:::     :::

"Aggressive to Positive" ความดุดันที่ทีมต้องการ : Hannibal Mejbri

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ #BELIEVE โดย ศาลาผี
2,890
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฮันนิบาล เมจบรี มีคาแรคเตอร์สำคัญอย่างหนึ่งที่แฟนผีรู้ดี นั่นก็คือความดุดันในสนาม สิ่งนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ที่แน่ๆ "ความเข้มข้นในการเล่น" ที่เอาจริงเอาจังแบบนี้ มันตรงกับความต้องการของเทน ฮากอย่างชัดเจน และมันสามารถใช้เป็นพลังงาน Positive ที่ ETH สามารถนำไปพัฒนาและใช้ประโยชน์เพื่อทีมได้ในอนาคต

เมื่อวานที่ผ่านมาก็เป็นวันซ้อมของทีม Manchester United เพื่อเตรียมลงเกมกระชับมิตรในการเจอกับ Aston Villa วันเสาร์นี้ที่เมือง Perth ตามเวลาบ้านเราคือ 16.45 น.

ในเซสชั่นการฝึกซ้อมของเมื่อวันก่อนเป็นการฝึกซ้อมแบบเปิด ที่ให้โอกาสนักข่าวเข้าไปทำข่าว และแฟนบอลปีศาจแดงออสซี่ทั้งหลาย ได้เข้าไปชมฮีโร่ของพวกเขาลงสนามฝึกซ้อมด้วย

ซึ่งในบรรดานักเตะที่เทน ฮาก หนีบมาปรีซีซั่นด้วยนั้น คือ Hannibal Mejbri มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 19 ปีผู้ซึ่งเกิดที่ฝรั่งเศส จากคุณพ่อคุณแม่ชาวตูนีเซียน และเคยลงเล่นทีม U-16s / U-17s ให้ฝรั่งเศสมาแล้ว แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะมาเป็นแม่ทัพแห่งดาวเตะทีมชาติตูนีเซีย ลูกหลานเมืองคาร์เธจนี่เอง

ภาพที่เห็นข้างบนนี้ แคปมาจากคลิปวีดิโอสั้นๆที่แสดงให้เห็นว่า เอริค เทน ฮาก เดินสนทนากับฮันนิบาลอย่างจริงจังในช่วงซ้อมดังกล่าว กับดาวรุ่งที่แมนยูซื้อมาจากโมนาโกตั้งแต่อายุ 16 ด้วยราคารวมที่อาจขึ้นถึง 10 ล้านยูโรตั้งแต่อายุแค่นั้น สะท้อนให้เห็นแล้วว่าหมอนี่เป็นของจริงอีกคนที่น่าสนใจฝีเท้ามากๆ

เจ้าหนุ่มที่มีชื่อเล่นว่า "Sideshow Bob" ตามชื่อตัวละครเดียวกันนี้ในเรื่องเดอะซิมพ์สัน อันมาจากทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์นั้น เขาคือนักฟุตบอลที่มีความสามารถทางด้านเทคนิคในการครอบครองบอลเป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถที่จะตัดสินใจเลือกการเล่นที่ดีและถูกต้องอยู่เสมอ

สไตล์ก็จะมีความคล้ายบรูโน่อยู่ในการที่ต้องการบอลไปคอนโทรลและเลือกเพลย์การเล่นด้วยตัวเอง จึงได้มีความเป็นเพลเมคเกอร์ในตัวสูง แต่ฮันนิบาลก็ยังคงต้องขัดเกลาฝีเท้าตัวเองต่อไปอีกมาก

Sideshow Bob

จุดเด่นที่แฟนผีเห็นได้อีกเรื่องหนึ่งจากตัวฮันนิบาลก็คือ "ความAggressive" ในตัวเขาที่พร้อมปะทะตลอดเวลา และดุดันไม่เคยกลัวใครยามเมื่อลงไปในสนาม อย่างที่พวกเราจะเห็นกันในหลายๆครั้งแหละครับว่าหลายๆจังหวะที่เข้าปะทะกับคู่แข่ง ฮันนิบาลจะลุยสุดตัวทุกครั้ง

เราจะเห็นภาพที่เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้มีเรื่องจะงัดกับคู่แข่งอยู่บ่อยๆจนเพื่อนต้องเข้ามาห้ามความห้าวของน้องเค้าไว้หน่อย (ไม่งั้นอาจมีแดง ไอ้เจ้านี่ก็ไม่ยอมลงซะด้วย) ความดุดันเอาเรื่องของเด็กคนนี้เป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งที่ไม่เหมือนกับผู้เล่นคนอื่นๆในทีม ที่ดูแล้วยุคนี้จะไม่ค่อยมีฮาร์ดแมนสายแข็ง สายบวกสักเท่าไหร่

การมีผู้เล่นแบบนี้อยู่ในทีมเพื่อขู่ และสร้าง "แรงปะทะทางจิตใจ" กับคู่ต่อสู้บ้างก็คงจะดี กับเกมกีฬาที่เรื่อง mentality เป็นสิ่งสำคัญ และบ่อยครั้งในยุคที่ SAF ประสบความสำเร็จ นักเตะของเราที่มีบารมีและความแข็งแกร่งทางจิตใจอยู่ มักจะข่มคู่แข่งได้อยู่เสมอๆ

สิ่งที่ฮันนิบาลมีอยู่ในตัวนั้นถ้าควบคุมได้ดีๆ ความ Aggressive จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากกว่าที่จะมีโทษ ถ้าทุกอย่างยังอยู่ในกรอบของ "สติ" ขณะที่อยู่ในสนาม


แต่ประเด็นสำคัญคือ ความดุดันและความเข้มข้นในการเล่น (Intensity & Aggression) มันแมตช์และเหมาะกับฟุตบอลของเทน ฮาก อย่างมาก ที่เขาต้องการให้การเล่นของลูกทีม มีความเข้มข้นดุดันสูง รวมถึงระบบที่มีส่วนในการใช้ "High-pressing" วิ่งเข้าไล่บีบอัดใส่คู่ต่อสู้ด้วย

ความ "เดือดส์" ของฮันนิบาล หากว่าถูกควบคุมให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่พอดีๆ ไม่หงิมเกินไป หรือไม่เรียกตีนเกินเหตุ มันจะมีแต่ผลดีกับความเข้มข้นดุดันในภาคการเล่นของทีมอย่างแท้จริง ผ่านการ guiding ของ Erik ten Hag ที่จะดูแลและชี้แนะคำสั่งสอนให้ดาวเตะวัยรุ่นตูนีเซียรายนี้ พัฒนาตัวเองอย่างถูกต้องที่สุด โดยไม่เสียอัตลักษณ์ที่เขาเป็น

ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีแต่เรื่องดีมากกว่าจะเป็นผลเสีย ในการใช้ความดุดันให้เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพ ในการเล่นเกมกดดันพื้นที่ใส่คู่แข่ง และแย่งชิงบอลมาให้ได้ในแอเรีย Final Third ให้มากกว่าเดิม ในการเล่นเพรสซิ่งสูง รวมถึง "เกเก้นเพรสซิ่ง" (Counter-pressing) ด้วย


หลังจากที่เทน ฮาก พูดคุยกับฮันนิบาลตามคลิปนี้แล้ว เจ้าหนูฟูน้อยของเราก็เข้าไปอยู่ในกลุ่มทีมของ "ผู้เล่นชุดแรก" ในการซ้อมถัดไป ซึ่งสิ่งนี้เป็นข้อสังเกตว่า ไอ้หนูเจ้าของเสื้อเบอร์46ของเรารายนี้อาจจะมีโอกาสเล็กๆในการได้เป็นตัวจริงของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในเกมกระชับมิตรนัดสุดท้ายที่ออสเตรเลียก็ได้

หรืออย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้ลงในครึ่งหลังแน่ๆ

เทน ฮาก กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการซ้อมครั้งนั้นว่า "ฮันนิบาลได้ลงสนามไปบ้างแล้ว ผมว่าเขาทำได้ดีมากๆในการซ้อม เขาทำได้น่าประทับใจ"

เหมือนเป็นคำตอบส่วนหนึ่งว่า ฮันนิบาลเองก็น่าจะได้ลงสนามในเกมเจอวิลล่าอีกหนึ่งนัด ต่อเนื่องมาจากแมตช์ที่แล้วในการเจอคริสตัล พาเลซ กับฐานะ False Nine ของทีมในช่วงกลางครึ่งหลัง

เนื่องจากตำแหน่ง AM มี Donny van de Beek ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ที่ถูกรายล้อมไปด้วยนักเตะรุ่นน้องทั้งหน้าทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลี ซาเวจ กับ ซีดาน อิคบาล ในพื้นที่คู่กองกลาง

