:::     :::

แพ้เป็นพระ ชนะเป็นผี!

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สถิติชนะรวดของ อาร์เซน่อล ถูกหยุดลงเรียบร้อยที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในศึกบิ๊กแมตช์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มอบบทเรียนสำคัญให้ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า

สองทีมนี้มาเจอกันในช่วงเวลาที่ถูกต้อง แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเป็นรูปเป็นร่างด้วยชัยชนะ 3 นัดติดที่มาพร้อม 11 ตัวจริงที่ ซูเปอร์สตาร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นแค่สำรองข้างสนาม ขณะที่ อาร์เซน่อล เป็นทีมเดียวที่ชนะ 5 นัดรวดนับจากเปิดฤดูกาล  

เอริก เทน ฮาก กุนซือทัพผีแดงทำเซอร์ไพรส์เล็กน้อยใส่ชื่อ อันโตนี่ ปีกตัวใหม่ที่เพิ่งย้ายมาไม่กี่วัน ลงตัวจริงทันทีในแนวรุกเพื่อเล่นรวมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, เจดอน ซานโช่ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส 

ส่วน มิเกล อาร์เตต้า มีข่าวดีได้ มาร์ติน โอเดการ์ด และ อารอน แรมส์เดล ที่เจ็บจากนัดชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 ฟิตทันลงสนาม เช่นเดียวกับ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่พลาดใน 2 นัดหลังสุด ทว่ายังไม่มี โธมัส ปาร์เตย์ กับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ที่เจ็บไปในเวลาไล่เลี่ยกัน 

เปิดฉากมาในช่วง 10 นาทีแรก ปีศาจแดงทำได้ดีกว่าชัดเจนเป็นฝ่ายครองเกมรุกในแดน อาร์เซน่อล ต่อเนื่อง แต่กลับโดนจังหวะสวนของปืนใหญ่ที่ทำได้เฉียบขาด กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ หลุดไปงัดบอลสวนตัว ดาบิด เด เคอา ตุงตาข่าย

ทว่าผู้ตัดสิน พอล เทียร์นีย์ ย้อนไปเช็กวีเออาร์จังหวะก่อนหน้านี้ที่ คริสเตียน เอริคเซ่น โดน มาร์ติน โอเดการ์ด แซะแย่งบอลบริเวณกลางสนามก่อนชี้ขาดว่าเป็นการฟาวล์ ทีมเยือนจากลอนดอนจึงเฮเก้อไม่ได้ประตูนำ

แม้พลาดประตูไปน่าเสียดาย แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณอย่างตรงไปตรงมาว่าพร้อมโต้กลับได้ทุกเมื่อหากผีแดงบุกไม่ระวังหลัง นั่นทำให้เกมของเจ้าถิ่นชะงักลงทันที และ อาร์เซน่อล ก็เริ่มกลับสู่เกมได้ของตัวเองได้เรื่อยๆ

แต่ในช่วงที่เกมของ อาร์เซน่อล ดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กลับเป็นฝ่ายฉวยโอกาสออกนำจากจังหวะที่แนวรับปืนใหญ่หลุดตำแหน่งกันเอง 

บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดึงตัวประกบ กาเบรียล มากัลเญส ให้ตามขึ้นมาไล่เสียบเกือบถึงเส้นวงกลมกลางสนาม เมื่อตัดไม่อยู่ บอลจึงไปถึง เจดอน ซานโช่ ได้แปะต่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตรงเขตโทษ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จึงต้องหุบเข้าในไปช่วย วิลเลี่ยม ซาลีบา ทำให้ แรชฟอร์ด สบโอกาสแทงทะแยงออกขวา อันโตนี่ หลุดโล่งๆ ก่อนเอี้ยวยิงด้วยซ้ายเข้าไป


เอริคเซ่น ช่วยทำรับและรุกให้ผีแดง

เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่ อาร์เซน่อล เสียประตูในครึ่งแรก และเป็นประตูแรกจริงๆ ที่โดนเจาะจากการต่อบอลทำเกมของคู่แข่ง ต่างจาก 3-4 ประตูแรกที่เป็นความผิดพลาดส่วนบุคคล

อาร์เซน่อล ครองบอลและการหาโอกาสทำได้มากกว่า แต่สกอร์เป็นทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำได้เมื่อครบ 45 นาทีแรก

ในครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ลุยต่อจนกระทั่งมาตีเสมอ 1-1 จาก บูคาโย่ ซาก้า ที่ปลดล็อกยิงประตูแรกในฤดูกาลได้สำเร็จ โมเมนตัมเหมือนจะกลายเป็นของปืนใหญ่เต็มตัวเพราะรูปเกมทำได้ดีอยู่แล้ว 

ทว่าความผิดพลาดของแนวรับที่ดันสูงก็ถูก แมนฯ ยูไนเต็ด ลงโทษในทันที บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้แทงตัดหลังให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ควบสุดแรงเข้าไปยิงสวนตัว แรมส์เดล อย่างเด็ดขาด

อาร์เซน่อล ยังมั่นใจในการเล่นของตัวเอง โอเดการ์ด และ ซินเชนโก้ ที่เพิ่งหายเจ็บถูกเปลี่ยนออกเพื่อเติมความสดของ เอมิล สมิธ โรว์ และ เอ็ดเคเทียห์ ส่วน ฟาบิโอ วิเอร่า ได้เดบิวต์นัดแรกลงแทน แซมบี้ โลคองก้า

อาร์เตต้า ปรับมาเล่นระบบหลังสาม และมีหน้าคู่ เอ็นเคเทียห์ ลงไปช่วย กาเบรียล เชซุส ที่โดนตามตอดตามแซะตลอดทั้งเกม บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, ฟาบิโอ วิเอร่า และ กรานิต ชาก้า ช่วยกันในแถวสอง 

ปืนใหญ่ปรับโหมรุกมากยิ่งขึ้นเพื่อตามตีเสมอให้ได้อีกครั้ง แต่ก่อนหน้านี้ เทน ฮาก เลือกถอด เจดอน ซานโช่ ออกเพื่อส่ง เฟร็ด ลงไปช่วยไล่บอล ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็แทน อันโตนี่ ตามตำแหน่งตัวรุก

การเดิมพันของ อาร์เซน่อล ไม่ได้ผลเพราะเกมรับยังคงขาดสมาธิและไม่ระวัง พวกเขาดันสูงและโดน แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นงานในรูปแบบเดิม คราวนี้เป็น เอริคเซ่น หลุดเดี่ยวก่อนเลือกจ่ายให้ แรชฟอร์ด ที่อยู่ตำแหน่งดีกว่าซัดประตูที่สองของตัวเองและเป็นประตูปิดท้าย 3-1


ไม่ใช่วันที่ดีของแนวรับปืนใหญ่

ปืนใหญ่หาทางกลับลำบากเพราะแต่ละประตูที่เสียเหมือนตอกย้ำรอยแผลของตัวเองที่พร้อมจะโดนผีแดงกรีดให้ขยายใหญ่กว่าเดิม 

ช่วงสิบนาทีท้าย เทน ฮาก เน้นรัดกุมยิ่งขึ้นส่ง กาเซมีโร่ ลงมาช่วยบล็อกอีกชั้นทำให้แดนกลางผีแดงมีทั้ง แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, กาเซมีโร่ แถมยังมี บรูโน่ กับ เอริคเซ่น คอยช่วยไล่ และทิ้ง โรนัลโด้ ไว้ข้างคนเดียว

ท้ายที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด จึงปิดเกมด้วยชัยชนะที่ต้องการทำให้เฮต่อเนื่องเป็นนัดที่ 4 ขณะที่ อาร์เซน่อล เสียสถิติแพ้เป็นนัดแรก 

ทีมของ เทน ฮาก คู่ควรกับสามคะแนนในนัดนี้เพราะแม้ครองบอลน้อยกว่า แต่เฉียบขาดมากกว่า เกมรับเล่นอย่างมีวินัยปล่อยให้ปืนใหญ่ยิงเข้ากรอบเพียง 3 ครั้งทั้งที่ได้โอกาสง้างถึง 16 ครั้ง ส่วนเกมรุกที่ได้ลุ้นยิง 10 ครั้งก็เข้ากรอบถึง 6 ครั้ง และเป็น 3 ประตู

สัดส่วนที่แตกต่างกันชัดเจนคือ การยิงเข้ากรอบของผีแดงที่ "เกินครึ่ง" ส่วนปืนใหญ่ทำได้ไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ 

หลังจากเปิดฤดูกาลย่ำแย่แพ้ 2 นัดแรกและเสียไป 6 ประตูในการเจอ ไบรท์ตัน กับ เบรนท์ฟอร์ด เอริก เทน ฮาก จึงพยายามแก้ปัญหาเกมรับของผีแดงให้แน่น และหวังผลจากจังหวะสวนกลับเพราะมีผู้เล่นที่ออกบอลดีทั้ง เอริคเซ่น และ บรูโน่ ขณะที่แดนหน้ามี ซานโช่, แรชฟอร์ด และ อันโตนี่ เข้ามาเพิ่มรายล่าสุด

ผีแดงเล่นในบ้าน แต่เล่นแท็กติกแบบทีมเล็กเยือนทีมใหญ่ พวกเขาอดทนรอโอกาสอย่างใจเย็น โดยที่เปิดหลุมพรางจนปืนใหญ่ติดกับ 

นี่คือบทเรียนข้อสำคัญที่ อาร์เซน่อล ได้กลับมามองตัวเองอีกครั้งว่ายังมีจุดอ่อนและข้อผิดพลาดตรงไหน 


แรชฟอร์ด ลงโทษเกมรับปืนใหญ่

อาร์เตต้า ปรับความคิดในหัวให้ลูกทีมกล้าเล่นกล้าสู้มากขึ้นกับการไปเยือนใหญ่ด้วยกัน พวกเขาบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี (ชนะ 1-0 เมื่อปี 2020) และบุกชนะ เชลซี ได้สองปีติดต่อกันซึ่งล้วนเกิดขึ้นในยุค อาร์เตต้า

แต่ในทิศทางการเล่นที่ดีขึ้น ความชะล่าใจและมั่นใจเกินเหตุมักมาพร้อมกัน พวกเขาขาดความระวังในจังหวะการเล่นสวนกลับของคู่แข่งเพราะคิดว่าเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมได้

ทันทีที่จ่ายบอลพลาด หรือแค่เพียงเสี้ยววินาทีที่ขาดสมาธิ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พร้อมลงโทษชนิดไม่ทันให้ตั้งตัว 

จากที่กำลังฮึกเหิมลุ้นยิงแซง 2-1 หรือ 3-1 อาร์เซน่อล จึงถูกกระตุกให้ตาสว่างกับสกอร์ที่เป็นฝ่ายตามหลัง 1-2 และ 1-3 ก่อนแพ้ไปในที่สุด

แม้ในหลายจังหวะจะไม่เป็นใจเช่นประตูของ มาร์ติเนลลี่ ที่ถูกริบคืนซึ่ง โอเดการ์ด บอกว่าเบาหวิวมากกับการโดนตัว เอริคเซ่น ขณะที่ อาร์เตต้า ก็ออกมาวิจารณ์การทำงานของ วีเออาร์ แต่ท้ายที่สุด สิ่งที่ อาร์เซน่อล ต้องรีบไปแก้ไขคือความผิดพลาดของตัวเองโดยเฉพาะเกมรับที่ขาดวินัย เสียสมาธิ ดันสูงจนหลุดตำแหน่ง และติดประมาท 

ความปราชัยไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป อาร์เซน่อล ยังนำจ่าฝูงของตารางซึ่งการทำได้ 15 คะแนนใน 6 นัดแรกก็เป็นสิ่งที่ต้องพอใจมากๆ แล้ว

หากไม่นับสกอร์ที่เกิดขึ้นรวมถึงความผิดพลาดในเกมรับ การเล่นโดยรวมยังรักษามาตรฐานของฤดูกาลนี้ได้ดี มีจังหวะต่อบอลสั้นยาวแม่นยำได้หลายครั้ง ความเข้าใจในเกมค่อนข้างสูง และที่สำคัญคือลงเล่นด้วยความมุ่งมั่นและกระหายเต็มที่ 

แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้นต่อเนื่อง เทน ฮาก เลือกนักเตะลงเล่นตามฟอร์ม ไม่ติดกับชื่อเสียง ส่วน อาร์เซน่อล ก็ยังไม่เสียหายมากนัก การเล่นของทีมยังคงได้ลุ้น และได้ใจแฟนบอล 

เพียงแต่นัดนี้ผีแดงรอจังหวะได้ดีและหมัดหนักมากกว่า จึงเป็นฝ่ายได้รับการชูมือ 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด