:::     :::

5 เหตุผลที่ "มาริโอ" จะปลุก "เอกนิษฐ์" สู่ร่างทอง

วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
931
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ท่ามกลางสายตาหลายร้อยคู่ และกล้องมากกว่า 10 ตัว ไหนจะมีคำถามที่ยิงเข้าใส่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในวันที่เปิดตัว เอกนิษฐ์ ปัญญา เข้ามาสวมเบอร์ 7 คนใหม่ ให้กับ "กิเลนผยอง" นับเป็นการเข้ามาสานต่อจากรุ่นพี่ทั้ง ดัสกร ทองเหลา, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส และ สรวิทย์ พานทอง ที่เคยใช้หมายเลขนี้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ “บุ๊ค” ได้พูดเอาไว้ในคลิปของการเปิดตัวจากสโมสร ถึงการเข้ามาทำงานร่วมกับ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ว่า “ตอนนี้ผมได้เข้ามาเป็นลูกน้องของเขาแล้ว ผมจะพยายามฟังสิ่งที่เขาแนะนำ พยายามเอามาปรับใช้กับตัวเอง”

และวันนี้เรามี 5 เหตุผลที่จะพาไปไขคำตอบกันว่า กุนซือมาซิโดเนีย วัย 36 ปี ที่เพิ่งจะจบหลักสูตรอบรมโค้ช ยูฟ่า เอ ไลเซนส์ ที่ประเทศเซอร์เบีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะทำอย่างไรในการปลุกความเก่งของดาวเตะหมายเลข 7 ให้กลับคืนร่างทองอีกครั้ง หลังที่ผ่านมาโดนเสียงวิจารณ์ค่อนข้างเยอะพอสมควรกับฟอร์มที่ดร็อปลงไป


1. การให้ความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่

หากจะบอกว่า มาริโอ คือกุนซือที่ให้ความเชื่อมั่นกับผู้เล่นทุกคนก็คงไม่ผิดนัก อย่างช่วงแรกที่ขึ้นมาคุมทีมซ้อม ก็ถึง "เมสซี่เฟรม" ปัณณวัชร์ โชติจิรชัยธรณ์ แข้งดาวรุ่งจากค่าย "กิเลนผยอง" ที่แม้จะไม่ได้เล่นในตอนนั้น เพราะเพิ่งปิดซีซั่นกับ บางปะอิน อยุธยา เอฟซี ในไทยลีก 3

แต่เขาเลือกที่จะให้เจ้าของความสูง 155 ซม. อยู่กับทีมต่อไป จนได้โอกาสลงสนามในเป็นนัดแรกของฤดูกาล ในเกมที่บุกไปเอาชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 2-0 ในศึกฟุตบอลไทยลีก 1 2021/2022 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 65 พร้อมกับเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลได้เป็นอย่างดี

 มาริโอ ยูรอฟสกี้ เชื่อมั่นว่าเด็กที่อยู่กับเขาทุกคนมีของกันทั้งนั้น และหากให้ความมั่นใจเช่นนี้ลงไปในสนาม ก็ย่อมจะสามารถต่อกรพร้อมจัดการคู่แข่งฝั่งตรงข้ามได้หมด ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มมุมมองที่ดีในการเล่นให้กับ “เจ้าบุ๊ค” ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว


2. ปกป้องเสียงวิจารณ์โดยใช้ตัวเองเป็นกำแพง

หลังจากที่ อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือแซมบ้า ได้ออกจากตำแหน่งหลังจบเกมที่ เมืองทองฯ พ่ายต่อ ตราด เอฟซี เมื่อจบเลกแรกของซีซั่น 2020/2021 เมืองทอง ยูไนเต็ด จัดการเปิดตัว มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่เลื่อนมาจากโค้ชเยาวชนมาสู่ชุดใหญ่ ดูเหมือนว่าเป็นการแก้ปัญหาได้ถูกจุด

โดยเฉพาะความที่ “โค้ชโอ้” เป็นกุนซือที่พร้อมออกหน้าปกป้องลูกทีม ซึ่งมีอยู่หลายครั้งที่ทีมไม่ชนะติดต่อกันหลายเกม ทำให้เขาแถลงข่าวว่าอย่าได้โทษลูกทีม หากจะโทษต้องมาลงที่ตัวเขา เพราะเขาเป็นคนจัดผู้เล่นและแท็คติกนำไปสู่ในสนาม

เมื่อเป็นเช่นนั้นคงไม่มีเหตุลใดที่เขาจะไม่ปกป้อง เอกนิษฐ์ ปัญญา ในวันที่โดนมรสุมถาโถมเข้าใส่ จากคอมเมนต์ที่แฟนบอลต้องพิมพ์มากระแทกจิตใจของอดีตดาวเตะ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด, เชียงราย ซิตี้ และ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ให้รอดพ้นต่อเสียงวิจารณ์


