:::     :::

ลูกหนังบนความไม่ยอมแพ้ "โจชัว คิมมิช"

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
899
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
กำลังก้าวสู่ฤดูกาลที่ 8

สำหรับ โจชัว คิมมิช  ภายใต้สีเสื้อของบาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเสือใต้ ในช่วงฤดูกาล 2015-16 เขาผ่านการคว้าแชมป์มาแล้วอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบุนเดสลีกา 7 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ 1 สมัย และสโมสรโลก 1 สมัย


อย่างไรก็ตาม การพิสูจน์ตัวเองของคิมมิช ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนย้ายมาที่บาเยิร์น มิวนิค เขาไม่เคยผ่านประสบการณ์การเล่นในบุนเดสลีกา มาก่อนเลย แถมในวัยเด็ก เขายังเคยถูกตัดตัวออกจากทีมเยาวชนของทีมสตุ๊ทการ์ท  อีกด้วย


ช่วงนี้ เราลองไปย้อนดูเส้นทางการฝ่าฟันของดาวเตะวัย 27 ปีรายนี้กันหน่อยว่า เพราะอะไรเขาถึงก้าวมาเป็นกำลังสำคัญของยักษ์ใหญ่อย่างบาเยิร์น มิวนิค รวมถึงการก้าวมาติดทีมชาติเยอรมัน ชุดใหญ่ จนเป็นฟันเฟืองหลักของทีมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

ผมไม่อยากเป็นฟิลิปป์ ลาห์ม คนต่อไป ผมแค่อยากเป็นตัวของตัวเอง


จากจุดเริ่มต้นโจชัว คิมมิชเข้าร่วมทีมเยาวชนของสตุ๊ทการ์ท เขาเริ่มต้นบนเส้นทางไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ โดยต้องพบแบบทดสอบมากมาย 


การตะเกียกตะกายขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก ขณะที่การลงสนามในนามทีมสำรอง เขายังถูกมองว่าดีไม่พอด้วยซ้ำไป คิมมิช กล่าวว่าย้อนเวลากลับไป ตอนที่ผมอายุ 14 ขวบ ผมเข้าร่วมอะคาเดมี่ของสตุ๊ทการ์ท ถือเป็นความฝันที่แสนยิ่งใหญ่ 


กระนั้น ผมยังคงรู้สึกโดดเดี่ยว พร้อมกับเผชิญหน้ากับความยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งผมอายุ 18 ปี ผมหวังที่จะได้เล่นกับทีมสำรองบ้าง แต่สโมสรตอบกลับมาเพียงว่า ผมยังแข็งแกร่งไม่พอนั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของพลพรรคม้าขาวที่ตัดตัวเขาออกจากทีมไป


สตุ๊ทการ์ท ตัดสินใจปล่อยตัวคิมมิช ให้กับแอร์เบ ไลป์ซิก โดยช่วงเวลานั้นเดอะ เร้ดบูลล์สยังคงโลดแล่นอยู่ในระดับลีกา 3 เท่านั้น 


นั่นถือเป็นประสบการณ์ที่ดี เมื่อเขาได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง และฝึกฝนวิชาลูกหนังจนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับพาทีมเลื่อนชั้นมาเล่นในลีกา 2 จนสุดท้าย ประตูแห่งโอกาสก็เข้ามาหา

คิมมิช ย้อนความทรงจำ ในช่วงเดือนมกราคม 2015 “เอเย่นต์ของผมบอกว่า มีสโมสรหนึ่งอยากได้ตัวผมไปร่วมทีม ผมถามกลับว่าเป็นทีมไหน ? ก่อนที่เขาจะเฉลยมาว่าเป็นบาเยิร์น มิวนิค ผมถึงกับอุทานออกมาเลยว่า -อย่ามาล้อเล่นกับผมนะ-“


ผมแทบไม่อยากจะเชื่อเลย ผมเป็นเพียงแค่นักเตะระดับลีกรอง ดังนั้น การที่บาเยิร์น มิวนิค ต้องการตัวผม ย่อมไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน พวกเขาสามารถซื้อนักเตะคนไหนก็ได้บนโลกใบนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่า โค้ชอย่างเป็ป กวาร์ดิโอล่า อยากได้ตัวผม


คิมมิช ถือเป็นนักเตะที่สามารถเล่นได้ตามคำสั่งของผู้จัดการทีม ผ่านบทบาทการเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งแบ็ค, กองกลางเชิงรับ แม้กระทั่งเซ็นเตอร์แบ็ค จนแฟนบอลหลายคนนำเขาไปเปรียบกับตำนานของสโมสรอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม ที่มีคุณสมบัติพิเศษที่คล้ายคลึงกัน


ตำแหน่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคือกองกลางตัวรับเขากล่าวต่อการเปลี่ยนตำแหน่ง บางครั้ง อาจทำให้คุณสูญเสียจังหวะการเล่น นำมาซึ่งการเสียความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ผมพยายามลงเล่นด้วยสไตล์ของตัวเอง


ผมไม่ใช่นักเตะเชิงรับเพียงอย่างเดียว ผมต้องการสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และพยายามยิงประตูด้วยตัวเอง คุณจำเป็นต้องหาจุดสมดุลให้ได้ นี่เป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะกับนักเตะอายุน้อย อย่าเลียนแบบใคร และจงเป็นตัวของตัวเอง

คิมมิช ทิ้งท้ายว่าผมอยากเป็นตัวผมเองมาตลอด ผมไม่อยากเป็นร่างเดียวกับฟิลิปป์ ลาห์ม หรือว่าเป็นฟิลิปป์ ลาห์ม คนใหม่


ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟิลิปป์ เป็นสุดยอดนักเตะ แม้ในเกมที่เขาเล่นแย่ เขายังดีกว่าทุกคนที่เหลือ ดังนั้น เขาจึงเป็นนักเตะที่มีความสม่ำเสมอสูงมาก คุณต้องการทำแบบนั้นเหมือนกัน ... กระนั้น คุณต้องเล่นในแบบฉบับตัวเอง


จากเด็กที่ไม่ดีพอที่จะเล่นทีมสำรอง โดนปล่อยออกจากทีม และลงเล่นในลีกระดับลีกา 3 ก้าวสู่นักเตะระดับโลก ผู้กำลังไล่ล่าเกียรติยศ และความสำเร็จกับบาเยิร์น มิวนิคโจชัว คิมมิช

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด