Two-Way Selection และการเปรียบมวยเบื้องต้นของ พอช และ เทน ฮาก
มีความคืบหน้าเรื่องของ "processการคัดสรรผู้จัดการทีมคนใหม่" เพิ่มเติมมาให้เห็นข่าวคราวกันในสุดสัปดาห์เช่นนี้นะครับ โดยมีข่าวที่ออกมาไล่เลี่ยกันจากแหล่งข่าวระดับ tier 3 ทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น Mark Ogden และ Chris Wheeler ในเรื่องของการพิจารณาแคนดิเดทแต่ละคนมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเรา
แต่เราไม่ใช่ผู้ถือไพ่ "พิจารณา" อยู่ฝ่ายเดียว เพราะครั้งนี้เป็น "Two Way Selection" (การเลือกที่มีสิทธิ์ได้โอกาสเลือกกันทั้งสองฝ่าย)
แมนยูไนเต็ดมีแรงกดดันเล็กน้อยที่จำต้องตัดสินใจหนักขึ้นในการเลือกผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งตัวเต็งทั้งคู่อย่าง เอริค เทน ฮาก และ เมาริซิโอ พอเช็ตติโน่ ต่างก็ได้รับความสนใจจากสโมสรอื่นๆด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่แมนยูทีมเดียวที่ต้องการล่าลายเซ็นสองบุคคลสาธารณะนี้
ดูดีอยู่นะ
ฝั่ง "พอช"
เชื่อว่า ทาง Mauricio Pochettino ได้พูดคุยกับ John Murtough มาบ้างแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนๆ และเดี๋ยวจะมีการสัมภาษณ์กันอีกครั้งเร็วๆนี้ ซึ่งเขาก็รอการเรียกของแมนยูไนเต็ดอยู่
โดยทาง PSG จะต่างกับ Ajax ในดีลเทนฮากตรงที่ พวกเขาอาจจะต้องการค่าชดเชยในการที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อเซ็นพอเช็ตติโน่ไปจากสโมสร มากกว่าที่จะยอมปล่อยให้ย้ายตัวแบบฟรีๆจากการฉีกสัญญาพอชแบบฟรีๆ ซึ่งในเรื่องเงินชดเชยนั้น ฝั่งเจ้าของแมนยูอย่างตระกูลเกลเซอร์ก็ไม่อยากที่จะจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลตรงนี้
[@MarkOgden, @ChrisWheelerDM]]
ETHราคาพุ่ง
นอกจากเรื่องของพอช ฝั่งทางด้านของ เอริค เทน ฮาก ก็มีข่าวมาเช่นกันว่าเขาได้พูดคุยกับสโมสรใหญ่อื่นอีกสองแห่งของยุโรปซึ่งเป็นฮันเตอร์ขาประจำของแชมเปี้ยนส์ลีก และได้รับข้อเสนอที่ดีมากๆจากหนึ่งทในทีมที่สนใจเขา
[@ChrisWheelerDM]
แหล่งข่าวของยูไนเต็ดให้ข้อมูลเอาไว้เมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า กระบวนการคัดสรรผู้จัดการทีมนั้นดำเนินไปตามแผนการและคืบหน้าเป็นอย่างดี แต่ก็ชี้ว่ายังคงต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ทีเดียวกว่าที่จะประกาศอย่างเป็นทางการได้
ข้อมูลในวันนี้ค่อนข้างสำคัญมากๆนะครับ แม้จะเป็นแหล่งข่าว tier 3 อยู่ในระดับกลางๆ เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่อย่างน้อยมันก็มีมูล และปรากฏในข่าวต่างๆอยู่บ้างแล้ว
กรองแล้วก็เมคเซนส์อยู่ในตัว พอจะมองเห็นความเป็นจริงได้
ประเด็นสำคัญคือเรื่องการเรียกค่าฉีกสัญญาของทางปารีสนี่แหละที่จะกลายเป็นตัวแปรว่า ยูไนเต็ดอาจจะเอนเอียงไปทางเอริค เทน ฮาก มากกว่า การตัดสินใจก็จะชัดเจนขึ้น
-ยิ่งถ้า ราล์ฟ รังนิค prefer เทนฮาก มากกว่าอย่างที่เราพอจะทราบข่าวกันอยู่
-ยิ่งถ้าค่าฉีกเบาๆที่ต้องจ่ายให้อาแจ็กซ์ เทียบกับก้อนที่น่าจะใหญ่กว่าของทางปารีส
น้ำหนักจะยิ่งเอนมาทางเทน ฮาก ราวๆ 70-80% ถ้าค่าฉีกพอชเป็นปัญหาจริงๆ
นั่นคือเรื่องแรก
เรื่องที่สองคือ แมนยูไนเต็ด ไม่ได้ถือไพ่บนมือเหนือกว่าในทุกๆประเด็น
จริงอยู่ที่เราเป็นสโมสรใหญ่ สองคนนี้ก็คงจะสนใจอยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่มีการพูดคุยหรือเกิดการสัมภาษณ์ขึ้นแน่ๆ แต่พวกเขาเองก็มีโอกาสเลือกเช่นกัน เพราะมีหลายๆสโมสรอยากจะได้สองคนนี้ไปคุมทีมอยู่ และก็ไม่ใช่ยูไนเต็ดทีมเดียวที่อยากจะได้โค้ชโพรไฟล์ดีๆไปพาทีมลงแข่งขันเพื่อคว้าแชมป์
มันคือการเลือก ที่เราเองก็เป็นฝ่ายเลือก พวกเขาเองก็เลือกเราได้เช่นกันว่า พร้อมจะอยู่ที่นี่ หรือจะเอาที่อื่น
หากว่า ตัวเลือกอันดับหนึ่งของเรา เกิดตัดสินใจ "ไม่เลือก" แมนยูไนเต็ดขึ้นมา เราก็คงจะต้องหันไปหาตัวเลือกรองๆลงไปนั่นเอง
ตามข่าวกันต่อไปครับ นำมารายงานเพื่อวิเคราะห์ให้ได้เห็นถึง "สภาพธรรมชาติ" ของการเซ็นสัญญาผู้จัดการทีมคนหนึ่งว่ามันมีปัจจัยเกี่ยวข้องเยอะมาก ไม่ใช่แค่ว่า ชอบใครแล้วจะได้เลยบัดเดี๋ยวนั้น เค้าเองก็เลือกจิ้มเราได้เช่นกัน
จะเป็นยังไงต่อไป ระหว่างรอ Manager คนใหม่ ก็ไปกินลวกจิ้มกันพลางๆก่อน แล้วมาลองเปรียบเทียบภาพคร่าวๆของผู้จัดการทีมทั้งสองรายนี้ แบบให้เห็นภาพกันเล็กน้อย เกริ่นๆ ก่อนที่จะเขียนบทความเชิง Tactical Analysis แบบจัดหนักให้
จุดเด่นและการเปรียบเทียบของทั้งสองคนมีดังนี้
1. Formaion
Mauricio Pochettino : สวิตช์ระหว่าง "4-2-3-1" กับ "3-4-2-1"
Erik ten Hag : "4-3-3" สวิตช์กับ "4-2-3-1"
2. การเคลื่อนที่ของลูกทีมในสนาม
Mauricio Pochettino : เน้นเกมเพรสซิ่งอ็อกเทนสูงที่หนักหน่วงดุดัน และไดนามิคจัดๆ
Erik ten Hag : เน้นการเคลื่อนที่ขยับหาตำแหน่งเพื่อ "ฉีกหนี" การเคลื่อนที่ของคู่แข่ง ขยับ position อิสระในสไตล์โททัลฟุตบอล
3. ทรงยืน การใช้พื้นที่ (คนละประเด็นกับ Formation)
Mauricio Pochettino : เน้นความ compact ตรงกลางเป็นหลัก (ในระบบหลังสาม + double pivot) และใช้วิงแบ็คทำงานหนัก รับผิดชอบริมเส้นค่อนข้างเยอะ ทั้งระบบหลังสามและแบ็คโฟร์ โดยเน้นตรงกลางแน่นๆ แล้วใช้ประโยชน์แนวกว้างและแนวลึกด้วย
Erik ten Hag : ขยับพื้นที่ขึ้นลงอิสระ เซ็นเตอร์แบ็คขยับออกจากตำแหน่งได้ในการเซ็ตบอล เคลื่อนที่หนีเพรสซิ่ง หรือสร้างทางจ่ายให้เพื่อน ในขณะที่ตำแหน่งอื่นๆด้านข้าง หรือด้านบนก็ลงต่ำมาทดแทนได้ ปั้นเกมได้ โดยเฉพาะแบ็คที่หุบเข้ามาเป็นตัวเพลเมคเกอร์ได้ จาก Case Study การเล่นของ "ดาลีย์ บลินด์" ที่โหดสัสกับ Ajax ซึ่งก็จะลงต่ำมาเพียงแค่ตัวเดียว (ข้างเดียว) ส่วนวิงอีกด้านจะเติม ถ้าอีกฝั่งลงต่ำ
ทรงการยืนค่อนข้างไหล ขยับหาตำแหน่งกันตลอด
4. การเซ็ตบอล
Mauricio Pochettino : ใช้การดร็อปต่ำของตัวด้านบนหนึ่งคนที่เป็นตัว Anchor Player เช่นเอริค ไดเออร์ ลงไปเซ็ตแผงแบ็คไลน์ที่เหนียวแน่น และมีทางเลือกการจ่ายบอลทำเกมที่ปลอดภัย คล้ายๆกับตอนแมนยูเล่นหลังสามเสมือนด้วยมาติชหรือแม็ค
Erik ten Hag : เน้นการเซ็ตบอลจากแนวหลังเป็นสำคัญ "กองหลัง" จะต้องมีความสามารถรอบด้าน และยืดหยุ่นมากพอสมควร จะต่างกับของพอชที่ใช้ตัวช่วยจากแผงมิดฟิลด์
5. วิธีการเจาะ และการเล่นในพื้นที่แนวกว้าง Wide Area
Mauricio Pochettino : ใช้วิงรับงานเอ็นเตอร์เทนตัวเล่นตรงกลาง โดยใช้ฝากบอล พาบอลขึ้นหน้า และปั้นให้กับตัวกลาง ไม่ว่าจะเป็นมิดฟิลด์ กองหน้า หรือตัวรุกที่หุบเข้าด้านในฮาล์ฟสเปซ
Erik ten Hag : ดึงคู่แข่งออกด้านกว้างให้มากที่สุดเพื่อ "ถ่างขา" ของคู่ต่อสู้ ให้ "ยืด" ออกมามากๆเพื่อเรียกระยะห่างระหว่างแนวรับของ defensive line คู่แข่งให้เกิด "ช่องว่าง" เกิดขึ้น
แล้วใช้เกมรุกในการเจาะช่องดังกล่าว จากการเล่นของตัวริมเส้น โดยที่ตัวทำเกมรุกของทีมจะเป็นปีก ที่ส่วนใหญ่เทน ฮากจะใช้เป็น Inverted Winger ซึ่งก็จะหักเข้าใน หรือออกริมเส้นจากการซัพพอร์ตของ "Playmaker Wingback" (วิงแบ็คซัพให้ปีกเป็น "เมนหลัก" ของการทำเกมรุก)
ก็หวังว่าข้อมูล "เบื้องต้น" แบบคร่าวๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากมายของบทความนี้ จะทำให้ผู้อ่านทุกๆท่านเห็นภาพกันได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็คงจะต้องเขียนกำกับเอาไว้แบบเดิมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น บอร์ดและผู้มีอำนาจตัดสินใจของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะเลือกใคร ก็สุดแล้วแต่การพิจารณาความเหมาะสมอย่างดีที่สุดแล้ว
จงมั่นใจกับสิ่งที่เรากำลังจะได้รับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม มันจะต้องเป็นสิ่งที่ดีขึ้นแน่นอนในการเดินทางครั้งใหม่ของสโมสรรักที่มีเรื่องให้ต้องเชียร์กันอยู่ตลอด ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาที่ดีของแฟนผี ที่แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่นี่คือฟีลของการเชียร์ปีศาจแดงในฐานะทีมรอง ให้ "ตามล่าหัว" ของผู้นำ และเป้าหมายในการคว้าแชมป์ให้ได้
เราไม่สามารถพูดได้ในตอนนี้100%หรอกครับว่า พอชมาแล้วจะไม่เวิร์ค ไม่ไหวแน่ๆ หรือ เทน ฮากมา จะกลายเป็น คล็อปป์ เป๊ป ของแฟนผีบ้าง หรือว่าแคนดิเดทคนอื่นๆอย่าง เอ็นริเก้ มาแล้วจะมีการเล่นที่สวยงาม, มันชินี่จะสามารถสร้างแมนยูไนเต็ดให้ดุดันเหมือนที่ทำกับอิตาลีเมื่อปีก่อนได้สำเร็จ
ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกฟุตบอล ไม่มีคำว่าถ้า มีแต่ความจริงที่เกิดขึ้นเท่านั้น
เราทุกคนไม่มีใครที่จะรู้อนาคตได้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีแค่ไหน แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการเชียร์ทีมของเราต่อไป ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นนายใหญ่ของเราต่อจากนี้ และอย่าเพิ่งตั้งแง่กันตั้งแต่แรกๆ เหมือนที่ราล์ฟ รังนิค กับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดน "อคติ" จากแฟนบอลบางส่วนด่ากันแบบสาดเสียเทเสีย ทั้งที่พวกเขาก็มีทั้งข้อดีข้อเสียในตัวไม่ต่างกัน
"ไม่มีตัวเลือกไหนบนโลกนี้ที่ดี 100%" ในคือใจความสำคัญของบทความนี้ที่ผมอยากจะสื่อ
ไม่ว่าใครมา เขาจะกลายเป็น "ครอบครัวของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด" ที่เราจะต้องรักและสนับสนุนผู้จัดการคนต่อไปให้เต็มที่ เหมือนอย่างที่ป๋าได้เคยพูดเอาไว้กับแฟนบอลปีศาจแดงทั้งโลกนั่นแหละครับ
ไม่ว่าใครจะมา เราจะร่วมหัวจมท้ายไปกับเขาให้ถึงที่สุดครับ
#BELIEVE
-ศาลาผี-
References