หลังจากที่ Manchester United ประกาศ Official Agreed ดีลลิซานโดรเมื่อตะกี๊นี้สดๆร้อนๆ ระหว่างรอการเปิดตัวอีริคเซ่น&ลิซานโดรแบบเบิ้มๆ ถ่ายคลิปเปิดตัวกันแบบอลังการ เปลี่ยนโฟกัสมาดูที่ภาพซ้อม ณ ประเทศออสเตรเลียวันนี้กันบ้างครับ

โฉมหน้าทีมที่แบ่งข้างซ้อมแล้วเป็นฝ่ายชนะในวันนี้กัน ตามรูปนี้เลย โดยคนที่ยืนข้างๆบรูโน่ คือน้องวิล Will Fish กองหลังวัย 19 ปี รุ่นเดียวกับพวกอัลบาโร่ ชาร์ลี ซีดาน นั่นเองที่ติดมาปรีซีซั่นแทนตวนเซเบ้ที่บินกลับไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัว

น่าสังเกตทีมนี้มีตำแหน่งครบถ้วนและสมดุลดี ทั้งกองหลัง ตัวริมเส้น กองหน้าตัวจบ(ด็อกเตอร์) ตัวรุกสุดจี๊ด(ฟาคู) และสองมิดฟิลด์ตัวรุก ฮันนิบาล เมจบรี กับ ซีดาน อิคบาล สองนักเตะวัย 19 ปีเช่นกัน

เรื่องของซีดาน อธิบายไปแล้วว่าน้องเป็นมิดฟิลด์กลางสนามแบบ "เบอร์8" ที่มีความเป็นตัวขับเคลื่อนเกมแบบ Mezzala + มิดฟิลด์ตัวรุกขึงเกมแบบ Enganche ที่เป็น "Traditional 10" อยู่ในตัว

ขณะที่ฮันนิบาล เมจบรี หมอนี่เป็นดาวรุ่งที่เริ่มดังมาหลายปีแล้วตั้งแต่อายุน้อยๆ และเราก็ทราบกันว่าเขาคือผู้เล่นสายเพลย์เมคเกอร์ที่เป็น "Advance Playmaker" ตัวรุกความเร็วสูงที่เน้นการปั้นเกมที่แพรวพราว มีสกิลWingerติดตัว และสามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายในสนามเพื่อทำเกมให้กับทีม

สไตล์สองตัวนี้แตกต่างกันพอสมควร หากลงดีเทลไปจะเห็นชัดเจน โพสต์นี้น่าจะทำให้ทุกคนเห็นภาพได้ง่ายๆ ฮันนิบาลเป็นตัวที่ชอบทำเกมรุกเช่นกัน แต่ไม่ได้เน้นการครอบครองบอล จะเล่นเหมือนบรูโน่ที่สร้างสรรค์เกมด้วยจินตนาการมากกว่า (ในยามเล่นเบอร์ 10)

แต่ซีดาน อิคบาล ยืนต่ำกว่าฮันนิบาล เล็กน้อย และเป็นผู้เล่นที่ขึงเป็นตัวตะขอตรงกลางในลักษณะของ Engancheที่เป็น "10 แบบคลาสสิค" ดังนั้นจะไม่เหมือนกัน และไม่ทับกันแน่นอน เพราะเราสามารถใช้ฮันนิบาลยืน AM ได้ ในขณะที่ใช้ซีดาน ยืน CM แบบMezzala เบอร์8 ได้เช่นกัน

ซีดาน อิคบาล ให้สัมภาษณ์เบื้องต้นที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวเขาเอาไว้ว่า

"ผมเล่นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ ผมชอบที่จะเอาบอลมาเล่นด้วยตัวเองอยู่ตลอดเวลา ผมแค่เล่นไปตามที่ถนัดและที่ควรจะทำ ไม่มีอะไรน่าเสียใจทั้งนั้น ผมก็แค่ทำให้ดีที่สุดในสนาม ที่เหลือก็แล้วแต่พระเจ้า"

"ผมอยากจะขอบคุณแฟนบอลที่แสดงความรักและการสนับสนุน มันเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์มาก ขอบคุณมากๆครับ"

"ผมโตขึ้นมาพร้อมๆกับเชียร์สโมสรนี้ แล้วก็เข้ามาเล่นฟุตบอลที่นี่ตั้งแต่8-9ขวบ การที่ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอล 90,000 คนมันเป็นความฝันของผมจริงๆ ทั้งได้ลงในเกมเจอวิคตอรี่ เกมลิเวอร์พูล หรือแม้กระทั่งในแชมเปี้ยนส์ลีก ให้อธิบายออกมามันยากจริงๆ"

