Manchester United มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศแต่งตั้ง มิทเชล ฟาน เดอ คาก และ สตีฟ แม็คคลาเรน เป็นผู้ช่วยของเอริค เทน ฮากในฐานะทีมงานเบื้องหลังของผู้จัดการคนใหม่รายนี้ที่ฟอร์มทีมขึ้นมา

ฟานเดอคาก กับ แม็คคลาเรนที่ประสบความสำเร็จร่วมกันกับเทน ฮากอย่างมาก ได้เข้าไปร่วมชมเกมนัดสุดท้ายที่เจอกับคริสตัลพาเลซของแมนยูไนเต็ดในซีซั่นนี้ด้วย และทั้งคู่จะนำประสบการณ์กับทีมในยุโรป และความเชี่ยวชาญในด้านการฝึกสอนนำมาสู่แมนยูไนเต็ดด้วย

การแต่งตั้งฟานเดอคาก อยู่ภายใต้การรับรองโดย FA และได้รับวีซ่าUKเป็นที่เรียบร้อย โดย "MVG" อยู่เป็นผู้ช่วยของเทน ฮาก ที่อาแจ็กซ์มาจนถึงซีซั่นที่เพิ่งจบไป และก่อนหน้านั้นเคยคุมทีมสำรองของอาแจ็กซ์มาแล้วเป็นเวลาสองปี และมีประสบการณ์สมัยค้าแข้งกับบอลในสหราชอาณาจักรด้วย

โดยฟานเดอคาก เคยค้าแข้งอยู่กับทีมในสก็อตติชอย่าง Motherwell เป็นเวลาสองปี เริ่มต้นเป็นนักเตะจากสโมสร PSV Eindhoven และยังได้ลงเล่นเป็นกองหลังให้กับ NEC, Sparta Rotterdam กับสโมสร Utrecht ในลีกบ้านเกิดด้วย แถมยังมีชั่วโมงบินอีก 150 เกมที่โปรตุเกสกับสโมสร Maritimo ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2007 กับ Al-Nassr ที่ซาอุดิอาระเบีย

MVGสมัยเล่นในUKกับสโมสร Motherwell

ชายวัย 50 ปีคนนี้เริ่มต้นงานโค้ชที่โปรตุเกสกับMaritimo และถัดมาเป็น Belenenses ที่ฟานเดอคากพาทีมดังกล่าวคว้าแชมป์ Segunda Liga ในระดับสอง ขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด Primeira Liga ได้สำเร็จ

ไปทำงานช่วงสั้นๆที่ไซปรัส จากนั้นเขาจึงกลับสู่ดินแดนบ้านเกิดที่ฮอลแลนด์ในปี 2015 กับ FC Eindhoven, Excelsior และก็ NAC สามทีมนี้ ก่อนที่เส้นทางล่าสุดจะไปอยู่กับอาแจ็กซ์ตั้งแต่ปี 2019

นี่คือเส้นทางของ MVG มาจนกระทั่งยูนิเวิร์สขั้นสูงในอาชีพโค้ชของเขา กับการเป็น Assistant Coach ของ Manchester United First Team ในที่สุด

ส่วนอีกด้านหนึ่ง "บิ๊กแม็ค" Steve McClaren เราแทบจะไม่ต้องแนะนำอะไรเขาสำหรับแฟนแมนยูอีกแล้วจากการประสบความสำเร็จอย่างมากกับยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการเป็นผู้ช่วยป๋าในซีซั่นที่คว้า Treble Champions สำเร็จ และแมนยูไนเต็ดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในยามที่แม็คคลาเรนเป็นผู้ช่วยของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ถึง "สามสมัย"

แน่นอน เกียรติประวัติคืนสามแชมป์กับเกมยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่เอาชนะบาเยิร์นมิวนิค คืออีกหนึ่งเครดิตของเขาที่แฟนผีไม่ลืม

บิ๊กแม็คออกจากโอลด์แทรฟฟอร์ดในปี 2001 และเริ่มต้นงานบริหารในฐานะผู้จัดการทีมด้วยตัวเองกับ Middlesbrough และพิสูจน์ตัวเองในการไขว่คว้าความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยการพาเดอะโบโร่คว้าแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จในปี 2004

พวกเขาตบวีแกนแอธเลติก, เอฟเวอร์ตัน, ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส และอาร์เซนอลเรียงตัวแบบเรียงตัว ก่อนรอบชิงจะซัดโบลตันอีกทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จด้วยสกอร์ 1-2 นักเตะที่เป็นเด็กๆของบิ๊กแม็คมี เบาเดอไวน์ เซนเด้น, กาอิซก้า เมนดิเอตต้า, เซาธ์เกต, มาร์ค ชวาเซอร์, แดนนี่ มิลส์, จอร์จ บัวเต็ง เป็นต้น

เท่านั้นยังไม่พอ บิ๊กแม็คยังพาทีมคลาสสิคดังกล่าวไปถึงรอบชิงยูฟ่าคัพได้สำเร็จในปี 2006 (ดันไปเจอเทพยูฟ่าคัพอย่างเซบีญ่าในรอบชิง แล้วโดนถล่มไป 0-4 ตามระเบียบ) รวมถึงการพาสิงห์แดงจบในอันดับที่สูงที่สุดของเกมลีกในรอบ30ปี

ฝีมือของบิ๊กแม็คในฐานะผู้จัดการทีมไม่ได้ห่วยเหมือนที่ใครเข้าใจ

เซบีญ่าตัวแสบเจ้าเดิมประจำถ้วยนี้

จากนั้นออกจากเดอะโบโร่ด้วยการถูกเชิญไปคุมทีมชาติอังกฤษในเดือนพฤษภาคมปี 2006 และคุมทีมเป็นเวลาปีกว่าๆจนถึงพฤศจิกายนช่วง 2007

ที่น่าแปลกและสร้างเซอไพรส์มากๆคือ จุดหมายถัดไปของแม็คคลาเรน กลับกลายเป็นการพุ่งเป้าไปสู่ฟุตบอลดัตช์ โดยถูกแต่งตั้งเป็นผู้จัดการของทีมในเอเรดิวิซี่อย่าง "Twente" เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2008

นี่แหละ จุดที่เชื่อมต่อกับเอริค เทน ฮาก เพราะถ้าหลายๆคนติดตามอ่านข้อมูลมาตลอดจะรู้เลยว่า เอริค ก็เป็นนักเตะที่เป็นสายลูกหม้อของทเวนเต้ และช่วงที่บิ๊กแม็คมาฮอลแลนด์ คือช่วงเวลาที่เทน ฮาก แขวนสตั๊ดและเริ่มงานโค้ชมาแล้วเหมือนกัน

มีการถูกตั้งคำถามอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็พิสูจน์ตัวเองให้เห็นด้วยการพาทเวนเต้ ขึ้นสู่รองแชมป์เอเรดิวิซี่ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เดบิวต์กับลีกฮอลแลนด์ รวมถึงพาทีมเข้าสู่รอบชิง Dutch Cup รวมถึงทะลุสู่รอบน็อคเอ้าท์ของยูฟ่าคัพได้สำเร็จ

และนั่นแหละครับ สายคอนเน็คชั่นกับเทน ฮากก็เริ่มต้นขึ้น บิ๊กแม็คเป็นคนที่ให้โอกาสและแต่งตั้งเอริค เทน ฮาก ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมคนแรกของเขา และหนุ่มชาวดัตช์คนนั้นก็ทำงานได้อย่างประทับใจบิ๊กแม็คทันที

"ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นคนทำงานหนักแล้วละนะ จนกระทั่งมาเจอเอริคเนี่ยแหละ"

"จุดแข็งของเขาไม่ได้มีแต่เพียงแค่การใส่ใจรายละเอียดขั้นสุดยอด และการบริหารจัดระเบียบเท่านั้น แต่เขามีปรัชญาการเล่นที่ชัดเจนมากกว่าต้องการเล่นฟุตบอลรูปแบบไหน และต้องการสร้างสิ่งแวดล้อมแบบไหนขึ้นมาให้กับทีม"