โอกาสที่เย้ายวนนี้เป็นสิ่งที่จะต้องเดิมพันในกาตาร์ เหล่าผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ และอายุมากทั้งหลายต่างก็ต้องการที่จะคว้ามันมาอยู่ในมือเพื่อลิ้มรสกับความสำเร็จให้ได้

ลีโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น่าจะมีโอกาสสุดท้ายในการชูถ้วยรางวัลที่พวกเขาทั้งสองยังไม่เคยได้ ในขณะที่เหล่าดาวดังคนอื่นๆ ก็คงจะไม่ยอมแพ้เช่นกัน

เหล่าซูเปอร์สตาร์จากชาติใหญ่ๆ ทั้งเยอรมัน, ฝรั่งเศส, สเปน, บราซิล, เบลเยียม และอีกหลายประเทศ ก็มุ่งมั่นกับมันอย่างมาก และนี่คือ 10 ผู้เล่นชื่อใหญ่ที่กำลังจะได้โอกาสสุดท้ายของพวกเขา

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ติดทีมชาติ : 189 นัด

ยิง : 117 ประตู

โรนัลโด้ ยืนยันว่าเขาจะเล่นต่อไปตราบเท่าที่เขารู้สึกว่าร่างกายยังไหว โดยกล่าวว่า "ผมคือผู้รับผิดชอบ (อาชีพของตัวเอง) อย่างเต็มที่"

"หลายคนถามคำถามนี้ ผมคือผู้ที่จะกำหนดอนาคตตัวเอง ถ้าผมรู้สึกว่าอยากเล่นมากกว่านี้ ผมก็จะเล่น และถ้าผมรู้สึกไม่อยากเล่นแล้ว ผมก็จะเลิกเล่น"

ถ้าใครสักคนที่สามารถจุดไฟในฟุตบอลโลกด้วยวัย 41 ปี นั่นก็คงจะเป็น โรนัลโด้ แต่อายุของเขาเมื่อไปถึงปี 2026 มันอาจจะเป็นอะไรที่ไกลเกินไป

ก่อนที่ โรนัลโด้ จะประเดิมทีมชาตินัดแรกในปี 2004 โปรตุเกส ได้ผ่านเข้าไปเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่แค่ 6 ครั้งเท่านั้น พอเขามาถึงทีมก็มาได้ 10 ครั้งติดต่อกันแล้ว

นั่นรวมถึงฟุตบอลโลก 5 สมัย และยูโรอีก 5 สมัย และในขณะที่ความท้ายทายเหล่านั้นเป็นเรื่องน่าสงสัยพร้อมอายุที่มากขึ้น เขาก็ยังทำไป 117 ประตู จาก 189 นัด

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ติดทีมชาติ : 132 นัด

ยิง : 76 ประตู

เลวานดอฟสกี้ มีโอกาสที่จะเล่นไปถึงฟุตบอลโลก 2026 ในบรรดานักเตะที่อายุเกิน 30 ปี โดยตอนนั้นเขาจะอายุปาเข้าไป 37 ปี

ก็เหมือนกับ โรนัลโด้ เลวานดอฟสกี้ อยู่ในจุดพีคสุดของอาชีพ นั่นหมายความว่าเขามีความสามาถมากพอที่จะเปลี่ยนอนาคตให้โปแลนด์ได้

เขาคือตัวชูโรงของประเทศ เขาเป็นกัปตันทีม เป็นคนที่สร้างภาพลักษณ์ในระดับชั้นนำ และที่สำคัญว่านั้นคือผู้ที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาล

น่าแปลกที่เขาไม่เคยทำประตูในฟุตบอลโลกได้เลย และก็จะต้องทำแบบนั้นให้ได้ก่อน

การพาทีมผ่านเข้ารอบทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในอีก 4 ปี ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ก่อนอื่น เลวานดอฟสกี้ จะต้องตั้งเป้าหมายให้แน่วแน่ในการพา โปแลนด์ ไปถึงความสำเร็จในหน้าหนาวนี้

ติอาโก้ ซิลวา

ติดทีมชาติ : 107 นัด

ยิง : 7 ประตู

บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดในปี 2022 โดยปีนี้พวกเขาก็ยังคงเป็นตัวเต็ง และ ติอาโก้ ซิลวา ก็ยังสำคัญอย่างมากสำหรับสิ่งนั้น

เขามีอายุ 38 ปี สำหรัการลุยกาตาร์ แต่ก็คาดว่าจะยังเป็นตัวหลักของทีมตามปกติ

ซิลวา กระตือรือร้นที่จะมองอนาคตการค้าแข้งของเขาไปทีละฤดูกาล โดยกล่าวว่า "เรารู้ว่าความฟิตของเราไม่เหมือนเดิมกับเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เวลาในการฟื้นตัวจากเกมก็เปลี่ยนไปมาก แต่ผมจะเตรียมตัวเพื่อไปให้ถึงฝัน"

"ฟุตบอลโลกกำลังรออยู่...มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คิดถึงฟุตบอลโลก"

กองหลังมากประสบการณ์รายนี้ยังกระตือรือร้นที่จะเล่นไปจนถึงอายุ 40 ปี และคงไม่น่าแปลกใจเลยหากเขาทำผลงานได้เกินเป้าหมาย และต่อยอดสถิติติดทีมชาติ 107 นัดในปัจจุบัน

ลีโอเนล เมสซี่

ติดทีมชาติ : 162 นัด

ยิง : 86 ประตู

ในที่สุด เมสซี่ ก็ได้รับถ้วยแชมป์แรกกับทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งก็คือรายการโกปา อเมริกา และฟุตบอลโลกอาจเป็นรางวัลที่สอง และรางวัลสุดท้ายของเขา

พวกเขาใกล้เคียงอย่างมากที่บราซิล เมื่อปี 2014 แต่ก็ไปเละเทะที่รัสเซีย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นมา พวกเขาก็ได้พบจุดที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง

เมสซี่ วัย 35 ปี ยังคงมีบทบาทสำคัญในทุกประตูให้ทีมชาติในศึกโกปา อเมริกา และน่าสนใจว่าตอนนี้เขาจะทำมันได้ซ้ำที่กาตาร์หรือไม่?

"ผมไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรหลังจากฟุตบอลโลก ผมกำลังคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่กาตาร์ ผมจะต้องประเมินใหม่ในหลายๆ ด้าน"

มีคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่รอเขาอยู่หลังพ้นหน้าหนาว แต่บางคนก็คาดว่าเขาอาจจะเลือกบอกลาทีมชาติอย่างสง่างาม

หลุยส์ ซัวเรซ

ติดทีมชาติ : 132 นัด

ยิง : 68 ประตู

ซัวเรซ เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในรุ่นของเขา และได้เปลี่ยน อุรุกวัย ให้กลาบเป็นชาติสำคัญในฟุตบอลโลกมาตลอดเส้นทางค้าแข้งของตัวเอง

ตอนนี้เขาอายุ 35 ปีแล้ว มีแนวโน้มว่ากาตาร์จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขา

เขาเป็นผู้นำในแผงแนวรุกที่ อุรุกวัย ไปถึงรอบรองชนะเลิศ, รอบก่อนรองชนะเลิศ และ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งดีกว่า อาร์เจนตินา และเทียบเท่ากับชาติยักษ์ใหญ่อย่าง บราซิล

พวกเขาไปถึงแชมป์โกปา อเมริกา และ ซัวเรซ ก็ตั้งเป้าที่จะได้อีกแชมป์ไปอยู่ในคอลเลกชันของเขา แม้นั่นจะเป็นความฝันที่ยากไปเสียหน่อย

เขาลงเล่นทีมชาติไปแล้ว 132 นัด ทำได้ 68 ประตู

ลูก้า โมดริช

ติดทีมชาติ : 152 นัด

ยิง : 22 ประตู

โมดริช ยังคงทำให้แฟนๆ ได้อ้างปากค้าง และสร้างความประทับใจได้จนถึงปัจจุบัน

เขาต้องพบความอกหักจากฟุตบอลโลก 2018 หลังจากที่แพ้ให้กับ ฝรั่งเศส ในนัดชิงชนะเลิศ และก็ยังเป็นหัวใจสำคัญของความพยายามในทัวร์นาเมนต์นี้

ตอนนั้น โมดริช ถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งทัวร์นาเมนต์ และปีนี้เขาก็ตั้งเป้าที่จะทำให้ดีกว่าเดิมอีก ซึ่งความสำคัญมันยิ่งมากขึ้นไปอีกเนื่องจากนี่น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว

ด้วยอายุที่ปาเข้าไปถึง 36 ปี สภาพร่างกาย และความปาดเปรียวของเขาย่อมจางหายไปตามกาลเวลา

แต่ความสามารถของเขาก็ยังดีเหมือนเช่นเคย ไม่เชื่อก็ลองดูฟอร์มของเขากับ เรอัล มาดริด ในแชมเปี้ยนส์ลีก และเหรียญแชมป์ฟุตบอลโลกจะเป็นการปิดฉากที่สุดยอดสำหรับเขา

โธมัส มุลเลอร์

ติดทีมชาติ : 116 นัด

ยิง : 44 ประตู

เขาอาจเคยถูก โยกี้ เลิฟ เขี่ยออกจากทีมชาติในปี 2019 แต่ โธมัส มุลเลอร์ ก็กลับมาพร้อมกับการล้างแค้น และจะเพลิดเพลินกับการทำประตูในฟุตบอลโลกอีกครั้ง

ฮันซี่ ฟลิค นายใหญ่ที่เข้ามาสานต่องานแทน เลิฟ ไม่ได้ทำผิดพลาดเช่นเดียวกัน โดยเขาเรียก มุลเลอร์ กลับมา และก็คืนบทบาทเด่นในทัพ อินทรีเหล็ก ให้กับเขาในทันที

หลังจากที่ ฟลิค เข้ามาคุมทีม กองหน้าอย่าง มุลเลอร์ ก็ยืนยันว่าไม่มีความตั้งใจที่จะเลิกเล่นทีมชาติ และพร้อมแล้วสำหรับทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์

พอถึงฟุตบอลโลกรอบหน้า มุลเลอร์ ก็จะมีอายุ 36 ปี ซึ่งมันอาจไม่เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงต้องทำมันให้สำเร็จในปีนี้ หลังเคยทำได้มาแล้วในปี 2014

คาริม เบนเซม่า

ติดทีมชาติ : 97 นัด

ยิง : 37 ประตู

ใครจะเชื่อว่า คาริม เบนเซม่า อยู่ในจุดพีคของอาชีพในวัย 34 ปี

ฤดูกาลที่แล้ว เขาผลักดันให้ เรอัล มาดริด ไปถึงรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยตัวคนเดียว และทำลาย เปแอสเช ด้วยแฮตทริกอันน่าทึ่ง

มันให้ความรู้สึกว่าเขากำลังชดเชยเวลาที่สูญเสียไปหลังจากถูกทีมชาติฝรั่งเศสเนรเทศ และพลาดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เขาต้องการที่จะสร้างความประทับใจในหน้าหนาวนี้

แน่นอนว่าฝรั่งเศสคือแชมป์เก่า และด้วยแชมป์ครั้งนี้จะทำให้พวกเขาเป็นชาติแรกที่ชนะเลิศการแข่งขัน 2 ครั้งติดต่อกัน ตั้งแต่ที่ บราซิล ทำได้ซึ่งต้องย้อนไปไกลถึงปี 1962

เอดินสัน คาวานี่

ติดทีมชาติ : 133 นัด

ยิง : 58 ประตู

เป็นเวลาหลายปีที่ทั้ง คาวานี่ และ ซัวเรซ กลายเป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบสำหรับ อุรุกวัย แม้ว่าด้วยอายุที่มากขึ้น และสถิติอาการบาดเจ็บของ คาวานี่ จะทำให้พวกเขาต้องคลาดกันบ่อยครั้ง

คาวานี่ ซึ่งตอนนี้อายุ 35 ปี ยังเป็นที่สงสัยสำหรับผู้คนหมู่มาก แต่สถิติของเขาที่ทำไป 54 ประตู จาก 130 นัด จนถึงปัจจุบันก็พิสูจน์ตัวเองได้

เขาอาจไม่ใช่นักล่าเหมือนเก่าแล้ว แต่ประตูของเขาก็จะมีความหมายสำคัญต่อประเทศอีกครั้งอีก

มานูเอล นอยเออร์

ติดทีมชาติ : 109 นัด

ยิง : 0 ประตู

เหล่าแกนหลักยุคเก่าของเยอมันเริ่มจางหายไปเรื่อยๆ และ นอยเออร์ ก็เป็นหนึ่งในภาพเหล่านั้นที่จะหายไปหลังฟุตบอลโลกครั้งนี้

เขาจะอายุ 40 ปี ในทัวร์นาเมนต์ถัดไป และแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วผู้รักษาประตูจะประสบความสำเร็จในช่วงอายุ 30 กลางๆ ถึงปลาย แต่การแข่งขันระดับนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น

นอยเออร์ เป็นแบบอย่างให้กับประเทศของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเขาก็สมควรที่จะได้รับการยกย่อง ดังนั้นการคว้าแชมป์โลกเป็นครั้งสุดท้ายจะเป็นจุดจบของเทพนิยาย

ฟุตบอลโลกหนที่แล้วทุกอย่างดูผิดพลาดอย่างมากสำหรับ อินทรีเหล็ก โดยพวกเขาต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม และ นอยเออร์ ก็ต้องรับมือกับความเจ็บปวด

การล้างแค้นจึงอยู่ในใจของเขาอย่างแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นหนึ่งในมือกาวที่ดีที่สุดในโลก และเขาก็จะพิสูจน์ให้โลกได้เห็นอีกครั้ง