ซ้ายมีแอนโธนี เอแลงก้า ขวาเป็น อามัด เดียโล่ ในตำแหน่งถนัด และด้านหน้าก็คือ ฮันนิบาล ในตำแหน่ง F9 นี่เอง หลังจากที่แอสซิสต์ให้แรชฟอร์ดในนาทีที่ 48 ไปแล้ว หลังจากนั้นดอนนี่ก็เล่นได้ลื่นไหลน้อยลง เมื่อความเป๊ะของการเคลื่อนที่ดาวรุ่งเราไม่เท่ากับนักเตะตัวจริงอย่างพวก แรช หมาก ซานโช่ นั่นเอง

ในยามที่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาลกำลังเข้าฝัก จากการกดสามประตูในสามนัด ค่อนข้างแน่ชัดว่า มาร์กซิยาลคงจะยึดตำแหน่งดังกล่าวแน่นอนอยู่แล้ว ฮันนิบาลก็คงจะไม่ต้องลงเล่น False Nine และเขาจะเป็นประโยชน์กับทีมในแดนบนของเรา ณ ตำแหน่งอื่นๆ เช่นกลางรุก หรือปีกตัวริมเส้น ซึ่งฮันนิบาลมีความยืดหยุ่นที่สามารถเล่นได้ทั้ง LW AM และ RW ในแนวรุก

และถ้าจำเป็น CM ก็เป็นตำแหน่งที่ฮันนิบาล เมจบรี เล่นได้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นเยาวชนในทีมเราแล้ว จากการลงสนามในตำแหน่งนั้นบางเกมของชุดเยาวชน

เมื่อเป็นเช่นนั้น อีกหนึ่งpositionที่แฟนผีอาจจะได้เห็นน้องลงสนาม นั่นก็คือ "ปีกซ้าย" ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขาได้ลงเล่นช่วงฤดูกาล 2020/21 อยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นการเล่นในบทบาทที่เป็น "เพลย์เมคเกอร์ตัวข้าง" ใน role ของ Advance Playmaker ถ่างริมเส้น คล้ายๆกับเคสของ Paul Pogba และ Jack Grealish สิ่งนี้จะทำให้เราได้เห็นมิติการครองบอลในพื้นที่นี่ของเขากันอย่างเต็มที่ที่สุด

นอกจากนี้ด้วยความเป็นดาวเตะวัยรุ่นที่กำลังห้าวและเลือดร้อน ความเดือดและเข้มข้นในการเล่น(intensity) เอริค เทน ฮาก สามารถนำความดุดันตรงนี้ของเขาไปใช้งานในการเล่นเกม "เพรสซิ่ง" ให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เยอะ ซึ่งปรับปรุงขึ้นมาเยอะในยุคของเทน ฮาก และทีมก็ยังคงต้องทำงานหนักในส่วนนี้ต่อไป เพราะมันยังห่างไกลกับคำว่าสมบูรณ์แบบอยู่ในตอนนี้

ในยามที่เอริคเข้ามาคุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาได้ขอให้ทีมทำรายงานการเล่นของนักเตะดาวรุ่งแมนยูไนเต็ดจำนวนมาก มามอบให้กับเขาเพื่อให้รู้ว่าเด็กคนไหนมีการเล่นเป็นยังไงบ้าง และมิสเตอร์เมจบรีก็เป็นดาวเตะพรสวรรค์อีกคนหนึ่งของเราอย่างไม่มีข้อสงสัย

และสถานะของตัวฮันนิบาลที่เป็นนักเตะระดับ Key Player ในทีมเยาวชนของเรา และเป็นกัปตันทีมในหลายๆโอกาส "ความเป็นผู้นำ" ดังกล่าวคือหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ทำไมพัฒนาการของนักเตะรายนี้ถึงได้เป็นที่สนใจของเอริค เทน ฮาก และเขาจะเป็นอีกหนึ่งคนที่น่าจับตามองในซีซั่นหน้า ไม่ว่าจะอยู่เป็นขุมกำลังนักเตะในทีม หรือถูกปล่อยยืมตัวให้กับทีมชั้นนำต่างๆไปใช้งานเพื่อเก็บประสบการณ์ในเกมจริงให้ได้มากที่สุด

เพื่อการเติบโตขึ้นมาเป็นนักเตะซึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่และมืออาชีพอย่างเต็มตัว ทุกๆอย่างก็จะเข้าที่มากกว่านี้ ทั้งทางด้าน physical และ mental ของนักเตะ

ความ Aggressive ดั้งเดิมของ ฮันนิบาล เมจบรี ถึงเวลานั้นอาจจะกลายเป็น "ผู้นำ" อีกหนึ่งคนในอนาคตของที่นี่ ที่ปลอกแขนกัปตันทีมรอเขาอยู่ก็ได้ ใครจะรู้

"จอมทัพคาร์เธจ" อำมหิตอัจฉริยะ Hannibal Mejbri

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด