:::     :::

ดาวรุ่งที่รอวันเติบใหญ่ "ซีดาน อิคบาล"

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
935
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สำหรับดาวเตะวัย 19 ปี

คงไม่มีอะไรดีมากไปกว่า การก้าวมาเป็นส่วนหนึ่ง ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนว่า ซีดาน อิคบาล ยังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้า ท่ามกลางเส้นทางที่รอให้เขาก้าวมาแสดงผลงาน และพิสูจน์ตัวเอง 


ช่วงนี้ เราลองย้อนกลับไปดูเส้นทางลูกหนังของเขากันหน่อย ลองไปดูกันว่า การผลักดันตัวเอง จนก้าวมาอยู่ตรงจุดนี้ เขาต้องผ่านแบบทดสอบอะไรมาบ้าง พร้อมกับเป้าหมายในอนาคต ที่เขาฝากเอาไว้กับพลพรรคปีศาจแดง

ซีดาน อิคบาล คือเด็กท้องถิ่น จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเกิดในครอบครัวสายเลือดเอเชีย พ่อเป็นชาวปากีสถาน ขณะที่แม่เป็นชาวอิรัก โดยเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนท้องถิ่น ก่อนเข้าอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวัยเพียง 9 ขวบ


เขาเพาะบ่มฝีเท้า ในสถาบันลูกหนังของปีศาจแดงไต่เต้าขึ้นมาทีละระดับ จนได้สัญญาอาชีพเป็นครั้งแรก ในวัย 18 ปี หลังจากนั้น เลือกติดทีมชาติอิรัก ชุดใหญ่ ตามบ้านเกิดเมืองนอนของแม่


ผมภาคภูมิใจ ในการเป็นคนอังกฤษ, ปากีสถาน และอิรักอิคบาล เล่าถึงเรื่องราวของตัวเอง ผ่านสำเนียงแบบแมนคูเนียนผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ได้เป็นตัวแทนของทีมชาติอิรัก กระนั้น มันก็ไม่สามารถลบล้างความจริงได้ว่า ผมเป็นชาวแมนคูเนียน และชาวปากีสถาน เช่นเดียวกัน


ผมมาจากครอบครัวที่ทำงานหนัก พ่อแม่ของผมทำงานหนักเสมอ รวมถึงพี่น้อง และปู่ย่าตายาย ตอนที่พวกเขาอพยพมาที่ประเทศอังกฤษ ครอบครัวถือเป็นแรงบันดาลใจของผม ในการลงมือทำทุกอย่าง เพื่อให้ออกมาดีที่สุด 


ส่วนแรงบันดาลใจ ในสนามฟุตบอลของผมคือเมซุต โอซิล เพราะเขาเป็นมุสลิมเหมือนกับผม การได้เห็นนักเตะมุสลิมคนอื่น ถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม การเดินทางของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ผมมองว่ามันไม่ง่ายเลย ชีวิตเหมือนกับรถไฟเหาะ ที่วิ่งขึ้น และลง คุณแค่ต้องสนุกกับมัน

ช่วงฤดูกาล 2021-22 ที่ผ่านมา อิคบาล ลงสนามในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มกับยัง บอยส์ เบิร์น ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะจากแถบเอเชียใต้ คนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่


จุดเด่นของเขาคือ การเป็นนักเตะตำแหน่งกองกลาง ที่มาพร้อมกับการกล้าเล่น และกล้าครองบอล ในวัยแค่ 19 ปี ไม่เป็นข้อจำกัดเรื่องการเผชิญความกดดัน


เขากล่าวถึงเรื่องนี้ว่าตั้งแต่เป็นเด็ก นี่คือส่วนหนึ่งของเกมการเล่นของผม ผมต้องการมีบอลอยู่กับเท้าเสมอ ผมแค่ทำในสิ่งที่ควรจะทำ และควรจะเป็น ผมจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมจะทำให้ดีที่สุดในสนามแข่งขัน และปล่อยส่วนที่เหลือให้เป็นตามประสงค์ของพระเจ้า


นอกจากนี้ เขายอมรับว่า การเป็นนักเตะที่มีเชื้อชาติเอเชียใต้ ผสมอยู่ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะก้าวมาเล่นฟุตบอลระดับสูง โดยเฉพาะกับทีมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังที่สูงมากอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เขายังคงยืนยันว่า เขาจะพิสูจน์ตัวเอง เพื่อบรรลุความฝันให้ได้


คุณจะเห็นได้ชัดว่า นักเตะจากแถบเอเชียใต้ ไม่มากนัก ที่จะมีโอกาสลงเล่นเกมระดับนี้ อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า หากคุณดีพอ คุณก็สามารถทำได้ ไม่สำคัญว่าคุณจะมาจากไหน ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องเหล่านี้มากนัก ผมพยายามออกเดินทางต่อไป ผมจะทุ่มเทแบบ 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ทั้งในการฝึกซ้อม และการแข่งขัน หากผมสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นได้ นั่นก็ยอดเยี่ยมแล้ว

ปัจจุบัน ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่างเอริค เทน ฮาก เปิดโอกาสให้อิคบาล มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว โดยส่งลงสนามอย่างต่อเนื่อง ในช่วงปรีซีซั่น ทั้งที่ประเทศไทย และออสเตรเลีย แน่นอนว่า เขาตระหนักถึงโอกาสอันล้ำค่า ที่อาจผ่านมาแค่ครั้งเดียวในชีวิต


ผมบอกกับตัวเองว่า นี่อาจจะเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย ที่ผมจะได้ลงเล่นทีมชุดใหญ่ ... ผมโตมากับความรักต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ"


อิคบาล ทิ้งท้ายความรู้สึก ผสมกับการใช้โอกาสที่ได้รับอย่างดีที่สุด ผ่านการลงเล่นให้สโมสรที่ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายตัวน้อย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด