:::     :::

แบบทดสอบชีวิตกับ คาลิดู คูลิบาลี่

วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
1,800
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ย้ายมาร่วมทีมเชลซี เป็นที่เรียบร้อย

ในวัย 31 ปี คาลิดู คูลิบาลี่ กลายมาเป็นความหวังใหม่ในแนวรับของพลพรรคสิงโตนำ้เงินครามแน่นอนว่า ประสบการณ์ และฝีเท้าของเขา น่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในแผงหลังได้พอสมควร ถือว่ามีอนาคตที่ดีเฝ้ารออยู่ พร้อมกับมีเกียรติยศให้เขาเก็บเกี่ยว 


เส้นทางลูกหนังของคูลิบาลี่ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกจากการพิสูจน์ตัวเองกับลีกยุโรป เขายังต้องเจอกับแบบทดสอบมาอย่างมากมาย โดยเฉพาะความท้าทายในเรื่องของจิตใจ แน่นอนว่า ปัญหาใหญ่อย่างการเหยียดผิวถือเป็นหนึ่งสิ่งที่เขาต้องเผชิญ 


ช่วงนี้ คูลิบาลี่ จะมาย้อนความทรงจำ สมัยที่เขายังเล่นกับนาโปลี และต้องเจอกับการเหยียดผิวอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะจากแฟนบอลฝ่ายตรงข้าม ที่อยากเล่นงานใส่เขา กระนั้น ทั้งหมดต่างเป็นบทเรียนสอนใจ และเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นปราการหลังที่แข็งแกร่งเหมือนทุกวันนี้ 

"ครั้งแรกที่ผมเจอกับการเหยียดผิวในสนามฟุตบอล คือเกมที่เจอกับลาซิโอ ไม่กี่ฤดูกาลที่ผ่านมาคาลิดู คูลิบาลี่ ย้อนความทรงจำ สมัยที่ย้ายมาเล่นในศึกกับโช่ เซเรีย อา อิตาลี พร้อมกับการเจอประสบการณ์ที่แสนจะเลวร้าย เมื่อโดนแฟนบอลบางส่วนเหยียดผิว


ทุกครั้งที่ผมสัมผัสบอล ผมจะได้ยินเสียงโห่จากแฟนบอล ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นการคิดไปเองหรือไม่ ?" ปราการหลังเชื้อสายเซเนกัล ที่เกิด และเติบโตที่ประเทศฝรั่งเศส เล่าต่อไป โดยเป็นจุดเริ่มต้น ที่ช่วยหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากขึ้น


"เมื่อจังหวะบอลตายแล้ว ผมหันไปถามเพื่อนร่วมทีมว่า -แฟนบอลจงใจทำแบบนั้นกับผมคนเดียวหรอ?- การแข่งขันยังดำเนินต่อไป ผมเริ่มรู้แล้วว่า เมื่อผมสัมผัสบอล แฟนบอลลาซิโอ จะทำเสียงลิงใส่ผม หลายครั้งที่ผมอยากเดินออกจากสนามไปเลย"

"ผมคิดในใจว่า -ทำไมพวกเขาถึงทำแบบนี้ เพียงแค่ผมเป็นคนผิวดำหรอ ? หรือว่าการมีสีผิวแบบนี้ คือเรื่องที่ไม่ปกติของโลกใบนี้ ?- คุณแค่เล่นฟุตบอลที่คุณรัก เหมือนที่ทำมานับพันครั้ง คุณรู้สึกเจ็บปวด และรับรู้ถึงการดูถูก คุณเริ่มรู้สึกละอายใจในตัวเอง"


"โดยหลังจากนั้น ผู้ตัดสินตัดสินใจเป่าหยุดเกม เขาเดินมาบอกกับผมว่า -ฉันอยู่ข้างนายนะ อย่าเป็นกังวลไปเลย เรามาหยุดเสียงเหล่านี้กันเถอะ หากว่านายไม่ต้องการที่จะอยู่จนจบเกม บอกให้ฉันรู้ได้นะ-" 


"ผมคิดว่านี่คือความกล้าหาญของกรรมการ แต่ผมบอกกับเขาไปว่า ผมต้องการต่อสู้จนจบเกม จากนั้นประมาณ 3 นาที เราก็กลับมาแข่งขันต่ออีกครั้ง .... แต่เสียงโห่ยังไม่จางหายไป"


"เมื่อกรรมการเป่านกหวีดจบเกม ผมเดินกลับเข้าอุโมงค์ พร้อมกับความโกรธอย่างมหาศาลเลยล่ะ อย่างไรก็ตาม ผมยังคงไม่ลืมบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญ นั่นคือก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน เด็กมาสค็อตที่เดินจับมือผมลงสู่สนาม เขาเอ่ยปากขอเสื้อแข่งของผมไว้ ผมให้สัญญากับเขาไปว่า เดี๋ยวจะเอามาให้หลังจากจบเกม"

"ผมพยายามมองหาเด็กมาสค็อตคนนั้น ก่อนที่จะเจอเขาอยู่บนอัฒจันทร์ ผมมอบเสื้อแข่งให้กับเขา ก่อนที่เด็กคนนี้จะพูดกับผมว่า -ผมขอโทษด้วยนะครับ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณในวันนี้-"


"มันเป็นคำพูดที่กระทบใจของผมเป็นอย่างมาก ที่เด็กตัวเล็กๆต้องมากล่าวขอโทษแทนผู้ใหญ่หลายคน สิ่งแรกที่เด็กคิด นั่นคือผมจะรู้สึกอย่างไรกันนะ ?"


"ผมตอบเขาไปว่า -เรื่องเหล่านี้มันไม่สำคัญหรอก ขอบคุณหนูมากนะ-" คาลิดู คูลิบาลี่  ทิ้งท้าย 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด