:::     :::

คุยกับโค้ชเฮง : "ถ้าวางโครงสร้างเสร็จเอาคนอื่นมาทำต่อผมก็ยินดี"

วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 คอลัมน์ ONE MAN SHOW โดย แมน โกสินทร์
31,659
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
จริงหรือไม่ที่เขาประกาศจะลาออกถ้าไทยไม่ได้แชมป์ซูซูกิคัพ จริงหรือไม่ที่ผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค ลองอ่านบทสัมภาษณ์นี้ดูแล้วคุณอาจจะเข้าใจคนที่ชื่อ วิทยา เลาหกุล มากขึ้นกว่าที่คุณเคยได้ยินมา

แมน : สวัสดีครับพี่เฮง ผมเห็นข่าวพี่เฮงบอกว่าถ้าไม่ได้แชมป์ซูซูกิ คัพ แล้วจะลาออกนี่จริงหรอพี่

โค้ชเฮง : อ๋อ ไม่จริงหรอกครับ เขาเขียนกันไปเอง คนที่เขียนเขาคงอยากให้ผมออกจากตำแหน่งล่ะมั้งครับ

แมน : คือผมก็ไม่เคยเห็นพี่เฮงพูดอะไรแบบนั้นก็เลยแปลกใจ เพราะพี่เฮงเคยบอกว่าประธานเทคนิคนี่คืองานที่พี่เฮงใฝ่ฝันอยากทำให้ฟุตบอลไทยมากที่สุด

โค้ชเฮง : ใช่ครับ นี่คืองานที่ผมรอคอยมาทั้งชีวิต รอมาเกินกว่า 20 ปี ผมเคยอาสาเข้าไปทำตั้งแต่สมัยนายกวิจิตรจนถึงคุณวรวีร์ แต่เขาก็ไม่ให้ทำ ผมเลยไปทำงานที่ญี่ปุ่นตามคำชวนของพรรคพวกเพื่อนฝูงที่เคยเตะฟุตบอลด้วยกันแล้วเขาเป็นใหญ่เป็นโตในสหพันธ์ฟุตบอลญี่ปุ่นหรือสโมสรต่างๆ เขายังถามผมเลยว่าทำไมคุณไม่ทำให้ประเทศไทยมาทำให้ญี่ปุ่นทำไม ผมก็ตอบเขาไปว่าเขาไม่ให้ผมทำ มาถึงยุคนี้ผมมีโอกาสได้ทำก็อยากจะวางโครงสร้างให้ฟุตบอลไทยมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ที่ผ่านมาในอดีตไม่ใช่ระบบโครงสร้างดีหรือไม่ดีนะ แต่มันไม่เคยมีเลยต่างหาก ตอนนี้เราก็มาเริ่มนับหนึ่งใหม่ทำให้เหมือนอย่างสากลอย่างประเทศที่ฟุตบอลเขาพัฒนาไปในระดับโลกแล้วเขาทำกัน

แมน : เป็นไงมาไง ข่าวถึงออกมาแบบนั้นได้ล่ะพี่

โค้ชเฮง : อ๋อก็มีนักข่าวมาถามจี้ผม ว่าถ้าไม่ได้แชมป์แล้วจะลาออกมั้ย จะรับผิดชอบยังไง คือมันก็เป็นสิ่งที่สมาคมฟุตบอลต้องรับผิดชอบอยู่แล้วกับผลลัพธ์ที่ออกมา แต่เราต้องมาดูด้วยว่าเราชนะหรือแพ้เพราะอะไร เราซ้อมยังไงและลงไปแข่งด้วยวิธีการแบบไหน ถ้ามันล้มเหลวเพราะทีมของเราเตรียมตัวได้ไม่ดีก็ต้องหาเหตุผลให้เจอว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ปัญหามันอยู่ตรงไหน ไม่ใช่เอะอะบอลแพ้ก็ปลดโค้ช แบบนั้นมันก็วนกลับไปกลับมาอยู่ที่เดิมๆ 

แมน : จริงๆ แล้วพี่เฮงตอบนักข่าวว่ายังไงครับ เป็นสัมภาษณ์เดี่ยวหรือว่าสัมภาษณ์ไมค์รวม

โค้ชเฮง : อ๋อ นักข่าวอยู่กันเต็มเลยครับ คือผมบอกว่าในอาเซียนศักยภาพทีมไทยยังเหนือกว่าเพื่อนบ้าน และตามมาตรฐานเราก็ต้องคว้าแชมป์ให้ได้ไม่ว่าจะส่งผู้เล่นชุดไหนไปแข่งก็ตาม และแฟนบอลคาดหวังกับรายการนี้สูงต้องแชมป์เท่านั้น นักข่าวคนนึงก็ถามผมว่าแล้วถ้าไม่ได้แชมป์จะลาออกมั้ย ผมก็บอกว่าแน่นอนมันเป็นความรับผิดชอบของผมด้วย แล้วเขาก็ถามอีกว่าถ้าไม่ได้แชมป์ขึ้นมาจะทำยังไง ผมก็ตอบแค่ว่าก็กลับบ้านเก่ากันหมด แล้วเขาก็ไปตีความกันว่าผมจะลาออกถ้าไม่ได้แชมป์

คลิปสัมภาษณ์ที่กลายเป็นประเด็น https://www.youtube.com/watch?v=fEbs6wHxpl4

แมน : คือจริงๆ แล้วพี่เฮงจะสื่อว่าบอลซีเกมส์หรือซูซูกิ คัพ ถ้าไทยไม่ได้แชมป์แฟนบอลด่ายับ โค้ชหรือสมาคมก็คงโดนประณามหยามเหยียดแน่นอน

โค้ชเฮง : ใช่ครับ คือแฟนบอลมักจะมองที่ผลลัพธ์ แต่ไม่ได้มองถึงเหตุผล อย่างพอบอกว่าจะส่งเยาวชนไปแข่ง ก็ด่าก่อนแล้วว่าดูถูกเพื่อนบ้านเป็นการประมาท แต่ไม่ได้มองว่าทำไมเราถึงต้องมีนโยบายแบบนั้น เขาอาจไม่รู้ว่าฟุตบอลลีกไม่ได้หยุดนะตอนที่แข่งเอเชียนเกมส์ แล้วชุดยู-23ก็ไม่มีโปรแกรมแข่งอีกแล้วนับจากนี้ ถ้าจะทำทีมให้เกิดความต่อเนื่องก็ต้องทำยู-21 เพื่อไว้เตรียมคัดโอลิมปิกในปีหน้าด้วย ซึ่งชาติอื่นๆ ที่เขาหวังไปโอลิมปิกเขาก็ส่งยู-21 ไปเตะเอเชียนเกมส์เหมือนกัน หรืออย่าง ซูซูกิ คัพ ทางราเยวัชเองเขาก็อยากลองผู้เล่นเพื่อไว้เตรียมแข่ง เอเชียน คัพ ปี 2019 

แมน : ฟุตบอลมันลูกกลมๆ นะพี่ การไม่ได้แชมป์ซูซูกิ คัพก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ฟุตบอลอะไรมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาแล้วมีคนมาทวงถามว่าพี่เคยประกาศลาออกเอาไว้ พี่จะทำไงครับ

โค้ชเฮง : ผมก็คงกลับไปทำชลบุรีให้เต็มที่เหมือนเดิม จริงๆ ตั้งโจทย์ไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ การสร้างแรงกดดันในการทำงานจะได้ทำให้ผมมีความเข้มงวดกับงานของตัวเองมากยิ่งขึ้น เป็นความท้าทายที่ดี ที่ผมเข้ามาทำหน้าที่ฝ่ายเทคนิคเพราะประเทศไทยยังไม่เคยมีทีมงานฝ่ายเทคนิคมาก่อนเลย มันเคยมีแค่ชื่อแต่ไม่มีคนทำงานเป็นจริงๆ ผมอยากวางโครงสร้างการพัฒนาฟุตบอลไทยให้เป็นระบบ ทั้งการสร้างผู้เล่นเยาวชน, อบรมผู้ตัดสิน, อบรมโค้ช, อบรมเจ้าหน้าที่ของสมาคม ตอนนี้ผ่านมาปีกว่าเรามีการอบรมโค้ชโปรไลเซนไปแล้ว 1รุ่น ไลเซนอื่นๆ ก็ทำกันไปหลายรุ่นแล้ว ในอนาคตประเทศไทยก็จะมีนักเตะเยาวชนที่ถูกฝึกมาอย่างถูกวิธี ทำให้มีกลุ่มนักเตะที่มีคุณภาพให้เลือกใช้งานมากขึ้น ไม่ต้องไปยึดติดอยู่กับผู้เล่นแค่ไม่กี่คน เราจะมีโค้ชเก่งๆ ในระดับโปรไลเซนอีกมากมาย ต่อไปจะออกไปคุมทีมที่ประเทศไหนก็ได้ เราจะมีผู้ตัดสินที่มีคุณภาพออกไปทำหน้าที่ในระดับนานาชาติมากขึ้น ผมต้องการแค่ให้มันมีโครงสร้างที่เป็นระบบแบบนี้ ถ้าทำได้แล้วจะให้คนอื่นมาทำต่อก็ยินดี ขอแค่มันเป็นระบบ ส่วนผลลัพธ์จะดีหรือไม่ดีมันต้องมีอีกหลายปัจจัย ถ้าโค้ชไม่เก่งก็สร้างนักเตะให้เก่งไม่ได้ ต้องรอช้างเผือกที่ 10 ปีจะโผล่มาสักคนสองคน แบบนั้นคงไม่มีทางได้เห็นฟุตบอลไทยไปบอลโลก เพราะเก่งแค่ไม่กี่คนทีมไปไม่รอด ต้องเก่งพร้อมกันทั้งรุ่น แล้วมีพวกพรสวรรค์ฟ้าประทานอะไรแบบนั้นมาช่วยเติมเต็มมากกว่า

แมน : พี่เฮงรู้สึกยังไงที่แฟนบอลบางกลุ่มเขาคิดว่าพี่ไม่เหมาะสมกับการเป็นประธานเทคนิค หรือกระทั่งขับไสไล่ส่งให้พี่ออกไปขนาดนั้น

โค้ชเฮง : ไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ เพราะผมไม่อ่านคอมเมนต์ ผมไม่เล่นอินเทอร์เน็ต ถ้าเล่นก็แค่แชทคุยกับเพื่อนๆ ที่อยู่ต่างประเทศที่เคยเตะบอลหรืออบรมโค้ชด้วยกัน ไม่งั้นก็เอาไว้แชทคุยกับครอบครัว ผมไม่โกรธคนที่ด่าเลยนะ เพราะเขาไม่รู้จักตัวตนจริงๆ ของผม ผมจึงไม่ถือสาคนพวกนั้น แต่ถ้าเขาด่าเราเพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมถึงจะรู้สึกสำนึกผิด ผมอ่านหนังสือศึกษาธรรมะมาเยอะแค่นี้มันเรื่องเล็กมาก

แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย

แมน : ด้วยความเคารพรักนะพี่ บรรยากาศในสมาคมเป็นยังไงบ้างหลังมีข่าวออกมาแบบนี้ มีใครทักให้พี่ระวังการให้สัมภาษณ์หรือเปล่า 

โค้ชเฮง : ในสมาคมก็ไม่มีอะไรนะ เรื่องถูกทักเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ผมโดนมาหลายสิบปีแล้ว (หัวเราะ) คือผมเป็นคนคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น บางทีก็ถูกเอาคำพูดแค่บางส่วนไปเขียนเป็นข่าว ไม่ได้เอาไปเขียนทั้งหมดที่ผมพูด ความหมายมันก็อาจเปลี่ยนไป นักข่าวอาจจะตีความต่อเอง หรือคนอ่านก็คิดต่อๆ กันไป แต่ผมก็รู้ตัวเองดีตลอดนะว่าคิดอะไรอยู่ ซึ่งมันไม่ใช่การคิดร้ายต่อฟุตบอลไทยแน่นอน 

แมน : ขอถามชัดๆ อีกทีเป็นครั้งสุดท้ายครับ ว่าพี่เคยคิดจะลาออกจริงๆ มั้ย

โค้ชเฮง : ไม่เคยนะ เพราะมันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา อย่างที่ผมบอกว่าเราต้องรู้ก่อนว่าเราแพ้หรือชนะเพราะอะไร เป็นเพราะประธานเทคนิคทำงานไม่ดีหรือเปล่า จริงๆ ผมคิดว่าผมจะเข้ามาแค่วางโครงสร้างให้มันเป็นระบบเท่านั้น ถ้าทำได้แล้วให้คนอื่นมาทำต่อก็ยินดี เพราะถ้ามันมีระบบแล้วมันก็ง่ายที่จะพัฒนาต่อ จะให้คนไทยหรือคนต่างชาติมาทำมันก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว แต่ผมคิดว่าตอนนี้ในประเทศไทยคนที่มีความรู้ในเรื่องการทำงานฝ่ายเทคนิคก็ยังไม่ได้มีทางเลือกขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าคนเป็นโค้ชเก่งแล้วจะทำงานฝ่ายเทคนิคได้ดี มันต้องเป็นคนที่ใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา เพราะศาสตร์ฟุตบอลมันไม่เคยหยุดนิ่ง เราจะคิดว่าเราเก่งแล้วเป็นพวกน้ำเต็มแก้่วไม่ได้ นี่ตอนที่เปิดอบรมโปรไลเซนผมก็ไปเข้าคอร์สอบรมด้วยนะ เพราะผมคิดว่าไม่มีใครแก่เกินไปที่จะเรียนรู้

แมน : โอเคครับเรื่องนี้น่าจะกระจ่างแล้ว ขอถามถึงเรื่องทีมชาติหน่อยครับ ผมคุยกับพี่โย่ง ดูแลจะค่อนข้างหนักใจกับการเรียกผู้เล่นไปเอเชียนเกมส์ เพราะมันชนกับไทยลีกแล้วสโมสรอาจจะไม่ปล่อยมาเล่นทีมชาติ เพราะถึงจะเป็นยู-21 แต่รุ่นนี้ก็เป็นตัวหลักให้สโมสรหรือเป็นตัวสำรองที่ได้ลงแทบทุกเกมทั้งนั้น

โค้ชเฮง : แน่นอนครับ มันเป็นปัญหาที่เรารู้ก่อนอยู่แล้ว นี่ผมก็บอกโย่งไปว่าให้เรียกนักเตะมาไว้สัก 50 ก่อนแล้วค่อยๆ ดูไปว่าคนไหนที่สโมสรจะยอมปล่อยบ้าง แกนหลักของชุดนี้ไม่ใช่ 21 ปีหรอก แต่จะขึ้นมาจากยู-19 เพราะตอนแข่งซีเกมส์ ส่วนใหญ่เด็กก็อายุประมาณ 18-21 ทั้งนั้น ก็คงจะต้องขอความร่วมมือจากสโมสรว่าถ้าคนไหนที่ไม่ได้เป็นตัวหลักก็ให้มาเล่นทีมชาติได้มั้ย

แมน : นอกจากสมาคมแล้ว ทางกกท.หรือกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เขาจะมาช่วยคุยกับสโมสรมั้ยครับ เพราะเอเชียนเกมส์อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการโอลิมปิก ไม่ใช่ของสมาคมฟุตบอล

โค้ชเฮง : แน่นอนก็คงจะต้องช่วยกันทุกภาคส่วน ซีเกมส์หรือเอเชียนเกมส์ สมาคมฟุตบอลมีหน้าที่ส่งทีมเข้าแข่งขันเหมือนกันสมาคมอื่นๆ แต่ไม่ใช่การแข่งขันที่ฟีฟ่ารับรอง เป็นทางคณะกรรมการโอลิมปิก ทางภาครัฐเขาก็อยากจะให้ส่งทีมที่ดีที่สุดไปแข่งเพื่อผลการแข่งขันที่คนไทยต้องการอยากเห็น ทีมชาติไทยไม่เคยไปถึงจุดสูงสุดในเอเชียนเกมส์ เราทำได้ดีสุดแค่อันดับ 4 มา 4 ครั้งในรอบ 6 ปีหลังสุด ไม่มีใครไม่อยากได้แชมป์หรอก แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าพวกทีมอย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน หรือพวกตะวันออกลางหลายๆ ทีม เขาจะส่งยู-21 มาแข่งทั้งนั้น เพราะเขามองไปที่การคัดโอลิมปิกในปีหน้า อย่างยู-23ชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมาที่เวียดนามได้รองแชมป์ มันเป็นรายการที่ไม่ได้ไปต่อที่ไหน เอเอฟซีเขาประุชุมกันแล้วว่าอยากให้มีการแข่งขันขึ้นเพื่อให้เหมือนเป็นการเตรียมเอเชียนเกมส์และคัดโอลิมปิกครั้งต่อไป ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีทัวร์นาเม้นต์อะไรให้รุ่นนี้ได้แข่งเลย หลายๆ ทีมเขาก็ส่งยู-21 ไปแข่ง แต่เวียดนามส่งเด็กอายุเต็ม 23 ไปแข่ง คือเป้าหมายมันต่างกัน เขาไม่ได้มองว่าจะต้องคว้าแชมป์ให้ได้ แต่มองว่าส่งแข่งรายการนี้เพื่อไปต่อในรายการที่ใหญ่ขึ้น 

ทีมชาติไทยชุดคว้าอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2014 ก้าวขึ้นมาติดชุดใหญ่ในปัจจุบัน

แมน : แล้วผู้เล่นทีมชาติชุดใหญ่ที่พี่เฮงบอกว่าจะให้เอเชียนเกมส์เลือก 3 คนตามโควตาอายุเกิน จะเรียกได้หรอพี่ในเมื่อมันชนกับไทยลีก เนี่ยผมไปเช็กโปรแกรมมา เอเชียนเกมส์เริ่ม 18 ส.ค. แต่วันที่ 11 ส.ค. มีเกมเมืองทอง เจอ ชลบุรี แล้ว 12 ส.ค. เชียงราย เจอกับ บุรีรัมย์ ทีมอื่นๆ ก็กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเลย เพราะจะเป็นช่วงที่เหลือเกมให้เตะไม่ถึง 10 นัดในลีกแล้ว 

โค้ชเฮง : ก็อาจจะต้องดูผู้เล่นที่เป็นตัวสำรองลงมาจากในสโมสร แต่ถ้าเป็นนักเตะชลบุรีผมยอมปล่อยนะ จะชุดใหญ่หรือเยาวชนรุ่นไหนก็ตาม เพราะผมถือว่าการติดทีมชาติมันเป็นโอกาสดีของเด็กๆ ที่จะได้ทั้งประสบการณ์และความภาคภูมิใจ 

แมน : ทีมยู-16 กับ ยู-19 ที่จะแข่งชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายปีนี้ วางแผนเตรียมตัวไปถึงไหนแล้วครับ เพราะเห็นว่าพี่ตั้งเป้าว่าบอลเยาวชนเราต้องผ่านไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

โค้ชเฮง : ผมคาดหวังกับทีมชุดยู-19 นะเพราะเด็กชุดนี้มีศักยภาพสูงหลายคน ผมบอกกับหระให้เรียกนักเตะมาเตรียมทีมในช่วงฟีฟ่าเดย์ มี.ค.นี้ก็น่าจะตรงกับคิงส์คัพ ให้นักเตะได้มาเจอกันอาจจะมีแมตช์ให้อุ่นเครื่องไปตามปฏิทินของฟีฟ่า แต่ปัญหาการเตรียมทีมก็คงเป็นเรื่องระยะเวลาเพราะติดฟุตบอลลีกด้วย อย่างยู-16 ที่จะออกไปแข่งทัวร์นาเม้นต์ที่ญี่ปุ่นก็มีเวลารวมตัวแค่ 2 วันเองเพราะบอลยูธลีกเพิ่งจบ หรืออย่างคิงส์คัพ พอเตะบอลลีกจบมีเวลาได้ซ้อมแค่ 3-4 วันก็แข่งเกมแรกแล้ว

แมน : โหเตะถี่ขนาดนั้นเดี๋ยวก็มีนักเตะบาดเจ็บถอนตัวอีกแหงเลยพี่ แล้วซูซูกิ คัพ ได้คุยกับราเยวัชมั้ยว่าจะใช้ผู้เล่นชุดไหนครับ

โค้ชเฮง : ก็แล้วแต่ราเยวัชเลย เรายกสิทธิ์ขาดให้เขาเลือกเองทั้งหมด เขาก็บอกผมนะว่าอยากจะลองตัวใหม่ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ในเอเชียนคัพปีหน้า เขาถามว่าถ้าไม่ได้แชมป์จะเป็นไรมั้ย ผมก็บอกเขาไปว่าบอลในอาเซียนจริงๆ ผมไม่ได้ซีเรียสกับผลการแข่งขันเพราะเราต้องการก้าวขึ้นไประดับที่สูงกว่า แต่แฟนบอลเขาคาดหวังสูงนะ คือถ้าไม่ได้แชมป์ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันที 

งานนี้พลาดไม่ได้เชียวนะ "มิโล่"

แมน : แล้วราเยวัชเขาจะทำยังไงพี่

โค้ชเฮง : เขามีประสบการณ์ในการเป็นโค้ชมาทั่วโลกเขารู้อยู่แล้วล่ะว่าจะต้องวางแผนยังไง เขาเข้าใจนะว่าทำไมแฟนบอลถึงคาดหวัง เพราะเรายังยึดติดกับความสำเร็จที่เราเคยได้ ผมย้ำมาตลอดแหละว่าเราอย่าไปซีเรียสกับซีเกมส์หรืออาเซียนคัพมากมาย เพราะพอประสบความสำเร็จได้แชมป์มาแล้วเราก็ไปแพ้ในระดับเอเชียอยู่ดี มันก็วนกลับมาเหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง แล้วนักเตะก็ใช้งานได้แค่กลุ่มเดียวที่้ต้องลงแข่งแทบทุกทัวร์นาเมนต์ ผมถึงพยายามผลักดันให้ใช้ผู้เล่นเยาวชนขึ้นมาเล่นเยอะๆ ในระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อที่เด็กรุ่นนี้จะได้มีประสบการณ์ในการแข่งขันที่กดดันบ่อยๆ 

แมน : วันนี้รบกวนพี่มาเป็นชั่วโมงแล้ว ขอบคุณมากนะครับ

โค้ชเฮง : ได้เลยครับ 


ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็กดแชร์ แล้วอย่าลืมให้เครดิตกันด้วยนะครับ (แมน โกสินทร์ อัตตโนรักษ์)


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด