ในคอลัมน์นี้ จะพาไปดูตลาดซัมเมอร์ 5 ปีหลังสุดกันสักนิดนะครับ ว่าแต่ละรอบตลาดที่ผ่านมานั้น มีนักเตะคนไหนบ้างที่ค่าตัวแพงที่สุดในแต่ละซัมเมอร์ รวมถึง พวกเขาเหล่านั้นทำผลงานคุ้มค่าตัวกันบ้างหรือเปล่า จะมีใครบ้าง เรามาลองไล่เรียงกันดู
ปี 2017: เนย์มาร์ จาก บาร์เซโลน่า ไป เปแอสเช ดีลสุดแพงประจำซัมเมอร์ 2017 ตกเป็นของ เนย์มาร์ สตาร์แซมบ้าที่มีมูลค่าการย้ายทีมสูงถึง 222 ล้านยูโร ซึ่งตัวเลขดังกล่าวคือการย้ายทีมที่เป็นสถิติโลกมาจนถึงปัจจุบัน เนย์มาร์ ย้ายมาเล่นในลีก เอิง พร้อมกับรับบทบาทคีย์แมนในแดนหน้าร่วมกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ โดยทั้งคู่พา เปแอสเช คว้าแชมป์ลีก 4 สมัย และแชมป์บอลถ้วยในประเทศรวมแล้วอีก 7 ใบ เลยทีเดียว เนย์มาร์ ทำผลงานคุ้มค่าตัวหากมองในแง่ของตัวเลข เขาลงสนามให้ เปแอสเช ไปแล้ว 144 นัด ยิงได้ 100 ประตู 60 แอสซิสต์จากทุกรายการ แต่อย่าลืมว่าการคว้าตัวมาร่วมทีมด้วยสถิติโลกแบบนี้ เป้าหมายหลักของ เปแอสเช ที่คาดหวังจากเขาคือการเป็นแชมป์ยุโรป ดังนั้นเขาจึงสอบผ่านแค่ครึ่งเดียว หากสามารถพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้ ค่าตัวกว่า 200 ล้านยูโรของเขา จึงจะถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างสมบูรณ์แบบ ปัจจุบัน เนย์มาร์ เหลือสัญญากับทีมถึงปี 2025 แม้ว่าจะมีข่าวย้ายทีมอยู่บ้าง แต่ด้วยค่าคัวกับค่าเหนื่ิอยที่สูงลิบ อาจทำให้เขาอยู่กับทีมต่อไปจนครบสัญญาก็เป็นได้
ปี 2018: คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ จาก โมนาโก ไป เปแอสเช สถิติซื้อขายแพงสุดประจำซัมเมอร์ยังคงอยู่ที่ เปแอสเช โดยคราวนี้เป็นดีลของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ซึ่ง เปแอสเช ซื้อขาดจาก โมนาโก ในราคา 180 ล้านยูโร นับว่าเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดของโลกในอันดับ 2 รองจาก เนย์มาร์ อีกต่างหาก จริง ๆ แล้ว เอ็มบัปเป้ ย้ายมา เปแอสเช ในปีเดียวกับ เนย์มาร์ แต่เขาอยู่ในสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล ก่อนจะทำการซื้อขายจริงจังในฤดูกาลถัดมา ซึ่งผลงานของ เอ็มบัปเป้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาโดยตลอด เขาลงสนามให้ทีมไป 216 นัดซัดไป 170 ประตู 88 แอสซิสต์จากทุกรายการ ได้ดาวซัลโวของลีก 4 สมัย และได้ท็อป แอสซิสต์ ในปี 2022 มาครองอีกหนึ่งครั้ง เอ็มบัปเป้ เป็นสัญลักษณ์ของ เปแอสเช ไปแล้วในตอนนี้ เขาได้ค่าเหนื่อยจากการต่อสัญญาใหม่สูงถึงปีละ 100 ล้านยูโร และด้วยวัยแค่ 23 ปี เขายังเล่นให้ทีมได้อีกนาน ค่าตัว 180 ล้านยูโรที่สโมสรจ่ายไปยังนับว่าคุ้มค่าครับ เพราะเชื่อว่าหากเขาจะย้ายออก เปแอสเช น่าจะโก่งราคาได้ถึงหลัก 200 ล้านยูโร ได้ไม่ยากเลยทีเดียว ปี 2019: ชูเอา เฟลิกซ์ จาก เบนฟิก้า ไป แอตฯ มาดริด นี่คือดีลที่แพงที่สุดในซัมเมอร์ปี 2019 และเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลของ แอตเลติโก มาดริด ในเวลาเดียวกัน เฟลิกซ์ เล่นกับ เบนฟิก้า ได้โดดเด่นมาก แม้ว่าจะพุ่งขึ้นในทีมชุดใหญ่แค่ปีเดียว แต่ก็ถูกหลายทีมในยุโรปตามล่าลายเซ็นกันหนักหน่วง สุดท้ายกลายเป็นทีมตราหมีที่ปาดหน้ามาคว้าตัวร่วมทัพ ด้วยค่าตัวสูงถึง 126 ล้านยูโร แม้ว่าจะประสบปัญหาในการปรับตัวพอสมควรช่วงฤดูกาลแรก โดยยิงได้เพียง 9 ประตูจาก 36 นัด ก่อนจะค่อย ๆ ทำผลงานได้ดีขึ้นในฤดูกาลถัดมา ซึ่งเขาเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ได้อย่างยิ่งใหญ่ ฤดูกาลล่าสุด ดูเหมือนว่า เฟลิกซ์ จะปรับตัวให้เข้ากับทีมได้มากขึ้นเยอะ เขาเป็นหัวใจหลักในเกมรุกของทีมด้วยการยิงไป 10 ประตู 6 แอสซิสต์จาก 35 นัด และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรมาครอง หากมองไปยังค่าตัว 126 ล้านยูโร เฟลิกซ์ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ 7.5 เต็ม 10 เรื่ิองความคุ้มค่า เขาอายุยังน้อย มีเวลาพัฒนาฝีเท้าให้ขึ้นไปสู่ระดับโลกได้อีก ดีลนี้ถือว่าตราหมีเป็นการซื้ออนาคตและหวังผลในระยะยาวจากเขา หากมองเรื่องความคุ้มค่า การได้แชมป์ ลา ลีกา มาหนึ่งครั้ง ก็ถือว่าไม่แย่เลยสำหรับการลงทุนในครั้งนี้
ปี 2020: ไค ฮาแวร์ตซ์ จาก เลเวอร์คูเซ่น ไป เชลซี ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงอนาคตไกลชาวเยอรมันรายนี้ มีค่าตัวสูงที่สุดในซัมเมอร์ปี 2020 เมื่อย้ายจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 84 ล้านยูโร พร้อมความคาดหวังในฝีเท้าจากแฟน ๆ พอสมควร ฮาแวร์ตซ์ เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในเกมรุก และเมื่อ โทมัส ทูเคิ่ล เข้ามาทำทีม เขาได้ถูกจับไปยืนเป็น ฟอลส์ ไนน์ และทำผลงานได้ดีมาก แม้ว่าอาจจะยิงไม่เยอะเท่ากองหน้าธรรมชาติ แต่บทบาทการเชื่อมเกม รวมถึงการรับบทฮีโร่ในเกมสำคัญ ๆ เขาทำมันได้อย่างไร้ที่ติเลยทีเดียว หากถามว่าค่าตัวของ ไค ฮาร์แวร์ตซ์ คุ้มค่าแค่ไหน แฟนสิงห์บลูส์คงบอกว่าคุ้มค่ามาก ๆ เพราะเขาเป็นคนทำประตูชัยในเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก พาทีมคว้าแชมป์ อีกทั้งเขายังเล่นได้ดีมาตลอด โดยสถิติของเขากับ เชลซี จนถึงตอนนี้คือลงสนามไปแล้ว 92 นัดยิงได้ 23 ประตู 14 แอสซิสต์ ด้วยอายุที่น้อย ฮาแวร์ตซ์ มีโอกาสพัฒนาขึ้นอีกเยอะ และค่าตัว 84 ล้านยูโร ถือว่าอยู่ในข่ายที่คุ้มค่าพอตัวเลยทีเดียว
ปี 2021: แจ็ค กรีลิช จาก วิลล่า ไป แมนฯ ซิตี้ นี่คือนักเตะอังกฤษที่มีค่าตัวการย้ายทีมสูงที่สุเในประวัติศาสตร์ และอยู่ในอันดับที่ 6 ของนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันอีกด้วย กรีลิช ย้ายจาก แอสตัน วิลล่า มาอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 117 ล้านยูโร และผลงานในฤดูกาลแรกของเขาถือว่ายังไม่เปรี้ยงปร้างสมราคามากนัก แม้ว่าจะพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ก็จริง แต่สถิติส่วนตัวของเขายังห่างไกลจากคำว่าคุ้มค่าอยู่เยอะ โดย กรีลิช ยิงได้แค่ 6 ลูกกับ 4 แอสซิสต์จากการลงสนาม 39 นัดรวมทุกรายการ อีกทั้ง กรีลิช ยังไม่ถึงกับยึดตัวจริงในทีมได้แบบถาวร ซึ่งต้องรอดูว่าในฤดูกาลหน้า เขาจะปรับตัวและพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้มากน้อยแค่ไหน ตลาดซัมเมอร์รอบนี้ บางทีอาจมีคนที่ค่าตัวแพงกว่านี้อีกก็ได้นะครับ และที่น่าจับตามองก็คือ นูนเญซ กับ ชูอาเมนนี่ จะแบกรับความกดดันจากค่าตัวได้ดีแค่ไหน อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน
