:::     :::

วิเคราะห์​คู่แข่งหงส์ จากรอบแบ่งกลุ่ม ชปล.

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม 2565 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
949
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ผลจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์​ ลีก ออกมาแล้วนะครับ โดยในปีนี้ ลิเวอร์พูล​ ถือว่าอยู่ในกลุ่มที่ไม่ง่าบเลยเพราะคู่แข่งทั้ง 3 ทีมนั้น ค่อนข้างแกร่งและมีศักย​ภาพ​พอในการผ่านเข้ารอบด้วยกันทั้งสิ้น

ในบทความนี้ ผมจะพาไปวิเคราะห์​กันครับว่าทั้ง 3 ทีมที่หงส์แดงต้องดวลเดือดด้วยนั้น มีจุดแข็งตรงไหนและมีจุดอ่อนอย่างไรบ้าง มารับชมกันเลยครับ


1) อาแจ๊กซ์​ อัมสเตอร์ดัม

ลิเวอร์พูล​ เพิ่งเจอกับ อาแจ๊กซ์​ ในรอบแบ่งกลุ่มไปเมื่อ 2 ฤดูกาล​ก่อน โดยในตอนนั้นหงส์แดงเอาชนะไปได้ทั้งสองนัดเหย้าเยือนด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งเกมในแอนฟิลด์ได้ประตูชัยจาก เคอร์ติส โจนส์ นาทีที่ 58 ส่วนอีกเกมบุกไปชนะจากการทำเข้าประตูตัวเองของผู้เล่น อาแจ๊กซ์​


สถิติในการเจอกันของ ลิเวอร์พูล​ กับ อาแจ๊กซ์​ ทั้งหมดคือ 4 ครั้ง ซึ่งหงส์แดงชนะ 2 เสมอ 1 และแพ้ไปแค่ครั้งเดียว


การมาเจอกันในฤดูกาล​นี้ อาแจ๊กซ์​ เปลี่ยนกุนซือจาก เอริค เทน ฮาก มาเป็น อัลเฟร็ด ชเราเดอร์ ซึ่งยังคงใข้ระบบเดิมเป็นหลักคือ 4-3-3 แต่แนวรุกกับแนวรับมีการโมดิฟายใหม่พอสมควร หลังจากเสียสตาร์ดังอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ เซบาสเตียน อัลแลร์ ไปในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา


ชเราเดอร์ เคยทำงานเป็นผู้ช่วยของ ฮูบบ์ สตีเฟ่นส์, ยูเลี่ยน นาเกลมันส์, เทน ฮาก และ โรนัลด์ คูมัน มาก่อนผลงานล่าสุดของเขาในฤดูกาล​ที่แล้วคือการพา คลับ บรูซ คว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ ก่อนจะมารับงานต่อจาก เทน ฮาก ที่ อาแจ๊กซ์​


ปัจจุบัน​ ชเราเดอร์ คุมทีมมาแล้ว 3 นัดขนะรวด ยิงได้ 10 ประตู จุดแข็งคือเกมรุกที่ยังคงวูบวาบไม่ต่างจากช่วงที่ เทน ฮาก คุมทีม เล่นเพรสซิ่งและต่อบอลสั้นดีมาก แต่จุดอ่อนคือเกมรับที่ไม่แน่นเท่าไหร่ โดยตอนนี้เสียไปแล้ว 3 ประตูจาก 3 นัดแรกในลีก


นักเตะเด่นที่น่าจับตามองคือ ดูซาน ทาดิช เพลย์เมกเกอร์​ประจำทีมซึ่งเป็นหัวใจหลักในเกมรุก บอลทะลุช่องของเขาอันตราย อีกทั้งยังวิ่งทะลุขึ้นมายิงประตูด้วยตัวเองได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ ที่เป็นกองหน้าจอมถล่มประตูอีกคน ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้หงส์แดงได้ไม่ยากเลยทีเดียว


ผลลัพธ์​ที่คาด: จบในอันดับ 2




2) นาโปลี

ลิเวอร์พูล​ เจอกับ นาโปลี ในรอบแบ่งกลุ่มค่อนข้างบ่อยช่วง 10 ปีหลังสุดมานี้ โดยในปี 2010, 2018 และ 2019 เจอกันทั้งหมด 6 นัด หงส์แดงชนะ 4 แพ้ 2 ซึ่งเป็นการแพ้ที่บ้านของ นาโปลี ทั้งหมด


ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือของ นาโปลี ใช้ระบบ 4-3-3 และมีจุดเด่นตรงแดนกลางที่ไล่บี้ครองบอลแบบสุดตัว อีกทั้งยังเล่นเกมรุกได้ดุดันมาก ๆ ผลงานในเซเรีย อา ปีนี้ลงเตะไป 2 นัด ชนะรวด ยิงได้ 9 เสีย 2 โดยที่มีอาวุธเด็ดคือลูกเซตพีซซึ่งได้ประตูมาแล้วถึง 2 เม็ดในฤดูกาล​นี้


จุดอ่อนของ นาโปลี ยังคงเป็นเรื่องความไม่สม่ำเสมอและความคงเส้นคงวา ในหลาย ๆ นัดโดยเฉพาะบอลยุโรปพวกเขาไม่สามารถครองบอลหรือรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้จนจบเกม ส่งผลให้ตกรอบอยู่บ่อย ๆ และไม่ค่อยไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ​เลยในช่วงหลัง


ฤดูกาล​ที่ผ่านมา นาโปลี จบในอันดับ 3 ของตาราง มีคะแนนตามหลังทีมแชมป์อย่าง มิลาน 7 คะแนน ส่วนในถ้วยยูโรปา ลีก ก็ตกรอบด้วยน้ำมือของ บาร์เซโลน่า​


นักเตะเด่นที่น่าจับตามองคือ ปิเอโตร ซิลินสกี้ ที่อยู่กับทีมมานานหลายปีแล้ว และเป็นแข้งที่มักจะทำผลงานในการเจอกับ ลิเวอร์พูล​ ได้ดีอยู่เสมอ นอกจากนี้ วิคเตอร์ โอฮิมเซน ก็เด่นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะจังหวะจบสกอร์ที่หงส์แดงจะประมาทไม่ได้เลย


ผลลัพธ์​ที่คาด: จบในอันดับ 3




3) กลาสโกว์ เรนเจอร์ส

ยอดทีมจากแดนวิสกี้ได้เพียงแค่รองแชมป์ลีกสกอตต์ในฤดูกาล​ที่ผ่านมาก็จริง แต่ในปีนี้พวกเขาออกสตาร์ทด้วยการคว้าชัย 3 จาก 4 นัดแรก ยังไม่แพ้ใครแต่ก็เกาะกลุ่มลุ้นแชมป์กับ เซลติค มาแบบติด ๆ เลยทีเดียว


เรนเจอร์ส มี โจวานนี่ ฟาน บรองฮอสท์ เป็นกุนซือ เขานิยมการเล่นในระบบ 4-2-3-1 สลับกับ 4-3-3 จุดเด่นคือเกมทางริมเส้นโดยเฉพาะแบ็คทั้งสองข้างซึ่งเติมเกมรุกได้ดี แต่จุดที่น่าห่วงคือเกมรับซึ่งในบางครั้งมักเสียประตูในจังหวะง่าย ๆ โดยเฉพาะจังหวะชี้เป็นชี้ตาย


นักเตะเด่นของพวกเขาคือ เจมส์ ทราเวนเนียร์ แบ็คขวาที่มีลีลาคล้าย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยเขาเด่นทั้งลูกเซตพีซ จุดโทษ และการยิงลูกจุดโทษให้ทีม เป็นมือหนึ่งในการเล่นลูกตั้งเตะที่เก่งมาก ๆ และเป็นคนสำคัญในการทำประตูให้ทีม แม้ว่าจะเล่นแบ็คขวาก็ตาม


ผลลัพธ์​ที่คาด: จบในอันดับ 4




และทั้งหมดนี้คือคู่แข่งในรอบแบ่งกลุ่มของ ลิเวอร์พูล​ ที่จะต้องเจอกันบนเวทียุโรป แม้ว่าชื่อชั้นอาจเป็นรอง แต่ทั้งหมดอาจสร้างเซอร์ไพรส์​พลิกล็อคได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทีมเต็งอย่าง อาแจ๊กซ์​ หรือทีมรองอย่าง เรนเจอร์ส รวมไปถึง นาโปลี เองที่มักทำแสบใส่ ลิเวอร์พูล​ ได้อยู่บ่อยครั้ง


มาลุ้นกันครับว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ลิเวอร์พูล​ จะทำผลงานในถ้วยยุโรปได้ดีแค่ไหน ในฐานะรองแชมป์เก่าจะไปได้ไกลจนถึงรอบชิงอีกไหม อีกไม่นานเราคงได้รู้กัน



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด