย ในห้องแต่งตัวที่นั่นเป็นไงบ้างเวลาที่อยู่กับทีมที่รายล้อมไปด้วยกาลาคติกอส และดาวเตะระดับโลกเต็มไปหมดตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนั้น
"ผมว่าผมอายุน้อยมากเลยนะ ประสบการณ์เหล่านั้นมันน่าเหลือเชื่อมาก ผมอยู่มาสิบปีที่สโมสรใหญ่แห่งนี้ และได้รับโอกาสสำคัญมากๆในชีวิตตั้งแต่ยังเด็กๆที่ได้ย้ายมาสโมสรอย่างมาดริด ผมมีความสุขกับสถานที่แห่งนั้นตลอดเวลา มีความทรงจำที่ยิ่งใหญ่มากมาย และเพื่อนก็เต็มไปหมดในมาดริด เพราะงั้นมันจึงมีแต่สิ่งดีๆที่เป็นเรื่องpositiveทุกครั้งที่ผมจะพูดถึงมาดริด"
เคยดูเรื่องราวในสารคดีของคุณ คุณมีบอกให้คริสเตียโน่เรียกคุณว่า "ราฟา" ตั้งแต่แรกๆเลย เพราะงั้นแปลว่าคุณก็รู้สึกว่าตัวเองสามารถลงเล่นในระดับนั้นได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆเลย และสามารถพูดคุยและเป็นเพื่อนร่วมทีมกับดาวเตะดังๆเหล่านี้ได้ใช่ไหม
"ผมคิดว่าผมจำเป็นต้องเรียนรู้มากขึ้น พัฒนามากขึ้น แสดงตัวตนออกมาให้เห็น และทำให้คู่หูที่ลงเล่นด้วยของผมเค้ารับรู้ว่าผมสามารถเล่นให้สโมสรนี้ได้ท่ามกลางความกดดันในระดับนี้ มันสำคัญมากๆที่จะต้องแสดงให้เห็นว่าตัวผมมีคาแรคเตอร์ที่อยู่ในระดับท็อป"
ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยกันเรื่องอื่น ในแชมเปี้ยนส์ลีกตอนที่มาเจอกับยูไนเต็ด มันยังติดในใจเราอยู่ เพราะเรารู้สึกว่านานี่โดนใบแดงที่ไม่แฟร์มากๆ คุณมีความทรงจำอะไรในเกมนั้นบ้าง
"ผมจำได้ว่าบรรยากาศมันโคตรสุดยอด เป็นการกลับมาที่นี่ของคริสเตียโน่ด้วยนะ เพราะงั้นมันเป็นวันที่พิเศษจริงๆ และเป็นผลการแข่งขันที่ดีสำหรับเรา เป็นช่วงแรกๆของอาชีพที่ได้ลงเตะในแชมเปี้ยนส์ลีกเลย เพราะงั้นมันจึงเป็นเหตุการณ์ที่พิเศษมาก"
แต่ใบแดงนั้นไม่ค่อยยุติธรรมจริงๆนะ
"(ฮา)"
Cuneyt Cakir ชื่อนี้ไม่เคยลืม
ย้อนกลับไปที่เรื่องครอบครัวของคุณ ตอนนี้คุณมีชีวิตครอบครัวของตัวเองแล้วกับลูกๆของคุณ มันสำคัญและช่วยคุณในการเป็นที่พักใจและออกห่างจากฟุตบอลได้ไหม
"ใช่ครับ มันสำคัญมากๆเพื่อสมดุลชีวิตของผม ผมว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในชีวิตของผมและครอบครัวเลยนะ แต่ผมว่ามันดีมากๆ เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ย้ายมาที่นี่ และเราก็มีความสุขดีมากที่แมนเชสเตอร์ ผมก็เลยคิดว่าประสบการณ์นี้จะเป็นสิ่งที่ดีเอามากๆสำหรับผมและครอบครัวด้วย"
แมนเชสเตอร์เป็นยังไงบ้าง คุณได้ไปเมืองแถวๆนี้ในโซนตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษรึยัง
"อาฮะๆ เอาจริงๆเลยนะเมืองนี้ดีมากๆ เป็นเมืองที่น่ารักและผมชอบความรู้สึกของผู้คนที่นี่ ผมรู้สึกดีมากๆ ผมชอบบรรยากาศในเมือง"
รูเบน ลูกน้อยของคุณเล่นเป็นกองหน้านี่ เราถูกฝากมาถามว่า เท้าซ้ายเค้าเป็นไงบ้าง!
"ใช่ เค้าเตะบอลเท้าซ้าย เขาชอบเล่นฟุตบอลมากๆ เขารู้จักชื่อนักเตะและอยากเตะบอลกับผมมากๆ บางทีผมต้องบอกเค้าให้พักบ้างเพราะว่าเขาคิดถึงแต่ฟุตบอลอย่างเดียว และก็อยากเตะบอลตลอดเวลา(ฮา)"
คุณเป็นนักเตะคนโปรดของเค้ารึเปล่า หรือมีคนอื่นไหมที่เขาชอบ
"ผมคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะยังไม่มีนักเตะในดวงใจนะ เขาแค่อยากเล่นฟุตบอลให้สนุกอย่างเดียว"
ผมแน่ใจว่าคุณต้องเป็นขวัญใจเค้าแน่ๆ และคุณมีกลับไปทำงานร่วมกับโค้ชที่ Martinique ถิ่นฐานที่ประเทศบ้านเกิดใช่ไหม
"ใช่ ในMartinique และก็ฝรั่งเศส เรามีวิทยาเขตอยู่บางแห่ง และเราก็พยายามจะสอนฟุตบอลให้แก่พวกเด็กๆในสถานที่เหล่านี้ มันน่าสนใจมากๆสำหรับผม เพราะผมอยากจะช่วยเหลือและก็แบ่งปันมอบประสบการณ์กับพวกเขา"
เรื่องเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของคุณอย่างที่เรารู้กันก็คือ คุณฉลาดและเป็นผู้ใหญ่มากๆ อยากถามว่าการศึกษามันช่วยตรงนี้ด้วยใช่ไหมที่ทำให้คุณเติบโตขึ้นมาและเป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
"ผมคิดว่าการศึกษามันสำคัญมากๆจริงๆ และไม่ใช่แค่ผมด้วยแต่กับทุกๆคนเลย ผมอยากจะขอบคุณพ่อแม่ของผมมากๆ เพราะพวกเขาเลยที่ให้โอกาส ผมว่ามันสำคัญมากๆกับค่านิยมในการที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น พยายามเป็นคนที่เก่งขึ้นในทุกๆวัน"
คุณจะส่งต่อสิ่งนี้ไปยังลูกๆไหม ไม่ว่าเขาจะเลือกไปฟิลด์ไหนที่ต้องการ ที่จะบอกเขาว่าการศึกษายังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
"แน่อนครับ ผมจะเล่าให้พวกเขาฟังว่าผมเรียนอะไรมาบ้าง และการศึกษามันสำคัญเอามากๆ"
ปอล ป็อกบาบอกว่า คุณเหมือนน้ำนิ่งที่อยู่กลางพายุ และเขาเป็นเหมือนไฟ ประโยคนี้เป็นเพราะบุคลิกที่ชิลๆผ่อนคลายๆของคุณใช่ไหม
"ผมคิดว่ามีความเป็นผู้นำอยู่หลายๆแบบ ปอลมีความกร้าวและทรงพลังมาก ส่วนผมจะนิ่งกว่า และเน้นการวิเคราะห์และปฏิบัติในสิ่งต่างๆ มันเป็นมุมมองที่ต่างกัน ผมคิดว่ามันสำคัญมากๆที่จะมีสิ่งเหล่านี้ในแง่ของความแตกต่างของการเป็นผู้นำ"
ใครเป็นคนแรกๆที่คุณโทรหาหลังจบเกม เรารู้มาว่าคุณชอบวิเคราะห์เกมด้วย
"พี่ชายผมครับ เขาจะโทรมาและเราคุยกันว่าอะไรดีอะไรไม่ดี มีการพัฒนายังไงบ้าง วิเคราะห์ยังไงบ้าง เป็นแบบนี้ตลอดครับหลังเกม ผมว่าเรายังมีอีกเล็กๆน้อยๆที่น่าจะทำได้ดีกว่านั้น และผมพยายามจะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด"
ชีวิตในพรีเมียร์ลีกเป็นไงบ้าง นักเตะส่วนใหญ่มักจะพูดถึงเรื่องเกมที่เน้นด้านกายภาพและความเข้มข้นของฟุตบอล เวลาที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ช่วงแรกๆ
"ใช่ครับ มันเข้มข้นและแตกต่างมากๆ ความเร็วของเกมคือเดือดมากจริงๆ อยู่ในระดับที่สูงเลย มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ผมชอบรรยากาศรอบๆสนาม ผมชอบแนวคิดความรู้สึก มันเข้มข้นมากแต่ว่าก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่ดีและมีความpositiveสูง ประสบการณ์นี้มันเยี่ยมมากๆเลยสำหรับผมนะ"
มักจะมีการพูดบ่อยๆว่าไม่มีเกมไหนง่ายเลยสำหรับพรีเมียร์ลีก ทุกๆทีมแม้กระทั่งทีมท้ายตารางก็เล่นด้วยยากเสมอ คำกล่าวนี้มันจริงไหม
"ใช่ครับ เกมการแข่งขันมันต่างไปเลย คุณจะมาทำสบายๆไม่ได้เลย ถึงจะเหลือแค่สิบนาทีก็ยังมีโอกาสที่จะแพ้ชนะกันอยู่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ผมคิดว่าที่นี่น่าจะเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก และความเข้มข้นดุเดือดที่นี่มันน่ามหัศจรรย์มากๆ ทุกๆทีมมีนักเตะคุณภาพระดับท็อป และในเชิงแทคติกมันอยู่ในระดับสูงจัดๆ และมีผู้เล่นกับโค้ชมากมายจากที่ต่างๆทุกที่บนโลกใบนี้ ดังนั้นมันเลยเป็นการผสมผสานกันของวัฒนธรรมฟุตบอลที่ต่างกัน และสไตล์การเล่นของนักเตะที่หลากหลายรวมถึงด้านmentalityด้วย"
"เพราะเหตุนี้แหละทำไมลีกนี้ถึงสุดยอด เพราะว่ามันเป็นการรวมเอาที่สุดมาจากทุกๆที่ไง คุณรู้อยู่แล้ว(ฮา)"
มีคนจากเชื้อชาติต่างๆเยอะแยะไปหมดที่นี่ คุณมีอะไรแปลกใจกับลีกไหม
"ไม่ ไม่เลย ผมรู้อยู่แล้ว"
เป็นยังไงบ้างกับการเปิดตัวต่อหน้าแฟนๆที่โอลด์แทรฟฟอร์ดก่อนเกมเจอนิวคาสเซิล เป็นโมเมนต์ที่พิเศษสุดเลยไหม
"แน่นอนครับ มันสุดมาก ผมจะไม่ลืมช่วงเวลาตอนนั้นเลย"
มันทำให้คุณรู้สึกได้ทันทีเลยไหมว่าที่นี่เหมือนได้อยู่บ้าน ได้สัมผัสความรักจากแฟนๆที่ชอบคุณตั้งแต่ย้ายมาเลย
มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนๆ และผมคิดว่าเรื่องนี้แหละคืออีกหนึ่งเหตุผลที่ผมจะแสดงฝีเท้าให้ดีที่สุดเพื่อช่วยทีม สู้ทุกๆวันเพื่อช่วยสโมสรคว้าแชมป์มาให้ได้
มีการสร้างความสัมพันธ์และทานข้าวด้วยกันที่ร้านอาหาร คุณสนุกกับการได้ทำความรู้จักเพื่อนร่วมทีมใหม่ไหม
"ใช่ครับ มันดีมาก ผมคิดว่าผมรู้จักแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนะ มันมีความเป็นครอบครัวอยู่ ผมรู้สึกอย่างนั้น ผมคิดว่าผมได้อยู่ในครอบครัวนี้ ความสัมพันธ์กับเพื่อนๆในทีมก็ดีด้วยอย่างที่ผมบอกว่า สภาพจิตใจของที่นี่ดี ผมชอบ ผมรู้สึกดีมากๆกับเพื่อนร่วมทีมที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน"
บางทีมันอาจจะทำให้การมาอยู่ที่นี่ง่ายขึ้นใช่ไหมเมื่อมี French connection อยู่ที่นี่ด้วย ไม่ใช่แค่ ปอล กับ อ็องโตนี่นะ แต่รวมถึงนักเตะหลายๆคนในอดีตด้วย ไม่ว่าจะเป็น ก็องโต้ บล็องก์ เอฟร่า ฯลฯ มันเป็นการสืบทอดประเพณีดังกล่าวรึเปล่า
"ใช่เลย เป็นเกียรติมากที่ได้มีชื่ออยู่ในยอดนักเตะเหล่านี้ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ผมแค่อยากจะสนุกไปกับมัน และผมก็ดีใจที่มีคอนเน็คชั่นดังกล่าวนี้กับสโมสรและแฟนบอล"
อะไรคือความมุ่งหมายของคุณในอีกหลายปีข้างหน้ากับยูไนเต็ด คุณอยากประสบความสำเร็จเรื่องไหนบ้าง
"ผมมาที่นี่เพื่อช่วยสโมสรคว้าแชมป์และมีความสุขไปกับแฟนๆที่นี่ รวมถึงอยากจะเล่นให้ดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ด้วย"
คุณถูกพูดถึงเรื่องภาควิเคราะห์มากๆ คุณได้ดูกองหลังคนอื่นๆในระดับทวีปไหมและก็เรียนรู้สิ่งอื่นๆจากพวกเขา
"เวลาที่ผมดูบอลผมไม่ได้ดูแต่การยิงประตูอย่างเดียว ผมดูเรื่องการตัดสินใจด้วยว่าเซ็นเตอร์แบ็คควรทำยังไงบ้าง เขาอยู่ตำแหน่งที่ดีไหม เขาตัดสินใจถูกรึเปล่า ผมพยายามจะวิเคราะห์อะไรแบบนี้อยู่เสมอๆ"
แปลว่าชัดเจนว่าคุณศึกษาเกมด้วย และมันก็เร็วมากเลยนะเพราะคุณเพิ่ง 28 คุณคิดว่าในอนาคตคุณจะเป็นโค้ชระยะยาวเลยไหม หรือว่าตอนนี้ยังเร็วไปที่จะถามเรื่องนี้
"ไม่รู้เลยครับ จริงๆนะ เดี๋ยวถึงเวลาค่อยว่ากัน ผมไม่รู้จริงๆ"
ดูเหมือนว่ามันยังอีกยาวไกล แต่คุณก็สนใจฟุตบอลมากๆ ในฐานะที่เป็นผู้เรียนรู้ คุณศึกษามันตลอดเวลาเลยใช่ไหม
ใช่ แต่ผมก็พยายามจะออกห่างและก็คิดถึงเรื่องอื่นบ้าง เพราะบางทีผมก็อยากพัก มันเป็นไปได้ที่คุณสามารถนึกถึงฟุตบอลได้ตลอด 24 ชั่วโมงนั่นแหละ เพราะงั้นการคิดเรื่องอื่นบ้างก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมนะ เช่นเดียวกันกับการหันเหไปยังเรื่องของครอบครัวและสิ่งอื่นๆด้วย
ขอพูดสั้นๆนิดเดียว ภาษาอังกฤษคุณดีมาก สุดยอดเลยที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ทุกอย่าง คุณเรียนรู้เร็วมากๆ
"ไม่เลยๆ ผมเริ่มเรียนมา และมันสำคัญมากๆสำหรับผมเพื่อที่จะอยู่ได้สะดวกหน่อยในเมืองนี้ รวมถึงกับเพื่อนร่วมทีม และก็สื่อสารกับแฟนๆก็ด้วย เรื่องนี้สำหรับผมสำคัญมากและผมก็ยังอยากจะพัฒนาให้มากขึ้นอีก จะให้มันดีขึ้นไปเรื่อยๆไม่หยุด"
คำถามสุดท้ายละครับ เราได้อ่านมาว่าคุณมีคาถาที่คุณใช้มาตั้งแต่เด็กๆด้วย อาจจะแปลออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นะ แต่มันประมาณว่า "ล้มบ้างก็ได้ แต่ลุกขึ้นมาให้ได้" อันนี้จริงไหม
"ใช่ครับ มันเป็นเรื่องที่ผมเรียนรู้มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ มันเป็นช่วงที่ผมบาดเจ็บ โมเม้นต์ที่แย่ๆเลย ผมรู้ดีว่ามันก็ชัดเจนนะ แต่ว่าเวลาที่ยากลำบาก มันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่คุณจะต้องยอมเปิดเผยตัวตนมา และกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิมให้ได้ นั่นแหละครับว่าทำไมมันถึงได้สำคัญ"
เพราะงั้นคุณก็เลยมีคำๆนี้อยู่ในใจตลอดเวลา
ใช่ครับ ตลอดเวลาเลย
Reference
https://www.manutd.com/en/news/detail/raphael-varane-in-depth-interview-on-background-in-full-2022