กองหน้าชาวฝรั่งเศสเคยเป็นนักเตะที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการช่วยเหลือ สนับสนุน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นราชาในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว ไปแล้ว
คาริม เบนเซม่า รอมานานเป็นเวลานานมากกว่าที่จะขึ้นครองบัลลังก์กับ เรอัล มาดริด พร้อมมงกุฎอันแวววาว และคทาในมือ
'คิง คาริม' ในช่วงก่อนหน้านี้แทบจะไม่เคยเป็นสัญลักษณ์ของทีมเลยตลอดช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากเวลานั้น โรนัลโด้ ได้รับความสนใจอยู่แทบจะคนเดียว และทุกเกียรติยศในกรุงมาดริดก็พุ่งเข้าหาแต่เขา
เบนเซม่า ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บ่อยครั้งที่ต้องถ่างไปเล่นริมเส้น เพื่อสนับสนุนกองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ผู้ซึ่งครองสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรที่จำนวน 450 ประตู แต่หลังจาก โรนัลโด้ ย้ายออกไปยัง ยูเวนตุส ในปี 2018 โอกาสของเขาก็มาถึง
แน่นอนว่าหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสคว้าโอกาสนั้นไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เขากลายเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกตามที่ คาร์โล อันเชล็อตติ ว่าเอาไว้ และมีลุ้นถึงรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2022
ปัจจุบัน เบนเซม่า นำเดี่ยวในชาร์ตของดาวซัลโวที่จำนวน 24 ประตู นำหน้า ฆวนมี่, ราอูล เด โตมาส, เอเนส อูนาล และเพื่อนร่วมทีมอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ ซึ่งตามาอันดับสองถึง 10 ลูก
ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงของเขาทำให้ ราชันชุดขาว นำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนทิ้งห่าง 12 แต้ม ขณะที่เหลืออีกเพียง 8 เกมสุดท้ายของฤดูกาลเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ดาวยิงเฟร้นช์แมนกลับมาสร้างความประทับใจได้ในระดับทีมชาติกับศึกยูโร 2020 เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แถมเตรียมเป็นคีย์แมนหลักของทีมชาติฝรั่งเศสในเวทีฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในช่วงหน้าหนาวนี้
พอถึงวันรุ่งขึ้นหลังเสร็จสิ้นรอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก วันที่ 19 ธันวาคม เบนเซม่า จะมีอายุครบ 35 ปี โดยช่วงอายุขนาดนี้แม้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะกำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่เขายังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความแข็งแกร่ง
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สองประตูของเขาซึ่งมาจากจุดโทษช่วยให้ เรอัล มาดริด เอาชนะ เซลต้า บีโก้ และรักษาสถานะทิ้งห่างในตำแหน่งจ่าฝูงลา ลีกา เอาไว้ได้ ขณะที่ช่วงเวลายิ่งใหญ่ของเขาเริ่มต้นในเกมกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ที่ซานติอาโก เบร์นาเบว เมื่อเดือนมีนาคม
แฮตทริกอันน่าทึ่งของ เบนเซม่า ในช่วงเวลาเพียง 17 นาที ช่วยให้ มาดริด ที่ตามหลังจากสกอร์รวม 0-2 พลิกกลับมาเขี่ยทีมที่มี ลีโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จอดป้ายที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีก
เรื่องราวนั้นมันมีการผูกติดกับ เอ็มบั๊ปเป้ ซึ่งมีกระแสว่าจะย้ายไปยัง ราชันชุดขาว แบบไร้ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ แม้รายงานอีกทางหนึ่งจากฝรั่งเศสยังบอกว่าเขาก็มีโอกาสที่จะอยู่ต่อกับจ่าฝูงลีก เอิง ได้เหมือนกัน
เอ็มบั๊ปเป้ ทำประตูให้ เปแอสเช ได้ทั้ง 2 นัดที่พบ มาดริด แต่ เบนเซม่า เป็นคนที่เปลี่ยนเส้นทางของเกมอย่างสมบูรณ์แบบ
หาก เอ็มบั๊ปเป้ ย้ายมายัง มาดริด จริง เขาก็จะมาเคียงข้าง เบนเซม่า ไม่ใช่มาแทนที่เขา ซึ่งชัดเจนว่า 'เบนซ์' ยังมีอะไรให้เห็นอีกมากหลังจากที่เขาต้องใช้เวลาในเงามืดมานานในช่วงก่อนหน้านี้
การมีอยู่ของ โรนัลโด้ ได้กลบความโดดเด่นของ เบนเซม่า อย่างไม่ต้องสงสัย จริงๆ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วเมื่อพิจารณาถึงคุณภาพของสตาร์โปรตุเกสตรงหน้าปากประตู และความเป็นไอดอลของทีมเมืองหลวง
เบนเซม่า คือกองหนุนชั้นดีให้ โรนัลโด้ และด้วยความไม่เห็นแก่ตัว รวมถึงคุณภาพของกองหน้าฝรั่งเศสก็ช่วยให้ โรนัลโด้ ก้าวไปถึงจุดสูงสุด โดยคว้ารางวัลบัลลงดอร์ถึง 4 จาก 5 ครั้งขณะที่ค้าแข้งในกรุงมาดริด
นอกจากนี้ ผลงานอันน่าทึ่งของทีมที่คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกถึง 4 ครั้ง (2014, 2016, 2017, 2018) ภายในระยะเวลา 5 ปี ก็ยังถูกมองว่ามาจากความสุดยอดของ โรนัลโด้ โดยที่ เบนเซม่า เป็นเพียงหนึ่งในนักแสดงสมทบที่เป็นตัวเอกเท่านั้น
บทบาทที่เขาเล่นนำไปสู่ความสมบูรณ์แบบ และปราศจากข้อตำหนิใดๆ ตลอดการร่วมงานกับนายใหญ่ถึง 8 คนนับตั้งแต่มาถึงสโมสรในปี 2009 (มานูเอล เปเยกรินี่, โชเซ่ มูรินโญ่, อันเชล็อตติ ครั้งแรก, ราฟา เบนิเตซ, จูเลน โลเปเตกี, ซานติอาโก้ โซลารี่ และ ซีเนดีน ซีดาน สองรอบ)
กุญแจหลักของการอยู่ยงคงกระพันของ เบนเซม่า ที่ มาดริด และวิธีที่เขากลายเป็นสุดยอด 'นักฆ่า' ในตอนนี้มาจากความสามารถในการปรับตัว และทัศนคติที่ยืดหยุ่นของเขา
"ตอน โรนัลโด้ เล่นที่ เรอัล มาดริด เขาทำประตูได้ราว 50-60 ลูกต่อปี ดังนั้นคุณต้องปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงนี้" เบนเซม่า กล่าวในเดือนมกราคม
"ผมต้องเคลื่อนที่มากขึ้นในสนาม ให้พื้นที่กับเขา เมื่อเขาจากไป สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือผมต้องรับช่วงต่อแทน ทำประตู และแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีม"
แม้ เบนเซม่า จะไม่ได้ทำประตูถล่มทลายเท่า โรนัลโด้ แต่เขาก็มีอิทธิพลในการสร้างสรรค์เกม และยังนำอันดับ 1 ในชาร์ตแอสซิสต์ที่จำนวน 11 ครั้งในซีซั่นนี้
ปัจจุบัน เบนเซม่า รั้งอันดับ 3 ในชาร์ตดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ เรอัล มาดริด โดยทำไป 316 ประตู ตามหลัง โรนัลโด้ ที่กล่าวไปข้างต้น และตามหลัง ราอูล กอนซาเลซ แค่ 8 ลูก
ขณะที่เหล่าตำนานอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่, เฟเรนช์ ปุสกัส, อูโก้ ซานเชซ, เอมิลิโอ บูตราเกนโญ่ ต่างถูก เบนเซม่า แซงหน้าไปหมดแล้ว
"นอกจากสถิติ นอกจากการทำประตูที่มากขึ้น ผมก็ยังไม่เห็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากฟุตบอลของผม"
"ผมยังคงเป็นผู้เล่นคนเดิม เคลื่อนที่ สร้างโอกาส เล่นน้อยจังหวะ"
"เราไม่ได้ใช้เวลาเพื่อดูว่าคนๆ นั้นทำอะไรในสนามอีกแล้ว แต่แค่ดูว่าใครทำประตูได้ และวันรุ่งขึ้นเราก็จะมองว่าเขาดีที่สุด"
"มันเกิดขึ้นกับผม ถ้าผมไม่ได้มีเกมที่ดี แต่ผมทำประตูได้ พวกเขาก็ยังคงมองว่าผมดีที่สุด"
เบนเซม่า มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยทำ 2 ประตู และเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ กับ สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ
กับประเทศของเขา เขาแสดงให้เห็นถึงการประสานงานอย่างลงตัวกับ เอ็มบั๊ปเป้ ส่วนระดับสโมสรความสัมพันธ์ของเขากับ วินิซิอุส คือกุญแจสำคัญของ เรอัล มาดริด และช่วยให้ เบนเซม่า รักษาฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาเอาไว้ได้
หลังต้องพบความผิดหวังกับ ลูก้า โยวิช และ เอแด็น อาซาร์ ในที่สุด เบนเซม่า ก็คือคู่หูที่วางใจได้อย่าง วินิซิอุส โดยกองหน้าบราซิเลี่ยนกำลังช่วย เบนเซม่า เหมือนอย่างที่หัวหอกฝรั่งเศสเคยทำให้ โรนัลโด้ ในหลายๆ ด้าน
ตอนนี้ ใครก็หยุด 'คิง คาริม' ไว้ไม่อยู่แล้ว
พาสต้า
