นี่คือบทสัมภาษณ์แรกสุดของแอนโทนี่กับทางแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในฐานะนักเตะของสโมสรเราอย่างเป็นทางการ หลังย้ายมาจากอาแจ็กซ์อัมสเตอร์ดัม ในนี้มีทุกอย่างที่คุณอยากจะรู้จากนักเตะใหม่ของเราคนนี้ โดยพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ของเขา กับเจ้านายใหม่หน้าเก่าอย่าง เอริค เทน ฮาก, ความสัมพันธ์กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ และเหล่านักเตะทีมชาติบราซิลคนอื่นๆของเรา รวมถึงความประทับใจของแอนโทนี่ที่มีต่อสโมสรแห่งนี้ และแฟนบอลทั่วโลกด้วย
แอนโทนี่เปิดใจถึงชีวิตที่ผ่านความยากลำบากมา ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าของเขาด้วย และนี่คือเรื่องราวของเด็กผู้ชายที่ภายนอกดูห้าว ดูดิบ แต่ภายในจิตใจมีความสู้ชีวิตอยู่ในตัวอย่างมาก
ยินดีต้อนรับสู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดนะแอนโทนี่ รู้สึกยังไงบ้างที่ได้ย้ายมาอยู่สโมสรนี้?
"อย่างแรกสุดเลยก็คือ ผมดีใจมากจริงๆที่ได้มาอยู่ที่นีน่กับแมนยูไนเต็ด มันคือฝันที่เป็นจริงของผม ผมรู้สึกขอบคุณอย่างมากสำหรับแรงสนับสนุน และศรัทธาที่มีในตัวผมจากทุกๆคนในสถานที่แห่งนี้ ผมอยากจะมาสร้างประวัติศาสตร์ที่นี่ ผมอยากจะประสบความสำเร็จร่วมกันกับสโมสรนี้ มันดีใจและเป็นเกียรติมากๆที่ได้สวมเสื้ออันมีตราสโมสรอันยิ่งใหญ่นี้อยู่บนอกตัวเอง"
คุณถูกโยงกับที่นี่ตั้งแต่เอริค เทน ฮาก เข้าคุมทีมเลย ซัมเมอร์ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?
"เอริค เทน ฮาก เป็นโค้ชที่ยอดเยี่ยมมาก ผมเคารพรักเขามาก ตั้งแต่ตอนที่ย้ายไปอยู่อาแจ็กซ์ เขาดูแลผมอย่างดีเลย และก็ศรัทธาในตัวผมด้วย มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลยที่ผมมีฟอร์มการเล่นดีเยี่ยมตลอดสองปีกับเขา เราพัฒนาความไว้วางใจซึ่งกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ผมให้ความเคารพ และสนิทสนมมาก ตอนที่รู้ว่าเขาย้ายมาที่นี่ ผมก็หวังให้เขาโชคดีและประสบความสำเร็จอย่างที่เขาสมควรได้รับ ตอนนี้ผมได้มาอยู่เคียงข้างเขาอีกครั้งแล้ว ก็หวังว่าผมจะสร้างประว้ัติศาสตร์กับที่นี่, พัฒนา และเติบโตยิ่งๆขึ้นไปภายใต้การคุมทีมของเขา"
รู้สึกขอบคุณทางอาแจ็กซ์ยังไงบ้างตอนที่คุณอยู่ที่นั่น?
"มันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากมายเลย พวกเขาคือสโมสรที่อ้าแขนต้อนรับผมอย่างมากตอนที่ย้ายมา พวกเขาทำให้ผมอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน และได้รับการต้อนรับอย่างดี วันนี้เป็นความท้าทายครั้งใหม่ของผมแล้ว และอาแจ็กซ์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ยังคงเปิดโอกาสให้ผมเหมือนเดิม ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ ได้แต่ขอบคุณพวกเขาสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา"
คุณไม่ใช่บราซิลเลียนคนเดียวที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้มาจอยกับคาเซมิโร่ และก็เฟร็ด ตื่นเต้นมากแค่ไหนบ้าง?
