9 นัดผ่านพลพรรค “กิเลนผยอง” พบกับชัยชนะไปแค่นัดเดียวเท่านั้น ที่เหลือแบ่งเป็น เสมอ 4 แพ้ 4 มีเพียง 7 คะแนน รั้งอันดับ 12 ห่างจากเรดโซนเพียง 2 แต้มเท่านั้น

หากจะมอง “ปัญหา” ของทีม เกมบุกพ่าย โปลิศ เทโรฯ 1-2 เมื่อสุดสัปดาห์ อาจมองเห็นภาพร่างได้อย่างชัดแจ้งที่สุด

เมืองทองฯ ครองบอลได้มากกว่าคู่แข่ง ผ่านบอลได้เยอะกว่าเท่าตัว ทว่าสิ่งที่ มาริโอ ยูรอฟสกี ยังแก้ไม่ได้เสียทีคือ ฟุตบอลพื้นที่สุดท้าย

หลายคนชอบ “มาริโอ เวย์” ที่เขาพยายามป้อนใส่ทีมชุดนี้ เซ็ตบอลเท้าสู่เท้า ตั้งแต่หน้าปากประตู จนจบที่การเข้าทำ เป็นฟุตบอลยุคใหม่ที่สโมสรระดับโลกใช้กัน

เพียงแต่ปัญหาที่ผ่านมาของเมืองทองฯ คือ ยามเจอทีมที่เล่นเกมรับตั้งโซนต่ำ พวกเขาจะตื้อไปแบบดื้อ ๆ กล่าวคือเซ็ตบอลจากหลังมากลางได้ แต่เมื่อเข้าพื้นที่สุดท้าย กลับไม่สามารถสร้างโอกาส หรือเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้

ปีก่อนพวกเขามี วิลเลียม ป็อปป์ นักเตะที่หาพื้นที่ทำประตูในเขตโทษได้ดี มีบอลกล้าได้กล้าเสีย สร้างความแตกต่างในแดนสุดท้ายได้

แต่เมื่อต้องเสียปีกบราซิเลียนไป สโมสรทุบกระปุกคว้าตัว เอกนิษฐ์ ปัญญา มาด้วยเงินก้อนโต รวมถึง เอริค โจฮานา ที่ถูกคาดหวังว่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของ ป็อปป์ ในตำแหน่งริมเส้น

ซึ่งความเป็นจริงที่พบคือ ทั้ง 2 คน ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดีออกมาช่วยทีมได้ ในราย เอกนิษฐ์ ยังพอมีลูกหวือหวาให้เห็นบ้าง ทว่า โจฮานา ช่วงหลังหลุดตัวจริงไปแบบยาว ๆ   

ขณะที่บอลยาว เฮนรี อานิเยร์ ดาวยิงตัวความหวัง ก็ไม่สามารถหวังได้เลย

สรุปคือครองบอลได้ เซ็ตเกมได้ แต่สร้างจังหวะพื้นที่สุดท้าย จบสกอร์ไม่ดีเหมือนปีที่ผ่านมา

มาริโอ เองพยายามลองผิดลองถูก เปลี่ยนแท็คติก ให้โอกาสผู้เล่นใหม่ ๆ ลงมาใช้งานก็แล้ว แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เสียที

สิ่งที่ตอกย้ำได้ดีคือ บทสัมภาษณ์เจ้าตัวหลังเกมแพ้ โปลิศ เทโรฯ 1-2 มาริโอ บอกกับสื่อมวลชนในห้องแถลงข่าวว่า เขาตั้งใจจะลาออกตั้งแต่เกมบุกแพ้ บีจี ปทุมฯ 0-3 ในช่วงต้นเดือนแล้ว เพื่อหา “จุดเปลี่ยน” ให้กับทีม แต่เมื่อบอร์ดบริหารยังให้โอกาส เขาจึงขอใช้แมตช์พบ พีที ประจวบ ในสุดสัปดาห์ที่จะถึงตัดสินอนาคตตัวเอง

จุดนี้มาริโอก็ “แมน” พอ ที่จะยืดอกรับในผลงานทีม เขาเองก็ผิดหวังกับมัน เมื่อลองจับโน่นผสมนี่แล้วยังไม่ไหว ทำให้ทีมผลงานดีขึ้นไม่ได้ ก็ให้โอกาสคนใหม่ ๆ เข้ามาทำงานแทนดีกว่า  

แม้ทาง วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร จะออกมาให้สัมภาษณ์กับคนข่าวรุ่นเก๋า “บี บางปะกง” ว่า ถึงเวลานี้สโมสรยังซัพพอร์ตในตัว มาริโอ เช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม วัฎจักรฟุตบอลบางครั้งไม่หยุดรอเราขนาดนั้น เมื่อไม่ไหวแล้วฝืนลากต่อ ปัญหาอาจจะหนักกว่าเดิม

ผู้เขียนยังเชื่อว่า เกมสุดสัปดาห์นี้จะเป็นนัดตัดสินอนาคตของ มาริโอ ตามที่เจ้าตัวสัมภาษณ์ เชื่อว่าเขามีความสุภาพบุรุษพอ แม้สโมสรจะพยายามรั้งไว้ก็ตาม

แต่ก็เชื่ออีกว่าต่อให้ มาริโอ ไม่ได้ไปต่อกับ เมืองทองฯ สโมสรจะไม่ทอดทิ้งอดีตลูกหม้อทีมรายนี้แน่นอน อย่างน้อย ก็ยังมีตำแหน่งอื่น ๆ ในสโมสรให้เขาช่วยงานต่อ เพราะเด็กชุดนี้หลายคนเขารู้จักมักจี่เป็นอย่างดี

ส่วนหาก มาริโอ เลือกลุกจากเก้าอี้กุนซือไป ใครจะมาทำหน้าที่แทนนั้น จริง ๆ ไม่ต้องไปมองหาใครให้ไกลตา หรือคาดเดาให้ยาก

ก็ “เทคนิคอล ไดเรกเตอร์” ที่ มาริโอ เพิ่งดึงเข้ามาช่วยงานนี่แหละ

มิโลวาน ราเยวัช นั่นไง

**ภาพ : FB Muangthong United