ไม่ต้องให้ใครมาลิขิต
หลังโชว์ผลงานสุดสะเด่า ไล่เป่าพลพรรค “ยัง ไลออนส์” สิงคโปร์ แบบราบคาบด้วยสกอร์ 3-1
ที่สำคัญรูปแบบการเล่นยังชวนปาหัวใจให้อีก
ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม แทบไม่มีแฟนบอล “ตั้งความหวัง” อะไรกับทีมชุดนี้มากนัก ด้วยข้อจำกัดเกมลีกในประเทศ ที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อโค้งสุดท้าย เกือบทุกสโมสรปฏิเสธปล่อยนักเตะในสังกัด มาสวมยูนิฟอร์มทีมชาติไทย
สมาคมฟุตบอลฯ จำเป็นต้องใช้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่มี ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย เฮดโค้ชคนหนุ่มชาวสเปน คุมทัพ โดยผสมผสานผู้เล่นบางคนจากรุ่น 23 ปี ที่ไม่ได้เป็นแกนหลักให้กับสโมสรมาช่วย
และเมื่อเป็นทัวร์นาเมนต์เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ส่งทีมชุดเล็กไปแข่ง สมาคมฟุตบอลฯ เองก็ไม่กล้าตั้งเป้าว่าจะต้อง “คว้าแชมป์”
เช่นเดียวกับแฟนบอลขาจรส่วนใหญ่ ที่ยังแทบไม่รู้จักมักจี่คุ้นชื่อนักเตะชุดนี้เลยด้วยซ้ำ การไปตั้งธงว่าต้องประสบความสำเร็จ กับเด็กโนเนมที่ “แบกอายุ” ไปวัดกระดูกลูกหนังในกับรุ่นใหญ่กว่า ดูจะเป็นเรื่องโหดร้ายเกินไป
“ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง” เด็กเหล่านี้เป็นใครไม่รู้ รู้แค่เมื่อสวมยูนิฟอร์มช้างศึก ยังไงก็ต้องเชียร์
ภาพที่วาดไว้ในหัวมีเพียงขอให้น้อง ๆ “สู้ให้เต็มที่” พี่ไม่ซีเรียสเรื่องผลการแข่งขัน
แต่ความเป็นจริงที่พบคือ เด็กชุดนี้ “โหดสัส” เอาเรื่อง
เล่นบอลมีระบบแบบแผนชัดเจน ไล่ตั้งแต่การบิวท์อัพเกมหน้าปากประตู บอลเท้าสู่เท้าแม่นยำ กล้าเล่น กล้าเลื้อยในจังหวะ 1-1 ผู้เล่นที่ไม่มีบอลขยับเข้าหาช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี
ไม่มีโยนสุ่มสี่สุ่มห้าไปวัดดวงหน้าเขตโทษคู่ต่อสู้
“ใจเย็น”
“เคลื่อนที่น้อยไปเพื่อน ขยับมากกว่านี้หน่อย”เสียงตะโกนจากน้อง ๆ ในทีมที่ช่วยกันกระตุ้นเพื่อน ช่วยกันสื่อสารในสนาม ดังทะลุจอทีวีมาตลอด
อาจมีช็อต “เหวอ” พลาดง่าย ๆ ให้เห็น ตะกุกตะกักยามโดนคู่แข่งเพรสซิ่งจนลนบ้าง แต่เมื่อจูนกันติด พวกเขากลับสามารถยกระดับเกมให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีก
การถูกสิงคโปร์ออกนำก่อน แทบไม่ได้ทำให้เด็ก ๆ สูญเสียความมั่นใจ พวกเขายังกล้าเล่น กล้าเลี้ยง กล้าแทงบอลยัดฝากเพื่อนเหมือนเดิม
บอลเท้าสู่เท้าเป็นรูปแบบหลัก สลับโยนยาวบ้างเมื่อมีโอกาส ทำเสียก็ไล่บี้ ไล่เพรสเอาบอลกลับคืนมาได้ คุมเกมอยู่หมัด เล่นเอาสิงคโปร์เสียทรง จนมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 และแซงนำในครึ่งหลัง
ชนะหมดจดทั้งผลการแข่งขัน และรูปเกม
ที่ควรชื่นชมนอกจากเด็ก ๆ และควรได้เครดิตเห็นจะเป็น ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย ที่ฟูมฟักเลี้ยงดูทีมชุดนี้ส่วนใหญ่มาระยะหนึ่ง เขารู้จักทีมชุดนี้ดี และรู้ว่าจะใช้งานอย่างไรในสถานการณ์ที่ลูกทีมเป็นรองทั้ง “กระดูกฟุตบอล” และประสบการณ์ จนได้ผลการแข่งขันที่น่าประทับใจ
หลายคนอยากเห็นทีมชุดนี้ฟัดกับ เวียดนาม ในแมตช์ต่อไปไว ๆ แล้ว อยากรู้ว่าจะไหวไหม สู้กับทัพดาวทองได้ขนาดไหน
เหนือสิ่งอื่นใด เกมนี้ถือเป็นการเริ่มต้น “นับหนึ่ง” ที่ยอดเยี่ยมของทีมชาติไทยชุดนี้
สู้ด้วยฝีตีน รูปแบบการเล่น ชนะแบบไม่ต้องให้ใครมาลิขิตไว้