"ถ้ามีโอกาสออกไปเล่นแบบยืมตัว ผมก็จะชั่งน้ำหนักดูทั้งข้อดีข้อเสียต่างๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ก็เดี๋ยวมาดูกันว่าต่อไปจะเป็นยังไง ส่วนในทีมเราตอนนี้มีบรรยากาศที่ดีมากๆ ผู้จัดการทีมคนใหม่ คือมันอาจจะฟังดูเร็วไป แต่เขาสอนไอเดียให้กับทีมจนทำให้เราเก็บผลการแข่งขันได้ดีสองนัดแล้ว ทุกๆคนก็มีความสุขเวลาฝึกซ้อมด้วย ทุกคนทุ่มเทกัน 100% เลยซึ่งเป็นบรรยากาศแบบที่ดีมากๆ"

"ปกติไม่ค่อยมีนักเตะเอเชียใต้ที่ได้ลงเล่นมากนัก แต่ถ้าคุณเก่งจริงๆผมก็เชื่อว่าคุณสามารถทำได้ ไม่เกี่ยวกับว่าคุณเป็นใครมาจากไหนเลย ผมไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้ ผมก็แค่สร้างหนทางของตัวเอง ไม่ว่าต้องเจออะไรก็ตาม ผมก็จะทุ่มเท100%ทั้งตอนซ้อมและตอนลงแข่ง แล้วถ้าผมเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้มากขึ้นเรื่อยๆมันก็จะเยี่ยมมากเลย"

นี่คือคำให้สัมภาษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเขา และพื้นฐานการที่เขาเองก็อยู่กับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาตั้งแต่เด็ก ในฐานะที่เป็นลูกครึ่งระหว่างคุณพ่อสัญชาติปากีสถาน และคุณแม่สัญชาติอิรัก ในขณะที่เจ้าตัวเองเกิดที่เมือง "Manchester" แบบแท้ๆเลย (สุดยอด)

ซีดาน อิคบาล เกิดเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ ปี 2003 ในวัย 19 ปีกับส่วนสูง 181cm เจ้าตัวถือสองสัญชาติ ทั้งอังกฤษโดยกำเนิด และสัญชาติอิรัก ตามคุณแม่ของเจ้าตัวนั่นเอง และสุดท้ายเขาก็เลือกเล่นให้ทีมชาติอิรัก และได้ลงชุดใหญ่ไป 2 เกมแล้วเรียบร้อย

ซีซั่นที่ผ่านมา เจ้าตัวลงสนามไป 25 นัดให้กับทีม U-23s เป็นหลัก และทำไป 4 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ โดยตำแหน่งหลักๆที่เขาลงสนาม ก็อย่างที่เขียนไปแล้ว นั่นก็คือการยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง (CM) เป็นหลักๆนั่นเอง 11 นัด ซึ่งจุดนั้นแหละที่เขาทำไป 3 เม็ด 1 แอสซิสต์ การเล่นในตำแหน่งอื่นก็มีบ้าง เช่น AM, DM, LM, RM

แต่ตำแหน่งธรรมชาติของหมอนี่คือมิดฟิลด์ตัวกลางที่เล่นในจุด CM อย่างที่แฟนบอลชาวไทยเห็นที่ราชมังคลา และเกมกับเมลเบิร์น วิคตอรี่ ในฐานะมิดฟิลด์เบอร์8ธรรมชาติ นั่นเองครับ

มีอนาคตดีมากทั้งคู่ในฐานะตัวทีมชาติอิรัก สำหรับซีดาน / และทีมชาติตูนิเซีย สำหรับฮันนิบาล เมจบรี ที่ติดชุดใหญ่กันแล้วทั้งคู่ และต่อสัญญายาวกันไปเรียบร้อยแล้ว ซีดานมีcontractถึงปี2025 ส่วนฮันนิบาลปี2026 ต้องบอกเลยว่าเด็กพวกนี้เป็น Generation ทอง ที่ถ้าให้โอกาสและปั้นดีๆ เราสามารถจะมีนักเตะชั้นยอดใช้งานจากอะคาเดมี่ตัวเองได้สบายๆในระยะยาวเลย

เป็นอย่างที่ปีก่อนมีการจัดอันดับว่า ทีมที่มีความมั่นคงในระยะยาวมากที่สุดทีมนึง ก็คือแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดของเรานี่แหละที่นักเตะในทีมชุดหลักส่วนใหญ่ก็ยังอายุไม่เยอะ ในขณะที่อะคาเดมี่ ก็ซื้อผู้เล่นอายุน้อยฝีเท้าดีมีแวว มารวมเป็นขุมกำลังไว้เป็นจำนวนมาก

ทางด้านฮันนิบาล จอมทัพคาร์เธจวัย 19 ปีเจ้าของส่วนสูง 184cmนั้น ปีที่ผ่านมาติดภารกิจรับใช้ทีมชาติลงเตะในแอฟริกันเนชั่นส์คัพ และนัดกระชับมิตรอื่นๆอีกหลายต่อหลายครั้ง ทำให้เกมกับสโมสรในทีมชุด U-23s มีเวลามาลงสนามค่อนข้างน้อย รวมแล้วซีซั่นที่ผ่านมา ลงเล่นไปทั้งหมด 14 เกม เป็นพรีเมียร์ลีก 2 นัด นอกนั้นก็คือชุดสำรองทั้งหมด

โดยตำแหน่งหลักที่ปีก่อนฮันนิบาลได้เล่น จะเป็นจุด "AM" เป็นหลักๆในชุดสำรองของเรา ยิงไป 1 ประตู 2 แอสซิสต์ ในPL2 ให้ชุดU-23s

หลายๆคนเป็นห่วงฮันนิบาลว่า ทำไมยังไม่ได้ลงสนาม ไม่เตะตาETHเหรอ? ข้อนี้ผมตอบได้เลยว่า มันคือการ "Rotationดาวรุ่ง" ของทีมเรา ให้ผลัดกันได้ลงสนามนั่นเอง

สังเกตง่ายๆว่า ช่วงเกมที่มาไทย นัดเจอลิเวอร์พูล เด็กที่ไม่ได้ลงสนามกันสี่คน ผมซูมกล้องให้ดูในไลฟ์หลังเกมว่า มันมีพวกอีธาน แลร์ด / ชอง / ฮันนิบาล / การ์นาโช่ พวกนี้ที่ลงมาวอร์มดาวน์กันก่อนกลับออกไปกับทีม นี่คือพวกที่ไม่ได้ลงสนาม

ในขณะที่เกมต่อมา ตัวที่ไม่ได้ลงเลยในเกมลิเวอร์พูลพวกนี้ ก็ได้ลงสนามกันเกือบหมด โดยเฉพาะ อีธาน กับ ชองกี้ ได้ลงมาเป็นชุดสองในครึ่งหลังของเกมที่เจอเมลเบิร์น วิคตอรี่ แบบเต็มๆเป็นที่เรียบร้อยในตำแหน่ง RB และ RW ตามลำดับ แถมยังสร้างโอกาสทำให้ได้ลูกที่สี่จากการกระชากและเปิดบอลเข้าไปกดดันจนหลังเมลเบิร์นพลาดนั่นเอง

ยืนยันด้วยรูปของผมเองที่ซูมไปถ่ายในวันนั้น อีธาน/อเลฮันโดร/ตาฮิธ/ฮันนิบาล สี่ตัวนี้ออกมาวอร์มดาวน์ช่วงหลังจบเกม

ดังนั้น ด้วยการให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่งของทีม ค่อนข้างมั่นใจว่า ที่ฮันนิบาลยังไม่ได้ลงสนามเลยในสองนัดที่ผ่านมา มันไม่ใช่ว่าฟอร์มไม่เตะตาหรอก แต่เทน ฮาก คงอยากจะดูดาวรุ่งของเราลงสนามจริงกันให้ครบๆ เลยสลับกันให้โอกาสลงสนาม

เพราะฉะนั้น เกมที่เพิร์ธกับ คริสตัล พาเลซ ในวันอังคารนี้เวลา 17.10 น. เราอาจจะได้เห็น "แม่ทัพคาร์เธจอำมหิตอัจฉริยะ" Hannibal Mejbri กันในครึ่งหลังเกมเจอลูกทีมเฮียปั๊ตก็ได้

ไม่ใช่ว่าจะหมดโอกาสหรอกครับ แต่อาจจะต้องหมุนเวียนกันหน่อย เพราะเหตุผลสำคัญคือ ตัวรุกแดนบนมันเยอะมากและจะเหยียบกันตาย

ป็อกบา มาติช เพิ่งออกไปจากทีมไป, นักเตะจาก First Teamขุมกำลังตัว Midfielder เหลือน้อยมากๆ ตัวจริงเหลือแค่ เฟร็ด แม็คแค่นั้นเอง (นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมสองคนนี้ได้ลง) ขณะที่ตัวดาวรุ่งที่เล่นMFได้ มันก็เหลือแค่ "ชาร์ลี-ซีดาน"

