แม้เส้นทางหลังจากนี้ต้องผ่านบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลายและต้องเจอความยากลำบากมากมาย แต่นั่นคืองานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หากต้องการไปถึงฝั่งฝันอันตั้งใจ

จะว่าไปแล้ว ตราไก่ เจอปัญหาตั้งแต่รายการยังไม่เริ่ม โดยเฉพาะ 'เดเด้' ที่ปวดเศียรกับการหายไปของสองกองกลางคนสำคัญทั้ง ปอล ป็อกบา และ เอ็นโกโล ก็องเต้ ไหนจะ เพรสแนล คิมเพมเบ้ กองหลังตัวหลักที่สภาพร่างกายไม่เต็ม 100 แถมล่าสุด คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู เจ็บตอนซ้อมต้องถนตัวไปอีกราย (ดีที่ ราฟาแอล วาราน ฟื้นตัวได้ดี ซึ่งน่าจะพร้อมตั้งแต่เกมแรก)

เท่ากับว่า เลส เบลอส์ ชุดนี้ต้องพึ่งมิดฟิลด์หน้าใหม่แทบทั้งหมด ซึ่งหากมองในแง่ดีคือ เดส์ช็องส์ มีขุมกำลังในเชิงลึกที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก แม้สองดาวเตะหายหน้าไป แต่เขากลับมีรายใหม่เข้ามาทดแทน และส่วนใหญ่กำลังอยู่ในช่วงทำผลงานที่ดี

ยุสซูฟ โฟฟาน่า, โอเรเลียง ชูอาเมนี่ หรือ แม้แต่ เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า คือหน้าใหม่ที่ถูกเลือกในภารกิจสำคัญหนนี้ เช่นเดียวกับทาง มัตเตโอ เก็นดูซี่ กับ ชอร์ดาน แวร์ตูต์ สองคู่หูจาก โอลิมปิก มาร์กเซย ถือเป็นนักเตะที่ 'เดเด้' เลือกสรรมาอย่างดี

กระนั้นคนที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้น อาเดรียง ราบิโอต์ ที่สื่อแดนน้ำหอมมองว่าจะเป็นกุญแจสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศสหนนี้ เพราะทาง เดส์ช็องส์ มองกองกลางสังกัดยูเวนตุสให้ทำหน้าที่แทน แบลส มาตุยดี้ ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกทางซ้าย

อย่างที่ทราบกันดีว่า ตราไก่ ปรับเปลี่ยนแผนการเล่นมากมายตั้งแต่ได้แชมป์โลกเมื่อปี 2018 เพราะทาง 'เดเด้' ต้องการทดลองและใส่ความยืดหยุ่นลงไปในทีม แต่ฝั่ง เลกิ๊ป มองว่าท้ายที่สุด 'ฝรั่งเศส' คงกลับมาเล่นในแผนเดิม 4-2-3-1

หากเป็นไปตามที่สื่อดังแดนน้ำหอมคาดหมายไว้ ราบิโอต์ จะกลายเป็นกุญแจสำคัญในแผนการนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมิดฟิลด์วัย 27 ปีจะทำหน้าที่ทดแทน มาตุยดี้ ในการยืนเป็นแนวรุกทางซ้ายและคอยช่วยงานเกมรับสลับกันไป

แผนการดังกล่าวนับว่าน่าสนใจตรงที่การยืนของ ราบิโอต์ สามารถทำให้ทีมปรับการเล่นแบบยืดหยุ่นได้ตลอด 90 นาที แม้สื่อมองว่ารูปแบบ 4-2-3-1 (ราบิโอต์ ยืนทางซ้าย อองตวน กรีซมันน์ ยืนทางขวา โดยมี คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ยืนเป็นตัวอิสระข้างหลังกองหน้าตัวเป้า คาริม เบนเซม่า หรือ โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์) จะเป็นตัวยืนพื้น แต่ ตราไก่ สามารถปรับไปเล่น 4-3-3 ในจังหวะตั้งรับด้วยการถอย ราบิโอต์ ลงมาเป็นมิดฟิลด์ทางซ้ายและให้ กรีซมันน์ กับ เอ็มบั๊ปเป้ รับมือกับฟูลแบ็กฝ่ายตรงข้าม

เรื่องดังกล่าวน่าสนใจขึ้นไปอีก เพราะ เลกิ๊ป เผยต่อไปด้วยว่า เดส์ช็องส์ ยังวางแผนสำรองไว้อีกมากมาย ซึ่งที่น่าสนใจคือการปรับ กรีซมันน์ ให้เล่นเป็นหนึ่งในแผงมิดฟิลด์ 3 รายกรณีที่ทีมต้องการเปิดเกมรุกมากกว่าเดิม

แผนข้างต้นหากใครนึกไม่ออกลองจินตนาการไปถึง เรอัล มาดริด ฤดูกาล 2013/14 ที่เถลิงแชมป์ ยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งทาง เดส์ช็องส์ ต้องการปรับให้ กรีซมันน์ เล่นเป็นมิดฟิลด์ทางซ้ายในแผงกลาง 3 รายเหมือนที่ อังเคล ดิ มาเรีย เคยทำมาก่อนหน้านี้

หากเป็นไปตามแผนการข้างต้น 'เดเด้' จะสามารถส่ง กิงส์เล่ย์ โกมัน หรือ อุสมัน เดมเบเล่ ลงไปเล่นในแนวรุกเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโจมตีคู่แข่ง

แม้แต่แผนการเล่น 4-4-2 แบบไดมอนด์ยังคงถูกนำมาพิจารราเช่นกัน โดยทาง เลกิ๊ป ระบุว่า เดส์ช็องส์ ไม่ปิดโอกาสหรือมองแผนการเล่นอันใดอันหนึ่งให้เป็นแผนหลัก ถึงรับบมิดฟิลด์ไดมอนด์จะไม่ได้ถูกพิจารณาให้เป็นแผนหลักแต่กุนซือตราไก่พร้อมนำมาใช้งานหากมีความจำเป็นเร่งด่วน

ไม่เว้นแม้แต่การเล่นกองหลัง 3 ตัว ซึ่งกรณีนี้ขึ้นอยู่กับว่าสภาพทีมเมื่อผ่านไปแต่ละนัดจะยังคงสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด ก็จะถูกมาพิจารณาถึงให้เป๋นหนึ่งในทางเลือกของทีมเช่นกัน

นับเป็นสิ่งที่น่าสนใจและรอติดตามกันว่านัดแรกกับ ออสเตรเลีย วันอังคารนี้ เดส์ช็องส์ จะเลือกแผนการใดกันแน่ และมันจะทำให้แฟนบอลได้ทราบอย่างกระจ่างหลังต้องคาดเดาต่างๆ นานามานาน

โดยเรื่องที่สำคัญในตอนนี้ซึ่งแฟนบอลตราไก่ให้ความสนใจมากกว่าระบบการเล่นคงหนีไม่พ้นสภาพร่างกายของ เบนเซม่า ที่ยังลูกผีลูกคนก่อนนัดเปิดสนาม ซึ่งจุดนี้ ชีรูด์ สแตนด์บายพร้อมรับหน้าที่ 11 คนตัวจริงหากเจ้าของ บัลลง ดอร์ ไม่พร้อมจริงๆ (การซ้อมก่อนเดินทางไป กาตาร์ มีปัญหาที่ เบนเซม่า ยังไม่สามรถสัมผัสลูกบอลได้ โดยภาพล่าสุดที่ถูกปล่อยออกมาให้เห็นกองหน้า เรอัล มาดริด ออกกำลังในโรงยิม)

ถึงตรงนี้ขุมกำลังทั้ง 26 ราย (ร็องดาล โกโล มูอานี่ เพิ่งเดินทางไปสมทบช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา) และทีมงานย่ำเท้าลงบนดินแดนกาตาร์และลงฝึกซ้อมไปบ้างแล้ว ซึ่งหลังจากนี้คือการเตรียมตัวขั้นสุดท้ายให้พร้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก่อนเกมแรกมาถึง กับภารกิจสำคัญในการป้องกันแชมป์ฟุตบอลโลก ทั้ง เดส์ช็องส์ และลูกทีมหมายมั่นทำผลงานที่ดีอีกครั้งเพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในดินแดนเอเชีย