"ความเร็วของสมอง" และร่างสองของฟานเดอเบค (ที่ยังโหดได้อีกเยอะ)
เกมปรีซีซั่นนัดล่าสุดที่แมนยูไนเต็ดเอาชนะคริสตัล พาเลซไป 3-1 เราได้เห็นนักเตะอย่าง Donny van de Beek ทำแอสซิสต์ได้ทัันทีเพียงแค่การลงมาเล่นในสนามได้สองนาทีในฐานะตัวสำรองครึ่งหลังที่ถูกเปลี่ยนลงมาอย่างมีนัยสำคัญว่า ทำไมต้องเป็นดอนนี่ที่ได้ลงมาก่อนตัวชุด B คนอื่นๆ
ดอนนี่เล่นเกมรุกเร็วร่วมกับนักเตะหัวหอกคนอื่นๆของทีมไม่ว่าจะเป็นซานโช่ แรชฟอร์ด มาร์กซิยาล เขาอ่านเกมและวิ่งทำทางไปในพื้นที่ที่ดีที่สุด สร้างทางเลือกที่แตกต่างกันในการจ่ายบอลของเจดอน ซานโช่ ที่เลือกจ่ายได้ทั้งมาร์กซิยาล ที่วิ่งทะลุขึ้นไปตรงๆ กับดอนนี่ที่overlapขึ้นทางขวา จากนั้นบอลที่มาร์กซิยาลวิ่งแซงเอาชนะแนวรับคู่แข่งไปได้ ก็ถูกแปะกลับมาให้ฟานเดอเบค ที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งพร้อมจะซัดประตูจากตรงนั้นได้เลย
ถ้าเป็นหลายๆคนอาจจะเลือกเสี่ยงยิงมุมแคบจังหวะนั้นเลยก็เป็นได้ ด้วยการตัดสินใจที่ต้องรีบเร่งทำในพื้นที่แคบๆภายในเสี้ยววินาที แต่ฟานเดอเบคใจเย็น และฉลาดพอที่จะจ่ายบอลตบเข้ากลางไปให้เพื่อนที่ยืนว่างอยู่อย่างมาร์คัส แรชฟอร์ด ได้แปเน้นๆเข้าไปอย่างสวยงาม
สิ่งนี้สะท้อนเรื่องความใจเย็น คุณภาพในการเล่นแดนสุดท้ายในพื้นที่อันตรายอย่างกรอบเขตโทษคู่แข่ง และเรื่องของ Positional Awareness ทั้งของตัวเองและของเพื่อน ที่เขา "อ่านขาด" ว่าใครอยู่จุดไหนบ้าง และจ่ายให้เพื่อนได้อย่างแม่นยำโดยไม่ลังเล
เป็นประตูทีมเวิร์คที่สวยงามตั้งแต่จังหวะจ่ายบอล ดูดเอาบอลลง วิ่งทำทาง ต่อบอลสั้นเร็วเจาะแนวกองหลังคู่ต่อสู้ซะเละเทะ จนตัวจบสกอร์ได้ยิงแบบ "โล่งสุดๆ" เพราะการเล่นบอลร่วมกันของสี่นักเตะที่ทำลายเกมรับทีมระดับพรีเมียร์ลีกอย่างคริสตัล พาเลซ ได้อย่างหมดจดนั่นเอง
หลังจากเป็นแค่ตัวเปลี่ยนลงมาในเซ็ตหลัง เกมแดงเดือดที่ราชมังคลาฯ และเกมที่สองกับเมลเบิร์น วิคตอรี่ ยังไม่ค่อยส่งผลต่อความมั่นใจของนักเตะเท่าไหร่ในการมีส่วนร่วมกับทีมเพื่อทำประตูคู่แข่ง
แต่อย่างไรก็ตาม เอริค เทน ฮาก เพิ่งให้ข้อมูลเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้เกี่ยวกับความสามารถของดอนนี่ ฟานเดอเบค ที่สามารถช่วยทีมได้ เอริคพูดถึง "เด็กเก่า" ของเขาที่กลับมารียูเนี่ยนกันที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเอาไว้ดังนี้ โดยเฉพาะกรณีที่ถูกถามว่า ฟานเดอเบคนั้นสรุปแล้ว เล่นเป็นเบอร์ 8 หรือ เบอร์ 10 ดีกว่ากัน
เอริคตอบไว้แบบชัดเจนเช่นนี้ว่า
"เขาเล่นได้ทั้งสองแบบนั่นแหละ ผมเห็นมาจากสมัยเมื่อก่อนนะ เขาเล่นได้ แต่ว่าถ้าจะเอาเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดจริงๆของเขา ความสามารถเขามันดีที่สุดก็คือการเล่นในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง"
"ด้วยการเล่นบอลสั้นอยู่หลังกองหน้า จมูกเขาไวมากต่อการหาตำแหน่งการยืนที่ดีและถูกต้อง"
การได้ลงสนามส่วนใหญ่ของมิดฟิลด์ดัตช์รายนี้ เท่าที่เราเห็นกันก็มักจะต้องยืนต่ำในบทบาทการเล่นตั้งแต่ย้ายมาอยู่โอลด์แทรฟฟอร์ด แต่ดอนนี่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คำพูดของเอริค เทน ฮาก นั้นถูกเป๊ะๆ ในเกมเจอกับคริสตัล พาเลซ
และน่าจะเป็นสิ่งที่แฟนผีหลายท่านที่เอาใจช่วยฟานเดอเบคนั้น "รู้อยู่แล้ว" ว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดในเรื่องไหน รวมถึงความหลากหลายที่นักเตะทำได้ในแผงมิดฟิลด์ด้วย เพราะแกเล่นได้แม้กระทั่งเบอร์ 6 แบบสบายๆ เนื่องด้วยความฉลาดในการเล่น บวกกับทักษะพื้นฐานฟุตบอลแน่นปั้กจากอะคาเดมี่ชั้นยอดของอาแจ็กซ์ตั้งแต่ปี 2008
เทนฮากชี้ให้เห็นจุดสำคัญในเรื่องของการเคลื่อนที่ และการยืนตำแหน่งในแนวรุกของฟานเดอเบคว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของเขา โดยเฉพาะเกมเมื่อวานที่ผ่านมาในจังหวะที่ซานโช่พาบอลบุกเข้าสู่แดนหลังของคู่ต่อสู้
การวิ่งที่เป็น overlapping run ในเกมเมื่อวาน ที่ทำให้เขา "หลุดตัวประกบ" จากคู่แข่ง ทำให้สามารถรับบอลต่อจากอ็องโตนี่ มาร์กซิยาลได้แบบสบายๆนั้น การเล่นตรงนี้เป็นภาคของการ "เคลื่อนที่" จากDVBที่แฟนผีเห็นกันจนชินตาว่า ฟานเดอเบคนั้นมีความชาญฉลาดและไอคิวฟุตบอลที่สูงมากในการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อหาตำแหน่งที่ดีในสนาม
ด้วยการเป็นอีกหนึ่งนักฟุตบอลบนโลกนี้ที่ตอบโจทย์ความเป็นฟุตบอล Pass and Move บอลที่ให้แล้วไป มีไดนามิคการเคลื่อนที่อันได้เปรียบเชิงพื้นที่และตำแหน่งกับคู่ต่อสู้ และ "เอื้อ" ต่อการเล่นของเพื่อนตลอดเวลา
เหลือแค่ว่าเพื่อนจะตามเซนส์ดอนนี่ทันหรือเปล่าเท่านั้นเอง ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าดอนนี่เล่นไม่เข้ากับคนอื่น จะให้เล่นเข้ามันก็เล่นได้ แต่เขาก็ต้องลดเซนส์ตัวเอง ลดจินตนาการในการเล่นของตัวเองไป เพื่อที่จะต่อบอลกับเพื่อนโดยไม่เคลื่อนที่หาตำแหน่งดีๆ มันก็ไม่ควรเป็นแบบนั้น
เพื่อนร่วมทีมต่างหาก ที่ต้องพัฒนาเซนส์การอ่านเกม อ่านจังหวะการเล่นที่เป็น "บอลสมอง" ของฟานเดอเบคให้ออก แล้วก็เล่นตาม ทีมจะโหดขึ้นอีกเยอะ ซึ่งจริงๆแล้วการเล่นของฟานเดอเบคในการวิ่งหาช่องนั้น ไม่ได้เป็นอะไรที่ยากเกินกว่าเพื่อนจะเข้าใจเลย มันไม่ได้เหนือจินตนาการอะไรขนาดนั้น
แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ ฟานเดอเบค มักจะเคลื่อนที่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกด้วยปฏิกิริยาที่ "เร็วมาก" แบบที่เจ้าตัวก็คงจะไม่ได้เสียเวลาคิดเหมือนกัน
เรื่องความเร็วในการคิดนี่แหละ ที่น่าจะทำให้เพื่อนตามไม่ทัน มันไม่ใช่อะไรหรอก พูดง่ายๆว่านักเตะ คิดเร็วทำเร็วขั้นสุด จริงๆนั่นเอง
เพราะงั้นก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมิติการเล่นเร็วในพื้นที่แคบๆอย่างกรอบเขตโทษของเขามันถึงได้มีประสิทธิภาพ เพราะอิมพัลส์ความเร็วในการคิดของเขา มันไวมากนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนจะไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ เพราะมาจากสัญชาตญาณความฉลาดในการเล่นที่ทำเช่นนี้มาตลอดชีวิตการเป็นนักฟุตบอล
คำว่า "บอลสมอง" ไม่ได้เป็นคำอวยที่เกินจริงสำหรับดอนนี่ เพราะการฝึกฝนและได้ใช้มันบ่อยๆ ทำให้ประสิทธิภาพมันดีและเฉียบคมอยู่ตลอดเวลา จนทำให้มันกลายเป็น "ความเร็วของสมอง" ที่สามารถ react ออกมาได้อย่างถูกต้องโดยใช้เวลาอันสั้นมากๆนั่นเอง
ประตูนี้จึงเป็นเหมือน notification ในโทรศัพท์ของแฟนบอลทุกคนให้รู้ว่า นี่แหละคือความสามารถในการเติมสูงขึ้นไปเล่นเจาะในพื้นที่ Final Third ของคู่แข่ง โดยเฉพาะในจุดไข่แดงที่คู่ต่อสู้กลัวการยืนตำแหน่งของผู้เล่นฝั่งตรงข้ามมากๆ
ใช่ครับ "กรอบเขตโทษ" นั่นเอง
ในเรื่องของ "Spatial Awareness" (การรับรู้ในเชิงพื้นที่) ของดอนนี่ ฟานเดอเบค จะช่วยนักเตะอย่างซานโช่ แรชฟอร์ด หรือ มาร์กซิยาลได้เป็นอย่างดีในการเล่นที่เคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วในเกมรุก
แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยคิดหรือคาดหวังว่า โอกาสในการจะได้ลงสนามไปร่วมเล่นกับนักเตะเหล่านี้ จะได้รับมาโดยไม่ต้องทำงานหนัก เพราะได้ชื่อว่าเป็น "เด็กเทนฮาก" แต่อย่างใด
ดอนนี่ถูกถามเกี่ยวกับประเด็นที่เขาโดนสัมภาษณ์เจาะจุดสำคัญต่อเรื่องที่ว่า เขาน่าจะได้การันตีการลงเล่นบ่อยๆแน่นอนในยุคของเอริค เทน ฮาก ดอนนี่ตอบเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
"แน่นอน ทุกๆคนพูดแบบนั้นเพราะผมเคยเล่นอยู่กับเขาที่อาแจ็กซ์ แต่สุดท้ายแล้ว คุณจำเป็นต้องเล่นให้มันดีๆเท่านั้นเองที่สำคัญที่สุด โดยไม่เกี่ยวกับว่าโค้ชไปใคร"
"คุณต้องหาตำแหน่งของตัวเองในทีมให้เจอให้ได้ ถูกต้องที่ว่าเขารู้จักผมดีในฐานะผู้เล่น แต่มันไม่เกี่ยว"
"ผมต้องแสดงความสามารถออกมาด้วยตัวผมเอง"
มิดฟิลด์วัย 25 ปีรายนี้ยังให้คำมั่นต่อไปด้วยว่า เขาจะพยายามมีส่วนร่วมต่อไปให้มากยิ่งขึ้น แต่การทำเช่นนั้นมันจะไม่ใช่วิธีการที่เขาจะเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของตัวเองเพื่อแค่ให้ได้ลงสนาม ถึงแม้ว่าหลายๆคนอาจจะพูดว่า เขาจำเป็นต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อที่ไปสู้กับเกมในพรีเมียร์ลีกได้
"ผมจะไม่เปลี่ยนแปลงการเล่นของผม คุณสามารถที่จะพัฒนาปรับปรุงสิ่งต่างๆได้ แต่คุณไม่ควรจะเปลี่ยนในสิ่งที่ตัวเองเป็น และผมก็จะไม่ทำเช่นกัน"
"นักเตะทุกคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถของเขาเอง ผมก็เช่นกัน"
และนี่คือคำสุดท้ายของดอนนี่ ฟานเดอเบค ที่ยืนยันว่า มิติการเล่นของเขาจะยังคงเป็นมิดฟิลด์สารพัดประโยชน์ที่พร้อมช่วยเหลือทีมอย่างเต็มที่ต่อไป ไม่ว่าจะในตำแหน่งไหนๆ แต่ลักษณะการเล่นของเขาที่ใช้การรับรู้พื้นที่ การเคลื่อนที่ และการยืนตำแหน่ง เป็นอาวุธหลักในการเล่น จะยังคงเป็นสไตล์ที่เขาถนัดและช่วยเหลือทีมต่อไป
ในฐานะแฟนบอล เราเชื่อว่าสิ่งนี้มันจะทรงพลังยิ่งขึ้น ถ้าได้นักเตะหลักๆเข้ามาเสริมทีมและลงเล่นพร้อมๆกัน อย่างเช่น แฟรงกี้ เดอ ยอง, คริสเตียน อีริคเซ่น, แอนโทนี่ และรวมถึง ลิซานโดร มาร์ติเนซด้วย
ดอนนี่ ฟานเดอเบค ยังโหดได้มากกว่านี้อีกเยอะมาก ถ้าสิ่งแวดล้อมในทีมที่รายล้อมเขา มีระบบการเล่นและความเข้าใจเกมที่ยกระดับตามเขามา ฟานเดอเบคที่แฟนผีรู้จัก จะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
นั่นคือ "ร่างสอง" ที่แฟนผีไม่เคยเห็นแม้แต่ครั้งเดียวที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เร็วๆนี้มันจะมาแล้ว ขอแค่เสริมทีมได้นักเตะที่เข้าระบบเทนฮากอย่าง FDJ และตัวอื่นๆอย่างอีริคเซ่น เข้ามาเล่นด้วยกัน รับรองว่า สิ่งที่คุณเคยรู้จักมา มันก็เพียงแค่เสี้ยวเดียวของดอนนี่จริงๆ ถึงเวลานั้นแฟนผีจะเห็นชัดและรู้ทันทีว่า ที่ผ่านมาพวกกูเอานักเตะอัจฉริยะแบบนี้ไปไว้ที่ไหนมาวะเนี่ย?
ประตูที่สองในเกมเอาชนะพาเลซ 3-1 มันคือการกดท่าไม้ตาย "GHOST" ของดอนนี่ ฟานเดอเบค ที่หายตัวเข้าไปหลอกหลอนคู่แข่งในกรอบเขตโทษอีกครั้ง (ไปดูมุมกล้องหลังโกล จังหวะซานโช่จะจ่ายนี่คือใช่เลย แม่งแว้บมาเป็นผีเลย)
และเขาจะทำแบบนี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าระบบทีมถูกพัฒนาการเล่นให้เคลื่อนที่กันอย่างชาญฉลาดไม่หยุดหย่อนต่อไป ในยุคของเอริค เทน ฮาก
คำว่า "เด็กเทนฮาก" ไม่ได้ช่วยให้ดอนนี่มีโอกาสลงสนาม
ความสามารถของเขาต่างหากที่ช่วย
-ศาลาผี-
References
https://www.transfermarkt.com/donny-van-de-beek/profil/spieler/288255