3. ตัวแทน “วิลเลียน พ็อพพ์”

 การที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด กล้าหอบเงิน 30 ล้านบาท ไปสู่ขอ เอกนิษฐ์ ปัญญา มาจาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นว่าพวกเขามั่นใจกับนักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และเพิ่งจะพาทีมคว้ารองแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม มากแค่ไหน 

ด้วยปรัชญาเกมรุกที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ มักจะใช้การบิวด์อัพด้วยการต่อบอล พร้อมกับทะลุทะลวงจากริมเส้นเสียเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่า เอกนิษฐ์ ปัญญา มีความเข้าใจในตรงจุดนี้ของ “กิเลนผยอง” เหมือนกับที่เขาพูดไว้ว่า “ในส่วนของการเป็นโค้ช เขามีอารมณ์ร่วมกับเกม ทำให้ลูกทีมมีความฮึกเหิมอยากลงไปเล่นครับ”

 ขณะเดียวกันการขาดหายไปของ วิลเลียน พ็อพพ์ ที่เลือกไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีม เพราะอยากไปหาความท้าทายใหม่ในลีกยุโรป ทำให้การเข้ามาของ “เจ้าบุ๊ค” น่าจะเป็นการตอบโจทย์กับเกมทางริมเส้นด้านซ้าย ที่ต้องมาแทนดาวซัลโวของทีมจากซีซั่นก่อนที่กดไป 16 ประตู


4. อยากได้มานานแล้ว

ช่วงปิดฤดูกาล 2020/2021 "บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ประธานบริหาร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ออกโรงสยบข่าว เมืองทอง ยูไนเต็ด ทุ่มเงินเป็นสถิติของสโมสร 55 ล้านบาท ขอซื้อ เอกนิษฐ์ ปัญญา ทั้งๆที่นี่จะเป็นมูลค่ามากกว่าตอนที่ "กว่างโซ้งมหาภัย" จ่ายเช็คเงินสดคว้า ธนบูรณ์ เกษารัตน์ มาจาก "กิเลนผยอง" ด้วยวงเงิน 50 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ออกมาให้ข่าวเวลานั้นว่า พวกเขายังเชื่อมั่นเหลือเกินในอนาคตคงจะต้องได้มาร่วมงานกันอย่างแน่นอน และในที่สุดพวกเขาก็ทำได้อย่างสมใจอยาก แถมราคายังลดจาก 55 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 30 ล้านบาท 

นับว่าเป็นเม็ดเงินที่เท่ากับตอน ธีราทร บุญมาทัน ย้ายมาเล่นในถิ่น ธันเดอร์โดม เมื่อกลางปี 2016 ซึ่งเป็นความอยากได้มานานของ “กิเลนผยอง” และ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่เคยเห็นเด็กหนุ่มคนนี้ลงไปยิง เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยอายุ 15 ปี 11 เดือน 28 วัน เป็นสถิติผู้เล่นอายุน้อยสุดในขณะนั้นที่ทำประตูได้ในไทยลีก

 

5.เพิ่มการแข่งขันแย่ง 11 ตัวจริง

หากลองกางรายชื่อของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ออกมาแล้ว ต้องขอบอกตรงๆว่า พวกเขามีความน่าสนใจในทุกตำแหน่งอย่างแท้จริง เพราะทุกคนจะต้องทำการแข่งขันกันในตอนซ้อม เพื่อ มาริโอ จะได้เฟ้นหา 11 ตัวจริงลงสนามแต่ละสัปดาห์ 

การได้ “เจ้าบุ๊ค” มาครั้งนี้ เขาเองก็ต้องแข่งขันกับคนที่อยู่ในทีม ทั้ง พิชา อุทรา กับ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ที่สามารถขยับตัวเองไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับหรือวางบอลก็ได้ ไหนจะ สหรัฐ กันยะโรจน์ รุ่นพี่ที่เคยร่วมงานกันที่ ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด และ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 

ปจนถึงกรวิชญ์ ทะสา, ภูมินทร์ แก้วตา ซึ่งทั้งหมดเล่นได้ทั้งปีกซ้ายและขวา อย่าลืมว่าอีกคนที่ดาวเตะจาก อ.พญาเม็งราย ต้องต่อสู้ด้วย ก็คือ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ จอมทัพทีมชาติอุซเบกิสถาน ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรุก ทำให้การแข่งขันในทีมย่อมสูงมากในซีซั่น 2022/2023 ที่กำลังมาถึง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด