เรียบง่ายแต่สำคัญ ชีวิตลูกหนังหลังแสงสปอตไลต์ของ ฟาบินโญ่
ฟาบินโญ่ คือนักเตะผู้อันเดอร์เรตคนนั้น ฟาบินโญ่ จริง ๆ แล้วมีชื่อเต็มว่า ฟาบิโอ เอ็นริเก้ ตาบาเรซ เขาเริ่มต้นผจญภัยในยุโรปครั้งแรกตอนปี 2012 กับ เรอัล มาดริด โดยเล่นในทีม คาสตีญ่า ซึ่งอยู่ใน เซกุนด้า ดิวิชั่น และตำแหน่งแรกเริ่มของเขาคือฟูลแบ็ค ไม่ใช่กองกลางตัวรับแบบที่เห็นในปัจจุบัน ฟาบินโญ่ ได้ลงสนามให้ เรอัล มาดริด ชุดใหญ่อยู่แค่นัดเดียวเท่านั้น แถมยังลงมาเป็นสำรองตอน 14 นาทีสุดท้ายอีกต่างหาก อย่างไรก็ดี แม้จะมีเวลาแค่นั้นแจ่ ฟาบินโญ่ ก็ยังอุตส่าห์ทำแอสซิสต์ลูกสุดท้ายให้ทีมเอาชนะ มาลาก้า ไป 6-2 ในปี 2013 จุดเปลี่ยนสำคัญของ ฟาบินโญ่ คือตอนย้ายมาอยู่กับ โมนาโก เขาเล่าให้กับเว็บไซต์โฟร์โฟร์ทูฟังว่า ตอนมาอยู่กับทีมใหม่ ๆ ในช่วงปรี ซีซั่น กุนซือของทีมอย่าง เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม ได้ทดลองจับเขาไปเล่นกองกลางอยู่ 2-3 นัด ก่อนจะตัดสินใจซื้อแบ็คตัวใหม่มาร่วมทีม พร้อมกับโยก ฟาบินโญ่ ให้ไปเป็นกองกลางถาวรนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฟาบินโญ่ ยอมรับว่าในคราวแรกก็รู้สึกแปลก ๆ แต่พอพิจารณาถึงโอกาสในการลงสนามรวมไปถึงโอกาสในทีมชาติด้วยแล้ว แม้จะไม่มั่นใจ แต่เขาก็เริ่มต้นเรียนรู้บทบาทใหม่นี้อย่่างจริงจัง "มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมรู้ว่าในทีมชานิมีฟูลแบ็คระดับท็อปไม่มาก แต่กับตำแหน่งกองกลางค่อนข้างมีการแข่งขันสูง ทุกคนรู้จักผมในฐานะฟูลแบ็กมาตลอดและผมก็ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในทีมชาติกับตำแหน่งนั้น แต่ในเมื่อ ยาร์ดิม บอกว่าผมจะทำได้ดี ผมจึงยอมรับความท้าทายนี้ และพยายามอย่างหนักมากขึ้นเพื่อปรับตัว" ฟาบินโญ่ เล่า "นั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของผม ยาร์ดิม ช่วยเหลือผมเยอะมาก เขาแนะนำทุกอย่างเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ผมต้องเพิ่มยามเล่นกองกลาง จบฤดูกาลนั้นทีมเราได้แชมป์ลีก ส่วนในยุโรปก็ไปไกลถึงรอบรองฯ นั่นคือฤดูกาลที่ผมเล่นได้ดีที่สุดในชีวิตเลยล่ะ" ฤดูกาลที่ว่าก็ึคือในปี 2016-17 ฟาบินโญ่ ลงสนามรวมทุกถ้วยไปถึง 56 นัดและยิงไปได้ถึง 12 ประตู นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เขาเล่นฟุตบอลอาชีพมาเลยทีเดียว "นั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง และผมต้องขอบคุณืยาร์ดิม จริง ๆ สำหรับการมองเห็นสิ่งนี้จากตัวของผม" ฟาบินโญ่ เล่นให้ โมนาโก อีกปีเดียวก็ย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงด้วยค่าตัวสูงถึง 39 ล้านปอนด์ เขาทำผลงานได้ดีมากในฐานะกองกลางตัวรับคนสำคัญของทีม แม้จะไม่ได้ขึ้นไปยิงหรือแอสซิสต์อะไรมากมาย แต่การมีอยู่ของ ฟาบินโญ่ ช่วยให้ทีมเกิดสมดุลตรงกลางขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ความสำคัญของ ฟาบินโญ่ ในทีมไม่ใช่แค่เป็นกองกลางที่ทำงานหนักแค่อย่างเดียว แต่เขายังเป็นแข้งสารพัดประโยชน์ที่ถอยลงมาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟให้ทีมอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่กองหลัง ลิเวอร์พูล พาเหรดเข้าโรงพยาบาลกันรายสัปดาห์ เกมแรกที่เขาเล่นเซนเตอร์คือในเอฟเอ คัพ นัดที่เจอกับ วูลฟ์ฯ เดือนมกราคมปี 2019 ซึ่งเขาโหม่งสกัดและช่วยเกมรับได้อย่างสวยงามในหลาย ๆ ชอต จน คล็อปป์ เองยังแอบพูดหลังเกมเลยว่า "ผมเจอออปชั่นใหม่ในตำแหน่งกองหลังตัวกลางของทีมแล้ว" ฟาบินโญ่ ไม่เคยอิดออดหากต้องช่วยทีมในตำแหน่งอื่น เขาทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี ปิดจ็อบในแต่ละพาร์ทได้ไร้ที่ติ นอกจากนี้เขายังได้แมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลายต่อหลายนัด และเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญที่คว้าแชมป์ยุโรป, พรีเมียร์ลีก และสโมสรโลกอีกด้วย "ทุกอย่างที่ ลิเวอร์พูล มันเกินกว่าที่ผมคาดคิดไว้เยอะมาก เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับผมก็คือทำยัฃไงก็ได้เพื่อช่วยให้ทีมได้ผลการแข่งขันที่ดีที่สุด" "สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกปลื้มมากคือการที่แฟนบอลจดจำชื่อของผม ยิ่งในอนาคตหากเลิกเล่น จะมีคนพูดถึงผมประมาณว่า 'นั่นไง ฟาบินโญ่ คนที่เคยได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ ลิเวอร์พูล' นั่นคือเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากนะ" ปัจจุบัน ฟาบินโญ่ อายุ 28 แล้ว เขาลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล มามากถึง 157 นัด ยิงไป 9 ประตู โดยที่ 6 จาก 9 เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ล้วน ๆ เขายิงในพรีเมียร์ลีกไป 4 ประตูแล้ว โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมที่ ซาล่าห์ กับ มาเน่ ไม่อยู่ เขาโผล่ขึ้นมาทำประตูสำคัญ ๆ ให้ทีมเก็บแต้มได้บ่อย จนในตอนนี้ไล่จี้ แมนฯ ซิตี้ เหลือเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น "ลิเวอร์พูล เป็นสถานที่ที่พิเศษ ผมยังไม่รู้หรอกว่าในอนาคตจะเป็นอย่าฝไร แต่ในตอนนี้ผมโฟกัสแค่ ลิเวอร์พูล เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ผมไม่คิดเรื่องย้ายทีมเลย เพราะผมมีความสุขมาก ๆ กับที่ตรงนี้ ผมอยากสู้ไปเรื่อย ๆ เพื่อคว้าแชมป์กับทีม" ฟาบินโญ่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่เดอะ ค็อป ค่อนข้างชื่นชมทั้งในแง่ฝีเท้าและทัศนคติ ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าในช่วงสถานการณ์คับขันหลายครั้ง ช่วงที่ทีมประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกันเยอะ ๆ ก็มี ฟาบินโญ่ นี่แหละที่สวิตช์ไปช่วยทีมได้เยอะ เล่นกองกลางก็ดี เล่นกองหลังก็ไว้ใจได้ เรียกว่าเป็นทุกอย่างให้กับทีมของ คล็อปป์ จริง ๆ กับเสื้อแข่งหมายเลข 3 แม้ว่าจะไม่ใช่สตาร์ดังระดับท็อป ๆ ของทีม แต่ชื่อของ ฟาบินโญ่ เป็นชื่อที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการลุ้นแชมป์ เรียบง่ายแต่มากประสิทธิภาพ คือนิยามของคนคนนี้ คนที่ชื่อว่า "ฟาบินโญ่"