สองคนนี้จึงเป็นดาวรุ่งที่ได้ลงสนามครบสองนัด ก็เพราะทีมเราไม่มีมิดฟิลด์คนอื่นแล้วไงครับ

ไม่ต้องห่วงว่าเทน ฮาก จะใช้แม็คเฟร็ดแน่นอน ตามปกติแล้วระบบกลางคู่ double pivot ควรจะใช้ 6 หนึ่งตัว 8 หนึ่งตัวอยู่แล้ว ถ้าเล่น 6s กลางต่ำคู่กันก็แทบจะไม่บาลานซ์แล้ว แถมทั้งแม็ค และ เฟร็ด ทั้งคู่นี้ก็เป็นมิดฟิลด์เบอร์ 8 ทั้งคู่

เฟร็ดเป็น 8 Carrilero / แม็คโทมิเนย์เป็น 8 Box-to-Box การใช้สองคนนี้ยืนต่ำคู่กันตั้งแต่ยุคโอเล่ เป็นการใช้งานที่ผิดจุดแข็งและตำแหน่งที่แท้จริงอยู่แล้ว เราจึงได้เห็นเฟร็ดฟอร์มดีขึ้นในยุคเทน ฮาก ที่เล่นเป็นเบอร์ 8 เพราะได้ยืนสูงขึ้นมาในตำแหน่ง CM นั่นเอง

ดังนั้นเอริค เทน ฮาก คงจะต้องหาทางปรับการใช้ผู้เล่นสองคนนี้ ร่วมกันกับตัวใหม่ๆที่เข้ามาแล้วอย่าง อีริคเซ่น มาร์ติเนซ และอาจรวมถึงแฟรงกี้ เดอ ยอง แน่นอน

และผู้สืบทอดตำแหน่งของตัวหลักๆพวกนี้ ก็คือน้องๆของเรานี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น ซีดาน ฮันนิบาล รวมถึง ชาร์ลี ซาเวจ และ เจมส์ การ์เนอร์ด้วย ตำแหน่งและมิติการเล่นของ 4 ตัวนี้ก็แตกต่างกันจริงๆ และสามารถจัดลงเล่นร่วมกันได้ดังนี้

ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องราวที่นำมาเปรียบเทียบกันของ "อำมหิตอัจฉริยะ" ทั้งสองคนที่อยู่ใน Generation เดียวกัน ทั้งฮันนิบาล เมจบรี และ ซีดาน อิคบาล นั่นเอง

ซึ่งในส่วนของการจับ Combination คู่กัน จริงๆแล้วก็คงจะต้องเป็น Charlie Savage + Zidane Iqbal ดูจะเข้าที่มากกว่า ในแง่ของการใช้ double pivot กลางคู่ที่เล่นร่วมกัน

เว้นแต่ว่า ถ้า "AM" มีที่ให้ลงอีกตำแหน่ง ในยามที่บรูโน่ติดธุระไปงานแต่ง / อีริคเซ่นไปทอดผ้าป่า / ดอนนี่ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ฮันนิบาลก็อาจจะได้ลงสนามโชว์ผลงานของเขาก็ได้

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล อนาคตของฮันนิบาลไม่ต้องห่วง ยังไงก็ได้อยู่กับเรายาวๆแน่ๆ จากสัญญาที่มีถึงปี 2026

แต่แค่ว่า ในระยะสั้น ต้องดูมุมมองและ "การพิจารณา" ของ ETH เท่านั้นเองว่า เขาดีพอจะใช้งานจริงในซีซั่นหน้าเลยไหม หรือว่ายังต้องให้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่องในระดับสูง จากการปล่อยยืมตัวอีก ก็ต้องเป็นสิ่งที่เรายังต้องพิจารณาต่อไป แต่แม้จะถูกปล่อยยืมก็ตาม แฟนผีก็อย่าห่วง ตัวนี้ก็ของจริงเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นดาวรุ่งรายไหนของเรา จะชาร์ลี ซีดาน ฮันนิบาล จิมมี่ รวมถึง ค็อบบี้(ไมนู) และ อิซัค(แฮนเซิน-โอเริน) พวกนี้มีอนาคตกันทั้งเซ็ต การปล่อยยืมให้ได้ลงเล่นต่อเนื่องก็เป็นเรื่องดีทั้งนั้น หรือจะอยู่ช่วยทีมในซีซั่น 2022/23 เลยก็ตาม

แต่ที่แน่ๆ ปรีซีซั่นเกมหน้าเจอกันนะ ฮันนิบาล เมจบรี

-ศาลาผี-