"อย่างแรกเลยคือ ผมดีใจมากนะที่มาเจอคนบราซิลด้วยกันที่นี่ ดีใจมากๆที่ได้เจอพวกเขาอีกครั้งจากแคมป์ทีมชาติ ตอนนี้เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว ผมหวังว่าจะได้เรียนรู้จากพวกเขา เฟร็ดเล่าเกี่ยวกับสโมสรนี้ให้ฟัง ผมหวังว่าจะประสบความสำเร็จที่นี่กับแมนยูไนเต็ด รวมถึงเติบโตและพัฒนาขึ้นไปพร้อมๆกับเพื่อนชาวบราซิลอีกสองคนในที่แห่งนี้"
คุณมีข่าวกับยูไนเต็ดนานมาก ส่วนคาเซมิโร่นี่เพิ่งจะมาถึง คุณรู้จักเขามาในตอนที่ติดทีมชาติ มันยังมีจุดเชื่อมโยงด้วยว่าคุณทั้งคู่มาจากเซาเปาโลเหมือนกันเลยนี่ใช่ไหม?
"แน่นอนครับ พวกเรามาจากทีมเยาวชนเซาเปาโลเหมือนกันเป๊ะ เราไม่เคยเล่นด้วยกันนะ เพราะอยู่กันคนละรุ่น แต่ตอนนี้การที่ได้อยู่ในห้องแต่งตัวเดียวกันกับเขา รวมถึงในสนามที่ได้เล่นเคียงข้างเขาตอนนี้ มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ผมมีความสุขจริงๆที่เราทั้งคู่มาจากถิ่นเดียวกันจากทีมเยาวชนของเซาเปาโล แล้วได้มาเล่นร่วมกันที่สโมสรอันยิ่งใหญ่ อย่างที่เราได้แมสเสจคุยกัน เราก็หวังว่าจะจารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ของสโมสรแห่งนี้ให้ได้"
ผมจินตนาการว่าตอนนี้อาจจะมีแฟนบอลเซาเปาโล มาตามเชียร์แมนยูด้วยปีนี้ มันทำให้คุณภูมิใจไหมถ้าจะสามารถประสบความสำเร็จที่นี่เพื่อแฟนเก่าๆที่บราซิล
"แน่นอน ผมอยู่ที่สโมสรนั้นตั้งแตอายุ 12 จน 19 เลย ผมจะยินดีมากๆ พวกเขารู้ดีว่าผมรู้สึกขอบคุณ และรักเซาเปาโลมากขนาดไหน ผมตามดูสโมสรเสมอถ้ามีเวลา รู้สึกซาบซึ้งสำหรับทุกๆสิ่งที่นั่น ตัวผมเองได้คุยกับเพื่อนนักเตะบางคนสมัยอยู่สโมสรแห่งนั้น แล้วก็ได้คุยกับท่านประธานสโมสรด้วย ผมดีใจและมีความสุขมากๆที่ได้รับความรักและความเคารพมาจากที่นั่น ไม่ใช่แค่เพื่อนๆหรือท่านประธาน แต่รวมถึงแฟนบอลด้วย ผมจะทุ่มเททุกอย่างกับที่นี่ และถ้ามีเวลาผมก็จะตามเชียร์เซาเปาโลต่อไป"
เอามิสเตอร์ใบปัดน้ำฝนแมนทางขวามือมาแมนยูด้วยอีกคนไหม?
คุณรู้จักกับลิซานโดรตั้งแต่อยู่ด้วยกันที่อาแจ็กซ์แล้ว คิดว่าคุณจะประสานงานกันได้มากน้อยแค่ไหนในอนาคต?
"เราเล่นด้วยกันสองปีที่อาแจ็กซ์ เราเป็นเพื่อนที่สนิทกันอย่างมาก ผมเคารพเขาสุดๆ รวมถึครอบครัวเขาที่ผมรู้จักเป็นอย่างดีด้วย ดีใจที่ได้มาเล่นด้วยกันที่นี่เพื่อจะสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้น เขาข้อความมาหาผมวันนี้ เมื่อวานก็ด้วย เขาเป็นเพื่อนที่ดีมากคนนึงที่ผมมีในการเล่นฟุตบอล ตอนนี้เรากลับมาเจอกันอีกครั้ง และคุยกันว่าเราจะต้องประสบความสำเร็จที่นี่ด้วยกันให้ได้"
เขาแข็งแกร่ง ดุดัน แฟนๆรักเขาแล้วเรียบร้อย เวลาที่ต้องเผชิญหน้าเขาตอนซ้อมนี่เป็นยังไงบ้าง?
"มาร์ติเนซเป็นนักเตะที่เล่นสไตล์อาร์เจนติเนี่ยนเลย เรารู้ดี ผมชอบมากๆ มันทำให้ผมอยากเห็นเขาเล่นในสนาม วิธีการสู้กับคู่แข่ง วิธีการเล่นที่เขาใช้หัวใจและจิตวิญญาณเข้าแลกในสนาม เราเล่นด้วยบุคลิกคล้ายๆกัน เขาเองก็รู้จักผมดี และรู้ว่าผมเป็นยังไง ผมพร้อมเอาตัวเข้าแลก ไม่ว่าจะด้วยเลือด เหงื่อ หรือน้ำตา ถ้าผมจะต้องเจ็บออกจากสนามไปก็ไม่เป็นไร มันคือชีวิตของผม มันคืองานของผม การเห็นมาร์ติเนซเล่น ผมรู้จักเขาดีมากๆ เขาเป็นสุดยอดนักเตะอย่าที่เราเห็นกัน ผู้คนก็รู้ดี เขาเป็นตัวเอ้คนนึงเลย"
Antony ในฐานะนักฟุตบอล คุณจะอธิบายตัวเองยังไงในฐานะผู้เล่นเกมรุก และคุณชอบอะไรมากที่สุดในสนาม?
"จุดแข็งของผมคือเรื่องเทคนิคการเล่น การเลี้ยงบอล การสร้างสรรค์เกม ผมคิดว่าการสร้างเกมรุกของผมคือจุดเด่นมากๆ ด้วยการเลี้ยง จ่าย และทำเกมดีๆให้เพื่อนร่วมทีม ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างได้จากผม"
ชอบทำอะไรในสนามมากที่สุด?
"เลี้ยงครับ เลี้ยงบอลนี่แหละ วิถีบราซิลเลี่ยนเลยใช่ไหมล่ะ การเลี้ยงบอล สปีด ยิงประตู และการดีใจกับแฟนบอลและทุกๆคนนี่แหละ เยี่ยมที่สุด"
คุณเล่นปีกมานานรึยัง ตั้งแต่สมัยเยาวชนที่เซาเปาโลเลยรึเปล่า/
"ใช่ครับ ผมเล่นเล่นปีกขวามา เคยเล่นตัวรุกเบอร์ 10 รวมถึงปีกซ้ายด้วย เพราะงั้นผมจึงเคยได้เล่นมาทั้งสามตำแหน่งที่แตกต่างกัน"
ตัวรุกบราซิลระดับโลกนี่ไม่เคยขาดจากวงการฟุตบอลเลย ทั้งในตำนาน และปัจจุบัน คุณมีต้นแบบหรือฮีโร่สมัยเด็กๆไหม?
"มีเพียบเลย แต่ด้วยความที่ผมชอบเลี้ยงบอลมากๆ ก็คงจะเป็น Ronaldinho Gaucho แล้วก็ Ronaldo ด้วย พวกเขาเป็นนักเตะที่ผมชื่นชอบเพราะว่าสไตล์การเลี้ยงบอล มันเป็นอะไรที่ผมชอบและก็ติดตัวผมมาตลอดจนทุกวันนี้ มีคนเก่งๆอีกเยอะเลย ถึงแม้ว่าผมจะชื่นชอบสองคนนี้มากเป็นพิเศษครับ"
มีชอบดูนักเตะในตำนานของแมนยูคนไหนบ้างไหม? สโมสรมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากโดยเฉพาะพวกปีกระดับตำนานที่ทำให้แฟนบอลตื่นเต้น และเอาชนะคู่แข่งให้ได้เห็น
"มีเยอะเลยครับ นานี่เป็นตัวอย่างเลย มีนักเตะเยอะมากๆ ผมเองก็หวังว่าจะตามรอยการสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลได้มีความสุขกับฟุตบอลของผม ไม่ใช่แค่เลี้ยงบอล เล่นเกมรุก แต่ผมอยากจะวิ่งเข้าเสียบคู่แข่ง วิ่งตามลงไปไล่บอล ไล่ประกบคู่แข่งด้วย จะไม่ให้บกพร่องเรื่องความมุ่งมั่นเด็ดขาด ผมหวังว่าจะสร้างสิ่งเหล่านี้ให้ที่นี่ได้ เราต้องให้ความเคารพกับความสำคัญของเสื้อที่สวมใส่ลงสนามตัวนี้"
สำหรับผู้จัดการทีมอย่างเอริค เทน ฮาก ที่คุณได้ทำงานด้วยกันสมัยอยู่อัมสเตอร์ดัม เอริคสร้างอิมแพ็คอะไรให้คุณในฐานะนักเตะและชีวิตคุณบ้าง?
"ตอนที่ผมย้ายไป ผมก็เริ่มที่จะปรับตัวและรู้จักคนมากขึ้น เอริคได้ทำความรู้จักผม และรู้ว่าผมเป็นยังไง เขารู้ว่าผมทำงานยังไงบ้างในทุกๆวัน วิธีการที่ผมซ้อม รู้ว่าผมทุ่มเท 100% ในสนาม และความเชื่อมั่นนี้มันงอกงามพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ความมั่นใจของเขาที่มีต่อผมก็มากตามลำดับไปกับการที่เขารู้จักผมดียิ่งๆขึ้น และผมดีใจมากๆ รู้สึกดีที่เขามอบความไว้วางใจให้ผมลงสนาม และได้โอกาสเล่นที่อาแจ็กซ์ เขารู้ดีว่าผมเป็นคนยังไง จรรยาบรรณการเป็นนักฟุตบอลด้วย ผมรู้สึกซาบซึ้งมากๆนะ และผมก็เคารพรักเขาอย่างเต็มที่ ซึ่งมันเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจมากๆที่ได้ทำงานร่วมกันกับเขาอีกครั้ง"
และสำหรับตัวคุณเอง และเพื่อนร่วมทีมที่อาแจ็กซ์ เอริคเขาพัฒนานักเตะยังไง?
"ที่เห็นชัดมากสำหรับเขาก็คือหัวคิดความชาญฉลาด ความรู้แทคติกของเขา กลยุทธ์การเล่น การทำเกมบุก เกมเพรสซิ่ง ผมรู้สิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดีมากหลังจากที่ทำงานกับเขามาสองปีเต็ม ด้วยสไตล์ของเอริค จากที่ผมดูแมนยูที่บ้านบ่อยๆ ผมเห็นภาพได้อยู่นะว่าเขากับผมสามารถมาทำงานร่วมกันได้ที่นี่ สิ่งที่โดดเด่นสุดๆเกี่ยวกับเอริคก็คือเรื่องกึ๋นของเขานี่แหละ"
รู้สึกยังไงบ้างที่เอริคต่อสู้หนักมากเพื่อจะพาคุณมาอยู่ที่นี่?
"โคตรของโคตรเป็นเกียรติ และดีใจมากๆ ผมยังรู้สึกขอบคุณเขาจนถึงตอนนี้ และขอบคุณในความเชื่อมั่นที่จะเซ็นสัญญาผมเข้ามา ผมตื่นเต้นมากจริงๆและรอคอยที่จะได้ย้ายมาที่นี่ เพื่อมาใส่เสื้อตัวนี้ ผมซาบซึ้งความศรัทธาและความมั่นใจจากเอริค และไม่ใช่แค่เขา รวมถึงผู้อำนวยการทุกๆท่านที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วย ผมดีใจและซึ้งใจมากจริงๆ ขอให้มั่นใจไว้เลยว่าผมจะตอบแทนศรัทธานี้ด้วยการทุ่มเทเต็ม 100% ในสนามแน่นอน"
คุณได้ดูเกมที่เราเจอกับลิเวอร์พูลไหม เห็นอะไรที่ชัดเจนที่สุดจากฟอร์มการเล่นของเกมนั้น ในมุมมองคุณ?
"แน่นอนครับ ดูอยู่แล้ว ตอนที่แมนยูยิงได้นี่ผมเฮลั่นเลยเหมือนเป็นแฟนบอลที่สนาม ผมตั้งใจดูเกมนั้นแบบเจาะลึกมากๆ สิ่งที่เห็นชัดสุดๆคือเรื่องความมุ่งมั่น ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทีม ไฟที่ลุกโชน และการตั้งใจทุกจังหวะการเล่น เห็นแบบนั้นมันทำให้ผมดีใจกับทีมมากๆ ผมดูตาไม่กระพริบในทุกนาทีของเกม ดีใจมากๆที่ทีมชนะ แล้วฉลองกันเต็มที่เลย"
มันยิ่งทำให้คุณกระหายที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศที่ว่านั้นกว่าเดิมไหม ในค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด?
"ผมเฝ้าฝันเรื่องนี้มานานแล้ว บางทีคิดเรื่องนี้จนหลับไปเลย ในหัวสมองผม ในใจผมอยู่ที่นี่อยู่แล้ว เอริครู้ดี ทุกๆที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็รู้ดีมากๆว่าผมอยากย้ายมานี่ อยากได้มาใส่เสื้อของยูไนเต็ดลงสนาม แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ใส่รองเท้าลงไปเล่น และช่วยเหลือเพื่อนในทีม ผมเฝ้ารออย่างมากจริงๆ"
แอนโทนี่ เราอยากรู้จักคุณให้มากขึ้นกว่าเดิมหน่อย คุณจะเล่าถึงตัวเองในเรื่องนอกสนามยังไงบ้าง?
"ผมชิลๆนะ แล้วก็รักครอครัวมากๆ ผมมีลูกชายที่ผมชอบใช้เวลาอยู่กับเขา ผมชอบอยู่บ้านกับเพื่อนๆ คุยด้วยกัน เฮฮากัน ผมให้ความสำคัญกับครอบครัวและก็เป็นคนติดบ้านมากๆ แต่ผมชอบให้มีคนมาบ้านเยอะๆนะ เวลาเพื่อนมาแล้วได้เฮฮาด้วยกัน"
ผมได้อ่านเรื่องราวชีวิตสมัยก่อนของคุณมาหลายอย่างเลย เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคขวางทางคุณได้ เพราะสมัยเด็กคุณผ่านเรื่องราวหนักๆมามากแล้ว คุณเติบโตขึ้นมายังไงบ้างที่เซาเปาโล?
"เรื่องมันยาวเลย ผมผ่านอะไรมาเยอะมากๆในชีวิต ผมรู้ดีว่ามันมีอะไรที่ยังต้องเจอและต่อสู้อีกมากมาย ผมผ่านอะไรมาเยอะในอดีต ตั้งแต่เรื่องที่ขนาดว่าสตั๊ดก็ไม่มีจะใส่ ไม่มีอะไรกิน บางทีต้องวิดน้ำออกจากบ้าน 3 หรือ 4 ครั้งตอนเช้าๆเพราะบ้านน้ำท่วม ผมลำบากมาเยอะ แต่ผมก็ผ่านมันมาทั้งหมดได้ด้วยรอยยิ้ม"
"ผมมั่นใจว่าทุกอย่างมันคุ้มค่าแน่นอน เพราะผมได้รับสิ่งตอบแทนแล้วจากที่เคยพยายามเอาไว้ในอดีต ช่วงเวลาเหล่านั้นมีส่วนช่วยให้ผมจนถึงทุกวันนี้ ผมมีความท้าทายใหม่ในตอนนี้ และมีเรื่องราวอีกเยอะแยะเลยที่อยากจะเล่าให้ฟังอีกในวันหลัง ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากๆเลยนะที่ได้มาอยู่จุดนี้ หลังจากที่ผมผ่านเรื่องทุกอย่างในอดีตมาแล้ว วันนี้ผมเห็นแล้วว่าสิ่งที่ผ่านมันมาคุ้มค่าจริงๆ"
พี่ชายของคุณเป็นเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่เลย ตอนที่คุณยังเป็นเด็กๆใช่ไหม?
"ใช่ พี่ผม ตอนนี้เขาก็มาอยู่ที่นี่กับผมด้วย เขาเป็นคนที่ผมเห็นเป็นไอดอล และก็อยู่เคียงข้างผมเสมอมาตลอดชีวิต ทั้งในช่วงเวลาที่เศร้าที่สุด และมีความสุขที่สุด ผมอยากให้เขาได้พบเจอกับสิ่งต่างๆอยู่ข้างๆผมตลอดไป ผมรักเขามาก และเขาเป็นต้นแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผมเลย"
ความทรงจำแรกๆสมัยเริ่มเล่นฟุตบอลคืออะไร แล้วคุณเล่นที่ไหน?
"ผมเตะฟุตบอลในชุมชนที่ผมอยู่ บ้านผมอยู่ในสลัม อาศัยอยู่ที่นั่นจนกระทั่งได้เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพที่เซาเปาโล ชาวบ้านอาจจะไม่อยากเชื่อก็ได้ หลังจากได้เห็นผมในทีวีว่าผมจะกลับไปที่สลัมแห่งนั้น เพราะมันไม่ได้มีหนทางที่จะออกมาได้เลย ความทรงจำของผมคือการเล่นฟุตบอลเท้าเปล่า เพราะว่าผมไม่มีรองเท้าฟุตบอลจะใส่ เล่นในสนามกับเพื่อนๆตั้งแต่บ่ายจนเย็นเลย เป็นความทรงจำที่มีความสุขมากๆ แล้วผมก็ไม่อายที่จะเล่าให้ใครฟัง ทุกๆสิ่งที่ผมผ่านมันมาได้นั้นคุ้มค่ามากจริงๆที่มันเป็นประสบการณ์ของเราในวันนี้"
"ผมสู้ตลอดเวลา เวลาที่ผมต้องการอะไรผมจะเอามันมาให้จงได้ ผมวางเป้าหมายหลักในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเสมอ ไม่มีแพลนอื่นทั้งนั้น นักบอลอย่างเดียว ผมรักษาเป้าหมายดังกล่าวไว้ ทำมันให้ได้เพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเองและครอบครัว มันอยู่ในหัวผมตลอดเวลา ผมจินตนาการไม่ออกนะว่าจะสามารถไปถึงไหนได้ แต่ผมเชื่อเสมอว่าผมจะทำมันให้สำเร็จให้ได้ ไม่ว่าจะยากขนาดไหนก็ตาม ผมเดินตามความฝันของตัวเองให้เป็นจริง"
นอกจากเรื่องฟุตบอล ได้ยินมาว่าคุณเป็นแฟมิลี่แมนมากๆ เรื่องนี้สำคัญที่สุดจริงๆ แต่นอกเหนือจากนี้คุณสนใจอะไรอื่นๆเป็นพิเศษอีกไหมนอกจากเรื่องฟุตบอล วันว่างๆทำอะไรบ้าง?
"ก็แล้วแต่ บางทีก็ออกไปเดินเล่นกับลูกชายบ้าง ไปช็อปปิ้งซื้อนู่นนี่บ้าง บางทีก็เล่นไพ่กับเพื่อนเพื่อพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุด แล้วแต่แต่ละวัน บางทีออกไปกับครอบครัวหรือเพื่อนเพื่อทำกิจกรรมอะไรสักอย่าง ไม่ก็ออกไปกินข้าวข้างนอกกัน ถ้าไม่งั้นก็คืออยู่บ้าน เล่นไพ่ เล่นเกม เล่นน้ำในสระ อะไรแบบนี้"
ครอบครัวคุณตื่นเต้นขนาดไหนที่คุณได้ย้ายมาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด?
"แม่ผมโทรมาหาทุกวันเลย พ่อผมก็ข้อความมา พี่สาวผมด้วย (แอนโทนี่เป็นคนสุดท้อง) พวกเขาถามว่า เป็นไงบ้าง โอเคไหม? มีปัญหาอะไรรึเปล่า? พวกเขาดูจะกังวลกว่าผมซะอีก! ตอนที่ผมบอกข่าวดี พวกเขาก็ร้องไห้กันใหญ่เลย ผมมาจากครอบครัวที่ถ่อมตน และรู้ตัวเองเสมอ เพราะงั้นไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำอะไรสำเร็จ เราจะขอบคุณพระเจ้า และจดจำทุกๆสิ่งไว้ไม่เคยลืมว่าได้ผ่านมาจนมาอยู่จุดๆนี้ มีเพียงแค่ผมกับครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าเราเจออะไรกันมาบ้าง ทั้งอันตรายต่างๆที่เราเผชิญหน้ามา เราจำได้ทุกอย่างจริงๆจนกระทั่งมาถึงวันนี้ที่ฝันมันเป็นจริงแล้ว"
สุดท้ายนี้ คุณอยากจะฝากข้อความอะไรถึงแฟนแมนยูซึ่งตื่นเต้นมากๆที่คุณย้ายมาร่วมทีม?
"อย่างแรกเลยก็คือต้องขอบพระคุณมากๆ ทุกๆความรักที่มอบให้ ผมสัมผัสได้ถึงความศรัทธาที่มีให้ตัวผมด้วย ผมรับรู้มันจากแฟนๆบางส่วน ผมได้รับข้อความต่างๆเข้ามา มันซาบซึ้งและรู้สึกดีใจมากๆ มันเหมือนฝันที่เป็นความจริงนะที่ได้ใส่เสื้อตัวนี้ พวกเขาสามารถคาดหวังความมุ่งมั่น ทุ่มเท และจากผมได้ ผมเล่นด้วยหัวใจเป็นหลัก และจะเล่นเพื่อเป็นเกียรติให้สำหรับแฟนบอลเสมอด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างสุดหัวใจ ขอให้พวกเขาไว้ใจได้เลยว่า ความพยายามในทุกๆอย่าง และความท้าทายสำหรับผมที่ได้มาอยู่ที่นี่ มันจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน"
"ขอบคุณอย่างมากจริงๆ แล้วเราจะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน"
-
Antony Matheus dos Santos-
Reference
