ไม่บ่อยนักที่เราได้เห็นเซนเตอร์แบ็กที่โดดเด่นทั้งเรื่องทักษะการครองบอล และลูกกลางอากาศ นั่นจึงทำให้ อเลสซานโดร บาสโตนี่ เป็นหนึ่งในนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดในยุคปัจจุบัน
ปี 2020 บาสโตนี่ อยู่ในลิสต์รายชื่อ "50 นักฟุตบอลแห่งอนาคตที่่ต้องจับตามอง" ของเว็บไซต์สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า และเมื่อเวลาผ่านไป กองหลังชาวอิตาเลียนได้พิสูจน์แล้วว่า นั่นเป็นเรื่องจริง
วัยเด็ก บาสโตนี่ เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับสโมสรท้องถิ่น ริวาโรโล่ มานโตวาโน่ ที่มีพ่อ นิโกล่า อดีตแบ็กซ้าย เกรโมเนเซ่ เป็นโค้ชอยู่ที่นั่น จนกระทั่ง 7 ขวบ ก็ก้าวเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสร อตาลันต้า
อตาลันต้า เป็นสโมสรที่มีชื่อในเรื่องการปลุกปั้นนักเตะเยาวชนอยู่แล้ว บาสโตนี่ ผ่านการเล่นกับทีมทุกระดับชั้น โดยกองหลังเท้าซ้ายเริ่มต้นเล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย ก่อนขยับเข้ามาเป็นเซนเตอร์แบ็ก
บาสโตนี่ กลายเป็นตัวหลักของทีมพรีมาเวร่า หรือทีมเยาวชน ก่อนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในบทบาทตัวสำรองเซนเตอร์แบ็กเมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 ในวัย 17 ปี
ถึงตอนนี้เองที่ อินเตอร์ มิลาน จับตามอง บาสโตนี่ มากขึ้น เช่นเดียวกับการเป็นตัวหลักในทีมชาติอิตาลี ชุดยู-17 และเมื่อข้อเสนอระดับ 31 ล้านยูโรส่งไปถึง อตาลันต้า จึงไม่สามารถปฏิเสธได้
นี่คือการลงทุนมหาศาล และมีความเสี่ยงสูงของ อินเตอร์ สำหรับดาวรุ่งวัย 18 ปีที่เพิ่งเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของ อตาลันต้า ไปเพียง 4 เกมเท่านั้น
แถมในสัญญาซื้อขาย ยังต้องส่งตัวให้ อตาลันต้า ยืมใช้งานต่ออีกสองฤดูกาลด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านซีซั่นแรก บาสโตนี่ ได้รับโอกาสลงเล่นเพียง 5 เกมเท่านั้น อินเตอร์ จึงใช้เงื่อนไขเรียกตัวกลับกลางคัน แล้วส่งให้ ปาร์ม่า ยืมใช้งานซีซั่นถัดมา
และที่ เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่ นี้เองที่ทำให้ บาสโตนี่ ได้ลงสนามในเกมเซเรียอาอย่างสม่ำเสมอ และพัฒนาฝีเท้า พร้อมกับเสริมกระดูกให้แข็งแกร่งได้มากทีเดียว
เมื่อหมดสัญญายืมตัวสองฤดูกาลกับ อตาลันต้า และ ปาร์ม่า บาสโตนี่ จึงเติบโตเต็มที่สำหรับการเริ่มต้นรับใช้ อินเตอร์ ต้นสังกัดตัวจริง ที่ลงทุนมหาศาลท่ามกลางความเสี่ยงต่างๆ นาๆ
ฤดูกาลแรกร่วมกับ อันโตนิโอ คอนเต้ บาสโตนี่ ลงเล่นไป 33 เกมรวมทุกรายการ และซีซั่นต่อมา เป็นปีที่ดีที่สุดของกองหลังชาวอิตาเลียนที่ได้สัมผัสสคูเด็ตโต้ จากการลงเล่นไปมากถึง 41 เกมรวมทุกรายการ
ถึงตอนนี้ บาสโตนี่ ได้รับความสนใจจากหลายสโมสร โดยเฉพาะทีมใหญ่พรีเมียร์ลีก และยิ่งหนักขึ้นเมื่อจบฤดูกาล 2021-22
"ผมไม่เคยสงสัยเลยแม้แต่น้อยเรื่องการย้ายออกจาก อินเตอร์ ที่แห่งนี้ได้มอบทุกอย่างให้แก่ผม ผมต้องการความรู้สึกที่ดี แสดงความสามารถที่ดีที่สุดของตัวเองออกมา"
"ผมรู้สึกดีมากกับเพื่อนร่วมทีม กับสโมสร แล้วผมก็รักเมืองมิลานด้วย แล้วทำไมผมถึงต้องไปที่อื่นอีก ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ ผมมองเห็นตัวเองสวมชุดนี้ไปอีกหลายปี ขณะเดียวกัน ผมก็หวังที่จะคว้าแชมป์ให้มากกว่านี้"
บาสโตนี่ ไม่ใช่นักเตะคนเดียวของ อินเตอร์ ที่เป็นที่หมายปองของสโมสรอื่น แต่เพื่อนร่วมแนวรับของเขา มิลาน สคริเนียร์ ก็ตกเป็นที่ต้องการของทีมอื่นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ อินเตอร์ ถูกบีบคั้นจากเรื่องการเงิน ดูเหมือนว่าสโมสรเลือกที่จะเก็บ บาสโตนี่ และเลือกที่จะปล่อย สคริเนียร์ แต่ต้องได้ค่าตัวมหาศาลเท่านั้น
"เขาเป็นศูนย์กลางในการสร้างสปิริตของ อินเตอร์"
"มิลาน (สคริเนียร์) เติบโตขึ้นมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเราก็เติบโตไปพร้อมกับเขาในการสร้างแนวรับที่แข็งแกร่งขึ้นมาร่วมกัน"
"นอกจากนี้ เขายังเป็นเพื่อนที่ดีในทีมของผมด้วย มันคงน่าเสียดายจริงๆ หากเขาต้องจากเราไปตอนนี้ ผมหวังว่าเขาจะอยู่ต่อ ผมคิดว่าเรายังคงทำผลงานดีๆ ร่วมกันต่อไปได้อีกมาก"
ซีซั่น 2020-21 บาสโตนี่ ได้ครองสคูเด็ตโต้ร่วมกับ อินเตอร์ แต่ซีซั่น 2021-22 สคูเด็ตโต้ตกไปอยู่กับเพื่อนบ้าน เอซี มิลาน ซึ่งถือเป็นเรื่องเจ็บปวดอย่างมาก
"ผมยอมรับว่ามันเป็นภาพที่ยากจะทำใจได้ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว"
"การพลาดแชมป์เป็นเรื่องแย่เสมอ แต่ยิ่งยากจะทำใจได้มากกว่านั้น หากเป็นเพื่อนบ้านที่คว้าแชมป์"
"เราจะทำทุกอย่างให้เราได้เป็นคนเฉลิมฉลองในเมืองนี้ครั้งต่อไป"
แน่นอนว่าฤดูกาล 2022-23 บาสโตนี่ จะยังคงเล่นให้ อินเตอร์ ต่อไป แต่สำหรับซีซั่นถัดไปไม่มีอะไรแน่นอน ขึ้นอยู่กับการต่อสัญญาฉบับใหม่ แทนที่สัญญาปัจจุบันที่มีอายุถึงปี 2024
