สุดท้าย ลิโอเนล เมสซี่ ก็ทำสำเร็จคว้าแชมป์โลกมาครองจนได้ ถือเป็นโทรฟี่สุดท้ายที่เจ้าตัวอยากได้มาครอบครองมากที่สุด ส่วน คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่แม้จะทำแฮตทริคต้องอกหักไป

         ตลอดทั้งเกมสนุกตื่นเต้นไม่เว้นแม้แต่ในช่วงต่อเวลาพิเศษมาจนถึงดวลจุดโทษ กระทั่งได้ผู้ชนะในที่สุด

         วันนี้เราจะไปไล่ดูสถิติน่าสนใจของฟุตบอลโลกในครั้งนี้กันว่ามีอะไรกันบ้าง

1

         ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลกมากกว่าหนึ่งครั้ง โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยได้รางวัลนี้มาแล้วเมื่อปี 2014 ที่ อาร์เจนติน่า เป็นรองแชมป์

1

         ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูได้ทั้งรอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีม, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ

1

         ลิโอเนล เมสซี่ คว้าแชมป์ทุกรายการที่เจ้าตัวเคยลงสนาม แต่มีแค่ถ้วยเดียวที่เขายังไม่เคยได้คือรายการ เฟร้นช์ คัพ ซึ่งเจ้าตัวเคยลงเล่นแค่นัดเดียวเท่านั้น

2

         มีนักเตะแค่สองคนที่ยิงได้มากกว่า 5 ลูกและสร้างโอกาสมากกว่า 20 ครั้งในฟุตบอลโลกสุดท้ายนับตั้งแค่ปี 1966 คือ เมสซี่ ในปี 2022 และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ในปี 1986

21

         ลิโอเนล เมสซี่ มีส่วนร่วมกับประตูในฟุตบอลโลกไปแล้ว 21 ลูก (13 ประตูกับ 8 แอสซิสต์) มากกว่าทุกคนนับตั้งแต่ปี 1966

5

         ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะคนแรกที่ได้แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ถึง 5 ครั้งในการแข่งขันหนึ่งทัวร์นาม้นต์ฟุตบอลโลก

26

         ลิโอเนล เมสซี่ ทำไปแล้ว 26 ประตูให้กับ อาร์เจนติน่า ในรายการเมเจอร์ (13 ลูกในบอลโลก, 13 ลูกในโกปา อเมริกา) มากกว่านักเตะอเมริกาใต้ทุกคนในประวัติศ่สตร์แซงหน้า โรนัลโด้ "อาร์ 9" ที่ทำไป 25 ลูกเรียบร้อย

26

         ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมากที่สุดเรียบร้อย 26 เกม

35

         ในวัย 35 ปี, ลิโอเนล เมสซี่ กลายเป็นนักที่อายุมากที่สุดที่ยิงได้มากกว่าหนึ่งลูก (2) ในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก

100

         ลิโอเนล เมสซี่ ยิงประตูในเส้นทางอาชีพด้วยเท้าขวาครบ 100 ลูกไปเรียบร้อย

6

         6 จาก 8 ประตูที่ อังเคล ดิ มาเรีย ทำได้ในรายการเมเจอร์ให้กับ อาร์เจนติน่า เกิดขึ้นในรอบน็อคเอาท์ (รวมถึงยิงได่ในเกมชิงชนะเลิศโกปา อเมริกา 2021)

1

         เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ทำสถิติสัมผัสบอล (118), ผ่านบอลสำเร็จ (77) และสกัดบอล (10) ในเกมชิงชนะเลิศกับ ฝรั่งเศส มากกว่านักเตะทุกคน

         นอกจากนี้การเขาสกัด 10 ครั้งถือเป็นสถิติสูงสุดในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ปี เจนนาโร่ กัตตูโซ่ (16) ทำไว้เมื่อปี 2006

3

         ลิโอเนล สกาโลนี่ เป็นผู้จัดการทีมคนที่ 3 เท่านั้นที่ได้ทั้งแชมป์โลก (2022) และแชมป์โกปา อเมริกา (2021) ต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ (แชมป์โลก 1970, แชมป์โกปา อเมริกา 1997) และ คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ปาร์เรร่า (แชมป์โลก 1994, แชมป์โกปา อเมริกา 2004) ซึ่งทั้งคู่เป็นชาวบราซิล

2

         อาร์เจนติน่า เป็นทีมที่ 2 ในฟุตบอลโลกที่แพ้เกมเปิดสนามและได้แชมป์ ซึ่งทีมแรกคือ สเปน เมื่อปี 2010

8

         คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ทำไป 8 ประตูในฟุตบอลโลกหนนี้ ถือว่ามากที่สุดสำหรับนักเตะอายุ 23 ปีหรือน้อยกว่าในฟุตบอลโลกครั้งเดียว แซงหน้าสถิติของ ฮาเมส โรดรีเกซ ในปี 2014, มาริโอ เคมเปส ในปี 1978 และ เปเล่ ในปี 1958 โดยทั้งสามคนทำได้ 6 ประตู

7

         คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ยิงไปแล้ว 7 ลูกในรอบน็อคเอาท์ฟุตบอลโลก มากกว่า เปเล่ (6) ที่ทำได้มากที่สุดสำหรับคนที่อายุไม่เกิน 24 ปี

4

         คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นผู้เล่นที่ยิงในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมากกว่านักเตะทุกคน 4 ลูก

2

         คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นนักเตะคนที่สองเท่านั้นที่ยิงแฮตทริคในเกมชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกได้ต่อจาก เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ที่ยิงให้ อังกฤษ เกมเจอ เยอรมัน ในฟุตบอลโลกปี 1966

1

         ฝรั่งเศส กลายเป็นทีมแรกที่ไม่ได้โอกาสสับไกในครึ่งแรกของฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ

172

         ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ มีประตูเกิดขึ้น 172 ลูก ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดทำลายสถิติเดิมเมื่อปี 1998 และ 2014 ที่มี 171 ประตู

5

         มีการยิงจุดโทษตัดสิน 5 ครั้งในฟุตบอลโลก 2022 เป็นสถิติมากที่สุด