เพราะการเสริมทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ที่มีถุงเงินถัง สามารถคว้าตัวระดับพระกาฬอย่าง แฟรงค์ คัสตาเยดา อดีตดาวซัลโวสูงสุดของลีกมอลโดวา ด้วยการยิง 28 ประตู และพาทีม เชริฟฟ์ ทิราสโปล เป็นแชมป์ลีกสูงสุด พร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีม ฤดูกาล 2020-21 โดยเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญนัดบุกชนะ เรอัล มาดริด 2-1 ถึง ซานติอาโก้ เบร์นาบิว ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
รวมทั้งการคัมแบ็คของ ลอนซานา ดุมบูญา ศูนย์หน้าชาวกินี วัย 31 ปี ดีกรีดาวซัลโวไทยลีก ฤดูกาล 2019 ที่ซัดไปทั้งหมด 20 ประตู จากการลงสนาม 28 นัด ให้กับ ตราด เอฟซี โดยย้ายมาจาก เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในไชนีส ซูเปอร์ลีก ทำให้ผลงานของพวกเขาเปรี้ยงปร้างมากทีเดียว
ผิดกับการเสริมทัพของทีมที่เงินไม่เยอะ และค่อนข้างจะถนัดไปทางรัดเข็มขัด แต่เน้นไปที่การเป็นทีมเวิร์คเข้าสู้กับคู่แข่ง ต้องกล่าวถึง โปลิศ เทโร เอฟซี อดีตทีมมหาอำนาจของเมืองไทย ที่เคยก้าวไปถึงการคว้ารอแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว
พวกเขาเน้นไปที่การมองหาคนหมดสัญญาจากทีมเก่าเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น ศักดา คุ้มกัน, พิทักษ์ชัย ลิ้มรักษา, วิทยา มูลวงศ์, อู กึน ยอง ก่อนยืมตัวคนที่ทีมเก่าไม่ใช้ แต่มันใช่กับแท็คติคที่ต้องการ ทั้ง สรวิทย์ พานทอง ที่เคยสร้างชื่อกับทีม จนไปติดทีมชาติไทย ชุดลุย ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ภายใต้การคุมทีมของ อากิระ นิชิโนะ
หรือ เจนภพ โพธิ์ขี กองหน้าการท่าเรือ เอฟซี ที่โยกไปเลกสองด้วยค่าตัวราวๆ 7 ล้านบาท ก่อนย้ายกลับไปร่วมทัพโปลิศ เทโร เอฟซี อีกครั้ง ด้วยสัญญายืมตัว เพราะไม่สามารถเบียดเป็นตัวหลักในถิ่น แพท สเตเดี้ยม ได้ ทว่าที่รัง "มังกรโล่ห์เงิน" นี่เอง ทำให้เขากลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง
รวมทั้งการมี 3 ซีเนียร์ ที่เหมือนพ่อบ้านคอยดูแลน้องๆ ในทีม ทั้ง สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายด่านวัย 40 กะรัต ที่มากประสบการณ์และสร้างความมั่นใจให้กับเกมรับได้ดีจริงๆ
ไหนจะมี เอกชัย สำเร ที่ดูแลหุ่นได้ยอดเยี่ยมแม้ว่าจะเข้าสู่วัย 34 ก็ยังสามารถเติมเกมขึ้นลงได้อย่างไม่มีหมด ดูฟิตยิ่งกว่านักเตะอายุน้อยกว่าหลายๆ คนเป็น 10 ปีเสียอีก นอกจากนี้ยังได้ทัศนคติจาก “ลีซอ”ธีรเทพ วิโนทัย ที่ไม่เคยปริปากบ่นยามหลุดเป็นตัวสำรอง แต่พร้อมคอยซัพพอร์ตน้องๆ ให้ก้าวเดินต่อไป
เราได้เห็นในไอจีของพวกเขา เวลาที่ลงในสตอรี่ มักจะหยอกล้อเล่นกันนอกสนาม ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทีมสปิริตให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่มีการแบ่งแยกว่าใครคือซูเปอร์สตาร์ หรือผู้เล่นตัวจริงกับสำรองเลยด้วยซ้ำไป
ประกอบกับแท็กติกของ “โค้ชอ้น” รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่มีความชัดเจน ด้วยการเล่นเกมรับแล้วสวนกลับแบบได้น้ำได้เนื้อ ทุกคนมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากันในการลงสนาม ส่งผลให้พวกเขาเอาชนะทีมใหญ่อย่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่งบุกไปคาบอมบ์ พีที ประจวบ เอฟซี 4-2
สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึง “ทีมเวิร์ค” ที่ยอดเยี่ยม ด้วยเม็ดเงินที่ไม่มากมายเหมือนตั้งแต่ในยุคต้นปี 2000 แต่กลับสามารถยืนหยัดในแนวทางการเล่นของตัวเองด้วยนักเตะที่ไม่ต้องใช้เม็ดเงินมากนัก
คุณภาพที่ออกมามันมาจากการรวมพลังใจกันเล่นของทุกคน เป็นสิ่งที่แฟนบอลเอง ก็ย่อมจะรู้สึกภาคภูมิต่อสโมสรแห่งนี้
แม้จะเคยตกชั้นแต่ก็ยังกลับมาผงาดในลีกสูงสุด พร้อมกับต่อสู้กับทีมใหญ่ได้ ด้วยวิถีฟุตบอลของตัวเองที่เนรมิตออกมาด้วยเท้าทั้งสองข้างของพวกเขา
