:::     :::

"การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน" : ป็อกบาไม่ต่อสัญญา เรื่องธรรมดาที่เกิดได้

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,679
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ประเด็นของป็อกบา สื่อต่างๆสามารถนำมาเล่นข่าวได้เรื่อยๆจนกว่าเขาจะได้ข้อตกลงกับทีมใหม่ วนเวียนเรียกดราม่าไปเรื่อยๆ แต่หากแฟนบอลเข้าใจในเรื่องนี้แล้ว จะพบว่ามันเป็นเรื่องปกติของอาชีพนักฟุตบอล บทความนี้คือคำอธิบายในความ "ธรรมดา" ของมัน

ถึงเรื่องนี้จะเปรียบเสมือน "หนังที่เรารู้ตอนจบอยู่แล้ว" ต่อกรณีที่ ปอล ป็อกบา กำลังจะหมดสัญญากับสโมสรในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2022 นี้ แต่มันก็มีแง่มุมดีๆให้นำมาพูดคุยเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิดต่อยอดได้เป็นอย่างดี

ในประเด็นเรื่องการต้องเสียป็อกบาออกจากสโมสรเรานั้น แมนยูไนเต็ดอาจจะทำผิดพลาดที่ไม่สามารถหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อต่อสัญญาเขาสำเร็จอย่าง "เหมาะสม" ได้สำเร็จ (ดูจากทรงแล้วป็อกบาก็คงจะรอย้ายออก เกิน 90% อย่างแน่นอน จากการวิเคราะห์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้น)

แต่มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่ถึงขั้น worst-case scenario อะไรขนาดนั้นสำหรับการที่นักเตะคนหนึ่งลงเล่นให้สโมสรจนครบตามกำหนดสัญญาที่เซ็นเอาไว้ตั้งแต่แรก

คนมักจะโฟกัสกันอยู่แต่ประเด็นของ "ตัวเลข" เงินค่าตัวนักเตะ ที่มีมาตั้งแต่การปล่อยฟรีรอบแรกย้ายไปยูเว่ แล้วต้องซื้อกลับมาในราคาเกือบ 90 ล้านปอนด์ แค่นั้นก็มีประเด็นด่าสโมสรกันมาตั้งแต่การดึงตัวกลับมารอบแรกแล้วว่าสโมสรโง่

ทั้งที่จริงๆมันก็เป็นไปตามเส้นทางนักฟุตบอลปกติ ขึ้นมาชุดใหญ่ไม่ได้ด้วยเหตุผลใดๆก็ตามก็ย้ายออก พอถึงเวลา ฝีเท้าพัฒนาขึ้นมาและดีพอจะซื้อกลับเข้ามาด้วยค่าตัวเป็นสถิติ เรื่องมันก็เกิดขึ้นได้

การเข้ามาของป็อกบามันไม่ได้มีแต่เรื่องของเงินที่ต้องจ่ายไป แต่ภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นในเรื่องของการลงทุน ที่องค์กรอย่างแมนยูไนเต็ดแสดงออกให้เห็นถึงความเป็นยักษ์ใหญ่ และแบรนด์ที่มีความมั่นคงสูง เป็นเรื่องจำเป็นมากๆ

แน่นอนว่าการตลาดก็สำคัญเช่นกัน

เพราะฉะนั้นแล้ว เรื่องเงินค่าตัวที่จ่ายให้ยูเว่จึงไม่ใช่ประเด็นสำคัญใดๆที่มันเป็นเรื่องแย่ขนาดนั้น หากไม่มองโลกในแง่ร้ายหรือจ้องด่าสโมสรกันอย่างเดียว ทั้งจากแฟนทีมอื่น และแฟนบอลทีมตัวเองหลายๆคน

ประเด็นโต้เถียงในเรื่องดังกล่าวมีอยู่ตลอด และกำลังจะกลับมาอีกครั้ง แม้แฟนผีส่วนใหญ่จะทำใจไปแล้วก็ตาม เพราะนี่จะเป็นคำรบสองที่ยูไนเต็ดปล่อยฟรีปอล ป็อกบาอีกครั้ง และทีมเราก็กำลังจะไม่ได้อะไรกลับมาเลยสักแดงจากการเสียนักเตะคนสำคัญออกไป

ฟังดูแย่ ฟังดูโง่ ที่เสียนักเตะเก่งแบบฟรีๆถึงสองครั้งสองครา แต่ถ้าดูเหตุผลเรื่องอื่นๆประกอบ มันก็ไม่ได้แย่ไปเสียทุกประเด็นจนถึงขนาดเป็นเรื่องเลวร้ายขนาดนั้น

มีอะไรที่เป็นเหตุผลของเรื่องนี้บ้าง ไปอ่านกัน

1. ค่าตัวป็อกบาที่จ่ายไป ไม่ได้เสียเงินไปเปล่าๆ

ผู้อ่านหลายๆท่านตรงนี้มักจะเคยเห็นกันบ้างแล้ว (หรืออาจจะด่าเองก็ได้) ว่าสโมสรเรานั้น  "ปล่อยฟรีไปรอบนึง ต้องไปโง่ขอซื้อเขากลับมาแพงๆ นี่ต้องปล่อยฟรีอีกแล้ว  ไม่ได้อะไรเลย" ฯลฯ

toxicต่างๆในอินเตอร์เน็ตเหล่านี้เราปล่อยผ่านไปได้เลย เพราะประเด็นเรื่องค่าตัวราคาแพงที่ยูไนเต็ดจ่ายไป89.3ล้านปอนด์นั้น มันคือการได้กรรมสิทธิ์เป็น "เจ้าของสัญญา" ของเขา ที่เราได้ตัวเขามา และมีสิทธิ์ใช้งานตั้งแต่ 8 สิงหาคม ปี 2016 จนถึง 30 มิถุนายน 2022 เป็นเวลา 5 ปีเต็มๆ

ค่าตัวทั้งหมดที่จ่ายไป มันคือการที่แมนยูไนเต็ดได้ปอล ป็อกบา มาครอบครอง และส่งเขาลงเล่นในแต่ละเกมตามที่เราเห็นนั่นแหละ นั่นคือเงินที่จ่ายไปเพื่อซื้อโอกาส และชิงลายเซ็นนักเตะให้มาลงเล่นในนามทีมของเรา

ตรงนี้ไม่เกี่ยวกับตัวนักเตะที่ต้องจ่ายค่าเหนื่อยอีกต่อหนึ่ง นั่นคือส่วนของค่าจ้าง

ดังนั้น ค่าตัวป็อกบา รวมค่าเหนื่อยด้วยก็ได้ ทุกอย่างจึงไม่มีอะไรที่เป็นการเสียเงินฟรี เพราะแมนยูไนเต็ดก็ได้สิทธิในตัวนักเตะ และสามารถใช้งาน ส่งลงสนามให้ลงเล่นเพื่อเราได้ตามที่ต้องการ

สุดท้ายแล้ว เมื่อนักเตะไม่ต่อสัญญาก็คือไม่ต่อสัญญา ก็แค่นั้น ก็เหมือนพนักงานในองค์กรสักคนหนึ่ง ที่อยู่ทำงานจนครบสัญญา ถึงเวลาถ้าเขาอยากย้ายไปบริษัทอื่นที่คนๆนั้นต้องการย้าย มันก็เป็นเรื่องธรรมดา (มากๆ)

ส่วนเรื่องการที่ทีมซื้อป็อกกลับมาแล้วต้อง "เสียฟรีรอบสอง" มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย หัวข้อนี้ถูกโฟกัสมากเกินกว่าความเป็นจริง

เพราะถึงแม้ทีมจะปล่อยขายเขาในราคาที่ดีไม่สำเร็จ จากหลายๆหน้าต่างซื้อขายนักเตะก็ตาม แต่การที่ไม่ได้เงินกลับคืนมาตรงนี้ ทีมเราก็จะยังได้ใช้งานเขาต่อไปได้อยู่ดี ไม่ว่าจะ 1 ปี หรือครึ่งปีก็ตาม

ก็แค่แลกค่าตัวที่เราจะได้จากการขายแล้วต้องเสียเขาออกจากทีม ไปเป็นการที่ไม่ได้เงิน แต่ได้ฝีเท้าของเขาอยู่ช่วยทีมแทน มันก็แค่นั้นเอง 

ยกตัวอย่างง่ายๆ หากได้เงินค่าตัวป็อกบามา 20 ล้าน และเงินจำนวนนี้ไม่สามารถหานักเตะที่คลาสใกล้เคียงป็อกเข้ามาช่วยทีมให้มาตรฐานเท่าเทียมเขาได้ การไม่ขายเขาในราคาที่ถูกเกินกว่าปกติจนทีมขาดทุน ก็เป็นเรื่องที่ "สมควรจะต้องทำ" อยู่แล้ว

(ตามข่าวที่ออกมาในช่วงตลาดซื้อขายก็คือ สโมสรต้องการค่าตัวราวๆ 50ล้านปอนด์ หากไม่มีใครเข้ามาซื้อ สโมสรก็ไม่เร่งรีบเซ้งเขาถูกๆ และปฏิเสธสโมสรอื่นไปเลย เพราะถ้าได้ราคาไม่ดี เก็บไว้ใช้งานเองจะคุ้มค่ากว่าเยอะสำหรับฝีเท้าคลาสนี้)

อย่างที่เขียนบอกบ่อยๆว่า เงินค่าตัวที่จ่ายให้ยูเว่ไป ก็ถือว่าเราใช้งานเขาครบระยะเวลาแล้วเท่าที่มันจะเป็นไปได้ เรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บของป็อก ขอยืมคำพูดของเดแคลน ไรซ์ มายกเป็นตัวอย่างอีกครั้งว่า นักบอลไม่มีใครอยากบาดเจ็บ การที่ต้องหยุดพักมันเป็นเรื่องสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

ที่ผ่านมาเขาลงได้แค่ไหน โชว์ฟอร์มเป็นยังไง ก็แค่นั้น ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย  รวมถึงความเสี่ยงในการซื้อมาใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักเตะคนไหนๆ ว่าจะซื้อมาแล้วปังหรือแป้ก

ซึ่งมันรวมอยู่ในค่าตัวที่แมนยูเลือกที่จะจ่ายราคานั้นเพื่อดึงเอานักเตะความสามารถสูงรายนี้กลับมาช่วยทีม สานต่อในสิ่งที่เขาค้างคาไว้สมัยยังเป็นนักเตะดาวรุ่ง

หากหารค่าตัวเป็นราคาที่แมนยูต้องจ่ายต่อปี ใน 5 ปีที่ผ่านมา หากคิดว่าเราจ่ายเงินค่าตัวป็อกบาในราคา 18ล้านปอนด์ต่อปี แลกมาด้วยฝีเท้าของมิดฟิลด์ระดับโลก ก็ถือเป็นการลงทุนที่ไม่แย่เลย เพราะได้ใช้งานเต็มๆ

ไม่ว่าเขาลงเล่นแล้วจะเล่นดีหรือแย่ เล่นมากเล่นน้อยยังไงก็ตาม มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งขึ้นอยู่กับมุมมองของแฟนบอล ที่มองเห็นแตกต่างกันไป

2. การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน (Equivalent Exchange)

ไม่ใช่แฟนผีทุกคนที่อยากได้ป็อกบาอยู่ต่อ และก็ไม่ใช่ทุกคนที่อยากเสียเขาออกไปจากสโมสร ข้อนี้ผู้อ่านต้องยอมรับและเคารพมุมมองที่แตกต่างจากทุกๆฝ่าย

เพราะแฟนบอลที่เห็นว่าคลาสการเล่นของป็อกบายังสำคัญ และมีค่ากับทีม ก็มีมากมาย ในขณะที่แฟนบอลที่รู้สึกว่าป็อกบาเล่นไม่สมค่าเหนื่อย ติดแอ็ค ไม่วิ่ง และไม่ทุ่มเทมากพอในสนาม ก็มีเยอะไม่ต่างกัน

ดังนั้น ในการรั้งป็อกบาให้อยู่กับทีมต่อ มันก็มีทั้งแง่ดีและแง่ไม่ดีอันเป็นมุมมองที่แตกต่างของแฟนบอล อย่างที่ทิ้งท้ายหัวข้อด้านบนเอาไว้

การที่เขาไม่ต่อสัญญากับปีศาจแดง มันก็ไม่ใช่เป็นประเด็นความย่ำแย่ในภาคการบริหารจัดการบุคลากรของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแค่อย่างเดียว เพราะถ้าเป็นกรณีที่ว่า สโมสรพยายามยื่นสัญญาอย่างเหมาะสม"เท่าที่ควรจะเป็น" ให้ป็อกบาแล้ว แต่ถ้านักเตะไม่อยากอยู่ต่อ ก็ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายไหนทั้งนั้น

มันคือการ "แลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน" ของทั้งสองฝ่าย ที่ไม่ได้มีแต่เหตุผลที่เทไปด้านใดด้านหนึ่งแค่ฝ่ายเดียว

2.1 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ "ทำถูก" ที่ไม่หน้ามืดตามัวยื่นสัญญาที่ราคาแพงเกินเหตุ รักษาเพดานค่าเหนื่อยนักเตะที่เริ่มปรับปรุงมาอย่างเหมาะสมได้สักพักใหญ่ๆแล้วกับการเคลียร์นักเตะค่าจ้างแพงที่ไม่ได้ใช้งานออกจากทีม และไม่ต่อสัญญาเว่อร์วังเกินกว่าเหตุ

สิ่งที่ยูไนเต็ดได้ : สโมสรสามารถนำเงินก้อนใหญ่นี้ไปลงทุน และซอยเป็นค่าเหนื่อยของนักเตะฝีเท้าดีได้อีกหลายคน

สิ่งที่ยูไนเต็ดเสีย : ปอล ป็อกบา

2.2 ปอล ป็อกบา ก็ "ไม่ผิด" ที่เลือกจะไม่อยู่ต่อกับสโมสร ในยามที่อายุเขาเข้า 28 ปี ในช่วงพีคของอาชีพนักฟุตบอลพอดีที่ฟอร์มการเล่นอยู่ในระดับท็อป และเพาะบ่มมาเต็มที่แล้ว กับการอยู่ยูไนเต็ดที่ใครๆก็รู้ว่า ยุคนี้ทีมมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เรื่องการคว้าแชมป์ให้ลืมไปได้เลย ซึ่งมิดฟิลด์ระดับ World Class ที่คว้าความสำเร็จสูงสุดของโลกมาแล้ว

รวมถึงฝีเท้าส่วนตัวที่ไม่น่าจะมีคำถามใดๆอีก ป็อกบาในช่วงอายุปัจจุบัน ควรได้รับ "โอกาส" ในการไปอยู่กับทีมที่องค์ประกอบพร้อมเพรียงกว่านี้ และสิ่งแวดล้อมในสโมสรเอื้อต่อการคว้า "เกียรติประวัติส่วนตัว" มาครอบครองให้ได้ ในแง่ของการคว้าแชมป์ใหญ่ๆระดับสโมสร เพื่อพิสูจน์และสัมผัสความสำเร็จในการเป็น "นักฟุตบอลอาชีพ"

มีทีมใหญ่ๆอีกมากมายหลายทีมที่ป็อกบาน่าย้ายไปอยู่เพื่อมีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่านี้ ไม่ว่าจะย้ายกลับยูเว่ ไปอยู่กับทีมรวมดาราอย่าง PSG ในบ้านเกิด รวมถึงยักษ์ใหญ่สเปนอย่าง เรอัล มาดริด ที่มีข่าวกันมานานแล้ว พวกเขาก็ยังได้ลุ้นแชมป์ลาลีกาสเปนอยู่ รวมถึง UCL ด้วยในซีซั่นนี้ที่ยังมีลุ้น (แพ้ปารีสมาแค่ลูกเดียว)

สิ่งที่ป็อกบาได้ : โอกาสในการคว้าแชมป์ การได้อยู่ในทีมที่สิ่งแวดล้อมดีขึ้น มีระบบที่ซัพพอร์ตเขามากขึ้น

สิ่งที่ป็อกบาเสีย : ไม่ได้อยู่กับทีมต่อ สิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย เพื่อนสนิทในทีมที่ต้องแลก(บรูโน่ เจสซี่ ฯลฯ) โอกาสในการสร้างสถิติ โอกาสในการได้รับ privilege ที่เหนือกว่าคนอื่น (ในฐานะนักเตะชื่อชั้นสูงของทีม เด็กจากระบบเยาวชน ดาวเด่นของทีม)

ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดอย่างเดียว และทั้งสโมสรและนักเตะ ต่างก็แลกเปลี่ยนกันอย่างเท่าเทียมกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายมีทั้งจุดที่ได้ประโยชน์ และจุดที่เสียประโยชน์ทั้งคู่

มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการพยายามพูดคุย หารือทางออกร่วมกันมาหลายๆครั้งแล้ว และในที่สุดมันก็แค่ไปต่อไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง

3. เคลียร์Slotในทีม มอบโอกาสให้ผู้เล่นหน้าใหม่ๆเข้ามายังสโมสร

การเสียป็อกบาออกไปก็ถือเป็น "โอกาส" ของสโมสรเช่นกัน ในการมองมุมอื่นที่เป็นประโยชน์ของทีมเหมือนกัน เพราะยูไนเต็ดทดลองใช้งานเขามาอย่างเต็มที่ เต็มระยะสัญญา และใช้งานทุกรูปแบบผ่านผู้จัดการทีม 3 คนหลักๆนั่นคือ โจเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิค เราได้ลองมาหมดแล้ว

การใช้งานเขามีหลายรูปแบบที่เราลองกันมา ใช้เป็นตัวต่ำก็แล้ว กลางเบอร์8ก็แล้ว ใช้เป็นตัวรุกแดนบนในลักษณะของเพลย์เมคเกอร์หุบเข้ากลาง ก็ใช้แล้วเช่นกัน

เมื่อยูไนเต็ดคว้าได้เพียงแค่สองแชมป์ในยุคมูรินโญ่ และหลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เราเห็น ก็ถือว่าได้ทดลองศักยภาพของการใช้งานนักเตะรายนี้เข้ากับทีมปัจจุบันแล้ว

5 ซีซั่นก็ถือว่านานพอสมควรที่จะเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงด้วยการ ลองอะไรใหม่ๆดูบ้างก็น่าจะดี

การเสียป็อกบาออกไป จะทำให้ทีมได้โควตาในทีมซึ่งเป็น "มิดฟิลด์ตัวหลัก" นั้น จะว่างลงอีกหนึ่งตำแหน่งทันที ทำให้เราได้รับโอกาสที่จะหานักเตะดีๆคนอื่นๆ เข้ามาเพื่อเล่นทดแทนป็อกบาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกที่หลายคนอยากได้ อย่าง รูเบน เนเวส / อามาดู ไฮดาร่า / จู๊ด เบลลิงแฮม .. แม้กระทั่งดาวรุ่งอย่าง ฟลอเรี่ยน เวิร์ตซ์ เป็นต้น

หรืออาจจะเป็นเบอร์อื่นที่เราไม่คาดคิดว่าจะได้ ยกตัวอย่างเช่น เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช หรือแหวกแนวไปอย่าง จอห์น แม็คกินน์ เป็นต้น

รวมถึงการที่ตำแหน่งว่างลง ก็ยังถือเป็นโอกาสให้นักเตะในสังกัดแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคนอื่นๆที่ไม่ได้อยู่กับทีมชุดใหญ่ในตอนนี้ อย่าง "ดอนนี่ ฟานเดอเบค" หรือ "เจมส์ การ์เนอร์" จะได้เข้ามาทดแทนการขาดหายไปของเขาในทีมด้วย

การเสียป็อกบาไป อาจจะเป็นการจบลงของเรื่องราวบทหนึ่ง แต่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของ "ตำนานบทใหม่" ก็เป็นได้ จากการที่เราไม่ได้ต่อสัญญาให้เขาอยู่ต่อที่นี่

ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่าอนาคตจะเป็นยังไง

ทั้งสามหัวข้อนี้คือเรื่องราวที่เป็นเหตุผลของเรื่องที่ว่า การต่อสัญญาป็อกบาไม่สำเร็จ มันไม่ใช่ว่าเป็นสถานการณ์ที่เป็น worst-case อะไรขนาดนั้น มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่เกิดขึ้นได้ เพราะงั้นก็หวังว่าผู้อ่าน ได้อ่านประเด็นดังกล่าวไป แล้วจะเข้าใจธรรมชาติของเส้นทางอาชีพนักฟุตบอล และปัจจัยรายล้อมที่เกี่ยวข้องได้

มิติมันไม่ได้มีแค่ว่า ปล่อยตัว (0) + ซื้อมาแพง (-89) + ปล่อยตัวซ้ำสอง (0) = "-89" แค่อย่างเดียว

สิ่งที่ป็อกบามอบให้สโมสรมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ และไม่ใช่การขาดทุน 89ล้านปอนด์แน่ๆล่ะ!

เนื้อข่าวอัพเดทสถานการณ์ของป็อกบาล่าสุดนั้น มีรายงานจาก Samuel Luckhurst [@samuelluckhurst] ดังนี้ :

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดปอล ป็อกบา บอกว่า ไม่มีแนวโน้มที่เขาจะต่อสัญญาอยู่กับแมนยูไนเต็ด ก่อนที่ระยะเวลาของฉบับเก่ากำลังจะหมดลง และสถานการณ์ของเขายังคงเหมือนเดิม

โดยที่ปอลกับราล์ฟ ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวก่อนที่เขาจะกลับมาลงสนามในเกมคัมแบ็คของเจ้าตัว ยามที่ปีศาจแดงเจอกับมิดเดิลสโบรห์ และเชื่อว่าเขาน่าจะมาลงสนามให้ยูไนเต็ดได้อย่างน่าตื่นเต้นอีกครั้ง

แมนยูไนเต็ดไม่ได้พูดถึงเรื่องการต่อสัญญาใหม่กับปอล ป็อกบา หรือตัวแทนของเขา และปีศาจแดงก็พร้อมจะหามิดฟิลด์หน้าใหม่เข้ามาเสริมทีมในตลาดซัมเมอร์นี้

นี่คือข่าวจากนักข่าว tier3 สายแมนยูไนเต็ดอย่าง Luckhurst (ที่ชอบอ้าง "แหล่งข่าวใกล้ชิด" แบบนี้อยู่บ่อยๆซึ่งไม่มีอะไรน่าเชื่อถือ และควรลดtierเป็นอย่างยิ่ง) ออกมาให้ข่าวคราวคืบหน้าของป็อกบา เอาจริงๆเนื้อหาข่าวก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลยในด้านการรับรู้ของแฟนผีเราที่ทราบกันอยู่แล้วว่า โอกาสเป็นไปได้ที่ป็อกบาจะอยู่กับเราต่อแทบจะไม่มี

แถมเมื่อวันก่อนยังมีข่าวที่รายงานจาก Mike McGrath นักข่าว tier2 ของ The Daily Telegraph ตอกย้ำชัดเจนว่า ป็อกบาพร้อมที่จะรอตัดสินอนาคตของตัวเองในช่วงจบซีซั่น และจะรับฟังข้อเสนอในทุกๆออฟชั่น รวมถึงจากสโมสรในพรีเมียร์ลีกด้วย

สองข่าวนี้ก็เป็นการตอกย้ำอีกครั้งว่า การหมดสัญญาและย้ายออกของป็อกบา ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรพลิกโผ เพราะแนวทางการนำเสนอข่าวล้วนแล้วแต่ไปในทิศทางเดียวกันจากทุกสำนัก

หลายๆคนอาจจะคิดว่าการที่ผมออกมาเขียนถึงเรื่องป็อกบาในแง่มุมนี้บ่อยๆ เป็นเพราะว่าผมชอบเขาเป็นพิเศษหรือเปล่า? เลยพยายามออกมาปกป้อง อันนี้ยืนยันว่าไม่เลย  (ผมติ่งคาวานี่) แฟนคอลัมน์ที่ตามอ่านกันมาตลอดน่าจะต้องคุ้นเคย และเห็นผมเขียนถึงนักเตะแต่ละคนแบบแฟร์ๆแล้วเท่าที่จะทำได้ และป็อกบาไม่ใช่นักเตะที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ

แต่ที่แน่ๆ ฝีเท้าของป็อกบาอยู่ในเลเวลที่แตกต่าง และสมกับชื่อ World-class midfielder อย่างสมศักดิ์ศรีที่สุดแล้ว

การมีป็อกบาในสนาม คือการมีมิดฟิลด์ในแรงค์ที่สูงมากๆลงเล่น โชว์ฝีเท้าการเล่นที่มีทั้งคุณภาพ รวมถึงความสวยงามในแง่ของ "ความบันเทิง" ในการดูบอล สำหรับคอฟุตบอลในหลายๆเรื่อง

ตัวป็อกบาเองก็เป็นที่รักของเพื่อนฝูงในทีมทุกคน ไม่มีใครเลยที่แสดงออกว่าไม่ชอบเขา และแน่นอนว่านักเตะที่เพื่อนร่วมทีมพร้อมวิ่งเข้าไปเฮด้วยตลอดเวลา ภาษากายแต่ละคนที่แสดงออกว่ารักการมีเพื่อนคนนี้อยู่ในทีมขนาดไหน น่าจะเป็นคำตอบได้ดีว่า เขาไม่ใช่ปัญหาในห้องแต่งตัวแน่นอน

การเล่นของเขาส่วนใหญ่ก็สร้างความแตกต่างให้ทีมเสมอ แม้จะไม่เนี้ยบ100% จากการที่เห็นความผิดพลาดบ้าง การไม่ไล่บอลบ้าง แต่นั่นเป็นเพราะเรื่องขององค์ประกอบ และสิ่งแวดล้อม ที่ทีมไม่ดีพอจะsupportการเล่นของตัวเก่งรายนี้ให้ฝีเท้าออกมาเต็มๆได้

ก็ปัญหาเดิมนั่นแหละครับ "มิดฟิลด์ตัวรับ" ที่ถ้าไม่มีใครปัดกวาดเกมด้านหลัง รวมถึงซัพพอร์ตบอลให้เขาได้ดีพอ

ถ้าสโมสรเรามีการวางแผนซื้อขายตัวที่ดีกว่านี้ ป็อกบาอาจจะแฮปปี้กับทีม ผลงานของแมนยูก็อาจจะดีกว่านี้เยอะก็ได้ เพราะงั้นมันโทษใครไม่ได้ ถ้าเขาจะย้ายไปประสบความสำเร็จกับทีมใหญ่ทีมอื่นๆต่อไป ไม่ว่าจะในลีกไหน

เอาจริงๆถ้าป็อกบาจะย้ายไปทีมใหญ่ๆอย่างเชลซี แมนซิตี้ อะไรพวกนี้มันก็ไม่แปลกเลย ถ้าจะทำให้เขามีลุ้นคว้าแชมป์ได้ เช่นเดียวกับการกลับไปยูเว่อีกครั้ง กลับบ้านเกิดที่ฝรั่งเศสกับทีมรวมดาราที่ระยะหลังๆเซ็นเข้าฟรีตัวดังๆตลอด อย่างปารีส แซงต์-แฌร์แม็ง

หรือจะไปอยู่กับทีมที่มีข่าวมานานอย่างเรอัล มาดริด เพื่อเป็นตัวแทนของโครสกับโมดริชในอนาคตไปเลย ก็เป็นไปได้

ทั้งหมดทั้งมวล เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว เราก็จะเหลือเวลาที่จะได้ดู ปอล ป็อกบา วาดลวดลายอย่างเต็มที่ในช่วงระยะเวลาครึ่งซีซั่นสุดท้าย ที่เขาจะเป็นเจ้าของเสื้อ "เบอร์6" ที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งน่าจะเป็นเบอร์จำของแฟนผีส่วนใหญ่แน่นอนว่า เห็นเบอร์นี้ ในความรู้สึกของแฟนบอล ชื่อของ PP จะต้องนำโด่งมาเป็นชื่อแรกที่ใส่เบอร์ดังกล่าว

ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร กลับกัน เรามาใช้เวลาอยู่กับเขา เอาใจช่วยให้เขาฟอร์มดีๆ เพื่อที่จะช่วยให้ทีมสามารถบรรลุเป้าหมายที่ "เป็นไปได้" ในซีซั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นการติดท็อปโฟร์เพื่อลุยต่อใน UCL และปรับจูนทีมกันต่อไปในอนาคต รวมถึงการที่จะเข้าไปให้ถึงรอบลึกถ้วยใหญ่อย่างแชมเปี้ยนส์ลีก ที่เรายังอยู่ในเส้นทางปีนี้อยู่ ป็อกบาจะช่วยทีมได้อย่างมากแน่นอน ในทุกๆความหวังของทีมที่กำลังลุ้นอยู่ในตอนนี้

ฝีเท้าของป็อกบาเป็นของจริง และการที่เขาจะหมดสัญญา มันก็เป็นแค่เรื่องธรรมดาของฟุตบอลแค่นั้น

ใช้เวลาเชียร์ไอ้ป็อกให้เต็มที่ดีกว่า เราใช้เขามา5ปีก็ถือว่าเต็มที่กับเงินที่จ่ายไปแล้ว

ไม่มีอะไรต้องเสียดายทั้งนั้น

-ศาลาผี-


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด