อันซู ฟาตี มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังเผชิญการบาดเจ็บหลายครั้งซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวเป็นเวลานานจนกระทั่งฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง 

แนวรุกวัย 20 ปีกลับมาฟิตเต็มร้อยในฤดูกาลนี้ แต่เขายังไม่มีบทบาทในทีมอาซูลกราน่าของ ชาบี เอร์นานเดซ มากนักหลังเทรนเนอร์วัย 42 ปีอ้างว่ายังไม่ต้องการเร่งให้เขากลับมาเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บซ้ำ 

มันทำให้เกิดคำถามถึง หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ ที่ตัดสินใจเรียกตัว ฟาตี ติดโผทีมชาติสเปนชุดทำศึก เวิลด์ คัพ 2022 ทั้งที่นักเตะไม่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอกับต้นสังกัด โดยมองข้าม บอร์ฆา อีเกลเซียส กองหน้ากำลังสำคัญของ เรอัล เบติส ที่ทำผลงานโดดเด่นในฤดูกาลนี้ 

หลุยส์ เอ็นรีเก้ ส่ง ฟาตี ลงประเดิมสนามบนเวทีฟุตบอลโลกที่กาตาร์ในเกมส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับ ญี่ปุ่น โดยลงเล่นฐานะสำรองช่วง 22 นาทีสุดท้ายของเกมดังกล่าว ก่อนทัพกระทิงจะพลิกพ่ายทีมเมืองปลาดิบ 1-2 ซึ่งแนวรุกวัย 20 ปีกล่าวถึงความรู้สึก ณ ตอนนั้นว่า 'มันรู้สึกดีมาก มันเป็นเกียรติทุกครั้งที่ได้เล่นให้ทีมชาติ พยายามให้ดีที่สุดและสนุกกับโอกาสนี้'

เมื่อพูดถึงการรอคอยด้วยความอดทนเพื่อกลับไปติดทีมชาติอีกครั้ง แนวรุกวัย 20 ปีกล่าวเสริมว่า 'ในท้ายที่สุด มีนักเตะชั้นนำจำนวนมาก และเราทุกคนต้องพร้อม เพราะโค้ชต้องการพวกเราทุกคน และเราต้องพร้อม'

กองหน้าวัยรุ่นจาก บาร์เซโลน่า ยังกล่าวถึง หลุยส์ เอ็นรีเก้ และความมั่นใจที่เทรนเนอร์แสดงให้เห็นในตัวเขาด้วยการส่งลงเล่นในช่วงเวลาสำคัญตอนที่ทัพกระทิงตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต่อ ญี่ปุ่น

'อย่างที่ผมบอก คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าโค้ชจะตัดสินใจอย่างไร สำหรับพวกเราที่อยู่บนม้านั่งสำรอง สิ่งสำคัญพอๆกับการอยู่กับเกมด้วยความเข้มข้นและมีสมาธิ เพราะคุณไม่รู้ว่าโค้ชจะเรียกคุณเมื่อไหร่ จากนั้นคุณต้องพร้อม'

'สำหรับผม ทุกอย่างที่หมายถึงคือการได้ลงเล่นมากขึ้น ดีขึ้นทั้งหมด สิ่งที่ผมชอบคือการได้อยู่ในสนาม' ฟาตี กล่าว

เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง สเปน อาจตกรอบฟุตบอลโลกได้ หาก คอสตาริกา พลิกชนะ เยอรมนี ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อถูกถามว่าเขารู้ถึงสถานการณ์นั้นหรือไม่ แนวรุกวัย 20 ปีตอบว่า 'ตราบเท่าที่ผมกังวล, แต่ไม่, ผมไม่ได้ตระหนักถึงมัน เรารู้ว่าเราต้องชนะ และนั่นคือสิ่งที่เราตั้งใจจะทำ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว มันจะไม่เป็นแบบนั้นก็ตาม'

ฟาตี ยังกล่าวถึงปฏิกิริยาของทัพกระทิงหลังการพลิกพ่ายต่อ ญี่ปุ่น ว่า 'ผมเห็นเพื่อนร่วมทีมสบายดี ทั้งกลุ่มก็โอเค เราแพ้ในเกมที่แล้ว และมันทำให้คุณรู้สึกแย่ แต่เรามีความสุขที่ผ่านมันมาได้ เราอยู่ในรอบ 16 ทีม และตอนนี้สิ่งที่เหลือยู่คือไม่ว่าคุณจะได้ไปต่อหรือคุณจะออกไป'

เมื่อพูดถึงการลงเล่นรอบน็อกเอาท์ของศึก เวิลด์ คัพ 2022 ฟาตี กล่าวเสริมว่า 'ตอนนี้มันคือ 'อยู่' หรือ 'ตาย' และนักเตะทุกคนโฟกัสกับสิ่งนั้น เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไป'

แนวรุกวัย 20 ปียังกล่าวถึงช่วงเวลาที่เขารับรู้เรื่องการถูกเรียกตัวไปกาตาร์ว่า 'ผมกำลังฝึกซ้อมที่ ซิวตาต เอสปอร์ตีบา และดูมันทางทีวี ตอนที่ผมได้ยินชื่อของผมครั้งสุดท้าย ผมมีความสุขมาก ผมอยู่กับเพื่อนร่วมทีมบางคนที่เห็นความสุขของผมและกับนักกายภาพบำบัดที่ผมสามารถฉลองด้วยได้'

มันเป็นรางวัลที่ยุติธรรมหรือไม่ หลังจากทุกอย่างที่เขาทำในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวในฐานะแข้งอาซูลกราน่า ฟาตี ตอบว่า 'นั่นคือสำหรับทุกอย่างที่ผมประสบความสำเร็จในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา'

'ความจริงคือมันเป็นรางวัลสำหรับการทำงานแบบวันต่อวันสำหรับการพยายามปรับปรุงตัวเอง และตอนนี้ผมสบายดี ใช่แล้ว, มันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่' 

ก่อนหน้านี้ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ยอมรับผ่านสื่อว่าการเรียกตัว ฟาตี ติดโผกระทิงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แนวรุกวัย 20 ปีตอบว่า 'โค้ชเป็นคนคิดเรื่องนี้เอง สิ่งเดียวที่ผมรู้แน่นอนคือผมพร้อมและเตรียมตัวเมื่อเขาต้องการผม'

ฟาตี ยังกล่าวถึงปฏิสัมพันธ์กับ หลุยส์ เอ็นรีเก้ หลังเดินทางมาถึงแคมป์ทีมกระทิงว่า 'ใช่, โค้ชแสดงความมั่นใจในตัวผม ทำไมเขาถึงวางเดิมพันให้ผมมาที่นี่ และผมรู้สึกขอบคุณสำหรับโอกาสนี้'

แนวรุกจากทีมอาซูลกราน่ายังกล่าวถึงแนวทางบริหารและการจัดการสิ่งต่างๆของเทรนเนอร์วัย 52 ปีว่า 'วิธีที่เขาถ่ายทอดสิ่งต่างๆใฟ้ผม เขาเป็นคนตรงไปตรงมามาก เป็นคนที่บอกคุณได้ว่าเขาคิดอย่างไร และมีความต้องการสูงกับตัวเขาเอง และกับนักเตะทุกคน นั่นคือสิ่งที่ผมชอบ ผมจะนิยามเขาว่าเป็นคนตรงๆที่ต้องการชัยชนะ'

ฟาตี ยังกล่าวถึงความแตกต่างในแง่ปรัชญาของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กับ ชาบี เอร์นานเดซ นายใหญ่ของทีมอาซูลกราน่าว่า 'ผมคิดว่าโค้ชแต่ละคนมีแนวทางเป็นของตัวเองในการมองสิ่งต่างๆ แต่ละคนมีวิธีการของเขา, การอธิบาย และการเล่นของตัวเอง ท้ายที่สุดแล้ว หลุยส์ เอ็นรีเก้ และ ชาบี นั้นแตกต่างกัน แต่เพราะคนหนึ่งเป็นโค้ชสโมสร และอีกคนเป็นโค้ชทีมชาติ ผมมองว่ามันเป็นความแตกต่าง'

สเปน เป็นหนึ่งในชาติที่มีอายุนักเตะเฉลี่ยน้อยสุดของทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก ซึ่งเต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์อายุน้อยโดยมี ฟาตี เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อถูกถามว่านั่นอาจฉุดรั้งพวกเขาไว้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการแข่งขันหรือไม่

'ผมจะบอกว่าไม่ เพราะนักเตะอายุน้อยทุกคนที่นี่มีแรงจูงใจและความปรารถนาที่จะแข่งขัน เรายังมีคนประสบการณ์โชกโชนคอยให้คำแนะนำเราในช่วงเวลายากลำบาก ผมคิดว่านักเตะอายุน้อยที่นี่พร้อมและมีความกระตือรือร้นที่จะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถเล่นได้'

นอกจากการมีทีมอายุน้อยแล้ว สเปน ยังมีกลุ่มนักเตะจาก บาร์เซโลน่า มากถึง 8 คน ซึ่ง ฟาตี กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า 'ใช่, การมีเพื่อนร่วมทีมก็ช่วยได้เช่นกัน และกับทีมอื่นๆ'

'ในท้ายที่สุด เราแข่งขันกันใน ลา ลีกา และเราได้เห็นกันและกันมากมาย ความสนิทสนมกันที่เรามีที่นี่นั้นน่าเหลือเชื่อเพราะทุกคนต้องการช่วยเหลือและเติมเต็มซึ่งกันและกัน'

ฟาตี ยังกล่าวชื่นชม ปาโบล มาร์ติน ปาเอซ กาบีร่า กาบี เพื่อนร่วมชาติและสโมสรของเขา หลังการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมบนเวทีฟุตบอลโลกแม้ว่าจะอายุเพียง 18 ปีก็ตาม 

'คุณสามารถเห็นระดับที่เขาแสดงให้เห็นด้วยอายุของเขา แต่ผมไม่แปลกใจเลยกับระดับความสามารถในการแข่งขันที่เขามี และการฝึกซ้อมของเขา มันน่าเหลือเชื่อและการได้เห็นเขาเล่นแบบนั้นทำให้ผมมีความสุข'

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับฤดูกาลของ บาร์เซโลน่า จนถึงตอนนี้ ซึ่งเห็นแล้วว่าพวกเขาตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก แต่ทีมของ ชาบี แซงหน้าแชมป์เก่า เรอัล มาดริด ขึ้นแท่นจ่าฝูงลีกเมืองกระทิง แต่แนวรุกวัย 20 ปียืนยันว่าตอนนี้เขาโฟกัสกับทัพกระทิงเท่านั้น

'ตอนนี้ผมโฟกัสไปที่ทีมชาติ และเมื่อผมกลับมา เราจะได้เห็นกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสโมสร เราจะได้เห็นกัน' ฟาตี กล่าว

ฟาตี ยังคาดหวังว่าเขาจะได้มีส่วนร่วมกับทัพอาซูลกราน่าของ ชาบี มากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น หลังไม่มีส่วนร่วมมากนักในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล

'ใช่, ผมจะไม่โกหกคุณ ผมอยากลงเล่น แต่ผมเข้าใจว่าโค้ชเป็นคนตัดสินใจ และผมต้องการทำให้ดีสุดในแต่ละวันเพื่อจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้'

เมื่อถูกถามว่าเขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับอนาคตของเขาที่สโมสรหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ในเกมแข่งขัน แนวรุกวัย 20 ปี ตอบว่า 'ไม่, ตอนนี้ผมโฟกัสไปที่ทีมชาติ ผมแน่ใจว่าการทำงานในปัจจุบันจะทำให้อนาคตดีขึ้น'

ก่อนจะสำทับว่าเขาเชื่อว่าตนเองจะเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมอาซูลกราน่าในอนาคต 'ใช่, ผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้น'